แม่ปากร้ายยุค​ 80 [八零辣妈飒爆了] – ตอนที่ 668 ปัญญาชนที่น่าขยะแขยง

ตอนที่ 668 ปัญญาชนที่น่าขยะแขยง

ตอนที่​ 668 ปัญญาชน​ที่​น่าขยะแขยง​

ทันทีที่​เลิกเรียน​ตอนเที่ยง​ หลิน​ม่าย​ก็​ยืม​โทรศัพท์​จาก​ห้องพัก​อาจารย์​โทร​หา​พ่อ​ไป๋​

เธอ​บอก​เขา​ว่า​แม่ไป๋​มามหาวิทยาลัย​ใน​ตอนเช้า​เพื่อ​พยายาม​ทำให้​ชื่อเสียง​ของ​เธอ​เสื่อมเสีย​ แม้จะทำได้​ไม่สำเร็จ​ แต่​ก็​อาจ​ทำให้​ใคร​หลาย​คน​มอง​เธอ​ใน​ทาง​ที่​ไม่ดี​

เรื่อง​นี้​เธอ​ไม่ได้​พูด​เกิน​จริง​สักนิด​

แม้เธอ​จะทำให้​แม่ไป๋​พูดไม่ออก​ใน​ครั้งแรก​ แต่​ข่าวลือ​เกี่ยวกับ​การ​ที่​เธอ​ปฏิบัติ​ต่อ​แม่และ​ลูกสาว​บุญธรรม​ก็​แพร่สะพัด​ไป​ใน​หมู่​เพื่อนร่วมชั้น​ของ​เธอ​

ใบหน้า​ของ​พ่อ​ไป๋​ที่​ปลาย​อีก​ด้าน​ของ​โทรศัพท์​พลัน​แดงก่ำ​ด้วย​ความโกรธ​

เสวี่ย​เป่า​เป็น​ลูก​ที่​มีอนาคต​สดใส​มาก​ที่สุด​ของ​ตระกูล​ไป๋​รุ่น​ต่อไป​ แต่​ซิน​อี๋​กลับ​ไป​มหาวิทยาลัย​เพื่อ​ทำลาย​ชื่อเสียง​ของ​เธอ​ นั่น​เท่ากับ​เป็นการ​พยายาม​ทำลาย​เธอ​!

พ่อ​ไป๋​ตอบกลับ​ “พ่อ​จะจัดการ​เรื่อง​นี้​เอง​ ไม่ต้อง​ห่วง​ ลูก​เรียน​ให้​สบายใจ​เถอะ​”

หลิน​ม่าย​ตอบ​ตกลง​

เธอ​โทร​หา​พ่อ​ไป๋​ใน​ครั้งนี้​ ก็​เพื่อ​ขอให้​เขา​สอน​บทเรียน​ให้​แม่ไป๋​

เมื่อ​ได้รับ​บทเรียน​จาก​ชาย​ที่​ตน​รัก​มาก​ หัวใจ​ของ​แม่ไป๋​จะต้อง​เจ็บปวด​ไม่น้อย​แน่​

หาก​แม่ไป๋​ทำให้​เธอ​รู้สึก​ไม่ดี​ ย่อม​เป็นธรรมดา​ที่​เธอ​ต้อง​โต้กลับ​!

หลังจาก​วางสาย​ หลิน​ม่าย​ก็​ปั่น​จักรยาน​ไป​ยัง​โรงอาหาร​เพื่อ​กินข้าว​

มหาวิทยาลัย​ชิงหวา​กว้างใหญ่​จน​ดูเหมือน​เทศ​มณฑล​ หาก​ไม่ปั่น​จักรยาน​ก็​ต้อง​เดิน​ ซึ่งเสียเวลา​อย่าง​มาก​

หลิน​ม่าย​ไป​ยัง​โรงอาหาร​เพื่อ​ซื้อ​อาหาร​

เธอ​มองดู​ของ​ที่​ขาย​จาก​แต่ละ​ร้าน​เพื่อ​ซื้อ​สิ่งที่จะ​รับประทาน​ ทันใดนั้น​กล่อง​อาหารกลางวัน​ก็​ถูก​ยัด​ใส่มือ​ของ​เธอ​

เธอ​เงยหน้า​ขึ้น​และ​พบ​ว่า​เป็น​จ้าว​ซั่ว​หยาง​ ชาย​ผม​ยาว​ที่​มีใบหน้า​เหมือน​ปีศาจ​หมู​

จ้าว​ซั่ว​หยาง​ยิ้ม​ให้​กับ​เธอ​ “บังเอิญ​ว่า​ฉัน​ไม่อยาก​กิน​เมนู​นี้​พอดี​ ฉัน​ให้​เธอ​ก็แล้วกัน​นะ​”​

หลิน​ม่าย​หยิบ​กล่อง​อาหารกลางวัน​อีก​กล่อง​อย่าง​ไร้​มารยาท​ “ฉัน​ไม่ชอบ​แซงคิว​คนอื่น​”

เธอ​เดิน​จากไป​โดย​ไม่สังเกต​แววตา​ที่​เคร่งขรึม​ใน​ดวงตา​ของ​จ้าว​ซั่ว​หยาง​

หลังจาก​ซื้อ​อาหาร​แล้ว​ หลิน​ม่าย​ก็​มอง​ไป​รอบ​ ๆ เพื่อ​หา​ที่นั่ง​ว่าง​

เพื่อนร่วมห้อง​หลาย​คน​โบกมือ​ให้​เธอ​อย่าง​กระตือรือร้น​ “ม่าย​จื่อ​ มานี่​สิ ยังมี​ที่นั่ง​ว่าง​อยู่​”

หลิน​ม่าย​เดิน​มานั่ง​กับ​พวก​หล่อน​

เสิ่นอวิ้น​ชี้ไป​ยัง​จ้าว​ซั่ว​หยาง​และ​กระซิบ​ “เธอ​รู้จัก​รุ่นพี่​คน​นั้น​ด้วย​เหรอ​?”

หลิน​ม่าย​ส่าย​หัว​และ​พูด​อย่าง​ดูถูก​เหยียดหยาม​ “ไม่รู้​”​

เถียน​เฟิน​ถามอย่าง​ไม่เชื่อ​ “ถ้าเธอ​ไม่รู้จัก​เขา​ เขา​จะซื้อ​อาหาร​ให้​เธอ​ทำไม​?”

หลิน​ม่าย​ตัก​ข้าว​เต็มปาก​ “ฉัน​จะรู้​ได้​ยังไง​”

ฉีเย​ว่​ชิงคาดเดา​อย่าง​อิจฉา​ “เป็น​เพราะ​พี่​จ้าว​ซั่ว​หยาง​ต้องการ​จีบ​เธอ​หรือเปล่า​? เพราะ​เธอ​สวย​มาก​”

เมื่อ​หลิน​ม่าย​ได้ยิน​คำ​ว่า​จ้าว​ซั่ว​หยาง​ เธอ​ก็​จำคน​คน​นั้น​ได้​ในทันที​

ใน​อีก​สิบ​หรือ​ยี่สิบ​ปี​ บุคคล​นี้​จะเป็น​ปัญญาชน​ที่​มีชื่อเสียง​

ตาม​พจนานุกรม​ทั่วไป​ ปัญญาชน​หมายถึง​บุคคล​ที่​มีพื้นฐาน​ทางวิชาการ​ ถึงพร้อมด้วย​คุณภาพ​ทาง​วิชาชีพ​ เป็น​บุคคล​อุดมคติ​ที่​มีวิจารณญาณ​และ​ความรับผิดชอบ​ทางศีลธรรม​

อย่างไรก็ตาม​ ใน​อีก​ไม่กี่​ทศวรรษ​ข้างหน้า​ คำนิยาม​เหล่านี้​กลับ​กลายเป็น​คำ​เสื่อมเสีย​ในประเทศ​จีน​

มัน​เป็น​คำย่อ​พิเศษ​สำหรับ​คน​เฉพาะ​กลุ่ม​ที่​จงใจชี้นำ​ความคิดเห็น​หรือ​ให้​ข้อสังเกต​เชิงวิจารณ์​และ​อ้าง​ตน​ว่า​เป็น​ ‘ปัญญาชน​สาธารณะ​’

จู่ ๆ หลิน​ม่าย​ก็​นึก​ขึ้น​ได้​ ไม่แปลกใจ​เลย​ที่​เธอ​รู้สึก​คลื่นไส้​ทุกครั้งที่​เห็น​รุ่นพี่​ปีศาจ​หน้า​หมู​ผม​ยาว​คน​นี้​ เพราะ​เขา​คือ​จ้าว​ซั่ว​หยาง​นั่นเอง​

ชาติที่แล้ว​เขา​มีชื่อเสียง​โด่งดัง​เพราะ​มีการศึกษา​มากกว่า​คน​ทั่วไป​ เขา​จึงดูแคลน​และ​ใส่ร้าย​มาตุภูมิ​

จากนั้น​ก็​ถูก​สังหาร​ใน​ภายหลัง​ ซึ่งเป็นเรื่อง​น่ายินดี​อย่างยิ่ง​

เธอ​ไม่ได้​คาดคิด​ว่า​คน​ที่​มีชื่อเสียง​คน​นี้​จะมีใบหน้า​เช่นนี้​ใน​ตอนที่​เขา​ยัง​เด็ก​ ซึ่งดู​น่ารำคาญ​อย่าง​มาก​ใน​สายตา​เธอ​

หลัง​อาหารกลางวัน​ หลิน​ม่าย​และ​เพื่อนร่วมห้อง​ก็​กลับ​ไป​ยัง​หอพัก​เพื่อ​เตรียมพร้อม​สำหรับ​อ่านหนังสือ​

พวก​หล่อน​ทั้งหมด​ต้อง​ฝ่าฝัน​หลาย​สิ่งอย่าง​จนได้​เข้าเรียน​ใน​มหาวิทยาลัย​ที่​มีชื่อเสียง​แห่ง​นี้​ ดังนั้น​ทุกคน​จึงเรียน​และ​อ่านหนังสือ​อย่าง​หนักหน่วง​

หลาย​คน​เดิน​เข้าไป​ใน​หอพัก​เพื่อ​พูดคุย​และ​หัวเราะ​ และ​เห็น​สวี​ชิงห​ยา​นั่ง​อยู่​บน​เตียง​ของหล่อน​เอง​

สวี​ชิงห​ยา​มาจาก​เมือง​ระดับ​สามใน​ภาค​กลาง​ของ​จีน​ซึ่งมีผู้หญิง​สวย​อยู่​มากมาย​

แต่​สวี​ชิงห​ยา​เป็น​คน​อีก​ประเภท​หนึ่ง​ หล่อน​ไม่ใช่คนสวย​นัก​ ผิว​ของหล่อน​ทั้ง​ดู​หยาบกร้าน​และ​ดำคล้ำ​

ดู​จาก​ลักษณะ​ภายนอก​แล้ว​ ทำให้​หลาย​คน​ล้วน​คิด​ว่า​หล่อน​มาจาก​หมู่บ้าน​ชาวประมง​ใน​ภาคใต้​

เมื่อ​ทุกคน​เห็น​สวี​ชิงห​ยา​ แม้จะไม่ชอบ​หล่อน​มาก​นัก​ แต่​พวก​หล่อน​ก็​ทักทาย​สวี​ชิงห​ยา​อย่าง​อบอุ่น​

นักเรียน​ใน​หอคอย​งาช้างมีความคิด​ค่อนข้าง​เรียบง่าย​ พวกเขา​อาศัย​อยู่​ใน​หอพัก​เดียวกัน​และ​ยังคง​หวัง​ว่า​จะได้​อยู่​ด้วยกัน​อย่าง​มีความสุข​

เหมียว​เหมียว​ถามสวี​ชิงห​ยา​อย่าง​ตรงไปตรงมา​ “เธอ​กิน​ผัก​ดอง​กับ​หมั่นโถว​แทน​มื้อ​เที่ยง​อีกแล้ว​เหรอ​? ฉัน​ขอให้​เธอ​ไป​กิน​อาหารกลางวัน​กับ​เรา​ แต่​เธอ​ก็​ปฏิเสธ​ ทีหลัง​ไป​กับ​เรา​สิ กิน​กับ​เรา​แล้ว​เธอ​จะได้รับ​คุณค่า​ทาง​โภชนาการ​มากขึ้น​!”

สภาพ​ครอบครัว​ของ​สวี​ชิงห​ยา​ไม่ค่อย​ดี​ เหมียว​เหมียว​จึงกล่าว​ด้วย​เจตนา​ดี​

แต่​สวี​ชิงห​ยา​รู้สึก​ละอายใจ​และ​ไม่พอใจ​เล็กน้อย​ จึงพูด​ด้วย​เสียง​แผ่วเบา​ “ไม่จำเป็น​หรอก​”

รูม​เมท​หลาย​คนพูด​กล่าว​ขึ้น​ทันที​ “นักเรียน​สวี​ชิงห​ยา​ เรา​จะเป็น​เพื่อนร่วมห้อง​กัน​อย่าง​น้อย​สี่ปี​ เธอ​ไม่จำเป็นต้อง​เกรงใจ​ขนาด​นั้น​หรอก​ จากนี้ไป​เรา​มากิน​อาหารเย็น​ด้วยกัน​นะ​”

สวี​ชิงห​ยา​ไม่รีบ​ตอบ​ แต่​มอง​ไป​ยัง​หลิน​ม่าย​

หลิน​ม่าย​ปีน​ขึ้นไป​บน​เตียง​ชั้นสอง​ของ​ตน​ พลาง​หยิบ​หนังสือ​ขึ้น​มาและ​เริ่ม​อ่าน​

เธอ​เรียน​วิชาเอก​วิศวกรรม​สารสนเทศ​และ​อิเล็กทรอนิกส์​

เหตุผล​ที่​เธอ​เลือก​เรียน​สาขา​นี้​ เพราะ​รู้​ว่า​ใน​อีก​ไม่กี่​ทศวรรษ​ข้างหน้า​ การฟื้นตัว​ของ​ประเทศ​จีน​จะทำให้​ชาว​ตะวันตก​อิจฉา​และ​ปิดกั้น​เทคโนโลยี​ต่าง ๆ​

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​การปิดกั้น​ทางเทคโนโลยี​ ซึ่งส่งผลกระทบ​ต่อ​ประเทศ​อย่าง​มาก​

เธอ​ไม่อยาก​ไป​เกิด​ใหม่​ตลอดชีวิต​เพื่อ​ต้อง​พบ​เห็นภาพ​อัน​น่าเศร้า​แบบนี้​อีก​

เธอ​ต้อง​วางแผน​ล่วงหน้า​และ​เริ่ม​พัฒนา​ชิป​ตั้งแต่​ตอนนี้​ ถึงเวลา​นั้น​จะได้​แก้ปัญหา​ได้​ทัน​

เธอ​มีผลการเรียน​ดี​ใน​วิชา​คณิตศาสตร์​และ​ฟิสิกส์​ ดังนั้น​เธอ​จึงเหมาะกับ​หลักสูตร​วิชาชีพ​นี้​

แม้เธอ​ไม่ต้องการ​จะเป็น​ผู้เชี่ยวชาญ​ใน​วิชาชีพ​นี้​ เธอ​ก็​สามารถ​เรียนรู้​เพียง​ผิวเผิน​และ​จัดตั้ง​ทีม​เพื่อ​ศึกษา​ชิป​ได้​

หาก​ทุกอย่าง​ดำเนิน​ไป​ตาม​แผนการ​ เธอ​ก็​จะมุ่งเน้น​ไป​ยัง​การ​ทำ​ธุรกิจ​และ​หารายได้​เพื่อ​ร่วมใน​การวิจัย​ทางวิทยาศาสตร์​

เธอ​ไม่เคย​ได้​สัมผัส​กับ​วิชาเอก​วิศวกรรม​ข้อมูล​อิเล็กทรอนิกส์​ใน​ชีวิต​ที่แล้ว​ และ​วิชาเอก​นี้​มีเนื้อหา​มากมาย​

นอกเหนือจาก​การเรียนรู้​ความรู้​พื้นฐาน​เกี่ยวกับ​วงจร​แล้ว​ เธอ​ยัง​ต้อง​เรียนรู้​เทคโนโลยี​อิเล็กทรอนิกส์​ ภาษาโปรแกรม​ การ​ออกแบบ​อิเล็กทรอนิกส์​ การประมวลผล​สัญญาณดิจิทัล​ และ​อื่น​ ๆ

ไม่มีวิชา​ใด​ที่​ง่าย​สำหรับ​เธอ​ ดังนั้น​เธอ​จึงต้อง​ตั้งใจ​อ่านหนังสือ​อย่าง​หนัก​เพื่อ​เรียนรู้​

เมื่อ​เห็น​ว่า​เพื่อนร่วมห้อง​ทุก​คนใน​หอพัก​เป็นห่วง​หล่อน​ยก​เว้นแต่​หลิน​ม่าย​ที่​ไม่แยแส​ใดๆ​ สวี​ชิงห​ยา​ก็​รู้สึก​อึดอัด​เล็กน้อย​

สวี​ชิงห​ยา​ถามอย่าง​สมเพช​ “นักเรียน​หลิน​ม่าย​ เธอ​ไม่พอใจ​อะไร​ใน​ตัว​ฉัน​หรือเปล่า​?”

หลิน​ม่าย​เพ่งมอง​หนังสือเรียน​และ​ถามกลับ​อย่าง​เหม่อลอย​ “ฉัน​ไม่พอใจ​อะไร​ใน​ตัว​เธอ​งั้น​เหรอ​? เธอ​คิด​ว่า​ยังไง​ล่ะ​?”

สวี​ชิงห​ยา​ตอบกลับ​ “ฉัน​คิด​ว่า​เธอ​เกลียดชัง​และ​พยายาม​ดูถูก​ฉัน​”

“หา​! ทำไม​ฉัน​ต้อง​เกลียด​เธอ​ด้วย​ล่ะ​? เธอ​ทำ​อะไร​ให้​ฉัน​เกลียด​? พูด​ให้​ฟังหน่อย​สิ?”

หลิน​ม่าย​หมกมุ่น​อยู่​กับ​หนังสือ​ก็​จริง​ แต่​เมื่อ​สวี​ชิงห​ยา​พูดคุย​กับ​เธอ​ เธอ​ก็​ตอบสนอง​โดยไม่รู้ตัว​

ริมฝีปาก​ของ​สวี​ชิงห​ยา​ขยับ​ แต่​หล่อน​ก็​ไม่ได้​พูด​อะไร​

หล่อน​ไม่สามารถ​พูด​สิ่งที่อยู่​ใน​ใจได้​ ทุก​คนใน​หอพัก​เป็นห่วง​หล่อน​ มีเพียง​หลิน​ม่าย​ที่​ไม่สนใจ​หล่อน​ การกระทำ​เช่นนั้น​ก็​หมายถึง​ความเกลียดชัง​และ​ดูถูก​ไม่ใช่เหรอ​?

แต่​หาก​บอก​เรื่อง​นี้​ไป​ตามตรง​ เพื่อนร่วมห้อง​ต้อง​บอ​กว่า​หล่อน​คิด​ไป​เอง​อย่าง​แน่นอน​

สวี​ชิงห​ยา​ไม่มีทางเลือก​อื่น​ จึงทำได้​เพียง​กล่าว​ “ฉัน​เห็น​ว่า​เธอ​ไม่สนใจ​ฉัน​มาก​นัก​ ฉัน​ก็​เลย​คิด​ว่า​เธอ​คง​ดูถูก​ฉัน​”

เหมียว​เหมียว​เป็น​คน​แรก​ที่​เอ่ย​ขึ้น​ “เธอ​ไม่รู้​หรือว่า​หลิน​ม่าย​เป็น​หนอนหนังสือ​? หล่อน​มักจะ​หมกมุ่น​อยู่​กับ​การ​อ่านหนังสือ​เสมอ​เมื่อ​มีเวลาว่าง​ ไม่ค่อย​สนใจ​คนอื่น​หรอก​ และ​ไม่สนใจ​พวกเรา​ด้วย​”

เพื่อนร่วมห้อง​ต่าง​แนะนำ​สวี​ชิงห​ยา​ว่า​อย่า​คิดมาก​

แม้ว่า​สวี​ชิงห​ยา​จะไม่ได้​พูด​อะไร​ แต่​หล่อน​ก็​อารมณ์เสีย​มาก​

เป็น​เพราะ​สถานะ​ทางการเงิน​ที่​ดี​ของ​หลิน​ม่าย​ เพื่อนร่วมห้อง​ของ​เธอ​ทุกคน​จึงยืน​เคียงข้าง​เธอ​และ​ช่วย​พูด​ให้​เธอ​

…………………………………………………………………………………………………………………………

สาร​จาก​ผู้แปล​

พี่​มั่น​มาก​นะ​ที่มา​จีบ​แฟน​พี่​หมอ​ ระวัง​แฟน​เขา​เชือด​เด้อ​

ชิงห​ยา​นี่​แปลก​ๆ นะ​ เป็น​คน​ประเภท​มองโลกในแง่ร้าย​มาก​ ควร​ไป​พบ​จิตแพทย์​นะคะ​

ไหหม่า​(海馬)

แม่ปากร้ายยุค​ 80 [八零辣妈飒爆了]

แม่ปากร้ายยุค​ 80 [八零辣妈飒爆了]

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท