รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 643 บันไดสวรรค์โกลาหล ซีเข้าร่วมการสอบคัดเลือก!

บทที่ 643 บันไดสวรรค์โกลาหล ซีเข้าร่วมการสอบคัดเลือก!

บท​ที่​ 643 บันได​สวรรค์​โกลาหล​ ซีเข้าร่วม​การ​สอบคัดเลือก​!

ศึก​วันนี้​ เป็นการ​เปิด​ประตู​สู่โลก​ใบ​ใหม่​ให้​กับ​ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​อย่าง​แท้จริง​!

ใน​อดีต​ ผู้ฝึก​ตน​ใน​ใจเขา​เป็น​ตัวตน​ระดับ​สูงส่ง ไม่อาจ​ต้านทาน​ได้​ ทว่า​บัดนี้​ ด้วย​ร่าง​ปุถุชน​นี้​ เขา​ก็​สามารถ​สังหาร​ผู้ฝึก​ตน​ได้​แล้ว​เหมือนกัน​ เป็นผล​ให้​ความเข้าใจ​ที่​เขา​มีต่อ​ผู้ฝึก​ตน​เปลี่ยนไป​อย่าง​มาก​

ที่แท้​ผู้ฝึก​ตน​ก็​ใช่ว่า​ฆ่าไม่ได้​เสียหน่อย​!

‘ใช้ได้​นี่​!’

ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​หัวเราะ​ บอก​ตัวเอง​ใน​ใจ

สำหรับ​เขา​ วันนี้​เป็น​วันที่​มีความหมาย​อย่างยิ่งยวด​ เขา​ก็​ฆ่าผู้ฝึก​ตน​ได้​เหมือนกัน​ บ่งบอก​ว่า​วันหน้า​หาก​เขา​ได้​พบ​ซี ไม่แน่​อาจ​ได้​ต่อสู้​เคียงบ่าเคียงไหล่​กับ​ซี ช่วย​แบ่งเบาภาระ​ของ​นาง​

‘บังอาจ​ลงมือ​กับ​คุณชาย​!’

‘รนหาที่​ตาย​จริง ๆ​!’

ห​ลิง​อิน​ ลั่วสุ่ย​พา​กัน​คิดในใจ​ ริอ่าน​ลงมือ​กับ​คุณชาย​ รนหาที่​ตาย​ก็​ไม่ต้อง​ทำ​ถึงขั้น​นี้​กระมัง​!

‘พักผ่อน​ ๆ!’

ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​มีความสุข​มาก​ เดิน​กลับ​ไป​ยัง​รถลาก​ด้วย​ใบหน้า​แย้มยิ้ม​ เข้านอน​ด้วย​ความ​ปีติ​

ภายใน​เอกภพ​

เจ้าหลวง​ทะลุทะลวง​ผ่าน​หมู่​ดารา​อย่าง​รวดเร็ว​ เขา​ดูดกลืน​สสาร​พิศวง​ในนคร​พิศวง​ของ​จ้าว​ตะเข้​ไป​จน​เกลี้ยง​ เป็นผล​ให้​พลัง​ของ​เขา​เพิ่มพูน​ มิใช่กำลัง​รบ​ระดับ​กึ่ง​เซียน​ หาก​แต่​กลาย​เป็นกำลัง​รบ​ระดับ​เซียน​

ขน​พิศวง​บน​ตัว​เขา​ก็​เปลี่ยนแปลง​ไป​ เดิม​เคย​มีขน​สีเขียว​ บัดนี้​เปลี่ยนเป็น​ขน​สีเทา​แล้ว​

ซ้ำยังมี​ขน​สีเทา​จำนวน​ไม่น้อย​กลายเป็น​สีดำ​

ใน​นคร​พิศวง​ของ​จ้าว​ตะเข้​มีสสาร​พิศวง​อยู่​มหาศาล​ เขา​ดูดกลืน​ไป​ทั้งหมด​ หาก​หลอม​รวม​เข้าด้วยกัน​ได้​เมื่อใด​ เขา​ย่อม​มีกำลัง​รบ​ระดับ​เซียน​สมบูรณ์​ ขน​ยาว​ทั้ง​ตัวแปร​เปลี่ยนเป็น​ขน​สีดำ​สนิท​ ทรงพลัง​เทียบเท่า​จ้าว​ตะเข้​!

“สหาย​ของ​ข้า​ เจ้าวางใจ​เถิด​ ข้า​จะให้​พี่ใหญ่​แก้แค้น​แทน​เรา​แน่นอน​!”

เขา​เอ่ย​ด้วย​ดวง​ตาวาว​โรจน์​ ลืม​ไป​เสีย​สนิท​ว่า​จ้าว​ตะเข้​ถูก​เขา​กลบ​หลุม​ฝังแท้ ๆ​ เขา​โบ้ย​ความแค้น​ทั้งหมด​ไป​ที่​มัจฉาสัต​มายา​ และ​ของ​วิเศษ​ต่าง ๆ​

ผ่าน​ไป​ไม่นาน​ เจ้าหลวง​เข้าสู่ระบบ​ดวงดาว​กว้างใหญ่​อีก​แห่ง​ ที่นี่​ไม่มีดาว​ดวง​อื่น​นอกจาก​ดาว​มโหฬาร​ ณ ใจกลาง​

ที่นี่​คือ​ที่ตั้ง​นคร​พิศวง​ของ​พี่ใหญ่​เขา​!

แน่นอน​ว่า​ พี่ใหญ่​ผู้​นี้​เขา​เรียก​เอง​ฝ่าย​เดียว​ พี่ใหญ่​ที่ว่า​จะยอมรับ​เขา​หรือไม่​ยัง​ไม่แน่​

“พี่ใหญ่​ น้อง​มาหา​ท่าน​แล้ว​!”

เขา​ร้องเรียก​เสียงดัง​ หยุดชะงัก​ที่​ชายขอบ​ระบบ​ดวงดาว​แห่ง​นี้​ มิกล้า​บุกเข้าไป​โดยพลการ​

ดาว​มโหฬาร​ดวง​นี้​มีขน​ยา​วสี​ฟ้าอัน​น่าพิศวง​งอก​อยู่​เต็มไปหมด​ สสาร​พิศวง​ที่นี่​มีความบริสุทธิ์​สูง และ​ยังมี​จำนวน​มากกว่า​ จน​ดาว​ดวง​นี้​ติดเชื้อ​ไป​ด้วย​ มีพลัง​มาก​ล้น​เกิน​หยั่ง​ เขา​มิกล้า​ฝ่าเข้าไป​แม้แต่น้อย​ กลัว​จะถูก​โจมตี​

ขน​ยา​วสี​ฟ้าพลิ้ว​ไสว​ นี่​คือ​สสาร​พิศวง​ลางร้าย​ที่​มีระดับสูง​กว่า​สีดำ​ แม้ว่า​พลัง​ของ​เขา​เพิ่ม​ทวีคูณ​ กระนั้น​เมื่อ​อยู่​ภายใต้​พลัง​พิศวง​ลางร้าย​สีฟ้าเช่นนี้​ ยังคง​ปวกเปียก​ต้าน​ไม่ได้​แม้แต่​การ​โจมตี​เดียว​ ไม่อาจ​เทียบ​กัน​ได้​เลย​ คง​ได้​ถูก​สังหาร​ใน​ชั่วพริบตา​!

เขา​ไม่อยาก​ถูก​ฆ่าก่อน​ได้​พบ​พี่ใหญ่​

แม้ว่า​พวกเขา​โอบกอด​ความ​พิศวง​ลางร้าย​ด้วยกัน​ทั้งหมด​ ทว่า​แต่ละ​นคร​พิศวง​นั้น​มิได้​สมัครสมาน​นัก​ ต่าง​ฝ่าย​ต่าง​ตั้งตัว​เป็น​ปรปักษ์​ต่อกัน​ ส่วนใหญ่​แล้ว​ล้วน​ต้อง​การกลืน​กิน​นคร​พิศวง​แห่ง​อื่น​เพื่อ​เพิ่ม​ความ​แข็งแกร่ง​ให้​ฝ่าย​ตนเอง​

“เจ้าหลวง​หรือ​”

เสียง​หนึ่ง​ดัง​ออก​มาจาก​ดวงดาว​ จากนั้น​ ลำแสง​สีฟ้าพิศวง​ลำ​หนึ่ง​พวยพุ่ง​เข้ามา​ ด้านใน​ห่อหุ้ม​สิ่งมีชีวิต​พิศวง​ลางร้าย​ที่​มีขน​สีฟ้างอก​อยู่​เต็ม​กาย​ตน​หนึ่ง​

ผู้​นี้​ก็​คือ​พี่ใหญ่​ที่​เจ้าหลวง​กล่าวถึง​

เห็นได้ชัด​ว่า​ เขา​ยัง​ไม่ลืม​เจ้าหลวง​ หลัง​ได้ยิน​เสียง​อีก​ฝ่าย​ก็​ก้าว​ออกมา​ในทันที​

“พี่ใหญ่​!”

ทันทีที่​เจ้าหลวง​ได้​พบ​พี่ใหญ่​ก็​ร่ำไห้​โศกา​

“ข้า​…อนาถ​เหลือเกิน​! จ้าว​ตะเข้​ก็​ด้วย​!”

เขา​ร้องไห้​บอกเล่า​ประสบการณ์​น่าสังเวช​ของ​เขา​และ​จ้าว​ตะเข้​ ทั้ง​ยัง​นำ​ทุกอย่าง​ที่​เขา​กวาดล้าง​จาก​นคร​พิศวง​ของ​จ้าว​ตะเข้​ออกมา​

‘ทาส​’ ทั้งหมด​นั้น​ก็​ถูก​เขา​ปล่อย​ออกมา​ทั้งหมด​!

“ข้า​มาคราวนี้​ ก็​เพื่อ​ขอ​สมัคร​เป็น​พรรคพวก​พี่ใหญ่​!”

เขา​ร่ำไห้​ไม่หยุด​ พร้อม​กล่าว​ต่อ​ “พวกเรา​อนาถ​กัน​มาก​จริง ๆ​ พี่ใหญ่​โปรด​ผดุง​ความเป็นธรรม​เพื่อ​เรา​ แก้แค้น​แทน​เรา​ด้วย​!”

“พวก​เจ้าทั้งสอง​เป็น​คน​ที่​ข้า​เห็น​มาตั้งแต่​เด็ก​ รักใคร่​กลมเกลียว​กัน​ดั่ง​พี่น้อง​ เจ้ามาหา​ข้า​ จะเรียก​ว่า​สมัคร​เป็น​พรรคพวก​ได้​อย่างไร​ ดินแดน​ของ​ข้า​ก็​คือ​บ้าน​ของ​เจ้า!”

จ้าว​หลาน​ผู้​เป็น​พี่ใหญ่​เอ่ย​ “เจ้านำ​ของ​เหล่านี้​มาเพื่อ​เหตุใด​ ห่างเหิน​กับ​ข้า​ปาน​นั้น​เชียว​ เอาเถิด​ นี่​คือ​น้ำใจ​จาก​เจ้า หาก​ข้า​ไม่รับ​ จะไป​หักหาญน้ำใจ​เจ้าเปล่า​ ๆ” เขา​โบกมือ​ เก็บ​ทุกอย่าง​เข้า​กรุ​

“วางใจ​เถิด​ ข้า​ต้อง​ผดุง​ความเป็นธรรม​ให้​พวก​เจ้าแน่​ และ​ล้างแค้น​แทน​พวก​เจ้า!” เขา​ตบ​บ่า​เจ้าหลวง​พร้อม​เอ่ย​บอก​

“ขอบคุณ​พี่ใหญ่​!” เจ้าหลวง​กล่าว​ขอบคุณ​เสียง​รัว​

“ข้า​จะไป​เรียก​รวมพล​เดี๋ยวนี้​ บุก​ไป​ยัง​อาณา​จัก​รอ​วี้ซ​วี​พร้อม​เจ้า ช่วย​ล้างแค้น​แทน​พวก​เจ้า!” พี่ใหญ่​เอ่ย​

เขา​ใคร่​สนใจ​ใน​เหล่า​ของ​วิเศษ​ที่​เจ้าหลวง​ได้​เอ่ย​มามาก​ และ​ยิ่ง​สนใจ​ใน​ตัว​บุคคล​ผู้​อาจ​อยู่​เบื้องหลัง​ของ​วิเศษ​เหล่านี้​

หาก​เขา​กำราบ​ผู้อยู่เบื้องหลัง​ของ​วิเศษ​เหล่านั้น​ได้​ พลัง​อำนาจ​นคร​พิศวง​ของ​เขา​ย่อม​ต้อง​คูณ​ทวี​

สงคราม​ใหญ่​จวนจะ​ปะทุ​ นี่​คือ​โอกาส​แสดงตน​ นคร​พิศวง​ทั้งหลาย​ต่าง​รอคอย​วันนั้น​ และ​พยายาม​เพิ่ม​ความ​แข็งแกร่ง​ให้​กับ​นคร​พิศวง​ของ​ตนเอง​

ภายใน​แดน​บรรพ​โกลาหล​

ซีมาถึงตำหนัก​ตง​ชิว​

ตำหนัก​ตง​ชิวก​ว้าง​ใหญ่​โอ่อ่า​ วิหาร​โบราณ​มากมาย​สูงตระหง่าน​เหนือ​เมฆ กฎ​แห่ง​โกลาหล​ลึกล้ำ​ถัก​ทอ​ประสาน​ ยิ่งใหญ่​ดุดัน​ ราวกับ​กำลัง​ก้ม​มอง​แดน​บรรพ​โกลาหล​ทั้ง​ผืน​

‘เก้า​มหา​ตระกูล​ใน​ภพ​เซียน​ไม่ควรค่า​แก่​การ​พูดถึง​เลย​เมื่อ​อยู่​ต่อหน้า​ตำหนัก​ตง​ชิว!’​ ซีสะท้อนใจ​อย่า​งอด​ไม่ได้​

แข็งแกร่ง​เกินไป​แล้ว​ ตำหนัก​ตง​ชิวสม​เป็น​กองกำลัง​ชั้นนำ​ใน​แดน​บรรพ​โกลาหล​ กระทั่ง​ลูกศิษย์​ผู้​มีหน้าที่​เฝ้ายาม​ยัง​ไม่อาจ​สบประมาท​ได้​ แต่ละคน​ล้วน​เป็น​ถึงจ้าว​แห่ง​เซียน​!

นาง​สัมผัส​ได้​ว่า​ลูกศิษย์​เหล่านี้​ไม่ธรรมดา​ ปราณ​โกลาหล​ไหลเวียน​อยู่​ทั่ว​ร่าง​ จึงไม่เคลือบแคลง​เลย​ว่า​ หาก​ส่งลูกศิษย์​เหล่านี้​ไป​ยัง​ภพ​เซียน​ ไม่ว่า​ศิษย์​คนใด​ล้วน​สามารถ​กำราบ​จ้าว​แห่ง​เซียน​สูงสุด​ หรือ​อาจ​ถึงขั้น​กำราบ​ราชัน​แห่ง​เซียน​ซึ่งอยู่​เหนือ​จ้าว​แห่ง​เซียน​ได้​!

พลัง​โกลาหล​นี้​อัศจรรย์​อย่างยิ่ง​ อยู่​เหนือ​สรรพสิ่ง​ทั้งปวง​ มิใช่สิ่งที่​พลัง​เซียน​จะเทียบ​ได้​ ต่อให้​อยู่​ใน​ขอบเขต​เดียวกัน​ ก็​ยัง​ห่าง​ชั้น​กัน​มาก​โข​ มิอาจ​ทัดเทียม​กัน​ได้​เลย​

ตำหนัก​ตง​ชิว​รับ​ศิษย์​หนึ่ง​หมื่น​ปี​หน​ นาง​โชคดี​ไม่น้อย​ ทัน​ระยะ​หมื่น​ปี​พอดี​

สิ่งมีชีวิต​ที่มา​เข้าร่วม​การ​สอบคัดเลือก​ของ​ตำหนัก​ตง​ชิว​ไม่รู้​ว่า​มีตั้ง​เท่าไหร่​ ยั้วเยี้ย​เรียงราย​อเนกอนันต์​ หลัง​ซีได้​เห็น​ก็​ยิ่ง​สะท้อนใจ​เข้าไป​ใหญ่​

สิ่งมีชีวิต​เหล่านี้​ล้วนแล้ว​น่าทึ่ง​ ขอบเขต​สูงส่งกัน​ถ้วนหน้า​ จ้าว​แห่ง​เซียน​มีให้​เห็น​อยู่​เกลื่อนกลาด​ ราชัน​แห่ง​เซียน​ยิ่ง​เยอะ​จน​นับ​ไม่หมด​ กระ​ทั้ง​ยอด​เซียน​ เซียน​จวิน​ซึ่งอยู่​เหนือ​ราชัน​แห่ง​เซียน​ยัง​มากัน​ไม่น้อย​!

‘สมเป็นแดน​บรรพ​โกลาหล​!’

ซีคิดในใจ​อย่า​งอด​ไม่ได้​

ขอบเขต​สูงปานนี้​ ทว่า​อายุ​กลับ​ไม่เท่าไหร่​ สิ่งมีชีวิต​ที่​เดินทาง​มาที่นี่​ล้วน​อายุ​ยัง​น้อย​ เปี่ยม​ไป​ด้วย​พลัง​เยาว์วัย​ นี่​ก็​เพราะ​เป็นแดน​บรรพ​โกลาหล​ ถึงบ่ม​เพาะ​สิ่งมีชีวิต​สะท้าน​โลกันตร์​ออกมา​ได้​มากมาย​เพียงนี้​ หาก​เป็น​ใน​ภพ​เซียน​ ไม่มีทาง​เป็นจริง​ได้​เลย​!

ต้อง​รู้​ว่า​ใน​ภพ​เซียน​ ผู้​ที่​สามารถ​บรรลุ​เป็น​จ้าว​แห่ง​เซียน​ตั้งแต่​ยัง​เยาว์วัย​นับว่า​โดดเด่น​ไม่ธรรมดา​แล้ว​ ส่วน​ราชัน​แห่ง​เซียน​ซึ่งอยู่​เหนือ​ขั้น​จ้าว​แห่ง​เซียน​นั้น​ไม่เคย​มีมาก่อน​!

และ​ยอด​เซียน​ เซียน​จวิน​นั้น​ อย่า​ว่าแต่​คน​วัยเยาว์​เลย​ กระทั่ง​วัยกลางคน​ วัยชรา​ ยัง​มิสู้จะมีกี่​คน​ได้​บรรลุ​ถึง

‘หาก​มิใช่ว่า​ข้า​ได้​พบ​วาสนา​การเปลี่ยนแปลง​ครั้ง​ใหญ่​ ร่างกาย​เปลี่ยนไป​ถึงแก่น​ ข้า​คง​ไม่อาจ​แม้แต่​จะคิด​เข้า​ตำหนัก​ตง​ชิว!’​ ซีเอ่ย​ใน​ใจ

ก่อน​ร่างกาย​ของ​นาง​เปลี่ยนแปลง​ไป​ถึงแก่น​ นาง​หา​ได้​มีความ​โดดเด่น​ไม่ ไม่ว่า​สิ่งมีชีวิต​ตน​ใด​ใน​สถานที่​แห่ง​นี้​ต่าง​สามารถ​เล่นงาน​นาง​ได้​ง่ายดาย​ นาง​แตะ​ไม่ถึงเงื่อนไข​ต่ำสุด​ของ​ตำหนัก​ตง​ชิว​ด้วยซ้ำ​

ทว่า​บัดนี้​แตกต่าง​ออก​ไป​

บัดนี้​ ต่อให้​สิ่งมีชีวิต​ในที่นี้​น่าทึ่ง​สะท้าน​โลกันตร์​กัน​ถ้วนหน้า​ นาง​ก็​มั่นใจ​ว่า​สามารถ​ดวล​กัน​ได้​สัก​ตั้ง​!

เหง่งหง่าง​!

เวลา​นั้น​เอง​ เสียง​ระฆัง​ดัง​ขึ้น​ ร่าง​ที่​มีอายุ​หลาย​ร่าง​เหิน​ออกจาก​ตำหนัก​ตง​ชิว​ มีทั้ง​บุรุษ​และ​สตรี​ ต่าง​เป็น​ผู้อาวุโส​ซึ่งรับหน้าที่​ดูแล​การ​สอบคัดเลือก​ใน​ครั้งนี้​

“บันได​สวรรค์​โกลาหล​เชื่อมต่อ​สู่ประตู​ตำหนัก​ นี่​คือ​เนื้อหา​การ​สอบ​ของ​พวก​เจ้า ผู้​ที่​ก้าว​ขึ้นไป​ได้​สิบ​ขั้น​ สามารถ​เข้า​ตำหนัก​นอก​ของ​ตำหนัก​ตง​ชิว​ได้​ ผู้​ที่​ก้าว​ขึ้นไป​ถึงยี่สิบ​ขั้น​ สามารถ​เข้า​ตำหนัก​ใน​ของ​ตำหนัก​ตง​ชิว​ได้​ ส่วน​ผู้​ที่​ก้าว​ขึ้นไป​ถึงห้าสิบ​ขั้น​ จะได้​เป็น​หัวหน้า​ศิษย์​ของ​วัง​ต่าง ๆ​ ได้รับ​การ​อบรบ​สั่งสอน​อย่าง​ดี​!”

ผู้อาวุโส​ท่าน​หนึ่ง​ประกาศ​เนื้อหา​การ​สอบคัดเลือก​

สิ้น​เสียง​ของ​เขา​ ห้วง​มิติ​พลัน​บิดเบี้ยว​ ม่าน​หมอก​โกลาหล​แผ่ขยาย​ แสงมงคล​นับ​ล้าน​ปรากฏ​ บันได​สวรรค์​อัน​กว้างใหญ่​ไพศาล​ปรากฏ​ออกมา​ฉับพลัน​ ตั้ง​ตระหง่าน​อยู่​ระหว่าง​ฟ้าดิน​

สิ่งมีชีวิต​ตน​หนึ่ง​ลอง​นับ​ดู​ พบ​ว่า​รวม​แล้ว​ทั้งหมด​หนึ่งร้อย​ขั้น​

“หากว่า​ผ่าน​ไป​ได้​ทั้ง​หนึ่งร้อย​ขั้น​จะเป็น​อย่างไร​”

เขา​ถามเสียงดัง​ ท่าทาง​มั่นใจ​สุด​ ๆ ยัง​ไม่พึงพอใจ​ใน​บันได​ห้าสิบ​ขั้น​ คิด​จะผ่าน​ไป​ให้ได้​ทั้ง​หนึ่งร้อย​ขั้น​

และ​เขา​มีสิทธิ์​ทำ​เช่นนั้น​ ขอบเขต​พลัง​ของ​เขา​สูงลิ่ว​ อยู่​เหนือ​ยอด​เซียน​ เป็น​ถึงเซียน​จวิน​ท่าน​หนึ่ง​!

“ผ่าน​ไป​ได้​ทั้ง​หนึ่งร้อย​ขั้น​หรือ​”

ผู้อาวุโส​ท่าน​นั้น​หัวเราะ​ “คน​วัยเยาว์​กล้า​คิด​เช่นนี้​นับ​เป็นเรื่อง​ดี​ แต่​อย่า​คิด​ให้​เกินกำลัง​นัก​ นับแต่​ตำหนัก​ตง​ชิว​ถือกำเนิด​ มิเคย​มีผู้ใด​ผ่าน​บันได​ไป​ได้​ทั้ง​หนึ่งร้อย​ขั้น​มาก่อน​ ประมุข​ตำหนัก​ใน​อดีต​ของ​ตำหนัก​ตง​ชิว​ อย่าง​ดี​ที่สุด​ก็​ผ่าน​ไป​ได้​เพียง​หกสิบ​แปด​ขั้น​เท่านั้น​”

“ยาก​ขนาด​นั้น​เชียว​?!”

เซียน​จวิน​หนุ่ม​ตกตะลึง​ ประมุข​ตำหนัก​ตง​ชิว​ทั้งหลาย​ใน​อดีต​ล้วน​เป็น​ผู้กุมอำนาจ​ใหญ่​ใน​แดน​บรรพ​โกลาหล​ ถึงอย่างนั้น​สถิติ​สูงสุด​ยังอยู่​แค่​หกสิบ​แปด​ขั้น​ เขา​รึ​ยัง​คิด​จะผ่าน​ให้ได้​ทั้ง​หนึ่งร้อย​ขั้น​ นับว่า​เพ้อเจ้อ​สิ้นดี​ ไม่รู้จัก​สำเหนียก​ตนเอง​!

“ข้า​ขอ​พูด​เช่นนี้​แล้วกัน​ หาก​ผ่าน​หกสิบ​ขั้น​ เจ้าจะได้​เป็น​ศิษย์​สาย​ตรง​ของ​ประมุข​ตำหนัก​ มีโอกาส​ได้​เป็น​ประมุข​ตำหนัก​คน​ต่อไป​!”

ผู้อาวุโส​กล่าว​ “ทว่า​หลาย​แสน​ปี​ที่ผ่านมา​ มิเคย​มีผู้ใด​ผ่าน​มาเกิน​หกสิบ​ขั้น​ ตำแหน่ง​ศิษย์​สาย​ตรง​ของ​ประมุข​ตำหนัก​จึงยัง​ว่าง​มาถึงป่านนี้​”

เขา​กล่าว​ต่อ​ “อย่า​เพิ่ง​มองการณ์ไกล​ไป​ ผ่าน​ให้ได้​ยี่สิบ​ขั้น​ก่อน​เป็น​พอ​ หลัง​ได้​เป็น​ศิษย์​ตำหนัก​ใน​ ความสำเร็จ​ของ​พวก​เจ้าในวันหน้า​ก็​เกิน​กว่า​ที่จะ​จินตนาการ​ถึงแล้ว​!”

จากนั้น​ เขา​อธิบาย​อย่าง​ละเอียด​ต่อ​อีกหน่อย​

“บันได​สวรรค์​โกลาหล​ทดสอบ​พรสวรรค์​และ​ศักยภาพ​ของ​พวก​เจ้า มีเพียง​ผู้​ผ่าน​เกณฑ์​เท่านั้น​ จึงจะข้าม​ผ่าน​บันได​สวรรค์​ขึ้นไป​ได้​ หากว่า​พรสวรรค์​และ​ศักยภาพ​ต่าง​ไม่พอ​ ต่อให้​ขอบเขต​พลัง​สูงปานใด​ก็​เปล่าประโยชน์​ ไม่อาจ​ก้าว​ผ่าน​ไป​ถึงบันได​ขั้น​ถัดไป​”

ผู้อาวุโส​บอก​

เหง่งหง่าง​!

เสียง​ระฆัง​ดัง​ขึ้น​อีกครั้ง​ ผู้อาวุโส​ตำหนัก​ตง​ชิว​ประกาศ​เริ่ม​การ​สอบคัดเลือก​

แม้จะมีสิ่งมีชีวิต​เข้าร่วม​การ​สอบคัดเลือก​เป็น​จำนวนมาก​ ทว่า​บันได​สวรรค์​โกลาหล​กว้างใหญ่​ไร้​ขอบเขต​ เมื่อ​อยู่​เบื้องหน้า​บันได​สวรรค์​โกลาหล​ สิ่งมีชีวิต​ทั้งหลาย​ต่าง​กระจิริด​ดุจ​มด​ปลวก​ เข้าร่วม​การ​สอบคัดเลือก​ได้​พร้อมกัน​

สิ้น​เสียง​ผู้อาวุโส​ตำหนัก​ตง​ชิว​ สิ่งมีชีวิต​ผู้เข้าร่วม​การ​สอบคัดเลือก​เคลื่อนไหว​กัน​ทั้งหมด​ บุก​ไป​ยัง​บันได​สวรรค์​โกลาหล​

“ข้า​ขอ​ดู​หน่อย​เถิด​ ด้วย​พลัง​กาย​เนื้อ​ของ​ข้า​ใน​ยาม​นี้​ จะผ่าน​ไป​ได้​ถึงขั้น​ไหน​!”

ซีดวงตา​เป็นประกาย​ เคลื่อน​ไหวตัว​พุ่ง​ไป​ทาง​บันได​สวรรค์​โกลาหล​เช่นกัน​

“ต้นอ่อน​ดี ๆ​ มีไม่น้อย​ แต่​คง​มิมีผู้ใด​ผ่าน​ไป​ได้​เกิน​หกสิบ​ขั้น​อยู่ดี​”

ผู้อาวุโส​ท่าน​หนึ่ง​ว่า​ไป​ตาม​ประสบการณ์​ที่ผ่านมา​

เขา​รับผิดชอบ​ด้าน​การ​สอบคัดเลือก​มาโดยตลอด​ เรียก​ได้​ว่า​ประสบการณ์​โชกโชน​ โดยปกติ​ การคาดการณ์​ของ​เขา​ไม่มีผิดเพี้ยน​ แม่นยำ​เป็น​อย่างยิ่ง​

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท