บทที่ 652 ไร้พ่ายในระดับเดียวกันก็ไม่อาจสู้อาวุธจักรพรรดิเซียนจำนวนมาก!
แดนบรรพโกลาหลนั้นยั่วยวนใจเกินไป เหล่าผู้พอมีความสามารถจากอาณาจักรนับหมื่นต่างเร่งมุ่งหน้าตรงไปยังอาณาจักรแห่งนั้น
…
ณ แดนฮวง
บนยอดเขาสูงตระหง่านทะลุหมู่เมฆ จักรพรรดินียืนพร้อมเสื้อผ้าที่สะบัดไหว ใบหน้าของนางงดงามที่สุดในโลกหล้า เจิดจ้าสว่างไสวยิ่งกว่าผู้ใด บรรยากาศรอบกายยากจะบรรยายออกมาได้ โดดเด่นพิเศษไม่ธรรมดาสามัญ
ผิวของนางเปล่งประกายจาง ๆ ด้วยแสงเซียน เช่นเดียวกับในดวงตาคู่นั้นยามที่ปรากฏจังหวะแห่งเซียนขณะค่อย ๆ แผ่สัมผัสปกคลุมทั่วฟ้าดิน
“พบเบาะแสแล้ว!”
นางเก็บประกายตาทันทีที่พบสิ่งที่ต้องการตามหา
หลังจากนางเข้ามายังอาณาจักร ก็มาถึงยังสถานที่แห่งนี้ ต่อมาเมื่อเปิดใช้ประสาทสัมผัสเซียนตรวจสอบทั่วทั้งอาณาจักร ก็ได้พบเข้ากับเบาะแสบางอย่างแล้ว!
นางหาตัวเซียวฮุ่ยพบแล้ว!
ก่อนที่นางจะออกมาจากภพเซียน ประมุขตระกูลเซียวได้เล่าสถาการณ์ของพวกเซียวฮุ่ยให้นางฟัง นางจึงรู้ว่าเซียวฮุ่ยมีรูปร่างหน้าตาเช่นไร
“นางเผชิญกับสิ่งใดมากัน? สภาพถึงได้เลวร้ายเช่นนั้น…”
จักรพรรดินีเอ่ยกับตนเอง สัมผัสได้ว่าสภาพของเซียวฮุ่ยย่ำอย่างมาก ตอนนี้นางหาใช่แม้กระทั่งเซียน
“ไปพบนางก่อน!”
นางก้าวออกไป เตรียมจะไปจากสถานที่แห่งนี้เพื่อไปพบกับเซียวฮุ่ย
ทว่าในตอนนั้นเอง ความว่างเปล่าข้างกายนางกลับบังเกิดการเปลี่ยนแปลงอลหม่านอย่างถึงขีดสุด นางขมวดคิ้วรีบกระโจนออกและทะยานมาถึงจักรวาลภายนอกอาณาจักร
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!
ทันทีที่นางออกมาถึงภายนอกอาณาจักร ก็ปรากฏหลายร่างขึ้นมาล้อมรอบนางจากทุกทิศทาง
“เจวี๋ยเนี่ยน คาดไม่ถึงเลยว่าตระกูลเซียวจะส่งเจ้าออกมา!”
“คิด ๆ ดูแล้วก็ใช่ หากตระกูลเซียวไม่ส่งเจ้ามาแล้วจะส่งผู้ใดมากัน!”
ร่างเหล่านี้รู้จักจักรพรรดินีเป็นอย่างดี และจำนางได้ทันทีที่เห็น
สีหน้าของจักรพรรดินีเย็นเยือก ก่อนจะเรียกทวนยาวสีทองมาไว้ในมือ
นางรู้ว่าการต่อสู้ครั้งนี้ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
เหล่าร่างที่อยู่ล้อมรอบนางต่างมาจากภพเซียน เป็นจ้าวแห่งเซียนจากมหาตระกูลอื่น ๆ
นี่ค่อนข้างจะเกินความคาดหมาย ทำให้นางรู้สึกคาดไม่ถึง
มีผู้แข็งแกร่งจากภพเซียนจำนวนมากเพียงนี้เชียวหรือ?
นางเคยประสบมาด้วยตนเอง ด้วยเหตุนี้ จึงรู้ซึ้งเป็นอย่างดีว่าการออกจากภพเซียนนั้นยากเย็นเพียงใด หากนางไม่ได้รับการช่วยเหลือจากคนผู้นั้นก็คงไม่อาจรอดชีวิตมาได้
ประมุขตระกูลเซียวเคยบอกกับนางว่ามหาตระกูลอื่น ๆ ก็เริ่มเคลื่อนไหวแล้วเช่นกัน นางคิดว่ายอดฝีมือเกินกว่าครึ่งของมหาตระกูลอื่น ๆ จะไม่สามารถออกมาได้ ตายตกไปด้วยพลังที่ห่อหุ้มภพเซียนเอาไว้
อย่างไรเสียพลังที่ห่อหุ้มภพเซียนเอาไว้ก็แข็งแกร่งน่ากลัวเกินไป กระทั่งนางก็ไม่อาจฝ่าออกมาได้
“พวกเจ้าตายไปกี่คนแล้วเล่า ถึงสามารถรอดออกมาได้เยอะเพียงนี้?” จักรพรรดินีกุมทวนถามออกมา
ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามหาตระกูลเหล่านี้ต้องจ่ายด้วยราคามหาศาล ผู้แข็งแกร่งต้องสังเวยชีวิตไปเป็นจำนวนมาก จึงจะสามารถมีผู้ประสบความสำเร็จออกมาได้มากมายเพียงนี้
ไม่เช่นนั้นเรื่องนี้คงไม่อาจเป็นไปได้
“ช่างน่าสังเวชเกินไป จ้าวแห่งเซียนขั้นสูงสุดสามสิบคน มีเพียงข้าเพียงผู้เดียวที่ทำสำเร็จ”
“พวกเราสูญเสียจ้าวแห่งเซียนขั้นสูงสุดไปสามสิบห้าคน”
เมื่อร่างเหล่านั้นย้อนคิดกลับไปก็อดผวาขึ้นมาเล็กน้อยไม่ได้ พวกเขาล้วนไม่คิดว่าตนเองจะสามารถรอดชีวิตมาได้ ตอนนี้กระทั่งให้ย้อนกลับเข้าไปด้านในยังไม่กล้า
มันน่ากลัวเกินไป แทบจะไม่เห็นความหวัง พวกเขาฝ่าออกมาได้สำเร็จก็นับว่าเป็นความโชคดีแล้ว หากให้ลองอีกครั้งพวกเขาย่อมไม่มั่นใจว่าจะทำได้สำเร็จหรือไม่
“ของสิ่งนี้คือสิ่งใดกัน? คุ้มค่ากับราคามหาศาลที่ต้องจ่ายไปหรือ?”
จักรพรรดินีเอ่ยถาม แม้จะรู้ว่าของสิ่งนั้นสำคัญอย่างมาก แต่นางก็คาดไม่ถึงว่าของสิ่งนั้นจะสำคัญถึงขั้นให้มหาตระกูลอื่น ๆ ยอมจ่ายราคามหาศาลเพื่อให้ได้มันมา
จ้าวแห่งเซียนขั้นสูงสุดนับได้ว่าเป็นแกนนำของกองกำลัง การที่เหล่ามหาตระกูลเต็มใจยอมจ่ายเป็นเรื่องนอกเหนือความคาดหมายของนางอยู่บ้าง
“เจ้าไม่รู้หรือ? ตระกูลเซียวเป็นผู้ที่ค้นพบการมีอยู่ของสิ่งนั้นเร็วที่สุด ทว่าเจ้ากลับยังมาถามพวกเราอีกหรือ?”
จ้าวแห่งเซียนขั้นสูงสุดผู้หนึ่งหรี่ตาถาม “หรือจะบอกว่าตระกูลเซียวเองก็ไม่รู้ว่าของสิ่งนั้นคือสิ่งใด?”
“ข้าเองก็ไม่รู้จริง ๆ และก็ไม่มีความจำเป็นอันใดต้องปิดบัง”
จักรพรรดินีเอ่ย ประมุขตระกูลเซียวบอกเพียงว่าเป็นกล่องสี่เหลี่ยม ทว่าไม่ได้บอกรายละเอียดอื่น
“พวกเราเองก็ไม่รู้”
มีจ้าวแห่งเซียนขึ้นสูงสุดส่ายหัว รับรู้เพียงแค่สิ่งนั้นเป็นกล่องสี่เหลี่ยม ไม่รู้รายละเอียดอื่น
“พวกเจ้าน่าจะมาถึงก่อนสินะ แต่ดูเหมือนเหมือนว่าพวกเจ้าจะไม่ได้รับสิ่งใด”
จักรพรรดินีกระจ่างแจ้งเป็นอย่างมาก จ้าวแห่งเซียนขั้นสูงสุดเหล่านี้ไม่มีทางได้รับกล่องไปแล้วอย่างแน่นอน ไม่เช่นนั้นคงไม่พากันมาปิดล้อมนาง
คิดดูแล้วเหล่าจ้าวแห่งเซียนขั้นสูงสุดน่าจะมาถึงก่อน เมื่อนางเปิดใช้สัมผัสเซียนเพื่อตรวจสอบอาณาจักรแห่งนี้ เหล่าจ้าวแห่งเซียนขั้นสูงสุดที่รับรู้ได้จึงถูกดึงดูดให้เข้ามา
นางไม่ได้เกิดความรู้สึกเสียใจภายหลังขึ้นมาแม้แต่น้อย
แม้นางจะรู้ว่าจ้าวแห่งเซียนขั้นสูงสุดเหล่านี้อยู่ที่นี่แล้ว นางก็ยังคงจะทำเช่นเดิม ใช้สัมผัสเซียนปกคลุมทั่วทั้งอาณาจักรเพื่อสืบหาข้อมูล
ถ้าหากไม่ทำเช่นนี้แต่เลือกจะเก็บสัมผัสเซียนแล้วค่อย ๆ ออกค้นหา มันก็จะกินเวลามากเกินไป มีโอกาสอย่างมากที่เหล่าจ้าวแห่งเซียนขั้นสูงสุดคนอื่น ๆ จะชิงตัดหน้าไปก่อนโดยที่นางไม่รู้เสียด้วยซ้ำ
เมื่อรู้ว่าเหล่าจ้าวแห่งเซียนขั้นสูงสุดที่ถูกดึงดูดมาที่นี่ล้วนแต่ไม่ได้รับกล่องสี่เหลี่ยม นางพลันรู้สึกโล่งใจขึ้นมา
“ไม่ได้เบาะแสใดก็ไม่สำคัญ ในเมื่อเจ้าสามารถมอบมันให้กับพวกข้าได้!”
“ตระกูลเซียวเป็นผู้แรกที่เริ่มเคลื่อนไหว เจ้าก็ควรจะรู้ข้อมูลไม่น้อย”
เหล่าจ้าวแห่งเซียนขั้นสูงสุดเริ่มเคลื่อนไหว หมายมาดจะกำราบจักรพรรดินีเพื่อให้ได้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องมากขึ้นกว่าเดิม
พวกเขามาถึงก่อน แต่ด้วยความไม่กล้าเปิดเผยตัวตนมากเกินไป ความคืบหน้าจึงช้าเป็นอย่างมาก ไม่ได้รับสิ่งใดกลับมาเลยแม้แต่น้อย
จักรพรรดินีไม่เกรงกลัว พุ่งเข้าไปประหัตประหารด้วยทวนในมือ
นางรู้ตั้งนานแล้วว่าเหล่าจ้าวแห่งเซียนขั้นสูงสุดเหล่านี้ไม่ได้มีเจตนาดี การต่อสู้ครั้งใหญ่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ดังนั้นนางจึงออกมาด้านนอกอาณาจักรด้วยความตั้งใจ
อาณาจักรแห่งนี้คือบ้านเกิดเมืองนอน นางไม่ต้องการให้มาตุภูมิถูกทำลาย
จักรพรรดินีห้าวหาญเป็นอย่างยิ่ง แม้จะมีตัวคนเดียวต่อหน้าศัตรูจำนวนมากก็ไม่เสียเปรียบ ทวนสีทองร่ายรำ ทุกกระบวนท่าปะทุออกมาด้วยพลังเซียนอันแข็งแกร่ง
“สมกับเป็นเจ้า แม้จะเป็นตัวตนระดับเดียวกันอย่างพวกเราลงมือพร้อมกันก็ไม่อาจสยบเจ้าได้!”
จ้าวแห่งเซียนขั้นสูงสุดบางคนอดเอ่ยออกมาไม่ได้
จักรพรรดินีมีชื่อเสียงอย่างมากในภพเซียน นางแข็งแกร่งเป็นอย่างมากจริง ๆ สมควรกับการขนานนามว่าไร้พ่ายในระดับเดียวกัน
“ข้าชื่นชมเลื่อมใสในตัวเจ้าเป็นอย่างมาก ทว่าเรื่องนี้สำคัญเกินไป ต้องขออภัยด้วย!”
เขากล่าวขออภัย จากนั้นก็ยกธงผืนใหญ่ขึ้นโบก
มันคือธงจักรพรรดิเซียนผืนหนึ่ง ด้านในมีสัตว์อสูรอันน่าสะพรึงกลัวจำนวนมากถูกผนึกเอาไว้ภายใน เขาปลดผนึกบนธงออก ปล่อยเหล่าสัตว์อสูรทั้งหมดออกมา
โฮก โฮก โฮก!
สัตว์อสูรทั้งสิบสองตนพุ่งออกมาจากธง เสียงคำรามดังสะเทือนดวงดารา ความแข็งแกร่งของสัตว์อสูรแต่ละตัวนั้นล้ำลึกจนไม่อาจหยั่งรู้ได้ เพียงแค่ปลดปล่อยลมหายใจอันน่ากลัวออกมา ดวงดาราขนาดใหญ่ในบริเวณใกล้เคียงก็ระเบิดออกดวงแล้วดวงเล่า
“ธงสิบสองอสูร! พวกเจ้าถึงกับเต็มใจเอาอาวุธจักรพรรดิเซียนมาด้วย!”
รูม่านตาของจักรพรรดินีหดแคบลง นางรู้จักธงจักรพรรดิเซียนผืนนี้ นี่เป็นอาวุธจักรพรรดิเซียนของตระกูลหลวน มีชื่อเสียงโด่งดังอย่างมากในภพเซียน ด้านในมีสัตว์อสูรระดับเซียนจวินสิบสองตัวถูกผนึกเอาไว้!
“ตระกูลเซียวไม่ได้มอบสมบัติให้กับเจ้าอย่างนั้นหรือ? หากเป็นเช่นนั้นจริง เจ้าก็ถึงคราวเคราะห์แล้ว!”
“ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่มีจริง ๆ เช่นนั้นก็ย่อมเสียแต่โดยดีเถิด!”
จ้าวแห่งเซียนขั้นสูงสุดหลายคนตะโกนออกมา ต่างพากันเรียกใช้สมบัติ ตระกูลของพวกเขาล้วนให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับภารกิจในครั้งนี้ พวกเขาทั้งหมดได้รับอาวุธจักรพรรดิเซียนเพื่อให้มีโอกาสช่วงชิงกล่องสี่เหลี่ยมได้มากยิ่งขึ้น
มุมปากของจักรพรรดินีกระตุก ภายในใจก่นด่าประมุขตระกูลเซียว ดูตระกูลอื่นเสียสิ อาวุธจักรพรรดิเซียนจำนวนมากถูกมอบให้ ส่วนนางเล่า?
ไม่มีสิ่งใดทั้งสิ้น!
นางช่างน่าเวทนาเสียจริง!
ตู้ม!
สัตว์อสูรทั้งสิบสองตัวพุ่งเข้ามาเพื่อสังหารจักรพรรดินีเป็นกลุ่มแรก ตามมาด้วยเหล่าจ้าวแห่งเซียนขั้นสูงสุดที่พุ่งเข้ามาพร้อมสมบัติ พลังที่ปะทุออกมาไม่อาจต้านทานได้อย่างไม่ต้องสงสัย ช่องว่างที่มีนั้นมากเกินไป!
จักรพรรดินีกระอักเลือดออกมา ไม่สามารถต้านทานได้แม้แต่น้อย นางตกลงมาจากด้านนอกอาณาจักรร่วงลงสู่ภายในอาณาจักรโดยตรง
เหล่าจ้าวแห่งเซียนขั้นสูงสุดเองก็กลับเข้าไปยังด้านในอาณาจักรอีกครั้ง
สุดท้ายอย่างไรเสียพวกเขาก็ไม่ได้เป็นน้ำหนึ่งในใจเดียวกัน ต่างมีความระแวงกันและกัน แม้จะลงมือร่วมกัน แต่ก็ไม่ได้ใช้พลังทั้งหมดออกมา
ไม่เช่นนั้น จักรพรรดินีย่อมต้องพ่ายแพ้ลงภายในพริบตาอย่างแน่นอน ไม่ได้ร่วงลงหล่นไปเช่นนี้
พวกเขาต่างไม่ต้องการให้อีกฝ่ายได้ตัวของจักรพรรดินี เพราะมีความเป็นไปได้ว่านางจะมีข้อมูลเกี่ยวกับกล่องสี่เหลี่ยม พวกเขาจึงต้องการตัวนางไว้เพียงผู้เดียว
จักรพรรดินีร่วงลงมาจากท้องฟ้าชนภูเขาจนทลายลงราบ ทั่วร่างเต็มไปด้วยโลหิต กายแน่นิ่งอยู่บนพื้น
จ้าวแห่งเซียนหลายคนถูกสังหารทิ้งในพริบตาโดยไม่สามารถแตะต้องตัวของจักรพรรดินีได้
พวกเขาต่างต่อสู้กันเองเพื่อแย่งชิงตัวของจักรพรรดินี!