ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 691 ปรารถนา (กลาง)

ตอนที่ 691 ปรารถนา (กลาง)

“​ได้​สิ​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ตอบ​ตกลง​โดย​ไม่​ลังเล​เลย​แม้แต่น้อย

ความตรง​ไป​ตรง​มา​ของ​เขา​ทำให้​สือ​อี​เหนียง​ตกตะลึง​ ​ต้อง​รู้​ว่า​แม้​จิ​่น​เกอ​จะ​โต​ขนาด​นี้​แล้วแต่​เขา​นั้น​ไม่เคย​อยู่​ห่าง​จาก​สายตา​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เลย​แม้แต่​ครั้ง​เดียว​ ​แม้แต่​นาง​เอง​ก็​ยัง​ต้อง​ใช้เวลา​คิด​สอง​สาม​วันก่อน​ตัดสินใจ​ด้วยซ้ำ

“​ข้า​เข้าใจ​ว่า​เจ้า​เป็นห่วง​เขา​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​มอง​นาง​ ​“​บางครั้ง​ข้า​เอง​ก็​กลัว​ ​กลัว​ว่า​สิ่ง​ที่​ข้า​ตัดสินใจ​จะ​ผิดพลาด​ ​กลัว​ว่า​ข้า​จะ​คาดเดา​พรสวรรค์​ของ​จิ​่น​เกอ​สูง​เกินไป​ ​กลัว​ว่าความ​ชอบ​ของ​จิ​่น​เกอ​จะ​เป็นความ​สนุก​แค่​ชั่วคราว​ ​และ​สิ่ง​ที่​ข้า​กลัว​ที่สุด​ก็​คือ​ ​กลัว​ว่า​เขา​จะ​เป็น​นก​อินทรี​ที่​ถูก​เรา​เลี้ยง​ให้​เป็น​ห่าน​ ​อยาก​จะ​บิน​แต่​บิน​ไม่​ขึ้น​ ​ซึ่ง​คนอื่น​ล้วน​มองว่า​เขา​เป็น​นก​อินทรี​…​”​ ​เขา​พูด​พลาง​น้ำตา​คลอ​เบ้า

สือ​อี​เหนียง​น้ำตาไหล​ริน

นาง​เอง​ก็​สับสน​แบบนี้​เหมือนกัน​…​หวัง​ว่า​ลูก​ของ​ตัวเอง​จะ​ได้รับ​ความเคารพ​จาก​ผู้อื่น​ด้วย​ความสามารถ​ของ​ตัวเอง​ ​แต่​ก็​ไม่​อยาก​ให้​เขา​ลำบาก​ ​เดินทาง​ที่​ผิด​ ​เจอ​กับ​การเปลี่ยนแปลง​มากมาย

“​ให้​เจิ​้น​ซิ่ง​พา​เขา​ไปดู​เจียง​หนาน​เถิด​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ใช้​แขน​เสื้อ​เช็ดน้ำ​ตา​ให้​สือ​อี​เหนียง​ ​“​อย่างน้อย​เขา​ก็​จะ​ได้​รู้​ว่า​เจียง​หนาน​ไม่​เหมือน​ทะเลทราย​ ​รู้​ว่า​บน​โลก​ใบ​นี้​ยัง​มีทิ​วทัศน​์​อีก​รูปแบบ​หนึ่ง​”​ ​พูด​จบ​ก็​หัวเราะ​ขึ้น​มา​ ​“​บางที​เขา​อาจจะ​อยาก​เห็น​ความแตกต่าง​ของ​โลก​ใบ​นี้​ ​ตัดสินใจ​ว่า​โต​ขึ้น​แล้ว​จะ​ไป​เขต​เหลียว​ตง​ก็ได้​”

หาก​เป็น​เช่นนี้​…​สือ​อี​เหนียง​คิดดู​แล้วก็​รู้สึก​ขบขัน​เหมือนกัน​ ​นาง​ยิ้ม​อย่าง​แผ่วเบา

“​เหตุใด​ท่าน​ถึง​เอาแต่​คิด​ว่า​จิ​่น​เกอ​จะ​ไป​ดินแดน​ที่​ห่างไกล​อย่างนั้น​เล่า​”​ ​นาง​บ่น​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​อ่อนโยน​ ​“​บางที​จิ​่น​เกอ​อาจ​ตัดสินใจ​อยู่​ที่​หังโจว​ไม่​ไป​ไหน​แล้วก็​ได้​”

“​หังโจว​ก็​ไม่เลว​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ต่อไป​ ​“​เบื้องบน​มีส​วรรค​์​ ​เบื้องล่าง​มี​ซู​โจว​และ​หังโจว​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​สินค้า​ของ​เจียง​หนา​นก​็​ส่ง​ไป​ทางเหนือ​จาก​หังโจว​ ​ศูนย์บัญชาการ​หาง​เรือ​ของ​เฉา​ปัง​ก็​ตั้งอยู่​ที่นั่น​ ​ไม่ต้อง​พูดถึง​เรื่อง​อื่น​ ​แค่​เงินราง​วัล​ของ​เฉา​ปัง​ใน​ทุกปี​ก็​ทำให้​มีชีวิต​ที่​สุขสบาย​ได้​แล้ว​ ​ตำแหน่ง​ใน​หน่วย​ลาดตระเวน​ตรวจการณ์​อาจ​ไม่​สูงส่ง​สัก​เท่าไร​ ​แต่​ได้รับ​ผลประโยชน์​พลอย​ได้​ไม่น้อย​!​”

กรม​กลาโหม​เป็น​คนดู​แล​หน่วย​ลาดตระเวน​ตรวจการณ์

“​เหตุใด​ท่าน​ถึง​อยาก​ให้​จิ​่น​เกอ​เข้าไป​อยู่​ใน​ค่ายทหาร​จัง​เลย​เจ้า​คะ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​โมโห​ ​“​เมื่อ​ครู่​ท่าน​ยัง​บอกว่า​จะ​ให้​พี่ใหญ่​พา​จิ​่น​เกอ​ไป​เจียง​หนาน​ ​เพิ่งจะ​พูด​จบ​ก็​พูดถึง​หน่วย​ลาดตระเวน​ตรวจการณ์​แล้ว​?​ ​ข้า​ยอมให้​จิ​่น​เกอ​ไป​อยู่​ที่​ค่าย​ใหญ่​ซี​ซาน​ ​ดีกว่า​ให้​เขา​ไป​หน่วย​ลาดตระเวน​ตรวจการณ์​ ​เจอ​เรือ​แล่น​ผ่าน​ไป​ก็​ต้อง​ก้มหัว​ให้​คน​เหล่านั้น​ ​เจอ​ผู้บัญชาการ​ก็​ต้อง​ประจบสอพลอ​…​”​ ​นาง​ไม่​ชอบ​คนเลีย​แข้ง​เลีย​ขาตั้ง​แต่​ชาติก่อน​แล้ว

“​ที่แท้​เจ้า​ก็​ไม่​ชอบ​หน่วย​ลาดตระเวน​ตรวจการณ์​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​ขมวดคิ้ว​ ​“​ที่​ใกล้​กับ​หังโจว​ที่สุด​ก็​มี​แค่​…​ผู้ว่าการ​กรม​ขนส่ง​เสบียงอาหาร​…​มัน​อยู่​ที่​ไหว​อาน​ ​แต่​ผู้ว่าการ​กรม​ขนส่ง​เสบียงอาหาร​เป็น​ขุนนาง​ระดับ​สาม​ ​ต้อง​รับ​ตำแหน่ง​ผู้ว่าการ​กรม​ขนส่ง​เสบียงอาหาร​ตั้งแต่​เริ่ม​…​ค่อนข้าง​ลำบาก​…​”​ ​พูด​จบ​ ​เขา​ก็​ส่ายหน้า​เบา​ๆ​ ​ด้วย​ท่าที​ลำบากใจ

สือ​อี​เหนียง​รู้​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​กำลัง​แกล้ง​นาง

“​ใคร​จะ​เป็น​ผู้ว่าการ​กรม​ขนส่ง​เสบียงอาหาร​กัน​เจ้า​คะ​”​ ​นาง​ปล่อยมือ​จาก​เขา​ ​“​ทำไม​ข้า​จะ​ไม่รู้​ว่า​กระทรวง​ขุนนาง​นั้น​ราวกับ​เป็น​สิ่งของ​ใน​กระเป๋า​ของ​ท่าน​โหว​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​หัวเราะ​ ​เขา​ถาม​นาง​อย่าง​อ่อนโยน​ ​“​เจ้าอารมณ์​ดีขึ้น​แล้ว​หรือยัง​”

หยอกล้อ​กัน​เช่นนี้​ ​ความไม่พอใจ​ก่อนหน้านี้​ก็​มลาย​หาย​ไป​ไม่น้อย​ ​นาง​พลอย​อารมณ์ดี​ขึ้น​ไม่น้อย​ ​นึกถึง​ช่วง​สอง​วันนี้​ที่​เขา​หา​โอกาส​คุย​กับ​นาง​ ​แต่​นาง​กลับ​แสร้งทำ​เป็น​มองไม่เห็น​ ​เขา​พูด​ประโยค​หนึ่ง​ ​นาง​ก็​ประชดประชัน​…​สือ​อี​เหนียง​คิด​ว่า​ตัวเอง​เหมือน​เด็กน้อย​เกินไป​ ​เริ่ม​รู้สึก​ผิด​ ​“​ข้า​รู้​ว่า​ข้า​ควรจะ​พูด​กับ​ท่าน​โหวดี​ๆ​ ​ไม่​ควร​โกรธเคือง​ท่าน​…​ ​“

“​ตอนนี้​เจ้า​ก็​พูด​กับ​ข้า​ดี​ๆ​ ​อยู่​ไม่ใช่​หรือ​”​ ​ไม่​รอ​ให้​สือ​อี​เหนียง​พูด​จบ​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​แล้ว​อีก​อย่าง​ ​เจ้า​ไม่​โกรธ​ข้า​แล้ว​เจ้า​จะ​ไป​โกรธ​ใคร​”

สือ​อี​เหนียง​นิ่งงัน

นาง​จ้อง​ตา​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​หัวใจ​ของ​นาง​เต้น​ระรัว​จน​พูด​อะไร​ไม่​ออก

แต่​สวี​ลิ่ง​อี๋​กลับ​พูดว่า​ ​“​แต่ว่า​เรื่อง​ของ​เจี​้ย​เกอ​นั้น​ ​มี​จดหมาย​มาจาก​อวี​๋​หัง​แล้ว​หรือยัง​”

“​อ้อ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​รีบ​พูด​ ​“​ยัง​ไม่มี​เจ้าค่ะ​ ​แต่​นับวัน​ดูแล​้ว​ ​อีก​สอง​วัน​ก็​น่าจะ​ส่ง​มาถึง​แล้ว​กระมัง​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​พยักหน้า​ ​จากนั้น​ก็​ทำ​สีหน้า​เคร่งขรึม​ ​“​เช่นนั้น​ก็​รอ​จดหมาย​ยืนยัน​จาก​อวี​๋​หัง​ก่อน​ ​ประเดี๋ยว​ข้า​จะ​ไป​ลางาน​ให้​เจิ​้น​ซิ่ง​ที่​กระทรวง​ขุนนาง​ ​อ้างว่า​ไป​ส่ง​อิง​เหนียง​กลับ​อวี​๋​หัง​ ​แล้ว​ให้​เขา​พา​จิ​่น​เกอ​ไป​เจียง​หนาน​ ​ส่วน​เรื่อง​เตรียมการ​…​”​ ​เขา​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​“​ข้า​จะ​บอก​เจตนา​ให้​เจิ​้น​ซิ่ง​รู้​ ​จากนั้น​ก็​เขียนจดหมาย​ให้​เซี่ยงฮู​หยิน​ ​เขา​มีส​หาย​เยอะ​ ​ด้วย​ชื่อเสียง​ของ​เจิ​้น​ซิ่ง​ ​มี​เขา​คอย​ดูแล​จะ​ได้​ให้​จิ​่น​เกอ​เห็น​เหล่า​ขุนนาง​ใน​เจียง​หนาน​”

สือ​อี​เหนียง​คิด​ว่านี​่​เป็นความ​คิด​ที่​ดี​ ​แต่​นาง​เป็นห่วง​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​ ​“​หาก​ทำ​เช่นนี้​ ​คง​ต้อง​ใช้เวลา​ใช่​หรือไม่​เจ้า​คะ​ ​มัน​จะ​กระทบ​ต่อ​อนาคต​ของ​พี่ใหญ่​หรือไม่​”

“​ตอนนี้​เขา​รับ​ตำแหน่ง​นี้​มานาน​แล้ว​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​ถือโอกาส​นี้​ออก​ไป​เดินเล่น​ ​บางที​อาจ​ได้รับ​อะไร​ที่​คาดไม่ถึง​ก็ได้​!​”

ก็​จริง​ ​ไปหา​สหาย​เช่นนี้​ ​ไม่ต้อง​พูดถึง​เรื่อง​ถูกชะตา​ ​แต่​อย่างน้อย​ก็ได้​เห็น​หน้า​เห็น​ตากัน​

“​หาก​เวลา​เอื้ออำนวย​ ​ทาง​ที่​ดี​ควร​พา​จิ​่น​เกอ​ไป​สำนัก​ศึกษา​ถ้ำ​กวาง​ขาว​และ​สำนัก​ศึกษา​เหมา​ซาน​ด้วย​นะ​เจ้า​คะ​”​ ​นาง​พูด​ต่อ​อีกว่า​ ​“​ให้​เขา​เห็น​ว่า​คนอื่น​เรียนหนังสือ​อย่างไร​ ​ให้​เขา​ได้​รู้สึก​ถึงแก่น​แท้​ของ​สำนัก​ศึกษา​”

“​ได้​เลย​!​”​ ​ในเมื่อ​ตัดสินใจ​แล้ว​ ​เขา​จึง​เริ่ม​เตรียมการ​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูดว่า​ ​“​เจ้า​คิด​ว่า​ควร​ไป​ที่ไหน​อีก​ ​ปรึกษา​กัน​แล้ว​ ​ข้า​จะ​ได้​ไป​บอก​เจิ​้น​ซิ่ง​!​”

“​ข้า​แค่​อยาก​ให้​เขา​ได้​เห็น​นักปราชญ์​ใน​เจียง​หนาน​เพียง​เท่านั้น​ ​ส่วน​เรื่อง​อื่น​ข้า​ยัง​ไม่ได้​คิด​ ​ไม่รู้​ว่า​ท่าน​โหว​มีแผน​อย่างไรบ้าง​”

“​ในเมื่อ​เจ้า​อยาก​ให้​เขา​เห็น​นักปราชญ์​ใน​เจียง​หนาน​ ​หวังปั​๋ว​โจว​ ​อาจารย์​หวัง​ที่​อาศัย​อยู่​เขต​ฟู่​หยาง​อยู่​ที่นั่น​ ​คง​ต้อง​ไปหา​เขา​ ​ข้า​จำได้​ว่า​อาจารย์​ของ​หวัง​ลี่​เป็น​สหาย​กับ​หวังปั​๋ว​โจว​ ​พรุ่งนี้​ข้า​จะ​ขอให้​หวัง​ลี่​เขียนจดหมาย​ ​ถึง​ตอนนั้น​ก็​ให้​เจิ​้น​ซิ่ง​นำ​ไป​ด้วย​…​”

สอง​สามีภรรยา​นั่ง​คุย​กัน​เสียง​เบา​ ​มีเสียง​ร้องของ​แมลง​ดัง​ออกมา​จาก​ต้น​ซ่อนกลิ่น​ที่อยู่​ไม่​ไกล​เป็นครั้งคราว​ ​พลอย​ทำให้​บรรยากาศ​ยามค่ำคืน​ดู​เงียบสงัด

*****

หลังจาก​วันเกิด​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ ​จดหมาย​จาก​อวี​๋​หัง​ก็​มาถึง

มีคำ​พูด​ของ​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​ ​การ​ที่​สกุล​หลัว​ตอบ​ตกลง​เรื่อง​แต่งงาน​ครั้งนี้​ไม่ใช่​เรื่อง​แปลก​อะไร

ไท่ฮู​หยิน​ยิ้ม​หน้าบาน​ ​นาง​เร่งเร้า​สือ​อี​เหนียง​ ​“​รีบ​กำหนด​วัน​เถิด​ ​เจี​้ย​เกอ​จะ​ได้​ตั้งใจ​เล่าเรียน​หนังสือ​ ​เจ้า​ก็​จะ​ได้​มี​เพื่อน​”​ ​นาง​บอก​ป้า​ตู้​ ​“​ตอนนี้​อิง​เหนียง​ยังอยู่​ที่​จวน​ของ​เรา​ ​พวก​เจ้า​ห้าม​เผลอ​พูด​ออก​ไป​เด็ดขาด​ ​ประเดี๋ยว​เด็ก​ๆ​ ​เขินอาย​ไม่พอ​ ​หาก​มี​ข่าวลือ​อะไร​แพร่กระจาย​ออก​ไป​ ​ข้า​ไม่​ปล่อย​พวก​เจ้า​ไป​แน่นอน​”

“​ท่าน​ไม่ต้อง​ห่วง​เจ้าค่ะ​!​”​ ​ป้า​ตู้​เห็น​ไท่ฮู​หยิน​อารมณ์ดี​ ​นาง​ทำท่า​ที​แปลก​ๆ​ ​พลาง​เอ่ย​หยอกล้อ​ไท่ฮู​หยิน​ ​“​บ่าว​รับปาก​ว่า​ไม่มีทาง​เผลอ​พูด​ออก​ไป​แน่นอน​”

ใน​ห้อง​ไม่มี​คนอื่น​ ​ไท่ฮู​หยิน​และ​สือ​อี​เหนียง​พากัน​หัวเราะ

“​พี่ใหญ่​บอกว่า​ ​เขา​อยาก​ลางาน​สอง​สาม​วัน​ ​หนึ่ง​คือ​กลับ​ไปดู​ ​สอง​คือ​ไป​ส่ง​อิง​เหนียง​ ​เมื่อ​เขา​กลับมา​จาก​อวี​๋​หัง​แล้ว​ค่อย​สู่ขอ​อย่างเป็นทางการ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​ข้า​คิด​ว่า​เด็ก​ทั้งสอง​คนยัง​เด็ก​ ​โดยเฉพาะ​อิง​เหนียง​ ​ยัง​ไม่ได้​ร่วม​พิธี​ขึ้น​ปิ่นปักผม​ ​พี่สะใภ้​สี่​ของ​ข้า​ต้อง​อาลัยอาวรณ์​นาง​อย่างแน่นอน​ ​รอ​พี่ใหญ่​กลับมา​แล้ว​ค่อย​สู่ขอ​ก็​ไม่​สาย​เกินไป​ ​ท่าน​คิด​ว่า​เช่นไร​เจ้า​คะ​”

“​พวก​เจ้า​ตัดสินใจ​เถิด​!​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​พูด​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​ข้า​เตรียม​ซอง​แดง​ ​รอดื​่ม​ชาคา​รวะ​ของ​หลาน​สะใภ้​ก็​พอแล้ว​!​”

สือ​อี​เหนียง​จึง​พูดถึง​จุดประสงค์​หลัก​ของ​การ​มาหา​ไท่ฮู​หยิน​ครั้งนี้​ ​“​พี่ใหญ่​กลับ​อวี​๋​หัง​ครั้งนี้​ ​ก็​เพื่อ​ออก​ไปเที่ยว​ทางไกล​ ​ท่าน​โหว​คิด​ว่า​เป็น​โอกาส​ที่​หา​ได้​ยาก​ ​จึง​อยาก​ให้​จิ​่น​เกอ​ออก​ไป​เปิดหูเปิดตา​ด้วย​ ​แต่​ข้า​คิด​ว่า​จิ​่น​เกอ​ยัง​เด็ก​ ​ไป​ที​หนึ่ง​ก็​ต้อง​ใช้เวลา​ครึ่ง​ปี​ ​ข้า​เป็นห่วง​เขา​ ​แต่​ท่าน​โหวก​ลับ​บอกว่า​ ​แม้แต่​ซี​เป่ย​จิ​่น​เกอ​ก็​ไปมา​แล้ว​ ​เจียง​หนาน​เป็น​ดินแดน​ที่​ร่ำรวย​และ​เจริญรุ่งเรือง​ ​ไม่มี​เรื่อง​อัน​ใด​น่าเป็นห่วง​ ​ปีนี​้​จิ​่น​เกอ​ก็​อายุ​สิบ​ปี​แล้ว​ ​หาก​ได้​ออก​ไป​เจียง​หนาน​ ​ไป​เปิดหูเปิดตา​ ​ความคิด​ของ​เขา​ก็​จะ​ได้​กว้างขวาง​ขึ้น​ ​ทำ​อะไร​จะ​ได้​หนักแน่น​มากขึ้น​ ​ข้า​คิด​ว่า​ท่าน​โหว​พูด​มีเหตุผล​ ​แต่​ไม่รู้​ว่า​ควร​ทำ​อย่างไร​ ​จึง​อยาก​มาป​รึก​ษา​ท่าน​แม่เจ้า​ค่ะ​…​”

ไท่ฮู​หยิน​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​เงียบ​ลง

สิ่ง​ที่​สือ​อี​เหนียง​และ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เป็นกังวล​ที่สุด​ก็​คือ​ไท่ฮู​หยิน

นาง​ลอบ​ขยิบตา​ให้​ป้า​ตู้

ป้า​ตู้​เข้าใจ​ในทันที​ ​นาง​พูด​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​ไอ​๊​หยา​ ​คุณชาย​น้อย​หก​ของ​เรา​ช่าง​มี​วาสนา​เสีย​จริง​ ​สอง​สาม​วันก่อน​พึ่ง​จะ​ไป​ซี​เป่ย​กับ​ท่าน​โหว​มา​ ​ประเดี๋ยว​ก็​จะ​ไป​เจียง​หนา​นกั​บท​่า​นลุ​งอีก​แล้ว​ ​บ่าว​อายุ​ห้าสิบ​กว่า​ปี​แล้ว​ ​ออก​ไป​ไกล​ที่สุด​ก็​แค่​กลับบ้าน​เกิด​กับ​ไท่ฮู​หยิน​ ​คุณชาย​น้อย​หก​ของ​เรา​ต้อง​เป็น​คน​มี​อนาคต​แน่นอน​เจ้าค่ะ​…​”

ไท่ฮู​หยิน​นั่ง​หลับตา​นับ​ลูกปัด​ไม้​กฤษณา​ ​ราวกับ​กำลัง​นั่งสมาธิ​อย่างไร​อย่างนั้น

สือ​อี​เหนียง​เป็นกังวล

ป้า​ตู้​ชี้​ไป​ทาง​ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ

สือ​อี​เหนียง​ครุ่นคิด​ ​จากนั้น​ก็​ตระหนัก​ขึ้น​มา​ได้​ว่า​ป้า​ตู้​บอก​ให้​นาง​ไป​เชิญฮู​หยิน​สอง​มาช​่ว​ยพูด

แต่​ไม่รู้​ว่าฮู​หยิน​สอง​จะ​ยอม​ช่วย​หรือไม่​

แต่​หาก​ไม่​พูด​ให้​รู้เรื่อง​วันนี้​ ​ไม่รู้​ว่า​ต่อไป​จะ​มีโอกาส​เช่นนี้​อีก​หรือไม่

สือ​อี​เหนียง​รีบ​เรียก​หู่​พั่ว​เข้ามา​กระซิบ​เบา​ๆ​

ผ่าน​ไป​ไม่นาน​ ฮู​หยิน​สอง​ก็​มาถึง

“​น้อง​สะใภ้​สี่​ก็​อยู่​ที่นี่​ด้วย​หรือ​!​”​ ​นาง​พูด​ทักทาย​สือ​อี​เหนียง​ ​ไท่ฮู​หยิน​ลืมตา​ขึ้น​มา​ ​“​เจ้า​มา​แล้ว​หรือ​”

“​อยาก​มายืม​ของ​ของ​ท่าน​เจ้าค่ะ​”​ ฮู​หยิน​สอง​พูด​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​พวก​ท่าน​มีเรื่อง​อัน​ใด​กำลัง​ปรึกษา​กัน​อยู่​อย่างนั้น​หรือ​ ​หรือว่า​ประเดี๋ยว​ข้า​ค่อย​กลับมา​”​ ​พูด​จบ​ ​นาง​ก็​จะ​ขอตัว​ลา

“​ไม่มี​เรื่อง​อัน​ใด​!​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​ห้ามฮู​หยิน​สอง​เอาไว้​ ​“​กำลัง​พูด​เรื่อง​จิ​่น​เกอ​แต่​พูด​จบ​แล้ว​”

ป้า​ตู้​พูด​ไป​เยอะ​แล้ว​ ​นาง​ไม่กล้า​พูด​อะไร​ไปมา​กก​ว่านี​้​ ​แต่กลับ​ข้าม​เรื่อง​นี้​ไป​ไม่ได้​ ​สือ​อี​เหนียง​เล่า​ที่​ไป​ที่มา​ของ​เรื่องราว​ให้ฮู​หยิน​สอง​ฟัง

“​ถ้าอย่างนั้น​ก็​หมายความว่า​ ​ไป​กับ​คุณชาย​สกุล​หลัว​ ​แล้วยัง​มี​อิง​เหนียง​คอย​ดูแล​อย่างนั้น​หรือ​”​ ฮู​หยิน​สอง​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​ถึงแม้ว่า​คุณชาย​สกุล​หลัว​จะ​มีชื่อเสียง​ตั้งแต่​อายุ​ยังน้อย​ ​แต่​คิด​ทำ​อะไร​ล้วน​รอบคอบ​ ​ส่วน​อิง​เหนียง​ก็​เป็น​เด็กอ่อน​โยน​และ​ใจกว้าง​ ​เอาใจใส่​ ​แล้วยัง​รู้จัก​ดูแล​ผู้อื่น​ ​ถึง​อย่างนั้น​คุณชาย​สกุล​หลัว​นั้น​เป็น​ผู้ชาย​ ​ไม่​ละเอียดอ่อน​เหมือน​ผู้หญิง​ ​ส่วน​อีก​คน​หนึ่ง​ก็​ยัง​เด็ก​ ​คง​ตัดสินใจ​อะไร​มาก​ไม่ได้​…​ข้า​คิด​ว่า​ต้อง​ให้​ผู้ดูแล​หญิง​ไป​ด้วย​สัก​สอง​สาม​คน​!​”

ตอนที่​นาง​เริ่ม​พูด​ ​สีหน้า​ของ​นาง​ไท่ฮู​หยิน​ก็​มี​ความเห็น​ด้วย​ ​แต่​พอได้​ยิน​ดังนั้น​นาง​ก็​ขมวดคิ้ว​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​ไม่พอใจ​กับ​คำพูด​ของฮู​หยิน​สอง

แต่ฮู​หยิน​สอง​กลับ​ทำตัว​ราวกับ​ไม่มี​อะไร​เกิดขึ้น​ ​นาง​พูด​กับ​สือ​อี​เหนียง​ต่อ​ ​“​ข้า​คิด​ว่า​สะใภ้ก​่​วน​ชิง​ของ​เจ้า​ไม่เลว​เลย​ทีเดียว​ ​ป้า​ซ่ง​ก็ได้​ ​แต่​หาก​ให้​พวก​นาง​ไป​อวี​๋​หัง​กับ​จิ​่น​เกอ​ ​เกรง​ว่า​คง​ไม่มีใคร​คอย​รับใช้​เจ้า​ ​โชคดี​ที่​ตอนนี้​มี​ภรรยา​ของ​จุน​เกอ​ ​แล้วยัง​มีสะ​ใภ้​หยวน​เป่า​จู้​ ​จะ​ได้​ช่วย​แบ่งเบาภาระ​น้อง​สะใภ้​สี่​…​”

นาง​ทำตัว​เหมือนปกติ​ ​มอง​ไม่​ออก​เลย​ว่า​ถูก​เชิญ​มาช​่ว​ยพูด​ให้​จิ​่น​เกอ​ ​เสนอ​เงื่อนไข​ไม่หยุดหย่อน​ ​แล้วยัง​เสนอ​เงื่อนไข​เข้มงวด​ขึ้น​เรื่อยๆ​ ​เมื่อ​นาง​พูดว่า​ ​“​องครักษ์​แปดสิบ​คน​ ​เรือ​ขุนนาง​สอง​ลำ​ ​ใช้​เทียบ​เชิญ​ของ​จวน​หย่ง​ผิง​โหว​”​ ​สีหน้า​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ก็ดี​ขึ้น​ ​ยาม​ที่​ไท่ฮู​หยิน​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​เช่นนี้​ไม่ได้​ ​ล้วนแต่​เป็น​สตรี​ใน​จวน​ ​ถึงอย่างไร​ก็​ต้อง​ให้​ผู้ดูแล​ฝ่าย​รายงาน​ไป​ด้วย​”​ ​สือ​อี​เหนียง​จึง​ค่อย​ถอนหายใจ​ยาว​ด้วย​ความ​โล่งอก

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท