บทที่ 655 ต้นหลิว ‘เรื่องเล็กน้อย’
สีหน้าจักรพรรดินีประหลาดไป คิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าหยวนอีแข็งแกร่งได้ขนาดนี้ นอกจากนี้ นางใคร่สนใจในตัวคุณชายที่หยวนอีเอ่ยถึงมาก
จากน้ำเสียงของหยวนอี นางเคารพนบนอบต่อคุณชายผู้นี้มาก เห็นได้ชัดว่าคุณชายผู้นี้ไม่ธรรมดา หรืออาจน่าพรั่นพรึงเกินหยั่งยิ่งกว่านี้ก็เป็นได้!
นางรับโอสถเซียนจากหยวนอี หลอมละลายอย่างรวดเร็ว ผ่านไปไม่นาน นางก็ฟื้นตัวกลับมาเต็มที่
หยวนอีเห็นจักรพรรดินีฟื้นตัวแล้ว จึงเอ่ยขึ้น “เอาล่ะ เราออกเดินทางกันเถิด!”
ใบหน้าจักรพรรดินีทอประกายลังเล ท้ายที่สุดถึงเอ่ยขึ้น “รออีกหน่อยได้หรือไม่ ข้าได้เบาะแสของเซียวฮุ่ย อยากไปพบนางถามไถ่เรื่องราวบางอย่างก่อน”
นางกลัวว่ามัวชักช้าแล้วสถานการณ์จะเปลี่ยน เกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นเสียก่อน จึงคิดอยากไปพบหน้าเซียวฮุ่ย ซึ่งมิได้เสียเวลาเท่าใด
แม้ว่าก่อนหนน้านี้หยวนอีเอ่ยว่าจะช่วยคลายผลึกตระกูลเซียวในตัวนาง คืนอิสรภาพแก่นาง แต่หากไม่ได้เล่า
นางอยากเตรียมพร้อมไว้ทั้งสองทาง
หากว่าผนึกในตัวนางคลายได้จริง ๆ นางก็ไม่ต้องรับใช้ตระกูลเซียวอีก ไม่ต้องตามหากล่องสี่เหลี่ยมอีก
หากว่าไม่ได้ นางต้องออกตามหากล่องสี่เหลี่ยมต่อไป
“ท่านรู้เบาะแสของเซียวฮุ่ยหรือ”
หยวนอีตาเป็นประกาย “เช่นนั้นดียิ่ง พาข้าไปด้วย ยายนี่กระทำการเลวทรามไว้ไม่น้อย หนนี้ขอจบชีวิตนาง! นางมีชีวิตอยู่ต่อไปรังแต่จะเป็นภัยต่อผู้อื่น!”
ครานั้น เพื่อฟื้นพลัง เซียวฮุ่ยดูดกลืนแก่นโลหิตยอดฝีมือไปตั้งไม่รู้เท่าไร คนผู้นี้โหดเหี้ยมอำมหิตอย่างแท้จริง ชั่วร้ายเกินไป เก็บไว้มิได้
ขณะที่นางออกตามหาซี ก็ค้นหาร่องรอยเซียวฮุ่ยไปด้วย นั่นก็เพื่อกำจัดเซียวฮุ่ยให้พ้นทางเสียที
“ได้”
จักรพรรดินีมิได้แยแสชีวิตของเซียวฮุ่ย นางเคียดแค้นตระกูลเซียว แล้วไฉนเลยจะใส่ใจชีวิตของเซียวฮุ่ย
“เช่นนั้นเราออกเดินทางกันเถิด”
นางเอ่ยต่อ ย่างเท้าหมายจะออกจากที่นี่
“เรื่องนั้น…คือว่าท่านต้องพาข้าไปด้วย ขอบเขตพลังของข้ายังไม่เท่าไหร่”
หยวนอีเรียกจักรพรรดินีไว้ หากออกเดินทางทั้งอย่างนี้ นางตามไม่ทันแน่นอน
จักรพรรดินีผงะ คิดไม่ถึงนิดหน่อย หยวนอีผู้บดขยี้จ้าวแห่งเซียนสูงสุดตั้งมากมายได้ตามใจชอบ ยังต้องให้นางพาเดินทางด้วยอีกหรือ
เห็นได้ว่าขอบเขตพลังที่หยวนอีเผยออกมาคือขอบเขตพลังที่แท้จริงของนาง
“ได้”
นางสะบัดมือ ห่อหุ้มหยวนอีด้วยพลังเซียน พาหยวนอีออกจากที่นี่
อีกด้าน เซียวฮุ่ยหนีหัวซุกหัวซุน มิกล้าชะลอแม้เพียงเศษเสี้ยวเดียว คิดอยากหาสถานที่ปลอดภัย หลี่จิ่วเต้าผู้นั้นน่ากลัวยิ่งนัก นางเฟ้นหาสถานที่อยู่หลายแห่งยังรู้สึกว่าไม่ปลอดภัย
เวลานั้นเอง ประกายเซียนลำหนึ่งพลันปรากฏออกจากห้วงอากาศ จุติอยู่เบื้องหน้านาง
นางตกตะลึง รีบร้อนอยากหนีจากที่นี่ นางคิดว่าหลี่จิ่วเต้าส่งคนมาไล่ล่านาง ไม่ทันมองให้ชัดว่าผู้ใดอยู่ในประกายเซียนนั้นด้วยซ้ำ
“อย่าเพิ่งไป!”
จักรพรรดินีก้าวออกจากประกายเซียน จิ้มนิ้วออกไป สะกดเซียวฮุ่ยไว้
นางมาอยู่เบื้องหน้าเซียวฮุ่ย พลางเอ่ยถาม “ผู้นำตระกูลเซียวส่งข้ามาตามหาเบาะแสของกล่องสี่เหลี่ยม เจ้าบอกข้อมูลที่เจ้ารู้มาเสีย”
เอ่ยจบ นางหยิบป้ายประจำตัวออกมา อันเป็นป้ายตัวแทนตระกูลเซียว
“ข้าตกใจแทบแย่ นึกว่าเจ้ามาเพื่อฆ่าข้าเสียอีก!”
หลังเซียวฮุ่ยได้เห็นป้ายประจำตระกูลเซียว ก็สบายใจลง
“คลายผนึกในตัวข้า แล้วข้าจะเล่าทุกอย่างที่ข้ารู้ให้เจ้าฟัง” เซียวฮุ่ยบอก
จักรพรรดินีปลดพลังที่สะกดเซียวฮุ่ย โดยไม่กังวลว่าเซียวฮุ่ยจะหนีไปไหน
นางกับหยวนอีต่างสามารถปลิดชีพเซียวฮุ่ยในพริบตา
หยวนอีด้านหลังมิได้ส่งเสียงอันใด นางตั้งใจรอจนจักรพรรดินีสนทนากับเซียวฮุ่ยเสร็จแล้วค่อยออกไป ‘พูดคุย’ กับเซียวฮุ่ยให้รู้เรื่อง
“ที่จริงข้าเองก็รู้ไม่มาก เมื่อครั้งข้าเพิ่งไล่ตามมาถึงนี่…”
เซียวฮุ่ยมิได้ปิดบัง เล่าทุกอย่างที่นางรู้ออกมาจนหมด
“หยวนอีผู้นั้นเกี่ยวข้องกับซีแน่นอน หากเจอตัวหยวนอี ย่อมเพิ่มโอกาสเจอตัวซีด้วย!” เซียวฮุ่ยกล่าว
จักรพรรดินีสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย เรื่องราวทุกอย่างบังเอิญถึงเพียงนี้เชียวหรือ หยวนอีอยู่ข้างกายนางนี่เอง
“จักรพรรดินีก็มาเพราะซีหรือ”
ด้านหลัง หยวนอีจับใจความได้ ภารกิจที่ตระกูลเซียวมอบหมายให้จักรพรรดินีทำนั้นเกี่ยวข้องกับซี!
ก่อนนี้จักรพรรดินีมิได้เอ่ยถึงภารกิจจากตระกูลเซียวโดยละเอียด นางไม่รู้ว่าจักรพรรดินีมาเพื่อซี
“เสียงนี้คุ้นเคยจริงเชียว!”
หลังเซียวฮุ่ยได้ยินเสียงหยวนอี ก็หันกลับมาด้วยใบหน้าฉงน เมื่อนางได้เห็นหยวนอี ก็อุทานเสียงหลงขึ้นมาทันที “เจ้าเองหรือ”
นางรีบบอกกับจักรพรรดินี “นางคือหยวนอี จับนางไว้เร็ว!”
ทว่าจักรพรรดินีเพียงแต่ส่งยิ้มให้นาง มิได้ลงมือแต่อย่างใด
เซียวฮุ่ยหัวใจเย็นวาบไปในทันใด รู้สึกว่าสถานการณ์ไม่ดีต่อนางอย่างมาก
“ทำร้ายสิ่งมีชีวิตไปมหาศาลปานนั้น ไปที่ชอบที่ชอบเถิด”
หยวนอีเรียกสี่กระบี่ประหารเซียนออกมา ไม่ให้โอกาสเซียวฮุ่ยสักนิด ปลิดชีพนางคาที่
นางก้าวไปอยู่ข้างกายจักรพรรดินี เอ่ยเสียงจริงจัง “ภารกิจนี้ของตระกูลเซียว ท่านจักรพรรดินีอย่าทำต่อจะดีกว่า ซี…เป็นคนที่สำคัญต่อคุณชายมาก ๆ!”
นางเว้นจังหวะไปครู่หนึ่ง แล้วจึงเอ่ยต่อ “ข้ารู้ว่าในใจท่านจักรพรรดินียังมีข้อวิตก กังวลถึงผนึกในกายท่านที่ตระกูลเซียวลงไว้ ข้าบอกท่านได้อย่างชัดแจ้งว่า เรื่องเหล่านี้มิใช่ปัญหา รอจนได้พบคุณชายก่อน แล้วท่านจะเข้าใจทุกอย่างเอง”
“ได้!”
จักรพรรดินีสัมผัสได้ว่า ยามหยวนอีเอื้อนเอ่ยถ้อยคำเหล่านี้ นางขึงขังจริงจังเพียงใด น่ากลัวว่าคุณชายผู้นี้ไม่ธรรมดาอย่างแท้จริง เป็นผู้ยิ่งใหญ่คับฟ้า!
“ข้าขอเอ่ยอีกอย่าง แล้วท่านจักรพรรดินีจะรู้เองว่าสิ่งที่ข้าได้กล่าวไปนั้นหาใช่เรื่องโป้ปด สี่กระบี่ประหารเซียนของข้า ถูกตีขึ้นโดยคุณชาย” หยวนอีกล่าว
“อะไรนะ!”
จักรพรรดินีสะท้านเหลือคณา สี่กระบี่ประหารเซียนถูกตีขึ้นโดยคุณชายผู้นั้นหรอกหรือ สวรรค์ คุณชายผู้นั้นต้องทรงพลังปานใดกัน
นางมิกล้าจินตนาการเลยจริง ๆ!
นาทีนี้ นางไม่เหลือข้อกังขาอันใดอีก คุณชายที่ตีสี่กระบี่ประหารเซียนอันน่าประหวั่นพรั่นพรึงเพียงนี้ขึ้นได้ ครั้นจะคลายผนึกในตัวนางย่อมต้องเป็นเรื่องง่ายดาย!
“ไปเถิด ข้าค่อยเล่าเรื่องของคุณชายให้ท่านฟังอย่างละเอียดระหว่างทาง”
หยวนอีเอ่ย ไปจากที่แห่งนี้พร้อมกับจักรพรรดินี มุ่งหน้าไปยังเมืองชิงซาน
นางไม่รู้ว่าคุณชายไม่อยู่ที่เมืองชิงซานแล้ว เซียวฮุ่ยมิทันได้เล่าเรื่องไปพบคุณชายหลังจากนั้นก็ตายไปเสียก่อน
ผ่านไปไม่นาน พวกนางมาถึงเมืองชิงซาน
“สวัสดีผู้อาวุโสต้นหลิว!”
หยวนอีมาอยู่ข้างลำธาร ทักทายต้นหลิวอย่างมีมารยาท
“เอ๋ เหตุใดถึงไม่เห็นพี่ก้อนหิน”
นางยังอยากสวัสดีก้อนหิน แต่กลับพบว่าก้อนหินไม่อยู่ที่นี่
“เจ้าก้อนหินเส็งเคร็งนั่นดวงดี ตามคุณชายออกไปเที่ยวเล่นแล้ว”
ต้นหลิวตอบ อิจฉาริษยาเจ็บใจต่อก้อนหินยิ่งนัก มันก็อยากไปกับคุณชายด้วย!
“หา คุณชายไม่อยู่ในเมืองชิงซานหรอกหรือ” หยวนอีผิดคาดนิดหน่อย
“ไม่อยู่”
ต้นหลิวกล่าว “คุณชายตั้งใจออกเดินทางเที่ยวเล่นในอาณาจักรนี้ คงไม่กลับมาเร็ว ๆ นี้ จริงสิ เจ้ามีธุระอันใดหรือ”
มันประทับใจในตัวหยวนอีมาก นางเป็นแม่นางตัวน้อยผู้มีมารยาท
“มิได้มีธุระอันใด ข้าพาท่านจักรพรรดินีมาพบคุณชาย คุณชายเคยเอ่ยว่าอยากพบท่านจักรพรรดินีสักครา” หยวนอีกล่าว
“สวัสดี”
จักรพรรดินีกล่าวทักทายต้นหลิว
นางตะลึงงัน มองตื้นลึกหนาบางของต้นหลิวไม่ออกสักนิด ต้นหลิวต้องแข็งแกร่งอย่างมหันต์แน่นอน
“สวัสดี”
ต้นหลิวตอบ “ในกายเจ้ามีของไม่ดีอยู่ ให้ข้าช่วยกำจัดให้หรือไม่”
ได้ยินว่าจักรพรรดินีคือผู้ที่คุณชายอยากพบ มันใส่ใจขึ้นมาทันที มันแกร่งกล้ายิ่งนัก เพียงปราดเดียวก็มองทะลุถึงผนึกในตัวจักรพรรดินี
จักรพรรดินีสะท้านทั้งตัว ทึ่งกับความแกร่งกล้าของต้นหลิว นางเอ่ยเสียงสั่นเครือ “ได้หรือ”
นานมาแล้ว ที่นางปรารถนาให้ผนึกในตัวคลายออก ได้รับอิสรภาพ บัดนี้มีโอกาสคลายผนึกในตัวนางเช่นนี้ จะมิให้นางตื้นตันได้อย่างไร
นางตื้นตันอย่างยิ่งยวด
“เรื่องเล็กน้อย”
ต้นหลิวตอบ ก้านหลิวก้านหนึ่งจรดเบา ๆ บนหน้าผากขาวผ่องของจักรพรรดินี
ชั่วพริบตานั้น จักรพรรดินีสัมผัสได้ถึงพลังอ่อนโยนระคนยิ่งใหญ่หลั่งไหลเข้าไปในกายนาง จากนั้น นางได้ยินเสียงดัง ‘ตึง’ ผนึกในกายนางแหลกลาญจนสิ้น หายไปอย่างสมบูรณ์!
เก่งกาจเกินไปแล้ว!
นางตะลึงอย่างแท้จริง ผนึกที่สืบสานมาแต่โบราณของตระกูลเซียว กระทั่งจักรพรรดิเซียนยังใช่ว่าสามารถฝืนคลายได้โดยง่าย ต้นหลิวกลับทำได้อย่างง่ายดาย เรียกได้ว่าแข็งแกร่งจนถึงขั้นผิดหูผิดตา!
“ขอบคุณ ขอบคุณ!”
นางเอ่ยคำขอบคุณไม่หยุด