นี่คือเรื่องพื้นฐาน!
นี่ไม่ใช่เหตุผลที่ถูกสร้างขึ้นจากเรื่องไร้สาระ แต่เป็นทักษะพิเศษซึ่งได้รับการยืนยันจากการกระทำเบื้องหลังของโฮล์มส์ อ้างอิงจากบทความที่โฮล์มส์ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์คือ [นักตรรกะวิทยาไม่จำเป็นต้องเคยเห็นหรือได้ยินเกี่ยวกับมหาสมุทรแปซิฟิก แต่ก็สามารถสรุปได้จากหยดน้ำหนึ่งหยดถึงการมีอยู่ของมัน เพราะทุกชีวิตเป็นห่วงโซ่อาหารขนาดมหึมา ตราบใดที่มองเห็นสถานการณ์ของห่วงโซ่สักห่วงหนึ่ง ก็สามารถอนุมาน และก่อนที่จะเริ่มศึกษาปัญหาอันยากเย็นในแง่มุมทางจิตวิญญาณและจิตวิทยา ผู้เริ่มต้นอาจต้องการเริ่มต้นด้วยการเรียนรู้ปัญหาที่เรียบง่ายกว่า ยกตัวอย่างเช่น เมื่อคุณพบใครสักคน คุณอาจลองระบุประวัติและอาชีพของบุคคลเหล่านั้นได้ การฝึกฝนเช่นนี้อาจดูไร้เดียงสาและน่าเบื่อ แต่มันกลับช่วยฝึกฝนให้ความสามารถในการสังเกตฉับไวขึ้นมา ทั้งยังช่วยสอนเราว่าควรสังเกตที่ใด และควรสังเกตอะไร เช่น เล็บมือ แขนเสื้อ รองเท้า แม้แต่ส่วนเข่าของกางเกง หนังด้านระหว่างนิ้วโป้งกับนิ้วชี้ สีหน้า ปลายแขนเสื้อ เป็นต้น ไม่ว่าจะเริ่มต้นจากจุดใดที่กล่าวมาข้างต้น สามารถเปิดเผยอาชีพของเขาได้ ดังนั้นหากคุณเรียนรู้ที่จะเชื่อมโยงสถานการณ์เหล่านี้ แต่กลับยังไม่สามารถทำให้ผู้สืบคดีเข้าใจได้ในทันที นั่นก็เป็นเรื่องที่ยากจะจินตนาการแล้ว]
ยากจะจินตนาการ?
ประโยคสุดท้ายโอหังจริงๆ แต่ดูเหมือนว่านี่จะเป็นเอกลักษณ์ของเชอร์ล็อก โฮล์มส์ เขาชอบมองผู้อื่นด้วยสีหน้าไม่เข้าใจหลังจากให้เหตุผลที่ซับซ้อน ละเอียดถี่ถ้วน และฉลาดหลักแหลม
ราวกับกำลังบอกว่า
เรื่องนี้ยากหรือ?
เช่นเดียวกับที่เขาบอกว่า ‘เรื่องนี้เดาได้ไม่ยาก’ หลังจากเห็นข้อมูลของวัตสันเพียงแวบเดียว นี่คือสิ่งที่ปัวโรต์จะไม่มีวันพูด เพราะปัวโรต์คิดว่าเป็นเรื่องปกติที่คนธรรมดาจะคาดเดาไม่ได้ และเขาคือปัวโรต์ซึ่งเป็นอัจฉริยะในด้านนี้
เป็นไปดังคาด
ห้องประชุมแทบระเบิด บรรณาธิการทุกคนต่างแสดงความคิดเห็นอย่างเซ็งแซ่ ความกังวลว่าโฮล์มส์จะคล้ายกับปัวโรต์เกินไปหรือไม่นั้นมลายหายไปทันที!
“โคตรปัง!”
“นี่เป็นครั้งแรกที่อ่านนิยายสืบสวนสอบสวนแต่กลับเดาไม่ได้ว่าฆาตกรเป็นใคร เพราะตอนเริ่มเรื่องดูเหมือนจะไม่สนุกเท่าไหร่ เขาแค่อยากให้พวกเราและวัตสันเป็นสักขีพยานในการเปิดตัวโฮล์มส์อย่างอลังการ!”
“แกก็อลังเกิ๊นน!”
“สกิลการสังเกตไม่มีใครล้มได้!”
“เรื่องพื้นฐานยังโหดขนาดนี้!”
หากไม่ใช่แฟนวรรณกรรมสืบสวนสอบสวนไม่มีทางสัมผัสได้ถึงความแตกต่างของเรื่องพื้นฐานและเหตุผลเชิงตรรกะทั่วไป หากใช้คำอธิบายของคนทั่วไป คงจะเป็น โฮล์มส์สามารถเริ่มต้นจากสมมติฐานทั่วไป บรรยายรายละเอียดออกมาได้ผ่านการอนุมาน หรือในกระบวนการสรุปคดีบางส่วน ลำพังจุดนี้ก็แตกต่างจากนิยายสืบสวนสอบสวนทั่วไปในตลาดแล้ว
“สุดยอดมาก!”
“เสน่ห์ของตัวละครสมบูรณ์แบบมาก เมื่อก่อนผมเคยสงสัยว่าทำไมฉู่ขวงถึงออกแบบปัวโรต์ให้เป็นชายแก่รูปร่างเตี้ย แถมยังมีหนวดหน้าตาแปลกประหลาดสองแฉกด้วย สำหรับผู้อ่านแล้ว ภาพลักษณ์แบบนี้ต้องผ่านกระบวนการยอมรับ แต่ครั้งนี้ในที่สุดฉู่ขวงก็เปลี่ยนวิธีเขียนแล้ว ถึงแม้นิสัยของโฮล์มส์จะต่างจากคนทั่วไป เรียกว่าแปลกพอๆ กับปัวโรต์เลยก็ได้ แต่อย่างน้อยรูปลักษณ์ภายนอกก็ต้องถูกจริตคน และต้องทำให้ทุกคนชอบได้ง่าย!”
เล่นใหญ่?
เล่นใหญ่มาก
แต่นักสืบในนิยายสืบสวนสอบสวน ต้องให้ความรู้สึกเล่นใหญ่แบบนี้แหละถึงจะน่าสนใจ ถ้ามีนักสืบที่ดำเนินวิธีสืบคดีของตนไปอย่างเข้มงวดและเรียบเฉย โดยปราศจากวิธีนำเสนออันเป็นเอกลักษณ์ ทุกคนคงกวาดตาอ่านคดีและกระบวนการไขคดีแค่รอบเดียวก็วางแล้ว
ตัวตึง?
โฮล์มส์มีศักยภาพที่จะเป็นตัวตึง ประโยคว่า ‘เรื่องนี้เดาได้ไม่ยาก’ ก็เพียงพอที่จะส่งผลกระทบที่มหาศาลต่อสมรภูมิสติปัญญาของผู้อ่านทั้งหลาย อย่างไรก็ตาม หากมองรวมกับโครงเรื่องและหลักการของเขา ประโยคจะไม่ทำให้ผู้อ่านรู้สึกว่าสติปัญญาถูกก้าวล่วง แต่กลับทำให้รู้สึกบันเทิงใจสุดๆ!
ถูกต้อง
ในแง่ของประสบการณ์ที่ผู้อ่านได้รับจากนิยายเรื่องนี้ โฮล์มส์ให้ความรู้สึกบันเทิงอย่างลับๆ ไม่อย่างนั้นทำไมเอโดงาวะ โคนันต้องมีแสงสะท้อนวาบจากแว่นตาเมื่อค้นพบความจริง หลังจากนั้นก็มีเพลงปลุกใจดังขึ้นท่อนหนึ่งด้วยล่ะ?
ทุกคนต่างก็ชื่นชอบ
ดังนั้นกุญแจสำคัญคือจะเล่นใหญ่อย่างไรดี ถ้าทุกคนงง ถามว่าหนึ่งบวกหนึ่งเท่ากับเท่าไหร่ จากนั้นตัวเอกผู้เก่งกาจตอบเสียงเรียบว่า “หนึ่งบวกหนึ่งเท่ากับสอง เรื่องนี้ยากหรือ?”
คุณพี่คะ!
แบบนี้ไม่ได้นะ!
นี่คือตัวตึงระดับต่ำที่สุด ตัวตึงระดับสูงต้องเป็นเหมือนโฮล์มส์ ใช้วิธีอวดสติปัญญาแบบที่ทำให้ผู้อ่านซูฮกจนต้องทรุดลงไปกราบเบญจางคประดิษฐ์ ในเวลานี้จะไม่มีใครสนใจว่าเขาเล่นใหญ่ไฟกะพริบขนาดไหน ทุกคนจะรู้สึกเพียงความตกตะลึง คิดว่าหมอนี่เจ๋งสุดๆ
ในขณะนั้น
มีคนกระซิบ “ตอนที่โฮล์มส์บอกว่าในด้านนี้บนบลูสตาร์มีแค่ปัวโรต์ที่เทียบกับเขาได้ ฉันอึดอัดสุดๆ แต่หลังจากอ่านจบ จู่ๆ ฉันก็รู้สึกว่าไม่มีปัญหา สองคนนี้อยู่ระดับยอดนักสืบจริงๆ!”
ที่ปรึกษานักสืบอะไรกันล่ะ
ถึงแม้โฮล์มส์จะแต่งตั้งตำแหน่งนี้ให้ตัวเขาเอง และรับคำปรึกษาจากทุกฝ่าย ทว่าคดีต่างๆ ซึ่งควรค่าแก่การเขียนออกมายังจำเป็นต้องให้โฮล์มส์ออกโรงไขคดีด้วยตัวเอง หนังสือจึงใช้ชื่อว่า ‘ยอดนักสืบโฮล์มส์’
สิ่งที่ควรเอ่ยถึงคือ…
เนื่องจากรูปลักษณ์ของเชอร์ล็อก โฮล์มส์ผ่านการดัดแปลงทางภาพยนตร์และซีรีส์บนโลกมาแล้วนับไม่ถ้วน เพราะฉะนั้นบุคลิกของเขาจึงเด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ ถึงขนาดที่ไม่ใช่บุคลิกทั้งหมดซึ่งบรรยายไว้ในนิยายอีกต่อไป อันที่จริงผู้คนส่วนมากบนโลกรู้จักโฮล์มส์จากภาพยนตร์และซีรีส์ มากกว่าจากนวนิยาย ดังนั้นบุคลิกและนิสัยของโฮล์มส์ซึ่งหลินเยวียนสร้างขึ้นนั้นจะเอนเอียงไปทางภาพยนตร์และซีรีส์มากกว่า
มีคนแสดงเป็นโฮล์มส์ไปตั้งกี่คนแล้ว
มีมากมายเหลือเกิน ยกตัวอย่างเช่น เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์ และ โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ ผลงานแต่ละชิ้นมีการตีความบุคลิกแตกต่างกันไป ทว่าความเล่นใหญ่โดยไม่ได้ตั้งใจนั้นเป็นเสน่ห์ของโฮล์มส์เสมอมา ตัวตึงแบ่งได้คร่าวๆ เป็นสองประเภท ประเภทแรกคือจงใจเล่นใหญ่ ประเภทที่สองคือเล่นใหญ่โดยที่ไม่ได้พยายาม โฮล์มส์คือประเภทที่สอง และตัวตึงจะต้องเป็นประเภทที่สอง
ปัง
ประตูห้องประชุมถูกเปิดออก เฉาเต๋อจื้อเดินเข้ามา บรรณาธิการกำลังพูดคุยจ้อกแจ้กจอแจ แต่กลับถูกเฉาเต๋อจื้อทำสัญญาณมือให้เงียบเสียงลง เขาจ้องมองรองบรรณาธิการทางซ้ายมือ “เหล่าหวังแขนเสื้อของคุณมีคราบกาแฟเปื้อน แถมเสื้อของคุณเพิ่งเปลี่ยนวันนี้ แสดงว่าช่วงเที่ยงคุณคงไปกินกาแฟมา ร้านกาแฟที่ใกล้กับบริษัทที่สุดอยู่ชั้นล่าง เพราะฉะนั้นคู่เดทของคุณคงอยู่ไม่ไกลจากบริษัท อาจอยู่ในบริษัทเราด้วยซ้ำ นอกจากนั้นบนตัวคุณมีกลิ่นน้ำหอม น้ำหอมกลิ่นนี้ถ้าผมจำไม่ผิดคงมาจากเสี่ยวหลี่ และถ้ามีกลิ่นน้ำหอมหมายความว่าพวกคุณนั่งใกล้กันมาก ความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิงทั่วไปไม่ได้แนบชิดขนาดนี้ เหล่าหวังคุณคงไม่กล้าเล่นกับกฎลับของที่นี่ แสดงว่า พวกคุณกำลังคบกัน?”
ผู้หญิงซึ่งชื่อเสี่ยวหลี่สีหน้าบูดเบี้ยว
ส่วนเหล่าหวังมองเฉาเต๋อจื้ออย่างงุนงง คุณกำลังประยุกต์ใช้เรื่องพื้นฐานของโฮล์มส์จริงๆ หรือนี่ บรรณาธิการคนอื่นๆ ต่างก็มองเฉาเต๋อจื้อด้วยความตกตะลึง รู้สึกชื่นชมขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
“เรื่องนี้ยากหรือ?”
เฉาเต๋อจื้อเลิกคิ้ว ก่อนจะเชิดหน้ายืดอกหันหลังเดินออกไป มีเพียงเสียงแหลมดังมาแต่ไกล “แจ้งสำนักพิมพ์ทันทีเพื่อเตรียมการตีพิมพ์ ยอดนักสืบโฮล์มส์!”
ทุกคนส่งเสียงตอบรับ
ขณะนั้นบรรณาธิการตัวเล็กๆ ในแผนกพลันนึกสงสัยขึ้นมา “ตอนเที่ยงมีใครถ่ายวิดีโอตอนเหล่าหวังกับเสี่ยวหลี่ไปดื่มกาแฟไว้ไม่ใช่เหรอครับ…”
ห่างออกไป
เฉาเต๋อจื้อสะดุดกึก จากนั้นจึงเร่งฝีเท้าเดินออกไป ทิ้งภาพด้านหลังซึ่งกลายร่างจากโฮล์มส์เป็นวัตสันไว้กับทุกคน
…………………………………………………..