ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 692 ปรารถนา (ปลาย)

ตอนที่ 692 ปรารถนา (ปลาย)

ถึงแม้ว่าฮู​หยิน​สอง​จะ​ช่วย​พูด​ ​แต่​นาง​ก็​ใช้​ความพยายาม​ไป​ไม่น้อย​ ​ไท่ฮู​หยิน​ถึง​ได้​ตอบ​ตกลง​ให้​จิ​่น​เกอ​กลับ​ไป​ยัง​อวี​๋​หัง​กับ​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง

จิ​่น​เกอ​ดีอกดีใจ​ ​แต่​ในขณะเดียวกัน​เขา​ก็​กังวล​ ​“​ท่าน​พ่อ​ไม่​ไป​กับ​ข้า​หรือ​ขอรับ​”

“​เจ้า​พูด​โอ้อวด​กับข้าว​่า​ ​ไม่ว่า​ใคร​เจ้า​ก็​เข้ากับ​เขา​ได้​ไม่ใช่​หรือ​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​ ​“​ครั้งนี้​ข้า​ไม่​ไป​กับ​เจ้า​ ​ดู​ว่า​เจ้า​จะ​ได้​สหาย​กลับมา​กี่​คน​”​ ​เขา​พูด​ต่อ​อีกว่า​ ​“​ข้า​เคย​ไป​เจียง​หนาน​เมื่อ​สิบ​หก​ปีก่อน​ ​เจ้า​กลับมา​เล่าเรื่อง​เจียง​หนาน​ให้​ข้า​ฟัง​เถิด​”

จิ​่น​เกอ​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​ร่าเริง​ ​วิ่ง​ไป​ถาม​ไท่ฮู​หยิน​ ​“​ท่าน​อยากได้​อะไร​หรือไม่​ขอรับ​ ​ข้า​จะ​ซื้อ​ให้ท่าน​เอง​!​”

ไท่ฮู​หยิน​กอด​จิ​่น​เกอ​เอาไว้​ใน​อ้อมแขน​ไม่ยอม​ปล่อย​ ​ราวกับว่า​เขา​จะ​ออกเดินทาง​พรุ่งนี้​ก็​ไม่​ปาน​ ​“​ย่า​ไม่​อยากได้​อะไร​ ​ขอ​แค่​จิ​่น​เกอ​กลับมา​อย่างปลอดภัย​ก็​พอแล้ว​!​”​ ​จากนั้น​ก็​แอบ​ยัด​ถุง​ผ้า​ให้​เขา​ ​“​เก็บ​เอาไว้​ ​ห้าม​บอก​ใคร​ ​หาก​เจอ​อะไร​ที่​อยาก​ซื้อ​ระหว่างทาง​แต่​ไม่กล้า​ขอ​ท่าน​ลุง​ ​เจ้า​ก็​ใช้​เงิน​ใน​ถุง​ผ้า​นี้​ ​เรา​จะ​ให้​ใคร​ดูถูก​ไม่ได้​”

“​ไม่เป็นไร​ขอรับ​”​ ​จิ​่น​เกอ​ผลัก​ถุง​ผ้า​ออก​ ​“​ท่าน​พ่อ​ให้เงิน​ข้า​หนึ่งร้อย​ตำลึง​ ​ท่าน​แม่​ยัง​ให้​อีก​สอง​ร้อย​ตำลึง​ ​ข้ามี​เงิน​เยอะ​แล้ว​ขอรับ​!​”

“​อยู่​ข้างนอก​ ​มีเงิน​เยอะ​ไม่ใช่​เรื่อง​แย่​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​จะ​ให้​จิ​่น​เกอ​รับ​มัน​ไว้​ ​“​ใคร​จะ​ไม่​อยาก​มีเงิน​กัน​เล่า​”

จิ​่น​เกอ​ไม่​ชอบ​พฤติกรรม​ผลัก​ไป​ผลัก​มา​เช่นนี้​ ​เขา​ครุ่นคิด​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ก็ได้​ขอรับ​ ​หาก​ข้า​ใช้​ไม่​หมด​ ​ข้า​จะ​นำ​กลับมา​คืนให้​ท่าน​!​”

“​ไม่ต้อง​คืน​ข้า​!​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เจ้า​เก็บ​เอาไว้​ใช้​เถิด​!​”

จิ​่น​เกอ​ไม่​พูด​อะไร​กับ​ไท่ฮู​หยิน​อีก​ ​เขา​รับ​มัน​มา​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ครั้งนี้​เรา​นั่ง​เรือ​ขุนนาง​ไป​ ​อาจารย์​ผัง​บอกว่า​ ​เรือ​ขุนนาง​มั่นคง​อย่างมาก​ ​สบาย​กว่านั​่ง​รถม้า​เสียอีก​ ​ข้า​จะ​ได้​นั่ง​เรือ​ขุนนาง​เป็นครั้งแรก​ ​เมื่อก่อน​แค่​เคย​ขึ้นไป​ดู​ตอนที่​ไป​ส่ง​คนอื่น​กับ​ท่าน​พ่อ​…​”

สือ​อี​เหนียง​กำลัง​เอ่ย​ขอบคุณฮู​หยิน​สอง​ ​“​ขอบพระคุณ​พี่สะใภ้​สอง​มาก​เจ้าค่ะ​ ​ไม่เช่นนั้น​ ​ไท่ฮู​หยิน​คงจะ​ไม่ยอม​ให้​จิ​่น​เกอ​ออก​ไป​แน่นอน​”

“​หาก​ไม่มี​ข้า​แต่​ท่าน​โหว​เป็น​คนพูด​ ​ท่าน​แม่​ย่อม​เห็นด้วย​แน่นอน​”​ ฮู​หยิน​สอง​ยิ้ม​อย่าง​แผ่วเบา​ ​“​ข้า​ช่วย​พูด​ให้​ก็​แค่​เร็ว​กว่านิด​หน่อย​เท่านั้น​”​ ​พูด​จบ​ ​นาง​ก็​ลุกขึ้น​แล้ว​เดิน​ไป​หยิบ​ป้ายชื่อ​บน​โต๊ะ​หนังสือ​มา​ให้​สือ​อี​เหนียง​ ​“​ในเมื่อ​จะ​ไป​เจียง​หนาน​ ​ไม่​สู้​ไป​คารวะ​เผิง​เฉียน​อิง​ ​อาจารย์​เผิง​ที่​เมือง​ไท่​ชัง​ ​เขา​คือ​อาจารย์​โหราศาสตร์​ ​เคย​วิจัย​เลขคณิต​ ​การเปลี่ยนแปลง​ของ​สรรพสิ่ง​และ​ฮวงจุ้ย​ ​คน​เช่นนี้​จะ​เดินผ่าน​หน้า​ประตู​จวน​เขา​แต่​ไม่​เดิน​เข้าไป​คารวะ​เขา​ไม่ได้​”

สือ​อี​เหนียง​แปลกใจ

จิ​่น​เกอ​เรียน​โหราศาสตร์​กับฮู​หยิน​สอง​มาระ​ยะ​หนึ่ง​แล้ว​ ​ดูเหมือน​เขา​จะ​แยกแยะ​ออก​แค่​เหนือ​ใต้​ออก​ตก​ ​นาง​สอน​เลขคณิต​ให้​จิ​่น​เกอ​ตาม​ความทรงจำ​ของ​ตัวเอง​ ​แต่ว่า​จำ​สูตร​การคูณ​ได้​แม่น​ ​แก้​โจทย์​ที่ว่า​ ​‘​มีนก​สาม​ตัว​ใน​กรง​หนึ่ง​กรง​ ​มี​กรง​ทั้งหมด​สี่​กรง​ ​ทั้งหมด​มีน​กกี​่​ตัว​’​ ​ได้​ ​แต่​สำหรับ​เรื่อง​การเปลี่ยนแปลง​ของ​สรรพสิ่ง​และ​ฮวงจุ้ย​ ​ไม่รู้​ว่า​อาจารย์​ฉัง​และ​อาจารย์​จ้าว​สอน​หรือไม่​ ​แต่ฮู​หยิน​สอง​ไม่รู้​แน่นอน​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เอง​ก็​คง​ไม่รู้​…​ให้​จิ​่น​เกอ​ไป​เจอ​คน​เช่นนี้​…​หรือว่า​จะ​ให้​จิ​่น​เกอ​ไป​คารวะ​เขา​?

นาง​ครุ่นคิด​ ​แต่​คิด​ว่านี​่​คือ​น้ำใจ​ของฮู​หยิน​สอง​ ​ซ้ำ​ยัง​ไม่ใช่​เรื่อง​ยาก​อะไร​ ​นาง​จึง​ยิ้ม​แล้ว​ตอบรับ​

กลับ​ไป​อ่าน​ป้ายชื่อ​ ​ชื่อ​ข้างหน้า​คือ​สวี​เซี่ยง​ซื่อ​ ​พุทธศาสนิกชน​เสา​หวา​

ดูเหมือนว่า​ ​พุทธศาสนิกชน​เสา​หวาน​่า​จะ​เป็น​นามปากกา​ของฮู​หยิน​สอง

นาง​เล่าเรื่อง​นี้​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ฟัง

สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​ ​“​เจ้า​พึ่ง​จะ​รู้​หรือว่า​พี่​สอง​เคย​ใช้​หิน​เลือด​แกะสลัก​ตรา​ชื่อ​ให้​พี่สะใภ้​สอง​”

สือ​อี​เหนียง​เปิดป้าย​ชื่อ​ ​ชี้​ไป​ที่​เครื่องหมาย​สีแดง​ ​“​นี่​หรือ​เจ้า​คะ​?​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​เหลือบมอง​ ​“​คิดไม่ถึง​ว่า​พี่สะใภ้​สอง​ยัง​ใช้​อยู่​ ​…​ ​“​ ​เขา​พูด​อย่าง​กระอึกกระอัก​

สือ​อี​เหนียง​ถาม​เขา​ ​“​เหตุใด​พี่สะใภ้​สอง​ถึง​ไม่​รับ​บุตรบุญธรรม​มา​เลี้ยง​สัก​คนเล​่า​เจ้า​คะ​”​ ​นึก​ขึ้น​มา​ได้​ว่า​บุตรบุญธรรม​ส่วนมาก​คือ​บุตร​ของ​พี่ชาย​หรือ​น้องชาย​สามี​ตัวเอง​ ​และ​ก่อนที่​นาง​จะ​แต่งงาน​เข้ามา​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​ไม่ได้​มีบุ​ตร​เยอะแยะ​ ​ส่วน​สวี​ลิ่ง​ควน​เอง​ก็​ยัง​ไม่มี​บุตร​ ฮู​หยิน​สาม​มีบุ​ตร​แค่​สอง​คน​ ​ทาง​ฝั่ง​หนาน​จิง​ก็​ปฏิเสธ​ไป​แล้ว​ ​“​เพราะ​ไม่มี​คนที​่​เหมาะสม​อย่างนั้น​หรือ​”

“​นี่​เป็น​เพียง​เหตุผล​หนึ่ง​เท่านั้น​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​เพราะ​พี่สะใภ้​สอง​คิด​ว่า​ตัวเอง​เลี้ยงเด็ก​ได้​ไม่ดี​”

“​เลี้ยงเด็ก​ได้​ไม่ดี​หมายความว่า​อย่างไร​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ไม่เข้าใจ

ใน​จวน​มีสาว​ใช้​ ​ป้า​รับใช้​ ​และ​ก่อนที่​เด็ก​จะ​อายุ​ห้า​ขวบ​ก็​มี​แม่นม​คอย​ดูแล​ ​นาง​แค่​แวะ​มาดู​เขา​ให้​เป็น​พิธี​ทุกวัน​ก็​พอแล้ว

ความคิด​นี้​ผุด​ขึ้น​มา​ ​นาง​พลัน​ตระหนัก​ขึ้น​มา​ได้

ฮู​หยิน​สอง​เป็น​บุตรสาว​เพียง​คนเดียว​ ​แต่งงาน​ออกเรือน​มาก​ลับ​แท้งลูก​ ​ส่วน​สามี​ก็​เสียชีวิต​กะทันหัน​…​หรือ​นาง​คิด​ว่า​ตัวเอง​ไม่มี​วาสนา​?

หรือ​เป็น​เพราะเหตุนี้​ ​ทาง​ฝั่ง​หนาน​จิง​จึง​ไม่ยอม​ส่ง​เด็ก​มา​เป็น​บุตรบุญธรรม​ของฮู​หยิน​สอง​?

และ​ถึงแม้ว่า​นาง​จะ​ดี​กับ​เด็ก​ ​แต่​นาง​ก็​ไม่เคย​กอด​หรือ​หอม​แก้ม​เด็ก​คน​ไหน​เลย

“​ถ้าอย่างนั้น​พี่สะใภ้​สอง​จะ​ทำ​อย่างไร​”​ ​สือ​อี​เหนียง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​เปิดปาก​ถาม

ไม่ว่า​จะ​เป็นไท​่ฮู​หยิน​หรือว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​ดู​จาก​ความสัมพันธ์​ที่​พวกเขา​มีต​่อ​คุณชาย​สอง​แล้ว​ ​พวกเขา​ไม่มีทาง​ปล่อย​ให้​ครอบครัว​คุณชาย​สอง​ไร้​ซึ่ง​ทายาท​แน่นอน​

“​พี่สะใภ้​สอง​บอกว่า​ ​หลังจากที่​นาง​เสียชีวิต​ ​ให้​เรา​รับ​เด็ก​มา​เลี้ยง​ในนามของ​พี่​สอง​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ด้วย​สีหน้า​ที่​หม่นหมอง

สือ​อี​เหนียง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​มองออก​ไป​ทาง​ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ

*****

เมื่อ​รู้​ว่า​หลังจาก​เทศกาล​ไหว้​บ๊ะ​จ่าง​ ​อิง​เหนียง​ก็​จะ​กลับ​อวี​๋​หัง​แล้ว​ ​ทุกคน​ล้วนแต่​ตกใจ​

“​กลับ​ไป​เร็ว​ขนาด​นี้​เลย​หรือ​!​”​ ​เซี่ยง​ซื่อ​พูด​ด้วย​สีหน้า​อาลัยอาวรณ์​ ​“​บอกว่า​มา​อยู่​กับ​ท่าน​ช่วง​หนึ่ง​ไม่ใช่​หรือ​เจ้า​คะ​”

อิง​เหนียง​เป็น​คน​ร่าเริง​สดใส​ ​อีกทั้ง​ยัง​ขยันขันแข็ง​ ​เวลาว่าง​ชอบ​ปลูก​ดอกไม้​ต้นไม้​ ​ไม่​ก็​เย็บปักถักร้อย​ ​บางครั้ง​เห็น​เซี่ยง​ซื่อ​มาคา​รวะ​สือ​อี​เหนียง​และ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​อิง​เหนียง​ก็​มักจะ​ช่วย​เซี่ยง​ซื่อ​อุ้ม​อิ​๋​งอิ​๋ง​ ​ถึงแม้ว่า​เซี่ยง​ซื่อ​ไม่ได้​คุย​อะไร​กับ​นาง​มาก​นัก​ ​แต่​นาง​ประทับใจ​ใน​ตัว​อิง​เหนียง​อยู่​ไม่น้อย​

สือ​อี​เหนียง​ห้อย​ถุง​ผ้า​ไว้​ตรง​อก​ของ​อิ​๋​งอิ​๋ง​ ​นาง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ข้า​ให้​นาง​อยู่​กับ​ข้า​ ​แต่​มารดา​ของ​นาง​เล่า​ ​มา​อยู่​กับ​ข้า​แค่​สอง​สาม​เดือน​ก็​พอแล้ว​!​”

เซี่ยง​ซื่อ​ไม่กล้า​ถาม​อะไร​อีก​ ​นาง​ขานรับ​ ​เมื่อ​ออก​ไป​ก็​พา​อิ​๋​งอิ​๋ง​ไปหา​อิง​เหนียง​ ​มอบ​เงิน​ห้าสิบ​ตำลึง​ให้​อิง​เหนียง​เป็น​ของขวัญ​เดินทาง

ไท่ฮู​หยิน​ ฮู​หยิน​ห้า​ ​เจียง​ซื่อ​และ​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​มอบ​ต่างหู​ ​ปิ่นปักผม​และ​เครื่องประดับ​อื่นๆ​ ​มี​เพียง​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ที่​มอบ​เงิน​เดินทาง​ห้าสิบ​ตำลึง​ ​แล้วยัง​มอบ​สะดึง​ให้​อิง​เหนียง​ ​“​ครั้งก่อน​เจ้า​บอกว่า​สะดึง​ไม่แน่น​ไม่ใช่​หรือ​ ​ข้า​ทำ​มา​ให้​เจ้า​”

อิง​เหนียง​ตกใจ​ ​“​ท่าน​ทำ​ของ​พวก​นี้​เป็น​ด้วย​หรือ​”

สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ยิ้ม​อย่าง​กระอักกระอ่วน​ ​“​ไม่ใช่​เรื่อง​ยาก​อะไร​ ​มัน​คือ​ไม้​ไผ่​ที่​เหลือ​จาก​การ​ทำ​โคมไฟ​ ​ข้า​แค่​ลอง​ทำ​ดู​”

อิง​เหนียง​หัวเราะ​ ​“​ท่าน​ยัง​ทำ​อะไร​ได้​อีก​เจ้า​คะ​”

“​ได้​อย่าง​ละ​นิด​อย่าง​ละ​หน่อย​”​ ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​กลืนไม่เข้าคายไม่ออก​ ​“​แต่​ทำได้​ไม่​ค่อย​ดีสัก​เท่าไร​”

“​เลือก​สิ่ง​ที่​ตัวเอง​ชอบแล้ว​ตั้งใจ​เรียนรู้​ดีกว่า​”​ ​อิง​เหนียง​สั่งสอน​เขา​ ​“​ท่าน​ป้า​ใหญ่​ของ​ข้า​บอกว่า​ ​คนเรา​หาก​ทำ​สิ่ง​หนึ่ง​ได้ดี​ก็​จะ​ได้รับ​ประโยชน์​จาก​มัน​”

สวี​ซื่อ​เจี​้​ยพ​ยัก​หน้า​ ​ก่อน​จะ​เดิน​ออก​ไป​ด้วย​ใบหน้า​ที่​แดงก่ำ

อิง​เหนียง​มอง​เขา​ ​รู้สึก​ว่า​ตัวเอง​พูดจา​รุนแรง​เกินไป​ ​นาง​เอ่ย​เรียก​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ ​“​พี่​ห้า​เจ้า​คะ​ ​ข้า​พูด​ไม่​คิด​จน​เคยชิน​ ​ท่าน​อย่า​เก็บ​คำพูด​ของ​ข้า​ไป​คิด​เลย​”

“​ไม่ใช่​!​”​ ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยพูด​ ​“​น้อง​หญิง​พูด​มีเหตุผล​ ​ข้า​ต้อง​กลับ​ไป​คิด​ให้​ดี​ ​คิด​ว่า​ทำ​อะไร​ดี​”​ ​พูด​จบ​ก็​นึกถึง​หลาย​สิ่ง​หลายอย่าง​ที่​ตัวเอง​ชื่นชอบ​ ​เขา​ไม่​อยาก​ทิ้ง​มัน​ไป​สัก​อย่าง​เดียว​ ​จึง​พูด​ด้วย​ความลังเล​ ​“​อย่างน้อย​ก็​ต้อง​เรียงลำดับ​ความสำคัญ​ ​ทำ​ทุกอย่าง​ให้​ดีที​่​สุด​”​ ​เขา​พูด​อย่างจริงจัง​

อิง​เหนียง​หัวเราะ​ ​คิด​ว่า​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยน​่า​สนใจ​ ​นาง​โบก​สะดึง​ที่อยู่​ใน​มือ​ ​“​ขอบคุณ​พี่​ห้า​เจ้าค่ะ​!​”​ ​จากนั้น​ก็​หันหลัง​แล้ว​วิ่ง​ไป​ยัง​เรือน​หลัก

สวี​ซื่อ​เจี​้ย​คิด​ว่า​ต่อไป​คง​ไม่ได้​เจอ​กับ​น้อง​หญิง​ที่​ยิ้ม​เก่ง​คน​นี้​อีกแล้ว​ ​ใน​ใจ​พลัน​รู้สึก​เสียดาย

*****

สือ​อี​เหนียง​มองดู​เรือ​ลำ​ใหญ่​ค่อยๆ​ ​แล่น​ออก​ไป​จาก​ท่าเรือ​แม่น้ำ​ทง​โจว​ผ่าน​ม่าน​สีเขียว​นบ​นร​ถม​้า​ ​น้ำตา​ที่​กลั้น​เอาไว้​พลัน​ไหล​ลงมา

“​มี​อาจารย์​ผัง​ไป​ด้วย​ ​บรรดา​องครักษ์​ก็​คัดเลือก​มา​เป็น​อย่างดี​ ​แล้ว​ใน​มือ​ยัง​มี​ป้ายชื่อ​ของ​ข้า​ ​เขา​ไม่เป็นอะไร​แน่นอน​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​จับ​ไหล่​สือ​อี​เหนียง​แล้ว​พูด​ปลอบใจ​นาง​ ​“​ปีใหม่​จิ​่น​เกอ​ก็​จะ​กลับมา​แล้ว​ ​เจ็ด​เดือน​…​แค่​พริบตาเดียว​ก็​ผ่าน​ไป​แล้ว​”

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​ ​นาง​เช็ดน้ำ​ตา​แล้ว​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​เรา​กลับกัน​เถิด​เจ้าค่ะ​!​”​ ​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​สะอึกสะอื้น​ ​แต่กลับ​ฟัง​ดู​หนักแน่น

ในเมื่อ​ตัดสินใจ​แล้วก็​ไม่​ควร​ลังเล

สวี​ลิ่ง​อี๋​รู้สึก​ถึง​ความเปลี่ยนแปลง​ของ​นาง​ ​สายตา​ของ​เขา​มี​ความพอใจ​ ​เขา​พูด​อย่าง​อ่อนโยน​ ​“​เมื่อวาน​ ​คุย​กับ​จิ​่น​เกอ​ที่​โรง​เตี​๊​ยม​เกือบ​ทั้งคืน​ ​เจ้า​พิง​ข้า​พักผ่อน​สักประเดี๋ยว​เถิด​!​”

สือ​อี​เหนียง​ก็​เหนื่อย​แล้ว​ ​นาง​หลับตา​ลง​ ​ทันใดนั้น​ก็​ผล็อย​หลับ​ไป​ท่ามกลาง​เสียง​ล้อ​ของ​รถม้า​อย่างรวดเร็ว

ไม่รู้​ว่า​เวลา​ผ่าน​ไป​นาน​แค่ไหน​ ​จู่ๆ​ ​นาง​ก็​ลืมตา​ตื่นขึ้น​มา

รถม้า​หยุด​แล่น​แล้ว​ ​แต่​นาง​ยังอยู่​บน​รถม้า​ ​รอบ​ๆ​ ​ตัว​ไม่มี​เสียง​อะไร​ ​มีแสง​จาก​โคมไฟ​สีแดง​สาดส่อง​เข้ามา​ทาง​หน้าต่าง​ของ​รถม้า​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​นั่ง​พัด​ให้​นาง​เบา​ๆ

“​ตื่น​แล้ว​หรือ​!​”​ ​เขา​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​หิว​หรือไม่​ ​เรา​ลง​ไป​ทานอาหาร​เย็น​กัน​เถิด​”​ ​พูด​จบ​ก็​วาง​พัด​แล้ว​เปิดม่าน​รถม้า​ ​“​ที่นี่​คือ​โรง​เตี​๊​ยม​ตง​เซิง​ ​เรา​พัก​ที่นี่​คืนหนึ่ง​ ​พรุ่งนี้​ค่อย​ออกเดินทาง​แต่เช้า​ ​คงจะ​ถึง​เยี​่​ยน​จิง​ยาม​พลบค่ำ​”​ ​เขา​พูด​พลาง​ยื่นมือ​ออกมา​ให้​สือ​อี​เหนียง

สือ​อี​เหนียง​จับมือ​เขา​ลงมา​จาก​รถม้า​ ​นาง​เห็น​ว่า​รถม้า​จอด​อยู่​ใน​ลาน​เล็ก​ๆ​ ​ใน​ลาน​ไม่มีใคร​สัก​คน

“​จุน​เกอ​กับ​เจี​้ย​เกอ​เล่า​”​ ​พวกเขา​ทั้งสอง​คน​มาส​่ง​จิ​่น​เกอ​ด้วยกัน​กับ​นาง

“​ข้า​บอก​ให้​พวกเขา​กลับ​ไป​พักผ่อน​ก่อน​แล้ว​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พานาง​ไป​ที่​ห้อง​หลัก​ ​“​เห็น​เจ้า​หลับสนิท​ ​จึง​ไม่ได้​ปลุก​เจ้า​”

สือ​อี​เหนียง​เงยหน้า​ขึ้น​มอง

ท้องฟ้า​มืดมิด​ ​ไร้​ซึ่ง​ดวงจันทร์​บน​นั้น​ ​มี​เพียงดาว​ดวง​เล็ก​ๆ​ ​สอง​สาม​ดวง

“​ตอนนี้​ยาม​ใด​แล้ว​เจ้า​คะ​”

“​ยามซ​วี​แล้ว​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​หยิบ​นาฬิกา​พก​ออกมา​ดู

ตอนที่​รถม้า​แล่น​ออกมา​คือ​ยาม​เว​่ย​ ​เช่นนั้น​ก็​หมายความว่า​นาง​หลับ​ไป​หนึ่ง​ชั่ว​ยาม​ครึ่ง​ ​พวกเขา​ไม่ได้​รีบ​เดินทาง​ ​เมื่อวาน​ได้ยิน​ผู้ดูแล​บอกว่า​น่าจะ​มาถึง​โรง​เตี​๊​ยม​ยาม​โหย​่​ว.​..​ถ้าอย่างนั้น​ก็​หมายความว่า​เขา​พัด​ให้​นาง​หนึ่ง​ชั่ว​ยาม​ครึ่ง​อย่างนั้น​น่ะ​หรือ

“​เหตุใด​ท่าน​โหว​ถึง​ไม่​ปลุก​ข้า​เล่า​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​อย่าง​ไม่พอใจ​

“​เห็น​เจ้า​หลับ​สบาย​ ​จึง​ไม่​ปลุก​เจ้า​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​จับมือ​นาง​พลาง​เดิน​เข้าไป​ใน​ห้อง​

ชิว​อวี​่​กำลัง​รอ​อยู่​ ​เมื่อ​เห็น​พวกเขา​เข้ามา​ก็​กำชับ​ให้​สาวใช้​จัด​อาหารเย็น​

พึ่ง​ทาน​ได้​เพียง​สอง​คำ​ ​ก็​มีเสียง​ดัง​มาจาก​ข้างนอก

สวี​ลิ่ง​อี๋​เหลือบมอง​ชิว​อวี​่​ ​ชิว​อวี​่​รีบ​ออก​ไปดู​ ​จากนั้น​ก็​กลับมา​อย่างรวดเร็ว

“​ท่าน​โหว​ ฮู​หยิน​เจ้า​คะ​ ​คุณชาย​น้อย​สอง​เจ้าค่ะ​!​”​ ​สีหน้า​ของ​นาง​เต็มไปด้วย​ความตกใจ​ ​“​คุณชาย​น้อย​สอง​กลับ​เยี​่​ยน​จิง​ ​บังเอิญ​พัก​ที่​โรง​เตี​๊​ยม​นี้​เหมือนกัน​ ​มั่ว​จู๋​เห็น​องครักษ์​ของ​จวน​ตอนที่​ไป​ตัก​น้ำ​ล้าง​เท้า​ให้​คุณชาย​น้อย​สอง​ที่​โรง​ครัว​ ​จึง​รู้​ว่า​พวกเรา​ก็​พัก​อยู่​ที่นี่​เช่นกัน​เจ้าค่ะ​”

“​รีบ​เชิญ​เขา​เข้ามา​!​”​ ​สอง​สามีภรรยา​พูด​พร้อมกัน​ ​ชิว​อวี​่​รีบ​ไป​เปิดม่าน​ ​จากนั้น​สวี​ซื่อ​อวี​้​ที่​รูปร่าง​สูงใหญ่​ก็​เดิน​เข้ามา​

“​ท่าน​พ่อ​ ​ท่าน​แม่​ขอรับ​!​”​ ​เขา​ไม่สน​ใจ​ว่าที่​พื้น​มี​เศษ​อะไร​หรือไม่​ ​คุกเข่า​ลง​ต่อหน้า​สวี​ลิ่ง​อี๋​และ​สือ​อี​เหนียง​ทันที

“​รีบ​ลุกขึ้น​เถิด​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ ​“​เหตุใด​เจ้า​ถึง​กลับมา​เร็ว​ขนาด​นี้​ ​บอกว่า​จะ​กลับมา​ปลายเดือน​หก​ ​ไม่​ก็​ต้นเดือน​เจ็ด​ไม่ใช่​หรือ​”

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท