ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 693 ดั่งใจหวัง (ต้น)

ตอนที่ 693 ดั่งใจหวัง (ต้น)

สวี​ซื่อ​อวี​้​พูด​ด้วย​ความเคารพ​ ​“​พ่อตา​เขียนจดหมาย​ให้​อาจารย์​ ​ถาม​ว่า​ข้า​จะ​ออกเดินทาง​เมื่อไร​ ​หาก​ไป​ถึง​เยี​่​ยน​จิง​เร็ว​หน่อย​ให้​ข้า​ไป​คารวะ​อาจารย์​อู่​เย​่ว​์​สหาย​ของ​เขา​ขอรับ​ ​อาจารย์​ได้ยิน​ดังนั้น​จึง​ให้​ข้า​กลับมา​ก่อน​”

“​อาจารย์​อู่​เย​่ว​์​?​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ ​“​เขา​คือ​ใคร​”

“​เขา​แซ่​หง​ ​เป็น​อาจารย์​ที่​อำเภอ​หย่ง​ชิง​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​เป็น​จู่​เห​ริน​แต่กลับ​สนิทสนม​กับ​หวัง​จื่อ​ซิ่น​ ​ใต้เท้า​หวัง​รอง​เจ้ากรม​พิธีกรรม​ศาล​ว่าการ​ขอรับ​”​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​พูดถึง​ตรงนี้​ก็​หยุด​พูด

สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่​ถาม​อะไร​อีก​ ​เขา​พยักหน้า​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เรื่อง​นี้​ไม่​ควร​เขียนจดหมาย​ส่ง​ถึงกัน​จริงๆ​”​ ​จากนั้น​เขา​ก็​เปลี่ยน​เรื่อง​ ​“​เจ้า​พัก​อยู่​ที่ไหน​ ​ทานอาหาร​เย็น​แล้ว​หรือยัง​ ​ย้าย​มา​อยู่​ด้วยกัน​เถิด​ ​ที่นี่​สะดวก​กว่า​”

พวกเขา​เหมา​ลาน​หมด​แล้ว​ ​มีทั​้​งอ​งค​รักษ์​ ​บ่าว​รับใช้​ ​สาวใช้​และ​ป้า​รับใช้​ ​ห้อง​ทาง​ทิศตะวันตก​ก็​ยัง​ว่าง​ ​ไม่เพียงแต่​มีที​่​อยู่​ ​สะดวกสบาย​ ​ซ้ำ​ยัง​ปลอดภัย​อีกด้วย

“​ท่าน​พ่อ​ทาน​กับ​ท่าน​แม่​เถิด​ ​ข้า​ทาน​มา​แล้ว​ขอรับ​”​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ยิ้ม​แล้ว​บอก​ให้​สาวใช้​ไปรา​ยงา​นมั​่​วจู​๋​ย้าย​หีบ​เข้ามา​

สือ​อี​เหนียง​พูด​กับ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ ​“​อิ​๋​งอิ​๋ง​น่ารักน่าชัง​อย่างมาก​ ​เดิน​เอง​ได้​แล้ว​”​ ​พอย​้าย​หีบ​เข้ามา​เสร็จ​แล้ว​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ก็​เห็น​ว่า​ดึก​แล้ว​ ​จึง​ลุกขึ้น​ขอตัว​ลา

“​เรื่อง​ของ​อาจารย์​อู่​เย​่ว​์​ ​มี​อะไร​ที่​ข้า​ไม่รู้​หรือไม่​เจ้า​คะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ถาม​สวี​ลิ่ง​อี๋​เบา​ๆ

สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่​พูด​อะไร

สือ​อี​เหนียง​คิด​ว่า​เขา​ไม่​อยาก​ตอบคำถาม​ตัวเอง

ใคร​จะ​รู้​ว่า​พอนอ​นบน​เตียง​เดียวกัน​ยามดึก​ ​เขา​กลับ​พูดเสี​ยง​เบา​ ​“​นักปราชญ์​ที่​ดี​ไม่กล้า​พูดว่า​ตัวเอง​เก่ง​ที่สุด​ใน​โลก​ ​แต่​แม่ทัพ​กลับ​บอกว่า​ตัวเอง​คือ​คนที​่​เก่ง​ที่สุด​ใน​โลก​ ​ความชอบ​ของ​ผู้คุม​สอบ​ ​มีผลต่อ​ผล​การ​สอบ​เซียง​ซื่อ​ ​ใต้เท้า​เซี่ยง​ให้​อวี​้​เกอ​ไป​คารวะ​อาจารย์​อู่​เย​่ว​์​คน​นั้น​ ​คิด​ว่า​เขา​คง​อยาก​จะ​รู้ความ​ชอบ​ของ​ผู้คุม​สอบผ่าน​อาจารย์​อู่​เย​่ว​์​ ​เรื่อง​เช่นนี้​ ​ใน​ใจ​รู้​เหตุผล​แต่กลับ​พูด​ออกมา​ไม่ได้​”

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​“​ข้า​จำได้​ว่า​หวัง​จื่อ​ซิ่น​ใต้เท้า​หวัง​ ​คือ​พ่อสื่อ​ของ​ภรรยา​จุน​เกอ​…​”

แล้ว​อีก​อย่าง​ ​เจียง​ซง​ก็​เป็น​บัณ​ทิต​เคอจ​วี่​ ​เกรง​ว่า​เขา​คงจะ​เข้าใจ​ความหมาย​ของ​ใต้เท้า​เซี่ยง​ตั้ง​นาน​แล้ว​

“​เหมือน​เจ้า​อยาก​จะ​เป็น​ผู้บัญชาการ​ ​หาก​ไม่​จัดการ​สกุล​ขุนนาง​เหล่านั้น​ให้​ดี​ ​เกรง​ว่า​คงจะ​มี​แต่​ปัญหา​ ​หาก​เจ้า​ได้รับ​คำแนะนำ​การ​สอบ​ขุนนาง​ระดับ​เคอจ​วี่​จาก​ผู้ใหญ่​ ​ก็​จะ​มีโอกาส​มากกว่า​คน​ทั่วไป​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​แล้ว​เอน​ตัว​ไป​เป่า​ตะเกียง​ ​“​พรุ่งนี้​ต้อง​นั่ง​รถม้า​ทั้งวัน​ ​เจ้า​รีบ​นอน​เอาแรง​เถิด​”

สือ​อี​เหนียง​ขานรับ​แล้ว​หลับตา​ลง

แต่​นาง​หลับ​มาทั​้ง​ช่วง​บ่าย​แล้ว​ ​นาง​จะ​ง่วง​ได้​อย่างไร​ ​นอน​นับ​แกะ​ ​แต่​ใจ​กลับ​คิดถึง​จิ​่น​เกอ​ที่พึ่ง​จะ​จากกัน​ไป

ห่าง​จาก​พ่อแม่​ครั้งแรก​ ​ไม่รู้​ว่า​เขา​จะ​กลัว​หรือไม่​ ​ตอนนี้​เขา​กำลัง​ทำ​อะไร​ ​นอนหลับ​ไป​แล้ว​หรือ​คิดถึง​คนใน​ครอบครัว​ตัวเอง​ที่​ห่างไกล​กัน​ออก​ไป​เรื่อยๆ​ ​เหมือน​นาง

คิด​เช่นนี้​ ​นาง​ก็​ยิ่ง​นอนไม่หลับ

มี​ลมหายใจ​ที่​สม่ำเสมอ​ดัง​อยู่​ข้าง​หู

สือ​อี​เหนียง​พลิกตัว​เบา​ๆ​ ​แต่​ทำเอา​สวี​ลิ่ง​อี๋​ตกใจ​ตื่น

“​คิดถึง​จิ​่น​เกอ​หรือ​”

สือ​อี​เหนียง​ตกใจ​ ​“​ท่าน​โหว​ยัง​ไม่​หลับ​หรือ​เจ้า​คะ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่​พูด​อะไร​ ​ผ่าน​ไป​ครู่หนึ่ง​เขา​ก็​พูดว่า​ ​“​วันนี้​พวกเขา​คง​ทอดสมอ​อยู่​ที่​เมือง​จังจ​ยาวาน​ ​พรุ่งนี้​ก็​คง​ถึง​เทียน​จิน​แล้ว​”

ท่ามกลาง​ความมืด​มิด​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​จับมือ​สวี​ลิ่ง​อี๋

*****

วัน​ต่อมา​ ​พี่น้อง​เจอ​หน้า​กัน​ ​บรรยากาศ​ก็​คึกคัก​อีกครั้ง​ ​จากนั้น​สือ​อี​เหนียง​ก็​นั่ง​รถม้า​ ​ส่วน​สวี​ลิ่ง​อี๋​และ​ลูก​ๆ​ ​ควบ​ม้า​กลับ​ไป​ที่​ตรอก​เหอฮ​วาห​ลี่

ไท่ฮู​หยิน​กำลัง​โศกเศร้า​กับ​การ​ไป​เจียง​หนา​นข​อง​จิ​่น​เกอ​ ​พอได้​ยิน​ว่า​พวกเขา​กลับมา​ก็​อด​ที่จะ​ยิ้ม​ขึ้น​มา​ไม่ได้​ ​ตก​เย็น​ทุกคน​ทานอาหาร​ที่​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน​อย่างสนุกสนาน​

ญาติพี่น้อง​ไปมาหาสู่​กัน​ ​สหาย​มารวม​ตัว​กัน​ ​พี่น้อง​สกุล​สวี​ดื่ม​สุรา​กัน​ ​เมื่อ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ไป​คารวะ​อาจารย์​อู่​เย​่ว​์​ ​ก็​ผ่าน​ไป​เจ็ด​แปด​วัน​แล้ว

สือ​อี​เหนียง​ได้รับ​จดหมาย​จาก​จิ​่น​เกอ

“​เป็น​อย่างไรบ้าง​ ​รีบ​อ่าน​ให้​ข้า​ฟัง​เร็ว​เข้า​!​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​พลัน​รู้สึก​หงุดหงิด​ที่​ตัวเอง​สายตาสั้น​ ​ไม่​รอ​ให้​ป้า​ตู้​หยิบ​แว่นตา​ใน​กล่อง​มา​ให้​ ​นาง​ก็​เร่ง​ให้​สือ​อี​เหนียง​อ่าน​ให้​นาง​ฟัง​เร็ว​ๆ​

“​ท่าน​ย่า​ที่​เคารพ​ ​ข้า​และ​ท่าน​ลุง​ใหญ่​มาถึง​ซัง​โจว​แล้ว​ขอรับ​ ​พี่เขย​ใหญ่​พา​พี่​หญิง​ใหญ่​และ​หลานชาย​สอง​คน​มาต​้อ​นรับ​ ​อาน​จิ​่ง​ร่าเริง​น่ารักน่าชัง​ ​ส่วน​อาน​สวี​้​ฉลาด​หลักแหลม​ ​คน​หนึ่ง​ไร้เดียงสา​ ​ส่วน​อีก​คน​หนึ่ง​ยัง​พูด​ไม่​เป็น​เลย​ขอรับ​…​”

เขา​ยัง​เขียนจดหมาย​ที่​เนื้อหา​เหมือนกัน​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​และ​สือ​อี​เหนียง​ ​แต่​คำขึ้นต้น​เปลี่ยนเป็น​ ​‘​ท่าน​พ่อ​และ​ท่าน​แม่​ที่​เคารพ​’

“​ไอ​๊​หยา​ ​เจ้า​อ่าน​เนื้อๆ​ ​หน่อย​!​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​ขัดจังหวะ​สือ​อี​เหนียง

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​อ่าน​จดหมาย​ของ​จิ​่น​เกอ​ ​“​…​ ​บอกว่า​เจอ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​และ​ท่าน​เขย​ใหญ่​พา​ไป​คารวะ​สกุล​เซ่า​ ​เจอ​กับ​จิ​้ว​เหยี​ยส​กุล​เซ่า​ ​ท่าน​เขย​ใหญ่​ยัง​พา​เขา​ไป​หอ​ศิลปะ​การต่อสู้​ที่​มีชื่อเสียง​ที่สุด​ใน​ซัง​โจว​ ​พวกเขา​อยู่​ที่​ซัง​โจว​สอง​วัน​ ​กำลัง​ออกเดินทาง​ไป​เต​๋อ​โจว​เจ้าค่ะ​”

ไท่ฮู​หยิน​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก​ ​“​ดี​แล้ว​ๆ​”​ ​นาง​พูด​ด้วย​ท่าทาง​ครุ่นคิด

สือ​อี​เหนียง​ไม่เข้าใจ​ ​นาง​นั่ง​เงียบๆ

ผ่าน​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​จู่ๆ​ ​ไท่ฮู​หยิน​ก็​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​ข้า​จำได้​แล้ว​”​ ​นาง​ตะโกนเรียก​ป้า​ตู้​ ​“​เจ้า​มี​หลาน​ที่​แต่งงาน​ไป​อยู่​เต​๋อ​โจว​ไม่ใช่​หรือ​ ​แล้วยัง​รับ​ตำแหน่ง​ลี่​มู่​?​”​ ​นาง​พูด​ด้วย​ท่าที​ตื่นเต้น​

“​ไท่ฮู​หยิน​ความจำ​ดี​เสีย​จริง​เจ้าค่ะ​”​ ​ป้า​ตู้​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เพราะ​ความเมตตา​ของ​ท่าน​โหว​ถึง​ได้​ตำแหน่ง​ดี​เช่นนี้​ ​ปีใหม่​ปีนี​้​ก็​มาคา​รวะ​ท่าน​และฮู​หยิน​แล้ว​ ​แต่ว่า​คนใน​จวน​เยอะ​ ​จึง​รอก​้​มหัว​ให้ท่าน​และฮู​หยิน​ใน​ลาน​กับ​มารดา​ของ​เขา​เจ้าค่ะ​…​”

“​ข้า​ไม่ได้​พูด​เรื่อง​นี้​!​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​พูด​อย่าง​หมด​ความอดทน​ ​“​ข้า​หมายความว่า​ให้​เจ้า​เขียนจดหมาย​ไป​ให้​เขา​ ​บอก​ให้​เขา​ไปดู​จิ​่น​เกอ​บน​เรือ​ ​นั่ง​เรือ​ตลอดทาง​ ​ไม่รู้​ว่า​เขา​ผอม​ลง​หรือไม่​ ​ทาน​อะไร​หรือไม่​”

ป้า​ตู้​ยิ้ม​แล้ว​ขานรับ​ ​“​เจ้าค่ะ​”

แต่​สือ​อี​เหนียง​กลับ​ห้าม​นาง​เอาไว้​ ​นาง​พูด​กับ​ไท่ฮู​หยิน​ ​“​ท่าน​แม่เจ้า​คะ​ ​จดหมาย​นี้​เขียน​ตั้งแต่​สาม​วันก่อน​แล้ว​ ​คน​ส่งจดหมาย​ไป​ถึง​ ​เกรง​ว่า​จิ​่น​เกอ​ก็​คงจะ​ออก​ไป​จาก​เต​๋อ​โจว​แล้ว​กระมัง​”

ไท่ฮู​หยิน​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​ผิดหวัง

ป้า​ตู้​รีบ​พูด​ ​“​ไม่เป็นไร​เจ้าค่ะ​ ​บ่าว​เขียนจดหมาย​ให้​คน​นำ​ไป​ส่ง​ ​เขา​รู้จัก​เส้นทาง​ไป​เต​๋อ​โจว​ของ​คุณชาย​น้อย​หก​ ​เขา​ต้อง​ขึ้น​เรือ​ไป​ก้มหัว​ให้​คุณชาย​น้อย​หก​แน่นอน​เจ้าค่ะ​”

ไท่ฮู​หยิน​พลัน​มีชีวิตชีวา​ขึ้น​มา​อีกครั้ง​ ​“​เจ้า​รีบ​ไป​เขียน​เถิด​ ​ข้า​จะ​ให้​คนที​่​ฝ่าย​รายงาน​ไป​ส่งจดหมาย​ให้​เจ้า​”

ป้า​ตู้​ขานรับ​แล้ว​เดิน​ออก​ไป

ไท่ฮู​หยิน​ถามถึง​สวี​ซื่อ​อวี​้​ ​“​เขา​บอกว่า​จะ​ไป​ฟัง​อาจารย์​อะไร​สัก​อย่าง​สอน​เขียน​บทความ​ ​ไป​แล้ว​หรือยัง​ ​อาจารย์​คน​นั้น​สอน​เขา​หรือไม่​”​ ​นาง​ถาม​พร้อมกับ​หยิบ​กล่อง​แกะสลัก​สีแดง​ออกมา​จาก​ลิ้นชัก​แล้ว​นำ​จดหมาย​ใส่​ลง​ใน​กล่อง​

“​ไป​แล้ว​เจ้าค่ะ​!​”​สือ​อี​เหนียง​พูด​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​อาจารย์​คน​นั้น​พอได้​ยิน​ว่า​ใต้เท้า​เซี่ยง​เป็น​คนแนะนำ​มา​ ​แล้วยัง​เป็น​ลูกศิษย์​ของ​อาจารย์​เจียง​ ​ก็​ให้เกียรติ​เขา​เป็นอย่างมาก​ ​บอก​ให้​อวี​้​เกอ​อยู่​ที่​เรือน​ของ​เขา​ ​ขนาด​มั่ว​จู๋​และ​คนอื่นๆ​ ​ยัง​คิดไม่ถึง​ ​จึง​รีบ​เก็บ​ข้าวของ​ให้​อวี​้​เกอ​ ​แล้วยัง​ส่ง​บ่าว​รับใช้​มา​เอา​เสื้อผ้า​ ​ภรรยา​ของ​อวี​้​เกอ​พึ่ง​จะ​ส่ง​เขา​ออก​ไป​เจ้าค่ะ​”

ไท่ฮู​หยิน​พูด​ ​“​เกรง​ว่า​คง​ต้อง​ขอบพระคุณ​อาจารย์​อู่​เย​่ว​์​คน​นั้น​!​”

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ข้า​ให้​ฉัง​เสวีย​จื้อ​ ​บุตรชาย​ของ​ฉัง​จิ​่ว​เหอ​ที่​เป็น​คนดู​แล​ไร่​ให้​ข้า​ ​ตอนนี้​เขา​เป็น​ผู้ดูแล​ที่​ฝ่าย​รายงาน​ ​ให้​เขา​ไป​อำเภอ​หย่ง​ชิง​กับ​บ่าว​รับใช้​ของ​อวี​้​เกอ​ ​แล้วยัง​นำภาพ​วาด​ ​‘​ต้นไม้​หิมะ​’​ ​ของ​หลี​่​ตี๋​ไป​ด้วย​”

ไท่ฮู​หยิน​พยักหน้า

ฮู​หยิน​สอง​เข้ามา​ ​“​ได้ยิน​ว่า​อวี​้​เกอ​อยู่​ที่​อำเภอ​หย่ง​ชิง​อย่างนั้น​หรือ​”

สือ​อี​เหนียง​เล่า​ให้ฮู​หยิน​สอง​ฟัง

“​ในเมื่อ​มีบัณ​ทิต​จู่​เห​ริน​เป็น​อาจารย์​ ​ข้า​คิด​ว่า​มอบ​ภาพวาด​ตัวอักษร​ของ​นัก​วาด​ชื่อดัง​ไป​ให้​เขา​ดีกว่า​”​ ฮู​หยิน​สอง​พูด​ ​“​จะ​ได้​ดู​สูงส่ง​”

“​สือ​อี​เหนียง​ส่ง​คน​นำ​ของขวัญ​ไป​มอบให้​เขา​แล้ว​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​ยิ้ม​ ​นาง​ตบ​เบาะ​รอง​นั่ง​ข้างๆ​ ​บอก​ให้ฮู​หยิน​สอง​มานั​่ง​ข้าง​ตัวเอง​ ​“​จิ​่น​เกอ​เขียนจดหมาย​มา​ให้​ข้า​!​”​ ​จากนั้น​ก็​หยิบ​จดหมาย​ออกมา​ ​“​เจ้า​ดู​สิ​!​”

ท่าที​ราวกับ​เด็กน้อย​ที่​ได้รับ​ลูกกวาด​ก็​ไม่​ปาน​ ​ไม่เพียงแต่​ชอบใจ​ ​ซ้ำ​ยัง​มีท​่า​ทาง​โอ้อวด

ฮู​หยิน​สอง​ประหลาดใจ​ ​นาง​ยิ้ม​แล้ว​รับ​จดหมาย​มาดู​

ไท่ฮู​หยิน​ขยับตัว​เข้าไป​ใกล้​ ​“​เจ้า​ลอง​อ่าน​ดู​สิ​!​”​ ​ท่าที​อยาก​ฟัง​อีกครั้ง

ฮู​หยิน​สอง​ยิ้ม​แล้ว​อ่าน​ให้​นาง​ฟัง

ไท่ฮู​หยิน​ราวกับ​ได้​ทาน​โสม​อย่างไร​อย่างนั้น​ ​สีหน้า​ของ​นาง​ดู​อิ่มเอม​ใจ​เป็นอย่างมาก​ ​“​เจ้า​คิด​ว่า​ตอนนี้​เขา​ไป​ถึง​ไหน​แล้ว​”​ ​จากนั้น​ก็​เก็บ​จดหมาย​เอาไว้​ใน​กล่อง​เหมือนเดิม

“​คงจะ​ถึง​หลิน​ชิง​แล้ว​กระมัง​”​ ฮู​หยิน​สอง​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​แต่​ก็​คาดเดา​ยาก​ ​หาก​ไม่ได้​พัก​อยู่​ที่​หลิน​ชิง​นาน​ ​ป่านนี้​ก็​คงจะ​ถึง​เหลียว​เฉิง​แล้ว​!​”

ไท่ฮู​หยิน​เชื่อ​คำพูด​ของฮู​หยิน​สอง​ ​นาง​ถามฮู​หยิน​สอง​ทุกวัน​ว่า​จิ​่น​เกอ​ไป​ถึง​ไหน​แล้ว​ ​จากนั้น​ก็​ตั้งหน้าตั้งตา​รอ​จดหมาย​ของ​จิ​่น​เกอ​อยู่​ตลอดเวลา

สือ​อี​เหนียง​เห็น​ดังนั้น​ก็​พูด​กับ​คนที​่​มาส​่ง​จดหมาย​ ​“​…​ถึง​ไหน​แล้วก็​เขียนจดหมาย​มา​ให้​ไท่ฮู​หยิน​ด้วย​”

เดิมที​พัก​อยู่​ที่​หลิน​ชิง​ ​ไป​ถึง​เหลียว​เฉิง​แล้ว​ถึง​ได้​เขียนจดหมาย​กลับมา​ ​หลังจากนั้น​ ​แค่​เรือ​จอด​ก็​ต้อง​เขียนจดหมาย​กลับมา​ ​ไม่ต้อง​พูดถึง​เรื่อง​อื่น​ ​ทักษะ​การเขียน​จดหมาย​ของ​เขา​นั้น​ดีขึ้น​เรื่อยๆ​ ​บ่าว​รับใช้​ที่​นำ​จดหมาย​มาส​่ง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​…​ท่าน​จิ​้ว​เหยีย​เฝ้า​คุณชาย​น้อย​หก​เขียนจดหมาย​ทุกวัน​ขอรับ​ ​แล้วยัง​ต้อง​ฝึก​เขียน​ตัวอักษร​สาม​หน้า​ ​อ่านหนังสือ​อีก​หนึ่ง​หน้า​”

คิดไม่ถึง​ว่า​จะ​ได้​เก็บเกี่ยว​ประสบการณ์​เช่นนี้​ด้วย

ไท่ฮู​หยิน​หัวเราะ​แล้ว​พูดว่า​ ​“​จิ​้ว​เหยีย​ของ​พวกเรา​นั้น​เป็น​นักปราชญ์​”

คนที​่​นั่ง​อยู่​ข้างๆ​ ​ก็​พากัน​หัวเราะ

ไท่ฮู​หยิน​พูดถึง​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​ ​“​…​ช่าง​เอาใจใส่​เสีย​จริง​ ​ถึง​เมือง​เมือง​หนึ่ง​ก็​ต้อง​พา​จิ​่น​เกอ​ไปเที่ยว​ ​ครั้งก่อน​จิ​่น​เกอ​บอกว่า​ ​จิ​้ว​เหยีย​จะ​พา​เขา​ไป​คารวะ​วัด​ขง​จื่อ​ที่​ชวี​ฟู่​ ​ที่นั่น​ใช่​ว่า​ใคร​ก็​ไป​ได้​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​กังวล​ ​“​ไม่รู้​ว่า​พวกเขา​จะเข้า​ไป​ได้​หรือไม่​”

“​ท่าน​รอ​อีก​สัก​สอง​สาม​วัน​เถิด​”​ ฮู​หยิน​สอง​ยิ้ม​เเล้ว​เอ่ย​ปลอบใจ​ไท่ฮู​หยิน​ ​“​ไม่ว่า​จะเข้า​ไป​ได้​หรือไม่​ ​จิ​่น​เกอ​ก็​คง​เขียนจดหมาย​มาบ​อก​ท่าน​”

“​ใช่​แล้ว​!​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​หัวเราะ​ ​“​ครั้งก่อน​เขา​ยัง​เล่าเรื่อง​ที่​ไป​หอก​วง​เย​่ว​์​กับ​จิ​้ว​เหยีย​ ​แล้ว​ถูก​คน​ขโมย​ถุง​ผ้า​ให้​ข้า​ฟัง​”

แต่​แค่​พริบตาเดียว​ก็​มาถึง​ปลายเดือน​เจ็ด​ ​ความสนใจ​ของ​ทุกคน​ต่าง​ก็​อยู่​ที่​สวี​ซื่อ​อวี​้​ที่​กำลังจะ​ลงสนาม​สอบ

ไท่ฮู​หยิน​และฮู​หยิน​สอง​ไป​จุด​ธูป​ที่​วัด​เซียงกั​๋ว​ ​อาราม​เมฆ​ขาว​ ​วัด​ฉือ​หยวน​และ​ศาลา​เหวิน​ฉัง​ ​สือ​อี​เหนียง​และ​เซี่ยง​ซื่อ​เตรียม​เสื้อผ้า​ ​พู่กัน​ ​ตะกร้า​และ​กระดาษ​สอบ​ให้​สวี​ซื่อ​อวี​้​ ​เมื่อถึง​วันที่​หนึ่ง​เดือน​แปด​ ​สวี​ซื่อ​ฉิน​สอง​พี่น้อง​ก็​มาหา​ ​ไป​ส่ง​เขา​ที่​สนาม​สอบ​กับ​สวี​ซื่อ​จุน​และ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ ​เจอ​ฟัง​จี้​ระหว่างทาง​ ​พวกเขา​พูดคุย​หัวเราะ​แล้ว​พากัน​ไป​สนาม​สอบ​ ​เมื่อ​สอบ​เสร็จ​ทั้ง​สาม​สนาม​แล้ว​ ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​รีบ​ขอ​คำแนะนำ​จาก​สวี​ซื่อ​อวี​้​ทันที​

“​อาจารย์​จ้าว​เป็น​คน​สอนหนังสือ​เจ้า​ ​อาจารย์​ฉัง​เป็น​คน​ให้​คำแนะนำ​เจ้า​ ​ข้า​จะ​กล้า​แนะนำ​เจ้า​ต่อหน้า​ผู้เชี่ยวชาญ​อย่าง​พวกเขา​ได้ที่​ไหน​กัน​”​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​พูด​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​แต่​หาก​เจ้า​ถาม​เรื่อง​ที่​ต้อง​คอย​ระวัง​เมื่อ​ลงสนาม​สอบ​ ​ข้ามี​เรื่อง​จะ​พูด​กับ​เจ้า​ไม่น้อย​”

“​ถ้าอย่างนั้น​พี่​สอง​เล่า​ให้​ข้า​ฟัง​เถิด​ขอรับ​”​ ​นี่​คือ​เรื่อง​ที่​ต่อไป​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ต้อง​เผชิญ​ ​แน่นอน​ว่า​เขา​ย่อม​ต้อง​ให้ความสำคัญ

สวี​ซื่อ​อวี​้​ออกจาก​จวน​ตั้งแต่​ยัง​เด็ก​ ​เขา​ไม่​ค่อย​สนิทสนม​กับ​สวี​ซื่อ​จุน​และ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยสัก​เท่าไร​ ​อาจ​เป็น​เพราะ​อยู่​ห่าง​จาก​ครอบครัว​ ​จึง​ให้ความสำคัญ​กับ​คนใน​ครอบครัว​มาก​เป็นพิเศษ​ ​มีโอกาส​ที่จะ​ได้​ใกล้ชิด​กับ​พี่น้อง​ของ​ตัวเอง​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ย่อม​ให้ความสำคัญ​ ​เขา​เริ่ม​เล่า​ประสบการณ์​การ​ลงสนาม​สอบ​ของ​ตัวเอง​ให้​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ฟัง​

สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ได้​ฟัง​แล้วก็​นับถือ​สวี​ซื่อ​อวี​้​เป็นอย่างมาก

ตอนที่​เขา​ลง​สอบ​สอบ​ระดับ​มณฑล​ ​อาจารย์​ฉั​งอ​ธิ​บาย​ทุกอย่าง​ให้​เขา​ฟัง​อย่างละเอียด​ ​คิดไม่ถึง​ว่า​ตอนที่​สวี​ซื่อ​อวี​้​สอบ​สอบ​ระดับ​มณฑล​ ​อาจารย์​เจียง​นั้น​ไม่​บอกอะ​ไร​เขา​เลย​ ​และ​ถึงแม้​จะ​เป็น​เช่นนี้​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ก็​ยัง​สอบผ่าน​บัณฑิต​ซิ่ว​ไฉ

พวกเขา​ทั้งสอง​คน​เพิ่งจะ​คุย​กันได​้​ไม่นาน​ ​พอ​ถึง​กลางเดือน​แปด​ผล​การ​สอบ​เซียง​ซื่อ​ก็​ออก​แล้ว​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​สอบ​ได้​อันดับ​ที่สี่

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท