ทว่าในตอนนี้เขากลับได้ยินเสียงแหบพร่าที่ตื่นเต้นระคนโล่งอกจากทางด้านหลัง!
“ซูชี! ซูชี เจ้าคนโง่งม! เจ้าสาวคนนั้นเป็นข้าเสียที่ไหน? ข้าจะสวมชุดแต่งงานกับผู้อื่น นอกจากเจ้าได้อย่างไร? ซูชี เจ้าคนโง่งม! ซูชี เจ้ายังต้องการข้าอยู่หรือไม่!”
เขาพลันร่างแข็งทื่อ ขณะฟังเสียงนี้ด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ
เป็นกูเสี่ยวซูจริงๆ ไม่ผิดแน่…
กูเสี่ยวซู…
หูฝาดหรือ
นางกราบไหว้ฟ้าดินไปแล้วไม่ใช่หรือ
นางควรจะเข้าห้องหอแล้วไม่ใช่หรือ
ซูชีไม่กล้าหันหน้ากลับไป เขาออกแรงแตะปลายเท้าเหินกายไป
หากยังไม่ไป เกรงว่าจะไม่ใช่แค่หูฝาดธรรมดาๆ แล้ว จะกลายเป็นจิตมารก่อกวน จนเกรงว่ายากจะข่มเอาไว้
“ซูชี เจ้าคนสารเลว!”
ด้านหลังมีเสียงโวยวายเบาๆ ลอยมาอีกครั้ง
เสียงด่านั้นคุ้นหูยิ่งนัก!
ซูชีหมุนตัวกลับไปอย่างอดไม่ได้ แม้ว่าจะถูกจิตมารทรมานแทบตาย เขาก็ต้องหันกลับไป
เขาเห็นกูเสี่ยวซูสวมชุดกระโปรงสีฟ้าอ่อนยืนอยู่ตรงนั้นในระยะห้าสิบกว่าเมตร มือนางป้องปาก ตะโกนเสียงดังมายังทิศทางของเขา
“ซูชี! เจ้ายังต้องการข้าอยู่หรือไม่! หากเจ้าไม่ต้องการข้า ข้าก็ทำได้เพียงแค่กลับเมืองหลวงแล้ว รอข้ากลับไปเมืองหลวง ข้าจะไปเป็นแม่ชี…”
ไม่ใช่ภาพหลอน!
ซูชีฝีเท้าชะงัก แล้วล้มลงไปด้วยความเลินเล่อ
หากมีคนบอกว่า ซูชีที่วรยุทธ์แข็งแกร่งจะสะดุดล้มติดต่อกันหลายครั้งภายในหนึ่งวัน ก็ไม่มีใครเชื่อ
แต่นี่เป็นความจริง
กูเสี่ยวซูย่อมเห็นสภาพน่าอับอายของเขา จึงหัวเราะเสียงดังไม่หยุด
ซูชีร่างล้มลงไป แต่ใบหน้ากลับเกลื่อนไปด้วยรอยยิ้ม
ต่อมาก็ทะยานร่างไปยืนอยู่กลางอากาศ ใบหน้าเต็มไปด้วยกลิ่นอายเอ้อระเหยลอยชาย
“ต้องการ! จะไม่ต้องการได้อย่างไร! กูเสี่ยวซู นางปีศาจจิ้งจอก เจ้าวายร้าย หลังจากทรมานหัวใจข้าทีละเล็กทีละน้อยแล้ว ก็ถึงกับคิดจะสะบัดหน้าจากไปโดยไม่รับผิดชอบหรือ ข้าไม่มีทางอนุญาตเด็ดขาด! ข้าจะให้เจ้าได้ลิ้มรสชาติความรู้สึกนี้เช่นกัน!”
ซูชีเหินกายพุ่งไปหาสตรีที่แย้มรอยยิ้มสดใส ชายกระโปรงถูกลมพัดปลิวไสวผู้นั้น
บ่อยครั้งที่ความรักล้วนเริ่มต้นขึ้นในเวลาที่พวกเราไม่ทันรู้ตัว จากนั้นมันก็ค่อยๆ พยายามดิ้นรนออกจากสภาพแวดล้อมอันยากลำบาก บางทีระหว่างนั้นก็ไม่ค่อยรู้สึกหวั่นไหวอะไรนัก หรือจะกล่าวว่าสะท้านฟ้าสะเทือนดินมากขนาดนั้น แต่หลังจากที่มีฝ่ายหนึ่งจากไป เจ้ากลับค้นพบเงียบๆ ว่า ที่แท้…การที่มีนางอยู่ด้วย ทุกอย่างล้วนดีงาม
ซุชีจูงมือกูเสี่ยวซูลงเขาไปด้วยกัน
กูเสี่ยวซูย่อมดีใจ รอยยิ้มบนใบหน้านั้นจะกลั้นก็กลั้นไม่อยู่
กล่าวความจริง เมื่อครู่นี้ นางเตรียมยอมแพ้เรียบร้อยแล้วจริงๆ โดยเฉพาะตอนที่ซูชีกล่าววาจาเหล่านั้นต่อหน้าผู้คนมากมาย นั่นทำให้นางอับอายจนขุ่นเคืองใจแทบตาย
แต่ประโยคสุดท้ายของซูชีกลับทำให้กูเสี่ยวซูรู้สึกเช่นเดียวกับเขาอย่างหาได้ยาก หรือจะเอ่ยได้ว่าสงสาร
ชีวิตหนึ่งของคนเรา มักจะทุ่มเททุกสิ่งเพื่อเรื่องหนึ่งอย่างไม่คิดชีวิตครั้งหนึ่ง ดังนั้นกูเสี่ยวซูจึงไม่ไยดีสิ่งใดอีก
ตอนนั้นนางคิดเรียบร้อยแล้ว สมมติว่านางตามซูชีลงเขามา แต่ซูชีกลับยังคงไม่สนใจนาง เช่นนั้น นางก็ต้องปล่อยมืออย่างแท้จริงแล้ว จากนั้นก็หาสถานที่ที่เงียบสงบแห่งหนึ่ง แล้วใช้ชีวิตเช่นนั้นไปตลอด
แต่โชคดีที่ สวรรค์เมตตานาง
ซูชีจูงมือกูเสี่ยวซูแน่น
หากว่าเป็นแต่ก่อน ซูชีไม่รู้สึกจริงๆ ว่า การมีกูเสี่ยวซูอยู่จะแตกต่างอะไรกับไม่มี กระทั่งในบางครั้งเขาก็คิดว่า ให้กูเสี่ยวซูรีบไปจากตนเองให้ไกลเสีย!
แต่เมื่อเห็นคนที่สวมชุดแต่งงานสีแดงในห้องโถง ยืนอยู่ข้างกายเจ้าบ่าวเงียบๆ หัวใจเขาก็อดไม่ได้ที่จะบีบรัดแน่น!
ความรู้สึกแบบนั้นบอกไม่ถูกว่าเป็นอย่างไร เหมือนกับรู้อยู่แท้ๆ ว่า ของบางสิ่งเป็นของเขา และเขาก็เชื่อมั่นว่ามันเป็นของเขาแน่นอน! มีเพียงเขาต้องการหรือไม่ต้องการ ไม่ใช่นางจะจากไปหรือไม่จากไป
แน่นอนว่า เขาไม่ได้เห็นกูเสี่ยวซูเป็นสิ่งของ เพียงแค่เปรียบเทียบเท่านั้น
แต่เขาที่เต็มไปด้วยความเชื่อมั่นเช่นนี้ในใจกลับเห็นกูเสี่ยวซูสวมชุดแต่งงานเพื่อบุรุษอื่นกับตาตนเอง พริบตาเดียวก็ไปเป็นเจ้าสาวของบุรุษอื่น ตั้งแต่ต้นจนจบนี่ทำให้ซูชีรับไม่ได้!
แต่ตอนนี้ เขาจับมือกูเสี่ยวซูเอาไว้ ทั้งสองคนมุ่งหน้าลงเขาไปด้วยกัน มุมปากของซูชีกลับยกขึ้นอย่างควบคุมไม่อยู่
คล้ายกับว่า ความรู้สึกนี้ก็ไม่เลวเช่นกัน
ไม่ใช่มั่วเชียนเสวี่ย ไม่ใช่สตรีอื่น แต่เป็นกูเสี่ยวซู
ซูชีคิดเช่นนี้ก็รู้สึกว่า สมมติว่าคนผู้นี้เป็นกูเสี่ยวซูล่ะก็ ชีวิตหลังจากนี้จะต้องไม่มีทางซ้ำซากจำเจแน่นอน
หัวใจ เขามี!
ตัดส่วนที่มอบให้มั่วเชียนเสวี่ยไป เขายังมีหัวใจอีกครึ่งดวง แต่แน่ใจแล้วหรือว่าจะมอบให้กูเสี่ยวซู ซูชีไม่กล้ายืนยัน ดังนั้นจึงมอบให้เพียงหนึ่งในสามของครึ่งหนึ่งเท่านั้น
บางที การทำเช่นนี้อาจจะไม่ยุติธรรมกับกูเสี่ยวซูมาก แต่เรื่องของความรู้สึกก็เป็นเช่นนี้ คนหนึ่งยินยอมที่จะตี อีกคนยินยอมถูกตี
ซูชีชอบทำตัวเป็นโจวอวี๋ เช่นนั้นกูเสี่ยวซูก็เต็มใจเป็นหวงไก้[1]อย่างยิ่ง
ซูชีหันหน้าไปเล็กน้อย ก็เห็นกูเสี่ยวซูแสยะยิ้มมุมปาก จากนั้นก็มองมาทางเขาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความขบขัน
“ทำไมหรือ”
ซูชีไม่เข้าใจจริงๆ ว่า เหตุใดกูเสี่ยวซูถึงได้ดีใจขนาดนี้ เพียงแค่ได้รับการยินยอมจากเขา นางก็เป็นได้ถึงขนาดนี้เลยหรือ
ส่วนกูเสี่ยวซูกลับกระชับมือเขาแน่น พลางยิ้มโง่งมให้เขา แล้วส่ายหน้า
“ไม่มีอะไร ข้าแค่รู้สึกมีความสุขมาก มีความสุขมากจริงๆ!”
ใช่แล้ว กูเสี่ยวซูรู้สึกมีความสุขมากจริงๆ
เมื่อก่อนนางอาจจะเพ้อฝันถึงการถูกยอมรับจากซูชี แต่ในภายหลังความคิดเช่นนี้ก็จางลง จางจนถึงขั้นที่นางไม่รู้ว่าตนเองจะสามารถยืนหยัดไหวหรือไม่
แต่ในท้ายที่สุด…ท้ายที่สุดก็ยังคงจบลงด้วยดี!
ท้ายที่สุด นางก็ได้อยู่ด้วยกันกับซูชีแล้ว
กูเสี่ยวซู คนผู้นี้ แม้ว่าจะทุ่มเทให้กับความรักอย่างไม่คิดชีวิต แต่กลับไม่ได้หมายความว่านางเป็นคนโง่ ตรงกันข้าม ในความรักนี้ กูเสี่ยวซูเข้าใจเช่นกันว่า ตนเองครอบครองสัดส่วนพื้นที่ในหัวใจซูชีไม่เต็มห้าสิบส่วน
บางที กระทั่งห้าสิบส่วนก็ไม่ถึง
แต่นางก็อยากจะลองทุ่มโดยไม่คิดชีวิตสักครั้ง!
ภูเขาสองลูกไกลกันมาก ซูชีกับกูเสี่ยวซูเดินเท้ากลับไปยังบ้านของชาวบ้านที่ยืมอาศัยก่อนหน้านี้หลังนั้น
จ้าวเฟยลู่ไม่อยู่ เขาไปตามหาท่านหญิงซูซูอีกแล้ว ส่วนอาจ้าวกลับรอทุกคนกลับมาอยู่ในบ้านตลอด!
อาจ้าวเป็นองครักษ์ลับของซูชี ดังนั้นเขาจึงมีความคิดที่แน่วแน่มาก ขอเพียงแค่คุณชายออกหน้า เช่นนั้นจะต้องตามหาท่านหญิงซูซูกลับมาได้แน่นอน!
เป็นอย่างที่คิดเอาไว้จริงๆ!
อาจ้าวยืนอยู่หน้าบานหน้าต่าง มองเห็นเงาร่างที่เดินเคียงคู่กันใกล้เข้ามาเรื่อยๆ จากที่ไกลๆ คนหนึ่งสวมเสื้อผ้าสีขาว คนหนึ่งสวมชุดกระโปรงสีฟ้าอ่อน
อาจ้าวจ้องมองครู่หนึ่ง แล้วดีใจขึ้นมาทันที!
เขาบอกแล้วว่า ไม่มีเรื่องใดที่ยากเกินความสามารถคุณชายของตนเอง!
อาจ้าวรีบวิ่งออกไป แสดงความเคารพต่อซูชีกับกูเสี่ยวซูด้วยความดีใจ
[1] 周瑜打黄盖โจวอวี๋ออกอุบายเฆี่ยนหวงไก้ คือการที่คนผู้หนึ่งยินยอมกระทำเรื่องที่ตนเองเสียเปรียบเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ต้องการ