รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 664 สามหญิงงามเข้าไปในห้องหลี่จิ่วเต้าพร้อมเพรียง เอนกายลงบนเตียงของหลี่จิ่วเต้า!

บทที่ 664 สามหญิงงามเข้าไปในห้องหลี่จิ่วเต้าพร้อมเพรียง เอนกายลงบนเตียงของหลี่จิ่วเต้า!

บท​ที่​ 664 สามหญิง​งามเข้าไป​ใน​ห้อง​ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​พร้อมเพรียง​ เอนกาย​ลง​บน​เตียง​ของ​ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​!

สีหน้า​จักรพรรดินี​แฝงไว้​ด้วย​หลากหลาย​อารมณ์​ นาง​คิดไม่ถึง​จริง ๆ​ ว่า​ขั้นตอน​ชำแหละ​ง่าย ๆ​ กลับ​สร้าง​ความ​ตะลึง​ให้​นาง​ได้​ใหญ่หลวง​ปานนี้​!

นี่​หรือ​คือ​ชีวิต​ของ​ผู้ชี้ขาด​สูงสุด​

นาง​มิกล้า​จินตนาการ​ต่อ​จริง ๆ​!

“นี่​เป็นเรื่อง​ปกติ​”

ด้าน​ข้าง​ หยวน​อี​บอก​เสียง​เบา​

นาง​รู้ดี​ว่าการ​ได้​เห็นภาพ​การณ์​เช่นนั้น​ครั้งแรก​น่า​ตะลึง​เพียงใด​ เมื่อ​ครั้ง​อดีต​ นาง​เอง​ก็​เป็น​เช่นนี้​

ต่อให้​จักรพรรดินี​มีฐานะ​สูงส่ง แต่​เมื่อ​เจอ​กับ​คุณชาย​ก็​ยัง​ไม่ถึงขั้น​เปรียบ​ได้​

นี่​ก็​คือ​คุณชาย​

ยิ่ง​คน​ที่​เก่งกาจ​เท่าไร​ ยิ่ง​รับรู้​ถึงความ​น่ากลัว​ของ​คุณชาย​…

“เข้าใจ​แล้ว​”

จักรพรรดินี​ตอบ​เสียง​เหนื่อยอ่อน​

นางใน​วันนี้​ต่าง​จาก​นางใน​อดีต​ยิ่งนัก​

นางใน​อดีต​แข็งกร้าว​ไร้​เทียมทาน​ มีชีวิต​ต่อไป​ได้​ชาติ​ภพ​แล้ว​ชาติ​ภพ​เล่า​ เป็น​ตำนาน​เล่าขาน​ของ​ปวงชน​ใน​ใต้​หล้า​!

ต่อมา​ นาง​ฝ่าเข้าไป​ถึงภพ​เซียน​ด้วย​กำลัง​ของ​ตน​ บรรลุ​เป็น​เซียน​ ซ้ำยัง​เป็นที่​ประหวั่นพรั่นพรึง​ของ​หมู่​เซียน​ จ้าว​แห่ง​เซียน​สูงสุด​ยัง​มิกล้า​ต่อสู้​ตัวต่อตัว​กับ​นาง​

แต่​เมื่อ​เจอ​กับ​คุณชาย​ นาง​เสมือน​ผู้ฝึก​ตน​ละอ่อน​เพิ่ง​รู้​ประสา​ พบเห็น​สิ่งใด​ก็​ตื่นตาตื่นใจ​ไป​หมด​ อึ้ง​งัน​ไป​หมด​…

‘ข้า​ก็​จนปัญญา​ คุม​อารมณ์​ไม่อยู่เลย​!’

จักรพรรดินี​เอ่ย​ใน​ใจอย่า​งอด​ไม่ได้​ นาง​คุม​อารมณ์​มิได้​จริง ๆ​ ภาพ​ที่​ได้​เห็น​นั้น​น่าทึ่ง​เกินไป​ เกิน​กว่า​ที่​นาง​คาด​เอาไว้​มาก​

ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​ชำแหละ​ได้​รวดเร็ว​อย่างยิ่ง​ เขา​เป็น​ผู้เชี่ยวชาญ​ด้าน​นี้​ไป​แล้ว​ ต่อให้​เนื้อตัว​สุนัข​ขาว​มโหฬาร​ ก็​มิสู้ความ​ช่ำชอง​ของ​เขา​ เพียง​ไม่นาน​ เขา​ก็​ชำแหละ​สุนัข​ขาว​เสร็จ​

เนื้อ​เยอะ​เกินไป​ มื้อ​เดียว​กิน​ไม่หมด​แน่นอน​ โดยเฉพาะ​ครั้งนี้​ยัง​เลือก​กิน​เป็น​หม้อไฟ​ ยิ่ง​ไม่อาจ​กิน​เนื้อ​ได้​มาก​ขนาด​นั้น​เป็นแน่​

เขา​บอก​ให้​ลั่วสุ่ย​นำ​เนื้อ​สุนัข​ส่วนใหญ่​ไป​เก็บ​ใน​ตู้เย็น​ เหลือ​เนื้อ​สุนัข​ไว้​เพียง​ส่วน​เล็ก​แล้ว​เริ่ม​การ​ตุ๋น​เป็น​แกง​หม้อไฟ​

ผ่าน​ไป​ไม่นาน​ กลิ่นหอม​ของ​เนื้อ​สุนัข​โชยชาย​ออกมา​ พวก​อ้าย​ฉาน​น้ำลายสอ​กัน​ถ้วนหน้า​ ต้าเต๋อ​ท่อง​พระนาม​ ‘อา​มิตา​พุทธ​’ ไม่หยุด​ เพื่อ​ระงับ​น้ำลาย​ของ​เขา​ที่​ไหล​ออกมา​

น่าเสียดาย​ เขา​ระงับ​ไม่อยู่เลย​สักนิด​ น้ำลายไหล​ย้อย​หยด​ไป​ทั่ว​ตัว​

“หอม​ปานนี้​เชียว​?”

จักรพรรดินี​ก็​กลั้น​มิไหว​ น้ำ​วาววาม​ไหล​ออกจาก​มุมปาก​

เดิม​นาง​คิด​ว่าที่​หยวน​อี​ตั้งตารอ​การ​กิน​หม้อไฟ​เป็น​เพราะ​เนื้อ​สุนัข​ที่ว่า​ คือ​เนื้อ​สุนัข​ระดับ​จักรพรรดิ​เซียน​ ได้​กิน​แล้ว​จัก​ได้รับ​วาสนา​การเปลี่ยนแปลง​สูงส่ง

แต่​บัดนี้​นาง​เข้าใจ​แล้ว​อย่าง​ถ่องแท้​ เหตุผล​ที่​หยวน​อี​ตั้งตารอ​มิใช่เพียง​เพราะ​นั่น​เป็น​เนื้อ​สุนัข​ระดับ​จักรพรรดิ​เซียน​ หาก​แต่​เป็น​เพราะ​หม้อไฟ​เนื้อ​สุนัข​อร่อย​อย่างยิ่งยวด​!

“ตอนนี้​ข้า​อยาก​กลับ​ไป​แล้ว​ ทรมาน​เหลือเกิน​…”

อีก​ด้าน​ ก้อนหิน​ร่ำไห้​ซมซาน​ใน​ใจ

ที่ว่า​ได้​ออกมา​กับ​คุณชาย​นั้น​ยอดเยี่ยม​ทุกอย่าง​ มีเพียง​อย่าง​เดียว​ที่​ไม่ดี​

นั่น​คือ​อาหาร​ของ​คุณชาย​หอมกรุ่น​เกินไป​!

ทุกครั้งที่​ถึงเวลา​กินข้าว​ มัน​มัก​อยาก​กิน​จน​ทน​แทบ​ไม่ไหว​ อยาก​เข้าไป​กัด​สัก​หนึ่ง​คำ​น้อย​ ๆ

อนิจจา​ มัน​เป็น​เพียง​หิน​ก้อน​หนึ่ง​ จะมีส่วน​สำหรับ​มัน​ที่ไหน​

แต่ละครั้ง​มัน​ต่าง​ต้อง​อดกลั้น​ด้วย​ความทุกข์​ทน​

ระยะ​หนึ่ง​ผ่าน​ไป​ เนื้อ​สุนัข​ตุ๋น​เสร็จ​แล้ว​ ด้าน​ลั่วสุ่ย​ก็​ล้าง​ผักสด​ต่าง ๆ​ ไว้​แล้ว​เรียบร้อย​ สีหน้า​จักรพรรดินี​เปลี่ยนไป​อีกครั้ง​ พวกเขา​จะกิน​ผัก​เช่นนี้​หรือ​

ต่อให้​นำ​โอสถ​เซียน​ล้ำค่า​ที่สุด​ใน​ตระกูล​เซียว​ออกมา​ ก็​มิอาจ​เทียบ​ได้​กับ​ใบ​เพียง​หนึ่ง​ใบ​ของ​ผัก​เหล่านี้​!

นี่​หรือ​คือ​ชีวิต​สมถะไม่ฟุ่มเฟือย​ของ​ผู้ชี้ขาด​สูงส่ง

นาง​ไม่รู้​จริง ๆ​ ว่า​ควร​เอื้อนเอ่ย​ด้วย​คำ​ใด​

หม้อไฟ​ร้อน​กรุ่น​เช่นนี้​ย่อม​ต้อง​กิน​คู่​กับ​สุรา​ ประกอบ​กับ​ได้​พบ​ผู้​เปี่ยม​ความสามารถ​อย่าง​จักรพรรดินี​ ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​ตั้งใจ​จะดื่ม​ให้​หนำใจ​

“ดื่ม​สุรา​หรือไม่​” เขา​ถามจักรพรรดินี​

“ดื่ม​” จักรพรรดินี​พยักหน้า​ตอบ​

ที่​นาง​เอ่ย​ไป​นั้น​คือ​ความจริง​ ใน​อดีต​ นาง​ดื่ม​สุรา​อยู่​บ่อย ๆ​ เพราะ​เหงา​

นับแต่​ท่าน​อาจารย์​ตาย​ไป​ นาง​ก็​เหลือ​ตัว​คนเดียว​ มีชีวิต​อยู่​ต่อไป​ภพ​ชาติ​แล้ว​ภพ​ชาติ​เล่า​แล้ว​อย่างไร​ นาง​ก็​ยังมี​แต่​ตัวเอง​เท่านั้น​

ข้าง​กาย​นาง​จึงมีสุรา​เพิ่ม​เข้ามา​

และ​หลังจาก​นาง​ได้​เข้าไป​ใน​ภพ​เซียน​ ก็​ยิ่ง​เป็น​เช่นนี้​ ความเหงา​นั้น​ทวีคูณ​

นาง​ดื่ม​สุรา​บ่อย​ขึ้น​เรื่อย ๆ​

มีเพียง​ยาม​เมา จึงจะเป็น​ช่วงเวลา​ที่​นาง​ผ่อนคลาย​ที่สุด​

“ดี​”

ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​ริน​สุรา​จอก​หนึ่ง​ให้​จักรพรรดินี​ และ​ริน​สุรา​จอก​หนึ่ง​ให้​ตนเอง​ ก่อน​จะร่วม​ดื่ม​กับ​จักรพรรดินี​

ดื่ม​สุรา​เป็น​หรือไม่​ เขา​มองออก​ใน​ปราด​เดียว​ จักรพรรดินี​ดื่ม​สุรา​เป็น​จริง ๆ​ เหล้า​ทั้ง​จอก​ดื่ม​ลง​ไป​รวดเดียว​อย่างนั้น​ ไม่มีหน้าแดง​ด้วยซ้ำ​

“ใช้ได้​!”

เขา​คลี่​ยิ้ม​ ดื่ม​กับ​จักรพรรดินี​อีก​จอก​

ความเมา​ทำให้​เสีย​เรื่อง​ ซ้ำข้าง​กาย​ยังมี​หญิง​งามอยู่​มากมาย​เพียงนี้​ ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​จดจำ​ข้อ​นี้​ไว้​แม่น​ แม้จะตั้งใจ​ดื่ม​ให้​หนำใจ​ กระนั้น​ก็​ยังมี​ขอบเขต​อยู่​

หาก​ดื่ม​จน​เมาจริง ๆ​ ไม่แน่​ว่า​จะเกิดเรื่อง​อัน​ใด​ขึ้น​บ้าง​!

เขา​มิกล้า​ดื่ม​จน​เมาไม่ได้สติ​อีก​

หม้อไฟ​มื้อ​นี้​กินกัน​อย่าง​สำราญ​ พวก​ต้าเต๋อ​ อ้าย​ฉาน​ ต่าง​กิน​จน​ปาก​มัน​แผล่บ​ จักรพรรดินี​ก็​กิน​อย่าง​ไม่สน​ภาพพจน์​ ช่วยไม่ได้​ ผู้ใด​ใช้ให้​หม้อไฟ​อร่อย​ปานนี้​!

นอกจากนี้​ นาง​ยัง​สัมผัส​ได้​ว่า​พลัง​ด้าน​ต่าง ๆ​ ใน​กาย​นาง​ยกระดับ​ขึ้น​ มีพลัง​มหาศาล​ลงท้อง​ไป​พร้อมกับ​เนื้อ​สุนัข​ เข้าไป​ใน​ตัวนาง​

นี่​มัน​พลัง​กระไร​?

นาง​สะท้าน​ใจ พลัง​นี้​เหนือกว่า​พลัง​เซียน​ไป​มาก​ นาง​ไม่คลางแคลง​เลย​ว่า​ หาก​นาง​หลอมละลาย​พลัง​ทั้งหมด​ใน​ร่าง​ได้​ นาง​จะบรรลุ​เป็น​จักรพรรดิ​เซียน​ได้​ง่ายดาย​!

จักรพรรดิ​เซียน​เชียว​นะ​!

เป็น​ขั้นสูงสุด​ใน​ขอบเขต​เซียน​ ภพ​เซียน​ไม่ถูก​กาลเวลา​แทรกแซง​ สิ่งมีชีวิต​สามารถ​ดำรง​ต่อไป​ได้​เรื่อย ๆ​ แต่​แม้จะเป็น​เช่นนั้น​ ก็​มิมีสิ่งมีชีวิต​ที่​บรรลุ​ถึงขั้น​จักรพรรดิ​เซียน​ได้​มากมาย​นัก​

และ​นาง​กิน​หม้อไฟ​ไป​เพียง​มื้อ​เดียว​เท่านั้น​ ก็​มองเห็น​เส้นทาง​บรรลุ​สู่จักรพรรดิ​เซียน​แล้ว​ จะให้​บรรยาย​ความ​สะท้าน​ใจนี้​ออกมา​เป็น​วาจา​ได้​อย่างไร​!

อย่าง​ที่​คิด​ เมื่อ​อยู่​เบื้องหน้า​ผู้​ชี้ชะตา​เยี่ยง​นี้​ ขอบเขต​พลัง​อะไร​นั่น​เป็น​เพียง​สิ่งกลวง​ ๆ หา​ได้​มีความสลักสำคัญ​

อีก​ด้าน​ ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​เห็น​จักรพรรดินี​สวาปาม​อย่าง​ ‘บ้าคลั่ง​’ แล้ว​ อด​สะท้อนใจ​มิได้​

ผู้ฝึก​ตน​ก็​ใช่ว่า​จะดี​ไป​เสีย​ทุกอย่าง​ รู้​แต่​เรื่อง​บำเพ็ญ​ จน​ขาด​ความบันเทิง​ไป​ตั้ง​มากมาย​

หาก​มิใช่เช่นนั้น​ เหตุใด​ผู้ฝึก​ตน​ซึ่งประสบความสำเร็จ​อย่าง​จักรพรรดินี​ถึงยัง​สวาปาม​อย่าง​ ‘บ้าคลั่ง​’ เพียงนี้​ เห็นได้ชัด​ว่า​ก่อนหน้านี้​จักรพรรดินี​มัวแต่​ตรากตรำ​ฝึกฝน​ มิได้​กิน​ของ​อร่อย​เท่าใด​

ยัง​ดี​ที่​เขา​เหลือ​เนื้อ​สุนัข​อยู่​ไม่น้อย​ ต่อให้​จักรพรรดินี​กิน​เก่ง​ปานใด​ก็​พอ​

อาหาร​มื้อ​นี้​กินกัน​อย่าง​มีความสุข​ ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​ตั้งใจ​คุม​ปริมาณ​สุรา​ที่​กิน​ ทว่า​ท้ายที่สุด​ก็​คุม​ไม่อยู่​

การ​ดื่ม​สุรา​นั้น​มิอาจ​ควบคุม​ได้​ ประโยค​นี้​มิใช่แค่​พูด​ไป​อย่างนั้น​จริง ๆ​!

“ข้า​กลับ​ไป​นอน​ก่อน​! พวก​เจ้ากินกัน​เถิด​!”

ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​เริ่ม​รู้สึก​ถึงความเมา​ กลัว​จะเข้า​ห้อง​ผู้อื่น​ผิด​เหมือน​คราวก่อน​ เขา​มิกล้า​ดื่ม​ต่อ​ รีบ​กลับ​ไป​ที่​รถลาก​ เข้าไป​ใน​ห้อง​ของ​ตน​

เขา​ยัง​ตั้งใจ​ตรวจสอบ​ให้​แน่ใจ​ว่า​เป็น​ห้อง​ของ​เขา​จริง ๆ​ เขา​ถึงเอนกาย​หลับ​บน​เตียง​

อนิจจา​ ตัว​เขา​มีสติ​รู้ตัว​ ทว่า​ผู้อื่น​ไม่!

ลั่วสุ่ย​กลับมา​เป็น​คน​แรก​ นาง​สะลึมสะลือ​เข้าไป​ใน​ห้อง​ของ​คุณชาย​ ล้ม​หัว​คะมำ​ลง​บน​เตียง​ของ​คุณชาย​ แล้ว​ขดตัว​อยู่​ใน​อ้อม​อก​คุณชาย​ ทั้ง​ยัง​นอน​หนุน​แขน​คุณชาย​อีกด้วย​

จากนั้น​ นาง​คลี่​ยิ้ม​อ่อนหวาน​ออกมา​ หลับ​ไป​เสีย​สนิท​

“ลั่วสุ่ย​ เจ้ารอ​ก่อน​…ข้า​มีเรื่อง​ต้อง​พูด​กับ​เจ้า!”

เซี่ยเหยียน​ตาม​ไป​ติด ๆ​ กลัว​ว่า​ลั่วสุ่ย​จะลอบ​เข้า​ห้อง​คุณชาย​เหมือน​คราวก่อน​ จึงรีบร้อน​ไล่ตาม​เข้ามา​

ลั่วสุ่ย​เข้า​มาถึงห้อง​คุณชาย​ได้​ไม่ทัน​ไร​ นาง​ก็ตาม​มาถึง

“เจ้าเข้ามา​จริง ๆ​ ด้วย​!”

เซี่ยเหยียน​เอ่ย​เสียง​ขุ่นเคือง​ คิด​อยาก​ลาก​ลั่วสุ่ย​ขึ้น​มา ทว่า​นาง​เมาเกินไป​ ไม่ทัน​ได้​ออกแรง​ดึง​ลั่วสุ่ย​ ก็​ล้ม​ลง​บน​เตียง​ของ​คุณชาย​เสีย​ก่อน​

จากนั้น​ นาง​ก็​ผล็อย​หลับ​ไป​

“พวก​เจ้าสอง​คน​อย่า​ได้​ตี​กัน​อีก​!”

ห​ลิง​อิน​เข้ามา​ถึง กลัว​เหลือเกิน​ว่า​เซี่ยเหยียน​และ​ลั่วสุ่ย​ผู้​เมามาย​จะทะเลาะ​กัน​อีก​ นาง​จึงตาม​เข้ามา​ใน​ห้อง​ของ​คุณชาย​ด้วย​

ทว่า​ทันทีที่​นาง​เข้ามา​ใน​ห้อง​คุณชาย​ ก็​ล้ม​ตัว​ลง​บน​เตียง​คุณชาย​ทันที​

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท