รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 666 เขียนภาพอักษรให้เจ้า เก็บไว้เป็นที่ระลึก!

บทที่ 666 เขียนภาพอักษรให้เจ้า เก็บไว้เป็นที่ระลึก!

บท​ที่​ 666 เขียน​ภาพ​อักษร​ให้​เจ้า เก็บ​ไว้​เป็น​ที่ระลึก​!

‘ผู้ใด​เล่า​จะเข้าใจ​ความเจ็บปวด​ของ​ข้า​…’

ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​ครวญคราง​ใน​ใจ เขา​ช่างอนาถ​เหลือเกิน​ ขยับเขยื้อน​ก็​มิได้​ ทุกอย่าง​ใน​การ​มองเห็น​ล้วน​เป็นความ​วาบหวาม​ มือ​แตะ​ไป​ที่ไหน​ก็​เป็น​ความนุ่มนวล​ เร้าอารมณ์​จน​ทน​แทบ​ไม่ไหว​

ยัง​ดี​ ‘ความเจ็บปวด​’ นี้​มิได้​ดำเนินต่อไป​นาน​นัก​ ผ่าน​ไป​ไม่เท่าไร​ พวก​ลั่วสุ่ย​ก็​ตื่น​

“ระยำ​จริง​ เหมือนว่า​เมื่อคืน​มีคน​ถีบ​ข้า​อยู่​ตลอด​ จน​ข้า​หลับ​ไม่สบาย​เลย​ทั้งคืน​!”

ลั่วสุ่ย​ตื่น​เป็น​คน​แรก​ เอ่ย​เสียง​เคียดแค้น​

“เจ้าก็​รู้สึก​อย่างนั้น​หรือ​ ข้า​เอง​ก็​ด้วย​!”

เซี่ยเหยียน​ตื่น​ตามมา​ทีหลัง​ เมื่อ​ได้ยิน​วาจา​ของ​ลั่วสุ่ย​ ก็​รับคำ​ตาม​สัญชาตญาณ​

“พวก​เจ้ายัง​ดี​ เมื่อคืน​ข้า​รู้สึก​เหมือน​อยู่​ใน​สนามรบ​ เข้า​สู้กับ​ฝ่าย​ศัตรู​ที่​มีจำนวน​มากกว่า​เพียงลำพัง​!”

ห​ลิง​อิน​ตื่น​แล้ว​เช่นกัน​ เอ่ย​ไป​อย่าง​ไม่คิด​อัน​ใด​

เวลา​นั้น​เอง​ พวก​นาง​ได้สติ​กัน​ถ้วนหน้า​ สีหน้า​ประหลาด​ไม่แพ้​กัน​

เหตุใด​พวก​นาง​ถึงมาอยู่​ด้วยกัน​ได้​?!

ที่นี่​คือ​…ห้อง​ของ​คุณชาย​!

พวก​นาง​อยู่​บน​เตียง​ของ​คุณชาย​!

ชั่วพริบตา​นั้น​ พวก​นาง​ต่าง​กระโดด​ลง​จาก​เตียง​ของ​คุณชาย​ พอ​คิดตก​แล้ว​ว่า​เรื่อง​เป็นมา​อย่างไร​ ต้อง​เป็น​เพราะ​เมื่อคืน​พวก​นาง​เมากัน​หมด​แน่​!

“เรื่อง​ความ​คอแข็ง​ พวก​เจ้าล้วน​ไม่ได้เรื่อง​ จากนี้ไป​ต้อง​ฝึกฝน​ให้​ดี​ อย่า​ให้​เกิดเรื่อง​เช่นนี้​อีก​!”

ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​เอ่ย​อย่าง​หวังดี​ “ข้า​จะฝึก​พวก​เจ้าโดย​เน้นย้ำ​เรื่อง​นี้​เป็นหลัก​!”

เขา​ต้อง​ฝึก​คอ​สุรา​ของ​พวก​ลั่วสุ่ย​จริงจัง​แล้ว​ ขืน​เป็น​เช่นนี้​ต่อไป​คง​มิไหว​ เกิดเรื่อง​ได้​ง่าย​ยิ่ง​

เขา​ไม่อยาก​เลือก​ครอง​คู่​กับ​อีก​ฝ่าย​ด้วย​การกระทำ​ที่​เป็นไป​อย่าง​มึนงง​เช่นนี้​ นี่​มิใช่ความ​ตั้งใจจริง​ของ​เขา​ เขา​หวัง​ว่า​ความรัก​ของ​เขา​ในอนาคต​จะเป็นไป​อย่าง​บริสุทธิ์​ ไม่มีปัจจัย​อื่น​เกี่ยวข้อง​ …เป็นไป​อย่าง​ไร้​มลทิน​!

“เข้าใจ​แล้ว​!”

“ต้อง​ฝึก​ ต้อง​ฝึก​!”

พวก​ลั่วสุ่ย​พา​กัน​พยักหน้า​ตอบรับ​ ก่อน​จะรีบ​เผ่น​ออกจาก​ห้อง​ของ​คุณชาย​ น่าอาย​…ชะมัด​!

ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​ลุกขึ้น​ นึกในใจ​ไป​ว่า​ยัง​ดี​ที่​เขา​ร่างกาย​แข็งแรง​ โดน​พวก​ห​ลิง​อิน​สามคน​ทับ​ทั้งคืน​ยัง​ไม่เป็นอัน​ใด​ ถ้าร่างกาย​อ่อนแอ​กว่า​นี้​ น่ากลัว​ว่า​คง​ลง​จาก​เตียง​ไม่ไหว​

เขา​ลง​จาก​รถลาก​ เห็น​พวก​จักรพรรดินี​ยัง​นอน​กัน​อยู่​ นึกในใจ​ว่า​ยัง​ดี​ที่​พวก​จักรพรรดินี​เมาหลับ​อยู่​ที่นี่​ มิได้​ขึ้นไป​บน​รถลาก​ มิฉะนั้น​ พวก​จักรพรรดินี​ก็​อาจ​เข้า​ห้อง​เขา​ผิด​ไป​ด้วย​

หาก​เป็น​เช่นนั้น​จะยิ่ง​กระอักกระอ่วน​ไป​กัน​ใหญ่​

เขา​ล้างหน้า​ ต่อย​มวย​ไทเก๊ก​ไป​หนึ่ง​ชุด​ เพื่อ​สงบ​จิตใจ​อัน​ฟุ้งซ่าน​

ผ่าน​ไป​ไม่นาน​ พวก​จักรพรรดินี​ก็​ทยอย​ตื่นขึ้น​

ส่วน​หยวน​อี​และ​อัน​หลาน​เสวี่ย​มิได้​นอน​เลย​ รถลาก​เสียงดัง​เช่นนี้​ ซ้ำยัง​ดำเนิน​ต่อเนื่อง​ตลอดคืน​ จะให้​พวก​นาง​หลับ​ลง​ได้​อย่างไร​

ทว่า​เพื่อ​มิให้​อึดอัด​ พวก​นาง​จึงแกล้ง​หลับ​อยู่​ตลอด​ เห็น​พวก​จักรพรรดินี​ทยอย​ตื่นขึ้น​มาแล้ว​ พวก​นาง​ถึงลืมตา​ แสร้ง​ทำเป็น​เพิ่ง​ตื่น​

ลั่วสุ่ย​ ห​ลิง​อิน​ เซี่ยเหยียน​ก็​สงบจิตสงบใจ​ลง​ ต่าง​เลือก​ที่จะ​ ‘ลืมเลือน​’ เรื่อง​เมื่อคืน​อย่าง​ใจตรงกัน​ แกล้ง​ทำเป็น​ไม่มีอัน​ใด​เกิดขึ้น​

หลัง​กิน​อาหารเช้า​กัน​อย่าง​เรียบง่าย​แล้ว​ ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​ก็​สนทนา​กับ​จักรพรรดินี​

เขา​ชื่นชม​ความสามารถ​ของ​จักรพรรดินี​จริง ๆ​ ทั้ง​ยัง​รู้สึก​นับถือ​อีกด้วย​

ผู้ฝึก​ตน​ล้วน​วุ่นวาย​อยู่​กับ​การ​บำเพ็ญ​ ยก​เรื่อง​ฝึก​ตน​เป็น​เรื่องสำคัญ​อันดับ​หนึ่ง​ สมาธิจดจ่อ​อยู่​แต่​กับ​การ​ฝึก​ตน​เท่านั้น​ ทว่า​จักรพรรดินี​กลับ​มีความสามารถ​สูงเยี่ยง​นี้​ ไม่ง่าย​เลย​จริง ๆ​

ไม่ต้อง​คิด​ให้​มากความ​เขา​ก็​รู้​ว่า​จักรพรรดินี​ทุ่มเท​แรงกาย​แรงใจ​ใน​ด้าน​นี้​ไม่น้อย​ หาก​มิได้​ทุ่มเท​ จักรพรรดินี​ไม่มีทาง​เปี่ยม​ความสามารถ​ถึงเพียงนี้​

“ท่าน​มีความเสียใจ​อัน​ใด​หรือไม่​”

ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​ถามจักรพรรดินี​

ผลงาน​ของ​จักรพรรดินี​ต่าง​แฝงไว้​ด้วย​ความเสียใจ​อัน​ใหญ่หลวง​ แม้ว่า​ความเสียใจ​นี้​มิได้​ส่งผลกระทบ​ต่อ​ความงาม​ของ​ผลงาน​ ซ้ำยัง​ช่วย​ยกระดับ​ผลงาน​ได้​อีกด้วย​

กระนั้น​ เขา​ยัง​รู้สึก​ว่า​หาก​มนุษย์​เรา​เอาแต่​ใช้ชีวิต​ไป​ด้วย​ความเสียใจ​ไม่ดีเท่าไร​ ควร​ต้อง​มอง​ไป​ข้างหน้า​ ก้าว​ออก​มาจาก​ความเสียใจ​

ไม่ว่า​เรื่อง​ใด​ก็​ไม่อาจ​ปิดบัง​คุณชาย​เลย​จริง ๆ​!

จักรพรรดินี​คิดในใจ​ จากนั้น​ นาง​เอ่ย​ขึ้น​ “ข้า​มีความเสียใจ​อยู่​จริง ๆ​ ผู้​ที่​สำคัญ​ต่อ​ข้า​อย่างยิ่งยวด​ ช่วย​เปิดทาง​ให้​ข้า​ เลือก​สละ​ชีพ​ของ​ตนเอง​…”

นาง​กล่าวถึง​อาจารย์​ของ​นาง​

นี่​คือ​เรื่อง​ที่​นาง​เสียใจ​ที่สุด​

เพื่อให้​นาง​ได้​เห็น​เส้นทาง​ซึ่งเหนือกว่า​เทียน​ตี้​ อาจารย์​ของ​นาง​สละ​ชีวิต​ แย่งชิง​วาสนา​การเปลี่ยนแปลง​มาให้​นาง​ได้​เสี้ยว​หนึ่ง​ ที่​นาง​มีความสำเร็จ​เฉกเช่น​ตอนนี้​ ล้วน​เกี่ยวข้อง​กับ​วาสนา​นั้น​

หาก​ปราศจาก​วาสนา​เสี้ยว​นี้​ นาง​ย่อม​ไม่มีทางได้​เป็น​เซียน​ และ​ไม่มีทางได้​เข้าไป​ใน​ภพ​เซียน​

ที่​นาง​พยายาม​ฝึกฝน​ก็​เพื่อ​ชดเชย​ความเสียใจ​นี้​ นาง​ต้องการ​บำเพ็ญ​ถึงขอบเขต​ที่สูง​ขึ้น​ ให้​อาจารย์​ของ​นาง​สามารถ​คืนชีพ​ขึ้น​มา

เป็น​เช่นนี้​นี่เอง​

ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​ถอนหายใจ​ ที่จริง​เขา​เดา​ได้​นาน​แล้ว​ว่า​ ความเสียใจ​ใน​ผลงาน​ของ​จักรพรรดินี​มาจาก​ความคิด​คะนึง​ เป็น​ความเสียใจ​อัน​เกิด​จาก​ความคิดถึง​ต่อ​บุคคล​ผู้ใกล้ชิด​ที่สุด​

จาก​ถ้อยคำ​ของ​จักรพรรดินี​ เขา​สัมผัส​ได้​ว่า​จักรพรรดินี​ยัง​ไม่สามารถ​ก้าว​ออกจาก​ความเสียใจ​เช่นนี้​ได้​

“เจ้าควร​ต้อง​มอง​ตรง​ไป​ข้างหน้า​ ไม่ควร​จมดิ่ง​อยู่​ใน​ความเจ็บปวด​เมื่อ​ครั้ง​อดีต​ ทำ​เช่นนั้น​รังแต่​จะเพิ่ม​ความทุกข์​ให้​ตนเอง​ ข้า​เชื่อ​ว่า​ผู้​ที่​ตาย​ไป​แล้วก็​ไม่ต้องการ​เห็น​เจ้าทรมาน​อยู่​อย่างนี้​”

ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​ปลอบ​จักรพรรดินี​

สิ่งที่​เขา​ทำได้​นั้น​มีจำกัด​

จักรพรรดินี​คือ​ผู้ฝึก​ตน​ซึ่งบำเพ็ญ​จน​เหนือ​ชั้น​ อยู่​มาอย่าง​ยาวนาน​ กระนั้น​ยัง​มิอาจ​ก้าว​ออกจาก​ความ​เศร้าโศก​เสียใจ​นี้​ได้​ ใช่ว่า​ไม่กี่​ประโยค​ของ​เขา​จะช่วย​ให้​จักรพรรดินี​ก้าว​พ้น​ความเจ็บปวด​

“ขอบคุณ​คุณชาย​ที่​ชี้แนะ​!”

จักรพรรดินี​พยักหน้า​ตอบรับ​ ทว่า​ก้าว​ออกมา​ได้​ง่าย ๆ​ ที่ไหน​ ใน​ใจของ​นาง​ก็​ยัง​คิด​คะนึง​ถึงอาจารย์​ของ​นาง​ อยาก​ชุบชีวิต​ให้​อาจารย์​ของ​นาง​

นาง​อยาก​ขอร้อง​ให้​คุณชาย​ช่วย​คืนชีพ​ให้​อาจารย์​ของ​นาง​ ด้วย​ความสามารถ​และ​ฝีมือ​ของ​คุณชาย​ คง​คืนชีพ​อาจารย์​ของ​นาง​ได้​กระมัง​?

แต่​นาง​ไฉน​เลย​จะกล้า​ไป​ขอร้อง​คุณชาย​

คุณชาย​ช่วย​นาง​ไว้​ถึงสอง​ครา​ไม่พอ​ ยัง​ให้​นาง​ได้​กิน​หม้อไฟ​ ประทาน​วาสนา​การเปลี่ยนแปลง​แก่​นาง​ ขืน​นาง​ยัง​ไป​ขอร้อง​คุณชาย​อีก​ คง​ไม่รู้จัก​แยกแยะ​เกินไป​แล้ว​

รู้​หรือไม่​ คุณชาย​มิได้​ติดค้าง​นาง​แต่อย่างใด​

“ฮ่า ๆ ได้​กระถางดอกไม้​จาก​เจ้ามาจำนวน​หนึ่ง​ ข้า​คง​มิอาจ​รับ​ไว้​เฉย ๆ​”

ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​คลี่​ยิ้ม​ “ข้า​ไม่มีสิ่งใด​เป็น​ของกำนัล​ตอบแทน​ เอา​อย่างนี้​ ข้า​จะมอบ​สมบัติ​ทั้ง​สี่แห่ง​ห้อง​อักษร​ที่​ข้า​รังสรรค์​ขึ้น​ด้วยตัวเอง​แก่​เจ้า เป็น​ของ​ตอบแทน​ก็แล้วกัน​”

ออกจาก​บ้าน​คราวนี้​ เขา​พก​สมบัติ​ทั้ง​สี่แห่ง​ห้อง​อักษร​มาทั้งหมด​สอง​ชุด​ด้วยกัน​

หนึ่ง​ชุด​เป็น​สมบัติ​ทั้ง​สี่แห่ง​ห้อง​อักษร​ที่​ระบบ​ตกรางวัล​ให้​

อีก​ชุด​เป็น​สมบัติ​ทั้ง​สี่แห่ง​ห้อง​อักษร​ที่​เขา​รังสรรค์​ขึ้น​เอง​และ​ใช้อยู่​บ่อย ๆ​

สมบัติ​ทั้ง​สี่แห่ง​ห้อง​อักษร​ที่​ระบบ​ตกรางวัล​ให้​นั้น​ เป็น​ของดี​ใน​ของดี​ ปกติ​แล้ว​เขา​ทำใจ​นำ​ออกมา​ใช้มิได้​ ใช้เพียง​สมบัติ​ทั้ง​สี่แห่ง​ห้อง​อักษร​ซึ่งเป็น​ฝีมือ​ของ​เขา​เอง​ทั้งนั้น​

ที่​ครั้งนี้​เขา​นำ​สมบัติ​ทั้ง​สี่แห่ง​ห้อง​อักษร​ที่​ระบบ​ตกรางวัล​ให้​ออกมา​ด้วย​ เพราะ​คิด​ว่า​หาก​ได้​พบ​ทัศนียภาพ​งดงาม​ จะได้​ใช้เมื่อ​มีอารมณ์​สุนทรีย์​

ถึงอย่างไร​ รอบ​นี้​เขา​ก็​ต้อง​ออกจาก​บ้าน​เป็นเวลา​นาน​ ไม่แน่​เขา​อาจ​อยาก​ใช้สมบัติ​ทั้ง​สี่แห่ง​ห้อง​อักษร​ที่​เป็น​รางวัล​จาก​ระบบ​

ทว่า​ จวบ​จนบัดนี้​ เขา​ยัง​ไม่เคย​ได้​ใช้สักครั้ง​

ชายหนุ่ม​บอก​ให้​ลั่วสุ่ย​ไป​นำ​สมบัติ​ทั้ง​สี่แห่ง​ห้อง​อักษร​ชุด​ที่​เขา​ทำ​ขึ้น​เอง​จาก​รถม้า​มา

“ฮ่า ๆ ทั้ง​ท่าน​ทั้ง​ข้า​ ต่าง​เป็น​ผู้​ชื่นชอบ​ฝีมือ​พู่กัน​ ลาย​น้ำหมึก​ ข้า​ขอ​ถือวิสาสะ​เขียน​ภาพ​อักษร​ให้​ท่าน​ ถือเป็น​ของ​ให้​ระลึก​ถึงกัน​”

ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​ให้​ลั่วสุ่​ยวา​งสมบัติ​ทั้ง​สี่แห่ง​ห้อง​อักษร​บน​โต๊ะ​ พร้อม​กล่าว​ต่อ​จักรพรรดินี​

“คุณชาย​ถ่อมตัว​เกินไป​แล้ว​ ได้รับ​ภาพ​อักษร​ฝีมือ​ท่าน​ นับ​เป็น​บุญวาสนา​ที่​ข้า​สั่งสมมาหลาย​ชาติ​! ไฉน​เลย​ต้อง​เอ่ย​ว่า​ถือวิสาสะ​ ข้า​รับ​มิไหว​”

จักรพรรดินี​เอ่ย​อย่าง​นอบน้อม​

วาจา​เหล่านี้​ล้วน​กลั่น​ออกจาก​ใจจริง​ของ​นาง​

คุณชาย​เป็น​คน​ระดับ​ไหน​ เขียน​อักษร​มอบให้​นาง​ได้​นับ​เป็น​เกียรติยศ​สูงสุด​ของ​นาง​อย่าง​แท้จริง​!

ลั่วสุ่ยฝน​หมึก​ให้​คุณชาย​อย่าง​ว่านอนสอนง่าย​ ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​คลี่​กระดาษ​เซวียน​ออก​ ขบคิด​อยู่​ว่า​เขียน​ตัวอักษร​ใด​ให้​จักรพรรดินี​ดี​

รู้​แล้ว​!

เขา​คลี่​ยิ้ม​ออกมา​ นึกได้​แล้ว​ว่า​จะเขียน​อักษร​ตัว​ใด​ให้​จักรพรรดินี​

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท