GGS:บทที่ 1003 เชิญเลย…ตามสบาย…
โพสต์ของซูจิ้งนั้นได้แสดงให้เห็นถึงความจริงใจเพื่อที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง แต่นี่กลับทำให้เหล่าผู้คนที่คอยสนับสนุนเขาอย่างหมดหัวใจเป็นกังวลว่าเคล็ดลับการทำอาหารของเขาจะหลุดรอดออกไป
และพยายามจะบอกให้เขาอย่าเพิ่งวู่วาม ไม่อย่างนั้นจะเป็นการเสียรู้ให้พวกเลวชาติอย่างไม่จำเป็น แต่ถึงจะห้ามปรามยังไง ซูจิ้งก็ยังไม่คิดที่จะเปลี่ยนแผนอยู่ดี
“ซูจิ้งโพสต์ในไมโครบลอกไว้ว่าจะสตรีมการทำอาหารจริงๆเหรอ”
“ฮ่าฮ่า ฉันต้องไปดูอย่างแน่นอนและต้องอัดวิดีโอวิธีการทำเอาไว้ให้ได้ ต่อให้ฉันไม่ได้เปิดร้านอาหารเพื่อทำเงินก็เอาไว้ทำกินเองก็ยังดี อย่างเจ้าชุดอาหารธรรมดาที่ราคาหนึ่งแสนหยวนนั่นฉันลองดูแล้วมันก็ไม่ได้มีอะไรเลยนะ”
“ซูจิ้งนี่สุดยอดจริงๆเลยนะ ยินยอมเผยเคล็ดลับให้โลกรู้โดยไม่คิดจะหาประโยชน์อะไรเพิ่มเลย”
“ฉันว่ามันเป็นเพราะวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะเป็นหลักฐานยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเองมากกว่า แต่ก็อีกล่ะนะ หลังจากสูตรอาหารของเขาเผยแพร่ไปทั่วประเทศ อาหารแสนอร่อยในเขตพิเศษจะขายแพงไม่ได้อีกต่อไป”
ในขณะที่โลกภายนอกนั้นกำลังพูดคุยกันอย่างร้อนแรงเกี่ยวกับการประกาศของซูจิ้งนั้น ซูจิ้งก็ยังทำงานของเขาไปเรื่อยๆอย่างอารมณ์ดี
“หัวหน้า หัวหน้าจะสตรีมการทำอาหารจริงๆเหรอ” เหมาเว่ยเหยียน ที่เป็นหนึ่งในพ่อครัวของภัตตาคารปลาหญ้าสวรรค์ของซูจิ้งได้ถามออกมาด้วยความกังวล
ความจริงตัวเขานั้นก็ไม่ได้คิดว่าพื้นที่พิเศษของภัตตาคารจะมาได้ไกลขนาดนี้แถมยังคิดว่าราคาแพงไปเสียด้วยซ้ำ
คิดไม่ถึงว่าหลังจากซูจิ้งได้เปิดพิ้นที่พิเศษนี้อย่างเป็นทางการทำให้เขานั้นรู้ว่าตัวเองคิดไป เขาเองยังรู้สึกด้วยซ้ำว่าสิ่งที่ซูจิ้งทำนั้นดีกับภัตตาคารอย่างมากทำให้เขายอมซูฮกต่อซูจิ้ง
เขาเองก็พยายามที่จะรู้การทำอาหารจากซูจิ้ง แต่ขนาดแค่มองเพื่อลักจำเขานั้นยังไม่มีโอกาสเลยแม้แต่น้อย เมื่อเห็นว่ามีโอกาสที่จะมีคนตัดหน้าเขาไป เขาย่อมไม่ยินดีอย่างแน่นอน
เหตุผลที่เขาไม่มีโอกาสนั้นเป็นเพราะว่าอาหารทุกๆจานนั้นถูกทำในพื้นที่ครัวที่ห้ามไม่ให้ใครเข้าเลยสักคนเดียว พวกเขานั้นต่างก็นึกว่าซูจิ้งนั้นมีวิธีการพิเศษที่ไม่อยากจะเปิดเผยให้ใครรู้
“ไม่ต้องห่วงหรอกน่า ฉันเองก็มีวิธีของฉัน ยิ่งไปกว่านั้น ในวันพรุ่งนี้ตอนที่ฉันสตรีม นายเองก็จงศึกษาวิธีการของฉันให้ดีล่ะ ฉันหวังว่านายจะเรียนรู้ได้สัก 70 % ล่ะนะ”
เหมาเว่ยเหยียนเองที่ได้ยินก็ถึงกับใจเต้นแรง อารมณ์ของเขาในตอนนี้เองตื่นเต้นจนแทบจะขีดสุดเลยทีเดียว
เขาพลางนึกในใจตั้งคำถามว่าหัวหน้าของเขานั้นเหมือนจะไม่แยแสสักนิดว่าเคล็ดลับของเขานั้นจะถูกแพร่กระจายออกไปแม้แต่น้อย ดูเหมือนว่าเขานั้นจะมีอะไรบางอย่างในใจเป็นแน่
แต่นี่ก็ถือว่าเป็นโอกาสของเขาเช่นกันที่จะได้เรียนรู้อย่างเต็มที่ ตอนนี้เขาเองก็ได้เลือกที่จะตัดความกังวลใจต่างๆ และเลือกที่จะทำตามคำพูดของซูจิ้งในการเรียนรู้เทคนิคของเขาอย่างเต็มที่ในวันพรุ่งนี้
“อ้อ พวกนายก็ด้วยนะ ถ้าหากเรียนรู้เทคนิคของฉันได้สัก 60% ล่ะก็ ฉันจะมีความสุขอย่างมาก
และคนที่ทำได้ฉันจะขึ้นเงินเดือนให้อีกสองสามเท่าเลย” ซูจิ้งได้หันไปทางพ่อครัวคนอื่นก่อนที่จะนำเงินเดือนมาหลอกล่อให้เหล่าพ่อครัวตั้งใจเรียนรู้เทคนิคจากเขาอย่างเต็มที่
พวกเขาบางคนคิดในใจว่าแค่เพียงได้มีโอกาสเรียนรู้ทักษะของหัวหน้าขั้นเทพของพวกเขาก็ถือว่าอัศจรรย์แล้ว แต่นี่หัวหน้าของเขายังเอาเงินเดือนมายั่วยวนพวกเขาอีก นี่อาหารของเขามีเทคนิคระดับไหนกันแน่
วันต่อมา คนจากองค์การอาหารและยาแห่งรัฐได้เข้ามาถึงเป็นกลุ่มแรก พวกเขาเข้ามาตรวจสอบการทำงานปกติของภัตตาคารปลาหญ้าสวรรค์
ในช่วงนี้เองเหล่านักชิมอย่างโจวเซียนและคนอื่นๆก็ได้เข้ามา ต้องบอกไว้ก่อนว่าโจวเซียนนั้นเป็นนักชิมที่ได้ฉายาว่าลิ้นสารพัดพิษ(กินแล้วติจนพ่อครัวต้องปิดร้าน)
โจวเซียนเองก็เคยได้กินอาหารของซูจิ้งมาแล้วครั้งหนึ่ง ในตอนนั้นซูจิ้งได้ทำอาหารจานปลาอยู่บนชายหาดเมืองฉิงหยุน
ในครานั้น เขาไม่สามารถหาข้อติเตียนในฝีมือทำอาหารของซูจิ้งได้เลยสักนิด ในครานี้เขาก็ได้มาด้วยความหวังอันเต็มเปี่ยมพร้อมความสงสัยว่าฝีมือการทำอาหารของซูจิ้งจะขึ้นไปอีกสักเท่าไหร่กัน
ด้วยการที่มีคนยอมกินอาหารอันแสนแพงซ้ำไปซ้ำมาแบบนี้ เขาน่าจะขึ้นไปอยู่บนจุดสูงสุดของวงการอาหารแล้วจริงๆก็ได้
“คุณซู ผมไม่ได้กินอาหารฝีมือคนมานานมากเลย ผมคิดถึงฝีมือของคุณแบบสุดๆเลยครับ” โจวเซียนพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม
“ผมก็หวังว่าอาหารมื้อนี้จะไม่ทำให้คุณต้องผิดหวังนะครับ” ซูจิ้งพูดออกมา
“ผมรู้ดีว่าคุณไม่ทำให้ผมผิดหวังอย่างแน่นอนครับ ว่าแต่…คุณจะสตรีมเทคนิคลับของคุณจริงๆอย่างนั้นเหรอ” โจวเซียนถามออกมาอย่างอดเสียมิได้
“โอ้ เรื่องนั้นผมไม่ใส่ใจมันหรอกครับ” ซูจิ้งพูดออกมา หลังจากนั้นเขาก็ได้หันไปเตรียมการสตรีมในทันทีเพราะเขานั้นได้โพสต์ช่องสตรีมลงในไมโครบลอกของเขาเรียบร้อยแล้ว
และแน่นอนว่าเหมือนเช่นเคย เว็บไซต์ชาร์คทีวีได้นำช่องสตรีมขึ้นไปอยุ่อันดับแรกของเว็บไซต์อีกครั้ง และไม่นานนักผู้ชมในช่องสตรีมก็พุ่งขึ้นสูงจนถึงสามแสนคนอย่างรวดเร็ว
“โอ้ ซูจิ้งสตรีมการทำอาหารของเขาจริงๆด้วยล่ะ”
“นี่ฉันไม่รู้จริงๆนะเนี่ยว่าซูจิ้งกล้าหาญหรือโง่เขลากันแน่”
“ยังไงก็ช่าง ฉันขอยอมรับนับถือการกระทำของเขาจริงๆ”
ซูจิ้งไม่ได้พูดอะไรออกมาแม้แต่น้อย เขานั้นค่อยๆทำการเตรียมอาหารของเขาอย่างสบายอารมณ์ และอยากแรกที่เขาเริ่มทำนั่นก็คือ ชุดอาหารระดับทั่วไป หรือก็คือโจ๊กมะละกอและชาเขียว
ถึงแม้จะบอกว่าเป็นโจ๊กที่ฟังดูเหมือนง่าย แต่จริงๆแล้วการทำโจ๊กนี่ต้องใช้เวลานานพอสมควร แน่นอนว่าขึ้นอยู่กับวัตถุดิบแต่ละชนิด
อย่างแรกที่ซูจิ้งทำคือการเตรียมเครื่องปรุงอย่างเช่นขิง หอมหัวใหญ่ พริกไทย และวัตถุดิบอื่นๆ พวกมันนั้นไม่ได้ดูแตกต่างจากวัตถุดิบทั่วไปเลยแม้แต่น้อย
แต่เมื่ออยู่ในการจัดเตรียมของซูจิ้งแล้วทำให้พวกมันราวกับเครื่องดนตรีที่ซูจิ้งกำลังบรรเลงอย่างสบายอารมณ์ ซูจิ้งได้จัดเตรียมอย่างไม่ชะงักและดูลื่นไหลราวสายน้ำ
ไม่นานนัก เขาก็จัดเตรียมเครื่องปรุงเหล่านี้ได้อย่างไม่ยากเย็น ถึงแม้ว่าเขาจะดูไม่ได้เร่งรีบแต่อย่างใด แต่ในสายตาของคนนอกที่ดูจะเห็นว่าเขานั้นเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ
หลังจากนั้น ซูจิ้งก็ได้เริ่มจัดการปลาหญ้าสวรรค์เป็นลำดับต่อไป เขาจับปลาที่ยังดิ้นอยู่ไว้ในมือก่อนที่จะพูดออกมาโดยไม่หันไปมองกล้องว่า
“ปลาหญ้าสวรรค์นี้ได้รับความนิยมอย่างมากในภัตตาคารแห่งนี้ เหตุผลก็เพราะว่าพวกมันนั้นยังสดใหม่และมีเนื้อที่นุ่มละมุน และการจะจัดการกับได้ดีนั้นวิธีการใช้มีดเป็นสิ่งที่สำคัญ
ตอนนี้ฉันจะลองทำแบบช้าๆให้ดูก่อนแล้วกัน แต่แน่นอนว่าความเร็วจะมีผลต่อความอร่อย ฉันจึงไม่สามารถลดความเร็วลงได้มากสักเท่าไหร่นัก หาใครเห็นไม่ชัดก็ค่อยไปย้อนดูวิดีโอนี้แบบสโลโมชั่นดูก็แล้วกัน”
พูดจบ ซูจิ้งก็ได้ขยับมือที่จับมีดอยู่อย่างรวดเร็ว หลายๆคนนั้นเห็นได้แต่เพียงแสงและเงาของมีดที่ซูจิ้งถืออยู่เท่านั้น
แต่ที่พวกเขาเห็นได้อย่างชัดเจนก็คือเกล็ดปลาที่ลุดลอกออกกระเด็นกระจายอยู่เต็มกลางอากาศ แม้แต่เครื่องในเองก็ไม่เว้น กว่าจะรู้ตัว เนื้อของปลาเฉาก็ได้ถูกแล่ออกเป็นชิ้นไปแล้ว กระบวนการทั้งหมดนี้ช่วงรวดเร็วจนน่ารังเกียจเลยทีเดียว
“แม่…เอ๊ย เร็วเกินไปแล้ว ทำช้ากว่านี้อีกหน่อยจะตายไหม”
“สุดยอดดดดดดด”
“ดูเหมือนว่าเขานั้นจะทำได้เร็วและคล่องแคล่วยิ่งกว่าตอนแข่งสุดยอดพ่อครัวอาหารจีนอีกนะ”
กับคนส่วนใหญ่แล้วนอกจากความเร็วที่เกินเลยไป พวกเขาไม่เห็นอะไรอย่างอื่นอีกแม้แต่น้อย แต่กับผู้เชี่ยวชาญอย่างเหมาเว่ยเหยียนและโจวเซียนนั้นต่างกันออกไป
แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญคนอื่นเองก็เช่นกัน พวกเขานั้นต่างมองการใช้มีดของซูจิ้งด้วยสายตาอันเปล่งประกาย หากมองผ่านๆแล้วสิ่งที่ซูจิ้งทำอยู่นี้ก็คงเป็นเพียงการแล่ปลาธรรมดาทั่วไป แต่กับพวกเขานั้นไม่ใช่อย่างแน่นอน
การแล่ปลานั้นส่งผลต่อรสชาติของเนื้อปลาโดยตรง หากเปลี่ยนวิธีแล่ รสชาติของชิ้นปลาจะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
สำหรับผู้เชี่ยวชาญอย่างพวกเขา เมื่อได้เห็นเทคนิคการใช้มีดของซูจิ้งแล้วบอกได้เลยว่าไม่เพียงจะเร็วแบบสุดๆแล้ว มันช่างดูนุ่มนวลและสมบูรณ์ราวกับการร่ายรำก็ว่าได้
ถึงแม้พวกเขาจะไม่สามารถเห็นได้ชัดนักเพราะว่ามันเร็วมาก แต่ที่เขารู้แน่ๆคือฝีมือการลงมีดนี้ไม่ใช่ธรรมดาอย่างที่คนทั่วไปเข้าใจ
หลังจากที่ซูจิ้งจัดการเตรียมปลาหญ้าสวรรค์เสร็จแล้ว ตอนนั้นเอง น้ำมันในกระทะก็ร้อนกำลังได้ที่ ซูจิ้งจึงได้วางเนื้อปลาไว้ในกระทะก่อนจะพูดออกมาว่า “อย่างที่ผมว่าไปแล้ว ปลาหญ้าสวรรค์นี้ที่สามารถได้รับความนิยมได้ขนาดนี้ก็คือความสดใหม่และนุ่มละมุน และนี่ คือวิธีการทำ จงมองและจดจำไว้ให้ดี”
หลังจากซูจิ้งได้นำปลาใส่ลงกระทะแล้ว เขาได้ใช้ช้อนตักน้ำมันในกระทะมาหนึ่งช้อนแล้วทำการสาดลงไปบนไฟที่กำลังลุกโชนอยู่ใต้กระทะ
ทันทีที่กองไฟพวยพุ่ง ซูจิ้งก็ทำการผัดเนื้อปลาในทันที ในกระทะตอนนี้ราวกับว่ามีมังกรไฟลงมาวิ่งเล่นอยู่ ไม่เพียงเท่านั้นมันยังลุกโชนราวกับว่ามันกำลังทะยานขึ้นท้องฟ้า
ด้วยการที่กองไฟลุกโชนอยู่ทำให้ทุกคนที่ชมการสตรีมมองเห็นได้ยากเย็น แต่ซูจิ้งก็ใช้การอธิบายแทนที่ว่าเขาทำอะไรในระหว่างนี้บ้างในขณะที่เขากำลังขยับมือให้เนื้อปลาลอยไปมาระหว่างกระทะและอากาศ
“นี่ นี่มันมังกรไฟร่ายรำ”
“ไอ๊หยา นี่มันไม่เกินไปหน่อยเหรอ นี่มันเล่นกับไฟชัดๆ”
“ถ้าผัดอย่างนี้เนื้อปลามันก็เสียหมดน่ะเซ่”
“ไอ้คนบรรทัดข้างบนทั้งหลาย ที่เอ็งว่ามาแบบนี้คือไม่รู้เลยสินะว่าซูจิ้งเป็นใคร”
“…..” เหมาเว่ยเหยียนตอนนี้กำลังสับสน และพ่อครัวคนอื่นๆเองก็มีสภาพสับสนเช่นเดียวกันในขณะที่พยายามจะเรียนรู้เทคนิคของซูจิ้ง
ทุกคนต่างก็คิดว่าพวกเขาไม่ได้อะไรเลยแม้แต่น้อย และกระบวนการทำอาหารของซูจิ้งนั้นแหกสามัญสำนักที่อย่าว่าแต่คนทั่วไปจะทำตามได้เลย แม้แต่พ่อครัวอย่างพวกเขาก็ไม่กล้าที่จะทำ
กว่าจะเรียนรู้ได้พวกเขาเกรงว่าจะเผาตัวเองตายท่ามกลางครัวไปซะก่อน นี่ทำให้พ่อครัวในภัตตาคารปลาหญ้าสวรรค์ตื่นจากความฝันเรื่องเงินเดือนที่ซูจิ้งมอบให้ก่อนหน้านี้ในทันที