Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 2095 เหี้ยมโหด

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 2095 เหี้ยมโหด

ตอนที่ 2095 เหี้ยมโหด

ชิ้ง!

ในหัวหลินสวินเพิ่งเผยร่างวิญญาณของดาบหักขึ้นมา ตามหลังเสียงใสบาง ดาบหักพลันพุ่งออกมาจากตัวเขา

เสียงกังวานนั้นพุ่งทะลวงฟ้าดิน สั่นสะเทือนไปทั่วทิศ

พวกจักรพรรดิมารวายุสังหาร เจ้าแคว้นหงอวี่ เจ้าแคว้นเซวียนชง ร่างสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงพร้อมกัน เลือดออกเจ็ดทวาร พลังขับเคลื่อนทั่วร่างล้วนได้รับแรงโจมตีที่น่าสะพรึง เกือบจะพังทลาย

พวกเขาตื่นตระหนก ขวัญหนีดีฝ่อ

อานุภาพของเสียงใสบางเดียวน่าหวาดกลัวเพียงนี้เชียวหรือ

เมื่อดาบหักพุ่งออกมา ก็เหมือนธารดาราสายหนึ่งพุ่งขึ้นมาจากพื้นดิน เปล่งประกายเหนือเก้าชั้นฟ้า กลิ่นอายสังหารที่ไม่มีสิ่งใดเทียบเทียมแผ่กระจายออกมาดุจเขาถล่มสมุทรคำราม

ตูม!

ไอเลือดข้นคลั่กที่ปกคลุมอยู่กลางฟ้าดินระเบิดกระจุยฟุ้งกระจายทั้งอย่างนั้น สลายไปราวกับพายุหอบเศษเมฆา มีเพียงคมดาบที่ส่องประกายหาใดเปรียบ กลายเป็นแสงที่เจิดจรัสที่สุดกลางฟ้าดิน

ภายใต้การสังหารของดาบหัก วิชามรรคนับพันที่มหาจักรพรรดิปาฉีสำแดงออกมาเหมือนถูกพายุม้วนกลืน ล้วนถูกบดขยี้ไปอย่างรวดเร็วรุนแรง เสียงระเบิดดังครั่นครืน ละอองแสงโปรยปราย

ต้องรู้ว่านี่เป็นถึงพลังของระดับจักรพรรดิขั้นแปด วิชามรรคแต่ละอย่างล้วนประทับความลี้ลับสูงส่ง มีอานุภาพครอบจักรวาล ชำระล้างฟ้าดิน

แต่ตอนนี้กลับสลายไปในพริบตา!

มหาจักรพรรดิปาฉีที่คิดไปเองว่าได้กำชัยด้วยสถานการณ์ถูกชี้ชัดไว้แล้ว ไม่ทันได้หลบหลีกก็ถูกฟันศีรษะที่ใหญ่เท่าบ้านร่วงลงมาหนึ่งหัว

ซ่า…

เลือดแดงสดร้อนฉ่าซัดสาดราวกระแสน้ำหลาก มหาจักรพรรดิปาฉีเจ็บปวดสาหัส ศีรษะอื่นอีกเจ็ดหัวแผดเสียงคำรามอย่างเจ็บปวดรวดร้าว

ต้นกำเนิดมหามรรคทั้งตัวเขาล้วนสั่งสมอยู่ในศีรษะทั้งแปดนี้ ตอนนี้พอถูกฟันขาดไปหนึ่งหัว ก็เท่ากับเฉือนมรรควิถีของเขาไปส่วนหนึ่ง!

“โฮก!”

เขาแผดเสียงคำราม ร่างที่ใหญ่โตไร้ขอบเขตแผ่แสงโลหิตที่เหี้ยมโหดดุดันออกมา ถอยห่างไปยังพื้นที่ห่างไกล “นี่คือสมบัติอะไร ทำไมถึงน่ากลัวเช่นนี้”

น้ำเสียงเจือความตื่นตระหนก

ก่อนหน้านี้ถูกเย่จื่อทำร้ายบาดเจ็บด้วยกระบี่เดียว ถูกอู้เชวียใช้ศรเดียวทะลวงผ่าน เขายังไม่เคยลุกลี้ลุกลนเท่าตอนนี้ ไม่อาจนิ่งสงบและสุขุมเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว

หลินสวิน อู้เชวีย เย่จื่อมองภาพนี้อย่างตะลึงงัน มองหน้ากันเลิ่กลั่ก ในใจต่างรู้สึกสั่นสะท้านอย่างยากจะบรรยาย

ก่อนหน้านี้พวกเขายังคิดจะสู้สุดชีวิต แต่การปรากฏตัวของดาบหักกลับกวาดสภาพสิ้นหวังไปจนสิ้น กวาดล้างทุกอย่างไปดั่งลมกาฬวาตที่ม้วนกลืนฟ้าดิน ไม่มีสิ่งใดกีดขวาง!

นี่น่าเหลือเชื่อมากอย่างไม่ต้องสงสัย

“ที่แท้เจ้าหมอนั่นก็แข็งแกร่งเช่นนี้…”

อู้เชวียพึมพำ ด้วยชิงหลอมแก่นพลังศาสตราจักรพรรดิกับดาบหักอยู่บ่อยครั้ง ย่อมทำให้เขารู้ถึงการมีอยู่ของวิญญาณดาบหักเป็นธรรมดา

แต่กลับไม่เคยคิดว่าวิญญาณของดาบหักจะแข็งแกร่งเช่นนี้!

“หลินสวิน ทำไมก่อนหน้านี้ไม่เคยเห็นเจ้าพูดถึงเขามาก่อน แม้แต่เมื่อครู่ก็ไม่ขอให้เขาช่วย” เย่จื่ออดกล่าวไม่ได้

หลินสวินอดยิ้มขื่นไม่ได้ วิญญาณของดาบหักพูดได้ว่าเป็นตัวตนที่ลึกลับที่สุด ตั้งแต่สมัยยังเด็กดาบหักก็กรำศึกกับเขามาตลอด

แต่ตอนอยู่ที่โลกใหญ่หงเหมิง เขาเพิ่งรู้ว่าในดาบหักยังมีตัวตนน่ากลัวที่ทำให้รู้สึกหวาดหวั่นเช่นนี้จำศีลอยู่

ถึงตอนนี้หลินสวินยังจำถ้อยคำของเงาร่างที่นั่งนิ่งอยู่ในความมืด มีความเฉยชาและนิ่งสงบถึงขีดสุดนั้นได้

‘หมายหลอมพลังของข้าให้สมบูรณ์ ด้วยพลังของเจ้าตอนนี้… ยังห่างไกลอยู่มาก ภายหน้าค่อยมาเถอะ’

น้ำเสียงเจือความผิดหวังเสี้ยวหนึ่ง

ยามนั้นแค่ได้เห็นภาพนี้ก็ทำให้หลินสวินแทบหายใจไม่ออก ร่างชุ่มไปด้วยเหงื่อแล้ว

ทว่าหลายปีนี้วิญญาณของดาบหักไม่เคยปรากฏตัวอีก ทำให้หลินสวินไม่หวังว่าอีกฝ่ายจะมาช่วยตนเช่นกัน

ด้วยเหตุนี้หลินสวินจึงคิดไม่ถึงว่าวิญญาณของดาบหักจะลงมือในเวลานี้

ฟุ่บ!

วิญญาณของดาบหักไม่เอ่ยปาก หรือพูดได้ว่าเขารังเกียจที่จะสนทนากับหนอนตัวหนึ่ง

มีเพียงดาบหักวูบไหวอยู่กลางอากาศ เหมือนถูกมือใหญ่ที่มองไม่เห็นข้างหนึ่งควบคุม เผยคมประกายร้ายกาจราวกับจะเบิกฟ้าผ่าดิน แบ่งมืดสว่าง ดุดันเผด็จการถึงขีดสุด

มหาจักรพรรดิปาฉีหลีกหลบและต้านทานเต็มกำลัง แต่เมื่อดาบหักพุ่งวาบ

ฉัวะ!

ศีรษะอีกหัวถูกตัด หัวที่ใหญ่เท่าบ้านตกลงบนพื้นจนเกิดหลุมใหญ่

มหาจักรพรรดิปาฉีแผดเสียงคำรามอย่างเจ็บปวด กรีดร้องโหยหวนถึงที่สุด เลือดสดสาดกระเซ็นไปทั้งตัว กลายเป็นภาพชวนสยอง

เขารู้สึกหวาดกลัวถึงขีดสุด!

ด้วยพลังต่อสู้ของเขา ต่อให้เจอผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิขั้นเก้าก็ยังกล้าเข้าประลอง

แต่ภายใต้การจู่โจมของดาบหักนี้ เขากลับไม่มีแม้แต่พลังที่จะดิ้นรนต้านทาน!

พวกจักรพรรดิมารวายุสังหารต่างอึ้งงัน

แค่ดาบหักเล่มเดียวเท่านั้น กลับมีอานุภาพกำราบมหาจักรพรรดิปาฉีได้! หากไม่เห็นกับตาตัวเองพวกเขาคงไม่กล้าเชื่อว่านี่คือเรื่องจริง

การปรากฏตัวของเย่จื่อและอู้เชวียก่อนหน้านี้ล้วนทำให้พวกเขารู้สึกคาดไม่ถึง แต่เปรียบเทียบกันแล้ว ดาบหักนี้น่ากลัวกว่าอย่างเห็นได้ชัด!

เย่จื่อและอู้เชวียก็อึ้งไป

เมื่ออยู่ต่อหน้าหลินสวิน พวกเขาล้วนดูเชื่องเชื่อเป็นอย่างยิ่ง แต่เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูภายนอก พวกเขาจะเย่อหยิ่งหาใดเปรียบ อู้เชวียดูอำมหิตบ้าระห่ำ ดุร้ายจองหอง ส่วนเย่จื่อก็เหี้ยมโหดดุดัน สันโดษเย่อหยิ่ง

แต่ตอนนี้เมื่อได้เห็นอานุภาพของดาบหักก็ทำให้ทั้งสองไม่สบายใจอยู่บ้าง ความรู้สึกนั้นเหมือนถูกคนอื่นชิงเอาหน้าไป

ตูม!

แสงโลหิตน่าหวาดกลัวไหลวน ห้วงอากาศสั่นสะเทือน ปาฉีที่ตื่นตระหนกถึงขีดสุดเลือกหลบหนี ไม่กล้าลังเลโดยสิ้นเชิง แทบจะพุ่งตัวผ่านห้วงอากาศไปสุดชีวิต

ดาบหักพุ่งวาบ แสงศักดิ์สิทธิ์สีเงินที่เหมือนประกายดาราไร้สิ้นสุดหมุนวน เข้าปกคลุมฟ้าดินทั่วทิศ

เห็นเพียง…

ร่างที่ใหญ่โตของมหาจักรพรรดิปาฉีเหมือนพุ่งชนปราการสวรรค์ ร่วงคะมำลงมาดังตึง ห้วงอากาศตรงนั้นล้วนแตกระเบิดจนทรุดลง

เวลานี้เองเสียงของวิญญาณดาบหักเพิ่งดังขึ้นในที่นั้นเป็นครั้งแรก

“ข้าอุตส่าห์ตื่นขึ้นมา ฟื้นฟูพลังดั้งเดิมได้บางส่วน แต่กลับต้องสิ้นเปลืองไปกับหนอนน้อยอย่างเจ้า หากปล่อยให้เจ้าหนีไปใครจะมาชดเชยให้ข้า”

เสียงดุดันราบเรียบจนเหมือนคมดาบแทงทะลุผืนฟ้า ทั้งแฝงความไม่พอใจ

ฉัวะ!

ดาบหักพุ่งวาบ หัวที่สามของมหาจักรพรรดิปาฉีถูกตัด เจ็บจนร่างใหญ่โตนั้นของเขาเกลือกกลิ้งกลางอากาศ หางทั้งแปดที่ใหญ่ราวสันเขาล้วนกำลังกระตุก

“ที่แท้เขาก็บ่นเป็น?” อู้เชวียอึ้งไป

เย่จื่อกล่าวจริงจัง “ดูท่าว่าเขาจะไม่พอใจกับการลงมือครั้งนี้นัก ถึงได้ระบายเพลิงโทสะทั่วท้องไปที่เจ้าหนอนตัวนี้”

“เจ้าเป็นใคร ถึงได้กล้าเลือกเป็นศัตรูกับสำนักโบราณจรัสเทพของข้า”

มหาจักรพรรดิปาฉีแผดเสียงคำราม ทั้งโกรธแค้นทั้งหวาดผวา

“ขู่หรือ เหอะ กี่ปีแล้ว นี่ข้าถึงขั้นถูกสัตว์เลื้อยคลานที่เกิดจากแหล่งน้ำขุ่นตัวหนึ่งข่มขู่หรือ…”

วิญญาณของดาบหักเหมือนจะไม่พอใจยิ่งกว่าเดิม

ฟุ่บ!

ดาบหักพุ่งโฉบออกไป มีอานุภาพสะเทือนกาลนิรันดร์ แค่ชั่วขณะก็ทยอยตัดศีรษะของมหาจักรพรรดิปาฉีไปหัวแล้วหัวเล่า เลือดแดงสดไหลพุ่งออกมาเหมือนฝนห่าใหญ่

กลางฟ้าดินเต็มไปด้วยเสียงหวีดร้องเจือความเจ็บปวดสาหัสของมหาจักรพรรดิปาฉี กรีดร้องโหยหวนจนชวนขนพองสยองเกล้า

หลินสวิน เย่จื่อ และอู้เชวียล้วนสูดหายใจหนาวเยือกอย่างอดไม่ได้

ตัวตนระดับจักรพรรดิขั้นแปด กลับถูกดาบหักย่ำยีและกำราบเช่นนี้ แรงโจมตีที่เกิดจากเหตุการณ์นี้รุนแรงเกินไปแล้ว

ส่วนพวกจักรพรรดิมารวายุสังหารก็อกสั่นขวัญหายนานแล้ว จิตวิญญาณว่างเปล่า ภาพต่างๆ ที่เปิดฉากอยู่ตรงหน้าล้มล้างความคิดและความเข้าใจของพวกเขาอย่างสมบูรณ์

“ผู้อาวุโสไว้ชีวิตด้วย ข้ายอมทำทุกอย่างเพื่อชดเชยผู้อาวุโส!”

สุดท้ายมหาจักรพรรดิปาฉีก็ยืนหยัดไม่อยู่ หวีดร้องเอ่ยปาก

ด้วยฐานะและพลังของเขา หลายปีที่ผ่านมาล้วนไม่เคยอนาถและน่าสลดเช่นนี้ ยิ่งไม่เคยก้มหัวและร้องขอความเมตตามาก่อน

แต่ตอนนี้เขาไม่อาจไปสนใจศักดิ์ศรีอะไรแล้ว

“ชดเชย? เจ้าคู่ควรหรือ”

วิญญาณของดาบหักดูวางอำนาจบาตรใหญ่หาใดเปรียบ เจือความดูถูกที่มาจากก้นบึ้งหัวใจ

“แม้แต่ชดเชยยังต้องดูว่าอีกฝ่ายมีคุณสมบัติหรือไม่ เขา… บ้าระห่ำกว่าเจ้านัก…” เย่จื่อพูดพลางเหลือบมองอู้เชวียคราหนึ่ง

อู้เชวียมุมปากกระตุกเล็กน้อย

ก็เห็นว่ามหาจักรพรรดิปาฉีถูกตัดหัวจนเหลือแค่หัวเดียว หลินสวินอดกล่าวไม่ได้ “ผู้อาวุโส โปรดไว้ชีวิตเขาด้วย!”

ปาฉีคือตัวการหลังม่านที่ก่อเหตุนองเลือดให้ตระกูลหลินในปีนั้น รู้ความจริงในปีนั้นมากมาย หลินสวินอยากรู้ว่าภัยพิบัติในปีนั้นบิดามารดาของตนเป็นหรือตายกันแน่

กลับเห็นดาบหักพลันหยุดชะงักกลางอากาศ เสียงของวิญญาณดาบหักดังตามมาติดๆ “ก่อนหน้านี้ไม่ขอให้ข้าลงมือ ตอนนี้กลับขอให้ข้าหยุดมือหรือ”

น้ำเสียงยังคงราบเรียบเช่นนั้น เจือความพร่ำบ่นเสี้ยวหนึ่ง คล้ายกำลังระบายความไม่พอใจ

อู้เชวียหัวเราะออกมา “ฮ่า ที่แท้เขาก็รู้สึกว่านายน้อยไม่ขอให้เขาลงมือ หากแต่เขาต้องออกโจมตีเอง ดังนั้นจึงรู้สึกเสียหน้ามากสินะ”

เย่จื่อคิดดูครู่หนึ่งแล้วกล่าวอย่างจริงจัง “นี่ได้แต่พิสูจน์ว่าเจ้าหมอนี่ลำพองตนมาก วางท่าใหญ่โตและไม่รู้จักสำนึกบุญคุณ”

ฟุ่บ!

ดาบหักเผยคมประกายชวนประหวั่นออกมา มุ่งเป้ามาที่เย่จื่อแต่ไกล “เจ้าบอกว่าข้าไม่รู้จักสำนึกบุญคุณหรือ”

เย่จื่อไม่ถอยแม้เพียงก้าว “หลายปีนี้หลินสวินนำศาสตราจักรพรรดิมาช่วยเจ้าฟื้นฟูพลังดั้งเดิมตั้งเท่าไหร่ แต่เขาก็ไม่เคยร้องขออะไรกับเจ้า”

คมประกายที่พุ่งขึ้นมาจากดาบหักค่อยๆ เก็บลงไป วิญญาณของดาบหักเงียบไปครู่หนึ่งพลางกล่าว “เจ้าพูดถูก ว่ากันถึงที่สุดแล้ว… ก็เป็นข้าที่ติดหนี้เขา…”

น้ำเสียงต่ำลึก เจือความรู้สึกผิดที่ยากสังเกตเห็นเสี้ยวหนึ่ง

ตูม!

ครู่ต่อมามหาจักรพรรดิปาฉีก็ถูกแสงศักดิ์สิทธิ์น่าสะพรึงแถบหนึ่งกำราบ ร่างที่ใหญ่โตหาใดเปรียบนั้นหดเล็กลงอย่างต่อเนื่อง สุดท้ายก็กลับคืนสู่ร่างมนุษย์อีกครั้ง

แต่เขาสีหน้าซีดเผือดหาใดเปรียบ เลือดอาบทั่วร่าง ราวกับถูกพันธนาการ กลิ่นอายอ่อนแอถึงขีดสุด

เมื่อเห็นภาพนี้จักรพรรดิมารวายุสังหาร เจ้าแคว้นหงอวี่ เจ้าแคว้นเซวียนชงรู้สึกแค่ตรงหน้าเหมือนฟ้าดินหมุนเคลื่อน ดูประหนึ่งฟ้าถล่ม

ผู้มีฝีมืออำมหิตอย่างมหาจักรพรรดิปาฉี ตัวตนน่ากลัวที่อานุภาพร้ายกาจสะเทือนโลกมืดมาหลายปีคนหนึ่ง กลับถูกกำราบอย่างสมบูรณ์เช่นนี้!

หนี!

ความคิดหนึ่งผุดขึ้นในใจพวกจักรพรรดิมารวายุสังหารพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย

เพียงแต่ไม่รอให้พวกเขาเคลื่อนไหว ก็รู้สึกแค่ตรงหน้ามีดาบคมพุ่งวาบ จากนั้นก็สิ้นสติไป

แต่ในสายตาของพวกหลินสวิน พวกจักรพรรดิมารวายุสังหารที่อยู่ไกลออกไปนั้นถูกฆ่าโดยไร้สุ้มเสียง ร่างกระจุยกระจาย

ไม่ได้ต้านทานและไม่ได้ร้องโหยหวน ถึงขั้นไม่ทันได้ตอบสนอง!

สายตาหลินสวินมองไปยังดาบหักอย่างอดไม่อยู่ ได้ยินแค่เสียงของวิญญาณดาบหักดังขึ้น “ตั้งแต่วันนี้ไป อย่างมากก็ให้เวลาข้าฟื้นตัวอีกร้อยปี ถึงตอนนั้นจะช่วยเจ้าสังหารศัตรูแห่งมหามรรคอย่างแน่นอน!”

ยามสิ้นเสียง ดาบหักพลันพุ่งเข้าไปในตัวหลินสวิน เก็บตัวเงียบแต่เพียงเท่านั้น

“ข้าเข้าใจเขาผิดไปหรือ”

เย่จื่อกล่าวอึ้งๆ รู้สึกผิดอยู่บ้าง

“เจ้าพูดไม่ผิด ที่เขาทำก็ไม่ผิด”

อู้เชวียยิ้มปลอบประโลม

เย่จื่อมองไปทางหลินสวิน หลินสวินพยักหน้า “อู้เชวียพูดถูก”

เย่จื่อจึงกล่าวอืมออกมาคำหนึ่งเหมือนยกภูเขาออกจากอก

ฟ้าดินเงียบสงัด กลิ่นคาวเลือดม้วนซัดอยู่กลางฟ้าดิน

หลินสวินทอดมองมหาจักรพรรดิปาฉีที่ถูกพันธนาการให้หมดสติแล้วย่างเท้าก้าวเดินไป

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท