Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 2106 ที่แท้ก็เป็นเขา

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 2106 ที่แท้ก็เป็นเขา

ตอนที่ 2106 ที่แท้ก็เป็นเขา

ฝุ่นควันอบอวล โลกที่แตกทลายราวกับม้วนภาพที่ถูกบดขยี้จนแหลกละเอียด

น่าตื่นตระหนก

พอสายตาของทุกคนกลับมาชัดเจน ในที่สุดก็มองเห็น ว่าภายใต้ท้องฟ้านั่นไม่เห็นเงาร่างของจักรพรรดิธรรมตู้ผิงและเฒ่าชราผมขาวนานแล้ว

มีเพียงเงาร่างสง่างามงามราวกับทวนยาวตรงดิ่งยืนอยู่กลางอากาศ เสื้อผ้าโบกสะบัดจนเกิดเสียง องอาจเลิศลอย

คนมากมายขวัญหนีดีฝ่อ ถูกสะท้านสะเทือนจนหัวสมองว่างเปล่า

ตายแล้ว

ระดับจักรพรรดิสองคนตายภายใต้น้ำมือของมกุฎกึ่งจักรพรรดิคนหนึ่ง!

นี่สะท้านสะเทือนยิ่งยวด!

สำหรับผู้ฝึกปราณที่ระดับต่ำกว่าจักรพรรดิ ระดับจักรพรรดิดุจปราการสวรรค์ ในอดีตถึงปัจจุบันยังไม่เคยมีใครสามารถก้าวข้ามได้ แต่วันนี้ปาฏิหาริย์ที่ไม่เคยมีมาก่อนนี้เกิดขึ้นแล้ว

หลายคนนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่เดือนก่อนโดยไม่รู้ตัว ในแคว้นหนาวเหน็บอันไกลโพ้น หลินสวินผู้สืบทอดคีรีดวงกมลปลอมตัวเป็นมารกระบี่เต้ายวน โจมตีเจ้าแคว้นใหญ่ทั้งสิบจนพ่ายแพ้ กำราบความองอาจของมหาจักรพรรดิปาฉี

ตอนนั้นเรื่องนี้ฮือฮาไปทั้งโลกมืด ทำให้ผู้คนไม่รู้เท่าไหร่ตะลึง

แต่วันนี้กลับมีระดับจักรพรรดิสองคนร่วงหล่น ถูกมกุฎกึ่งจักรพรรดิคนหนึ่งโจมตีจนพ่ายแพ้!

ตลอดเวลาที่ผ่านมา โลกมืดวุ่นวายและนองเลือดมากมาโดยตลอด แต่เรื่องที่ระดับจักรพรรดิร่วงหล่นกลับเกิดขึ้นน้อยมาก

เหตุผลเพราะระดับจักรพรรดิดุจผืนฟ้า สามารถกำราบหนึ่งแคว้น ไม่อาจถูกสั่นคลอนได้ประหนึ่งอยู่เหนือสุด

แต่ตอนนี้ในเวลาสั้นๆ ไม่ถึงครึ่งปี กลับมีเรื่องที่จักรพรรดิร่วงหล่นเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง นี่จะไม่ให้คนตะลึงได้อย่างไร

ที่เหลือเชื่อที่สุดคือคนที่โจมตีสังหารระดับจักรพรรดิ ไม่ใช่ระดับจักรพรรดิด้วยซ้ำ แต่เป็นมกุฎกึ่งจักรพรรดิ…

“เจ้าหมอนั่น… เจ้าหมอนั่นคงไม่ใช่หลินสวินผู้สืบทอดคีรีดวงกมลกระมัง”

ทันใดนั้นมีคนพูดเสียงสั่น

ก้อนหินหนึ่งก้อนก่อคลื่นนับพัน ชักนำความฮือฮา

“ต้องเป็นเขาแน่! ทั้งบนล่างทางเดินโบราณฟ้าดารานี้ คนที่สามารถสังหารระดับจักรพรรดิทั้งที่ยังไม่บรรลุจักรพรรดิได้มีแค่หลินสวิน!”

“ที่แท้ก็เป็นเขา…”

“เจ้าหมอนั่นถูกทั่วหล้าตามจับ กลับเหมือนไม่กลัวเกรง ตอนนี้ยังลงมือในอาณาเขตของแดนกษิติครรภ์ กล้าเกินไปแล้ว”

“หากเจ้ามีพลังที่สามารถสังหารจักรพรรดิได้อย่างเขา ก็สามารถอาละวาดตามอำเภอใจเช่นนี้ได้!”

เสียงวิพากษ์วิจารณ์นับไม่ถ้วนดังขึ้น แฝงความตะลึง งุนงง ประหลาดใจ หวาดกลัว และทอดถอนใจ

พวกเฟ่ยหล่าง หลันหลิงต่างสีหน้าซีดขาว ร่างกายหนาวเยือกขึ้นมา ท่าทางขวัญหนีดีฝ่อ

ตอนนี้ในที่สุดพวกเขาก็รับรู้ได้ว่า ว่าเหตุใดตอนที่เจอกันครั้งแรกเฒ่าชราผมขาวจึงห้ามไม่ให้พวกเขาไปหาเรื่องหลินสวิน และปล่อยให้อีกฝ่ายจากไป

ความไม่พอใจหายไปจากใจพวกเขานานแล้ว และถูกความหวาดกลัวลึกล้ำแทนที่

“ที่แท้… ก็เป็นเศษเดนสำนักนั้น…”

ครู่ใหญ่เฟ่ยหล่างจึงส่งเสียงอย่างขมขื่น

พวกเขามาจากเรือนมรรคยุทธจักรแห่งโลกใหญ่หงเหมิง จะไม่รู้จักหลินสวินได้อย่างไร

ตั้งแต่ตอนที่อยู่ในเขตต้องห้ามเซียนโบราณ ผู้สืบทอดแกนหลักไม่รู้เท่าไหร่ของเรือนมรรคยุทธจักรถูกหลินสวินฆ่า แม้แต่หมีอู๋หยายังถูกโจมตีจนพ่ายแพ้!

เพียงแต่ไม่มีใครรู้ว่าเพิ่งจะผ่านไปไม่ถึงหนึ่งปี เศษเดนคีรีดวงกมลที่ถูกทั้งโลกตามฆ่า กลับเติบใหญ่ถึงระดับที่เย้ยฟ้าเช่นนี้แล้ว

“อาจารย์ลุงซวีอู๋เหิงตายแล้ว พวกเรา… ควรทำอย่างไรดี” หลันหลิงอดถามไม่ได้

ซวีอู๋เหิงก็คือเฒ่าชราผมขาวนั่น เป็นระดับจักรพรรดิคนหนึ่งของเรือนมรรคยุทธจักร

การตายของเขาเห็นได้ชัดว่าโชคร้ายอย่างที่สุด นี่ควรจะเป็นการต่อสู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขา แต่เพราะการสอดมือของตัวเองเองจึงต้องสิ้นชีพไป เหมือนรนหาที่ตายเองอย่างไรอย่างนั้น

“ไปเมืองหมื่นดารา!”

เฟ่ยหล่างกัดฟันตัดสินใจ

งานชุมนุมบัวเลิศจัดขึ้นในเมืองหมื่นดารา และเมืองหมื่นดาราก็อยู่ในแคว้นเรืองเมฆา ห่างจากเมืองรวมเมฆาที่ถูกทำลายล้างนั่นไม่นับว่าไกลนัก

สามารถคาดการณ์ได้ว่า พอข่าวที่หลินสวินปรากฏตัวในเมืองรวมเมฆากระจายออกไป จะต้องดึงดูดความสนใจของยักษ์ใหญ่ได้มากมายอย่างแน่นอน!

ยิ่งไปกว่านั้นแคว้นเรืองเมฆาเป็นอาณาเขตของแดนกษิติครรภ์อยู่แล้ว ตอนนี้หลินสวินปรากฏตัวที่นี่ ทั้งยังสังหารจักรพรรดิธรรมตู้ผิง หลังจากแดนกษิติครรภ์รู้ข่าวนี้จะยอมปล่อยไปได้อย่างไร

……

ฟ้าดินเงียบสงัด

หลินสวินที่ยืนอยู่กลางอากาศ ตอนนี้ไม่มีความดีใจและตื่นเต้นใดๆ

ตั้งแต่ก่อนหน้านี้ ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่ใช้ศาสตราจักรพรรดิหรือร่างแยกทั้งห้า เขาก็สามารถชนะจักรพรรดิกระบี่นภาประสานได้อย่างมั่นคงแล้ว นับประสาอะไรกับตอนนี้

การโจมตีจักรพรรดิธรรมตู้ผิงและซวีอู๋เหิงจนพ่ายแพ้อยู่ในการควบคุมของเขาอยู่แล้ว

สิ่งเดียวที่ทำให้หลินสวินถอนหายใจคือ ระดับจักรพรรดิ… ฆ่ายากจริงๆ!

อย่างก่อนหน้านี้เขาใช้วิธีมากมายโจมตีร่างของพวกจักรพรรดิธรรมตู้ผิงจนแหลกสลาย จิตวิญญาณถูกฉีกทึ้ง แต่ระดับจักรพรรดิทั้งสองคนกลับไม่ได้ตายอย่างสิ้นเชิง

คราบเลือดและพลังจิตที่แหลกละเอียดซึ่งหลงเหลืออยู่ล้วนแฝงเจตจำนงไร้ใดเปรียบของระดับจักรพรรดิ ใช่ว่าจะสามารถกำจัดสิ้นได้อย่างง่ายดาย

นี่ก็คือระดับจักรพรรดิ บางทีอาจจะสามารถโจมตีจนพ่ายแพ้ได้ แต่อยากจะฆ่าให้ตาย… กลับยากมาก

การลงมือของพวกวิญญาณอาวุธอย่างพวกเย่จื่อ อู้เชวีย ดาบหัก ที่สามารถสังหารระดับจักรพรรดิได้อย่างเบ็ดเสร็จก็เพราะพวกเขามีพลังทำลายล้างที่แน่นอน

แต่หลินสวินกลับแตกต่าง พลังที่เขาครอบครอง ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่พลังระดับจักรพรรดิแท้

ก่อนหน้านี้ หากไม่ใช่เพราะเขามองเห็นโอกาสไว รวมถึงใช้เจดีย์มหามรรคไร้สิ้นสุดเก็บเลือดและเศษเสี้ยววิญญาณของพวกเขาไว้ ต่อไปพวกเขาก็ยังมีหวังที่จะฟื้นขึ้นมาอีก!

ในสถานที่อันไกลโพ้น เสียงวิพากษ์วิจารณ์ระลอกหนึ่งดังมา ทำให้หลินสวินเก็บอารมณ์ รับรู้ได้ในทันที

ฐานะถูกเปิดโปงแล้ว!

ทว่าเขาไม่ได้ลนลาน ไปจากที่นี่ เขาย่อมสามารถแปลงกายใหม่ได้

พรึ่บ!

ครู่ต่อมา เงาร่างของหลินสวินกะพริบ พลันหายไประหว่างฟ้าดินอันขาวโพลนนั่น

ข่าวที่วันนี้หลินสวินผู้สืบทอดคีรีดวงกมลปรากฏตัวในแคว้นเรืองเมฆาและซวีอู๋เหิงเผยแพร่ออกมา แพร่สะพัดราวกับลมพายุไปทั่วทั้งโลกมืด ทำให้เกิดความฮือฮาครั้งใหญ่

……

เมืองหมื่นดารา

ช่วงที่ผ่านมานี้ เมืองหมื่นดาราราวกับดินแดนที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่งในโลกมืด เป็นระบบระเบียบ บรรยากาศครึกครื้นสันติ

เพราะจะเริ่มงานชุมนุมบัวเลิศ แม้แต่พวกคนชั่วร้าย คนคลั่งและพวกดุดันที่กระจายอยู่ในเมืองก็ถูกเนรเทศออกไปจนหมด

ทั้งในและนอกเมือง เต็มไปด้วยผู้สืบทอดสองขุมอำนาจยักษ์ใหญ่อย่างแดนกษิติครรภ์และสำนักโบราณจรัสเทพ พวกเขาอยู่ในบทบาทผู้คุ้มกัน ต้อนรับผู้แข็งแกร่งที่มาจากฟ้าดาราอื่นๆ

“อาจารย์อา ขบวนที่โลกใหญ่หงเหมิงหกเรือนมรรคใหญ่และสิบเผ่านักรบใหญ่ส่งมา ได้จัดให้พักอยู่ในเมืองทั้งหมดแล้ว”

“นอกจากนี้ ขบวนที่เหล่าเผ่าจักรพรรดิดึกดำบรรพ์ส่งมา ก็ได้จัดการตามความเหมาะสม สามารถคาดเดาได้ว่า ตอนที่งานชุมนุมบัวเลิศครั้งนี้เริ่มขึ้น จะต้องเป็นงานใหญ่ที่ไม่เคยมีมาก่อนอย่างแน่นอน สามารถทำให้แดนกษิติครรภ์ของเราชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วหล้า!”

ภายในอารามกษิติครรภ์แห่งหนึ่งในเมือง ภิกษุเฒ่ารูปร่างผอมราวกับไม้ ท่าทางแก่ชราคนหนึ่งนั่งขัดสมาธิอยู่

ตรงหน้าเขา ภิกษุชุดดำคนหนึ่งโค้งคำนับทำความเคารพ กำลังรายงานสถานการณ์ในช่วงนี้ สีหน้าเต็มไปด้วยความเคารพนอบน้อม

ภิกษุเฒ่าที่ผอมซูบราวกับไม้ เป็นผู้อาวุโสคนหนึ่งของแดนกษิติครรภ์ ฉายาธรรม ‘ตู้หมิง’ เป็นผู้ระดับจักรพรรดิด่านเก้าคนหนึ่ง!

ตู้หมิงลืมตาขึ้น เสียงทุ้มต่ำ “คนของเจ้าแห่งหอวิหคทองแดง…ยังไม่ปรากฏตัวเสียทีหรือ”

ภิกษุชุดดำส่ายหน้า “จนวันนี้ยังไม่เห็นว่าเจ้าแห่งหอวิหคทองแดงจะมีความเคลื่อนไหวใดๆ”

“เช่นนี้ก็ดี ข้าว่า รอจักรพรรดิสวรรค์ดำรงกลับจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ สามยักษ์ใหญ่แห่งโลกมืดนี้…คงจะกลายเป็นสองยักษ์ใหญ่แห่งโลกมืดแล้ว…”

ตู้หมิงสีหน้าเฉยเมย ดวงตาที่เว้าลึกลงเผยความเย็นเยียบ

งานชุมนุมบัวเลิศครั้งนี้ แต่ละขุมอำนาจใหญ่ทั่วทั้งทางเดินโบราณฟ้าดาราต่างทยอยมาเยือน เรียกได้ว่าไม่เคยมีมาก่อน เพื่อหารือเรื่องลับที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแดนปรินิพพาน

แดนกษิติครรภ์และสำนักโบราณจรัสเทพร่วมมือกันเป็นเจ้าภาพ มีเพียงเจ้าแห่งหอวิหคทองแดงที่ไม่มีความเคลื่อนไหวมาโดยตลอด ท่าทางเหมือนไม่คิดจะเข้าร่วม

อีกอย่าง ตู้หมิงได้รู้แล้วว่า ‘จักรพรรดิกระบี่เทียนฉง’ ที่สำนักโบราณจรัสเทพส่งไปตามฆ่าหลินสวินผู้สืบทอดคีรีดวงกมล กลับถูกจักรพรรดิยุทธ์เมี่ยฉยงเจ้าแห่งหอวิหคทองแดงขวางไว้

จักรพรรดิธรรมเทียนตูที่แดนกษิติครรภ์ของพวกเขาส่งมา ถูกหมาขนทองข้างกายเจ้าแห่งหอวิหคทองแดงตามฆ่าจนหนีหัวซุกหัวซุน กลายเป็นเรื่องใหญ่โต

นี่ทำให้ตู้หมิงฉงนใจมาก เจ้าแห่งหอวิหคทองแดงทำเช่นนี้ คิดจะปกป้องผู้สืบทอดคีรีดวงกมลนั่น ต่อต้านเจตจำนงที่มาจากจักรพรรดิสวรรค์ดำรง!

“กล้าต่อต้านจักรพรรดิสวรรค์ดำรง เจ้าแห่งหอวิหคทองแดงจะต้องพังทลายล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง ลบชื่อออกจากโลกนี้!” ภิกษุชุดดำคนนั้นเผยสีหน้ารอคอย

ตู้หมิงขานรับว่าอืม เพิ่งจะพูดอะไร เสียงฝีเท้าอันถี่ยิบดังขึ้นระลอกหนึ่ง

จากนั้นภิกษุวัยกลางคนคนหนึ่งเดินมา พูดพร้อมสีหน้าเคร่งขรึม “อาจารย์อา หลินสวินผู้สืบทอดคีรีดวงกมลปรากฏตัวในเมืองรวมเมฆา…”

เขาเล่าข่าวที่ได้รับเมื่อครู่นี้อย่างละเอียด

ตอนที่ได้รู้ว่าจักรพรรดิธรรมตู้ผิงถูกฆ่า ในสายตาของตู้หมิงเผยประกายเย็นเยียบอันน่ากลัว “ช่างเป็นคนนอกรีตที่กำเริบเสิบสานนัก กล้ามาอาละวาดในอาณาเขตของแดนกษิติครรภ์ของข้า!”

ในเมืองเผยไอสังหารที่ไม่ปกปิดเลยสักนิด

ภิกษุวัยกลางคนพูดอย่างกังวล “อาจารย์อา เจ้าหมอนี่ควบคุมวิธีสังหารจักรพรรดิ หากมาก่อนเรื่องที่งานชุมนุมบัวเลิศ…”

ตู้หมิงขมวดคิ้ว แล้วเอ่ยว่า “ตอนนี้พลังของเหล่าขุมอำนาจใหญ่รวมตัวกันอยู่ที่นี่ นอกจากเจ้าหมอนี่จะอยากตาย ไม่เช่นนั้นไม่มีทางกล้าปรากฏตัวในเมืองหมื่นดารา”

คิดๆ แล้วเขาออกคำสั่ง “รวบรวมพลังทั้งหมด ออกหมายจับตามฆ่าเจ้าหมอนั่นอย่างเต็มกำลัง!”

ภิกษุวัยกลางคนพูดพร้อมสีหน้าที่เปลี่ยนไป “อาจารย์อา คนทั่วไปไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเจ้าหมอนั่น ระดับมหาจักรพรรดิปาฉี ยังประสบเคราะห์”

เขากำลังเตือนว่า หลินสวินในตอนนี้ ไม่ใช่คนที่จะถูกจับได้ง่ายๆ แล้ว

ตู้หมิงพูดพร้อมสีหน้าไร้อารมณ์ “ไม่ต้องห่วง เพียงแค่สามารถจับร่องรอยของเจ้าหมอนั่นได้ในทันที ข้าจะไปกำราบสังหารเขาเอง!”

ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้

ภิกษุวัยกลางคนลอบถอนหายใจคราหนึ่ง พลันรีบออกไปตามคำสั่ง

……

ในเวลาเดียวกัน ผู้แข็งแกร่งบรรดาขุมอำนาจใหญ่ที่รวมตัวอยู่ในเมืองหมื่นดารา ก็ได้ยินเรื่องที่หลินสวินกำราบสังหารจักรพรรดิธรรมตู้ผิง

พลันสร้างความฮือฮามากมายทันที

ขุมอำนาจเรือนมรรคอย่างพวกจักรวาล ยุทธจักร ดึกดำบรรพ์ เหล่ามารและโลกาสวรรค์ ทั้งตะลึงทั้งเดือดดาล

พวกเขาเกลียดหลินสวินเข้ากระดูกเชียว!

คู่ปราบเก่าหลายคนของหลินสวินอย่างพวกหมีอู๋หยา หลิงหงจวง ฮว่าซิงหลีครั้งนี้ก็มาเยือนเมืองหมื่นดารา

ตอนที่ได้ยินข่าวพวกนี้ พวกเขาแต่ละคนเงียบพูดไม่ออก

ห่างจากตอนที่เขตต้องห้ามเซียนโบราณสิ้นสุดลงยังไม่ถึงหนึ่งปี เจ้าคนที่เคยไร้ศัตรูในระดับมกุฎราชันอริยะ ตอนนี้มีอานุภาพที่สามารถสังหารจักรพรรดิแล้ว!

เทียบกันเช่นนี้ เหล่าผู้กล้าแห่งสวรรค์ที่ตอนนั้นอยู่ใน ‘รุ่นเดียว’ กับหลินสวิน เห็นได้ชัดว่ายิ่งดูสู้ไม่ไหว ถึงขั้นอดเกิดความรู้สึกต่ำต้อยไร้ความหมายไม่ได้

พวกเขารู้ดีว่า หลินสวินในตอนนี้ แตกต่างกับพวกเขานานแล้ว และไม่ใช่คนที่พวกเขาจะสามารถไล่ตามไปเทียบเคียงได้อีกต่อไปแล้ว…

——

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท