Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 2107 การแก้แค้นของหลินสวิน

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 2107 การแก้แค้นของหลินสวิน

ตอนที่ 2107 การแก้แค้นของหลินสวิน

การเคลื่อนไหวของแดนกษิติครรภ์ไวมาก เพียงแค่วันเดียว ในอาณาเขตอันกว้างใหญ่ไพศาลยิ่งยวดอย่างแคว้นเรืองเมฆา ผู้สืบทอดแดนกษิติครรภ์ที่กระจัดกระจายอยู่ในทุกเมืองล้วนเคลื่อนไหว

เป้าหมายคือจับกุมหลินสวินผู้สืบทอดคีรีดวงกมล!

ชั่วขณะหนึ่งคลื่นลมพลุ่งพล่าน ดึงดูดสายตาไม่รู้เท่าไหร่

ควรรู้ว่าสิบวันหลังจากนี้งานชุมนุมบัวเลิศก็จะเริ่มขึ้นแล้ว ในแคว้นเรืองเมฆาตอนนี้รวบรวมขุมอำนาจเก่าแก่มากมายที่มาจากทั่วหล้าฟ้าดารา

อย่างเช่นหกเรือนมรรคใหญ่ สิบเผ่านักรบใหญ่ เผ่าจักรพรรดิดึกดำบรรพ์…

ในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้ หลินสวินผู้สืบทอดคีรีดวงกมลกลับปรากฏตัวที่แคว้นเรืองเมฆา นี่ย่อมทำให้อดคิดเชื่อมโยงไม่ได้

เจ้าหมอนี่มาเยือน หรือจะเพื่อเข้าร่วมงานชุมนุมบัวเลิศ

เขาคิดจะทำอะไร

แต่ทุกคนกล้ามั่นใจ ว่าการปรากฏตัวของหลินสวินไม่ใช่เรื่องดีแน่

คนที่ถูกทั่วหล้าตามจับ เรียกได้ว่าเป็นศัตรูของทั้งโลก ไปถึงที่ไหนก็จะต้องนำพาลมคาวฝนเลือด!

การเคลื่อนไหวของแดนกษิติครรภ์ดุดันเกรียงไกร ทั้งแคว้นเรืองเมฆาล้วนปกคลุมด้วยบรรยากาศอันตราย

ทุกคนล้วนกำลังจับตามอง

……

เพียงแต่น่าเสียดาย ทุกคนล้วนเดาผิด ที่หลินสวินปรากฏตัวในแคว้นเรืองเมฆาก็แค่ทางผ่านเท่านั้น

อีกอย่าง เขาไม่ได้สนใจงานชุมนุมบัวเลิศ และก็ไม่ได้บ้าถึงขั้นกล้ามองข้ามระดับจักรพรรดิที่ทรงพลังทั้งกลุ่ม

ในเวลาต่อมา เมื่อหลินสวินเดินทางอยู่ในแคว้นเรืองเมฆา ก็ได้รู้ข่าวที่แดนกษิติครรภ์ระดมกำลังค้นหาตน

ตอนนี้สิ่งที่ทำให้ฐานะเขาเปิดเผยง่ายที่สุดก็คือกล่องกระบี่สำริดที่สะพายอยู่ข้างหลัง สมบัตินี้ไม่สามารถถูกเก็บได้ เพียงแค่สะพายไว้ก็ดูสะดุดตาอย่างที่สุดแล้ว

ทว่าหลินสวินไม่ได้เกรงกลัวอะไร

ต่อให้อานุภาพของแดนกษิติครรภ์จะน่ากลัวเพียงใด ทว่าผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิที่มีก็มีจำกัด ไม่มีทางปรากฏตัวออกมาเป็นกลุ่มใหญ่ง่ายๆ

นี่ก็เป็นการกำหนดแล้วว่า แม้ฐานะเปิดเผย ศัตรูทั่วไปก็ไม่สามารถขวางเขาได้!

วู้ม!

วันนี้หลินสวินมาถึงในเทือกเขาที่เปล่าเปลี่ยวแถบหนึ่ง เมื่อยกมือขึ้นพลิก แท่นบัวสีดำอันหนึ่งพลันปรากฏ

ในแท่นบัวสีดำแห่งนี้รวบรวมแรงปรารถนามหามรรคปานสายธาร เดิมทีจักรพรรดิธรรมตู้ผิงมอบให้กับเฒ่าชราผมขาวซวีอู๋เหิง

ตอนนี้กลับกลายเป็นทรัพย์หลังศึกของหลินสวิน

เขามองดูอย่างละเอียดครู่หนึ่ง จู่ๆ ก็นึกถึงเรื่องที่บันทึกในคัมภีร์มหาครรภ์จุติ

มรดกชั้นสูงของแดนกษิติครรภ์ก็คือคัมภีร์มหากษิติครรภ์ เป็นคัมภีร์มรรคขั้นสูงที่จอมจักรพรรดิกษิติครรภ์บรรพจารย์ผู้บุกเบิกสำนักสร้างขึ้น

ในข่าวลือบนโลกกล่าวว่า ช่วงต้นยุคดึกดำบรรพ์ หลังจากจอมจักรพรรดิกษิติครรภ์สร้างคัมภีร์นี้ก็ไปจากทางเดินโบราณฟ้าดารา มุ่งหน้าไปเสาะหาเส้นทางแห่งมหามรรคที่สูงยิ่งขึ้นยังฟากฝั่งฟ้าดารา

ทว่าอิงตามที่บันทึกในคัมภีร์มหาครรภ์จุติ จอมจักรพรรดิกษิติครรภ์ไม่ได้จากไป แต่เลือกจะเก็บตัวหลับใหลในแดนหวงห้ามแห่งหนึ่งของแดนกษิติครรภ์!

การเก็บตัวเช่นนี้เหมือนการปิดผนึกตัวเองแบบหนึ่ง ว่ากันว่าเพื่อวิชาลับชั้นเลิศที่ทะลวงระดับจักรพรรดิวิชาหนึ่ง

และหากคิดจะปลุกจอมจักรพรรดิกษิติครรภ์ให้ตื่นจากการหลับใหลในกาลเวลาไร้สิ้นสุด จะต้องใช้แรงปรารถนามหามรรคเป็นแหล่งพลังงาน ดำเนินการสังเวย!

เมื่อก่อนหลินสวินมองเรื่องนี้เป็นเพียงข่าวลับหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้ใส่ใจ

แต่ตอนนี้หลังจากเห็นแต่ละเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอารามกษิติครรภ์เมืองรวมเมฆา หลินสวินก็รับรู้ได้ว่า ที่แท้หลายปีมานี้แดนกษิติครรภ์ใช้วิชาลับรวบรวมแรงปรารถนามหามรรคมาโดยตลอด!

เหล่าผู้แข็งแกร่งที่ต้องการการคุ้มครองในอาณาเขตของพวกเขา ก็เหมือน ‘ผู้สังเวยตน’ ที่มีไม่ขาดสาย ตอนที่คุกเข่าลงกราบไหว้บนพื้น ก็จะถูกดูดแรงปรารถนามหามรรคบนร่างไปอย่างไร้สุ้มเสียง สุดท้ายล้วนตกอยู่ในมือแดนกษิติครรภ์

ก็เหมือนแท่นบัวสีดำในมือของหลินสวิน เป็นสมบัติที่มหัศจรรย์ชิ้นหนึ่งนามว่า ‘แท่นบัวแรงปรารถนา’ เป็นสมบัติที่สั่งสมและปิดผนึกแรงปรารถนามหามรรคอย่างหนึ่ง

หลังสังเกตดูคร่าวๆ หลินสวินก็มองออกว่า แรงปรารถนามหามรรคที่สั่งสมอยู่ในแท่นบัวแรงปรารถนา อย่างน้อยก็มากถึงหมื่นชนิด ทุกชนิดล้วนครอบครองโดยผู้ฝึกปราณที่แตกต่างกัน

คิดๆ แล้วในอาณาเขตที่แดนกษิติครรภ์ครอบครองมีเมืองกระจายอยู่ไม่รู้เท่าไหร่ ทุกเมืองจะดำเนินการ ‘สังเวย’ ทุกเจ็ดวัน เช่นนี้แรงปรารถนามหามรรคที่เก็บรวบรวมได้จะน่ากลัวเพียงใด

‘หากเพื่อปลุกจอมจักรพรรดิกษิติครรภ์ที่หลับใหลอยู่จริง… เช่นนั้นแผนของแดนกษิติครรภ์ก็น่ากลัวเกินไปแล้ว…’

ในใจหลินสวินหนาวเยือกขึ้นมาคราหนึ่ง

จอมจักรพรรดิกษิติครรภ์ บุคคลที่เรียกได้ว่าเลิศล้ำตั้งแต่ยุคต้นดึกดำบรรพ์ มีมรรควิถีน่ากลัวถึงขั้นไม่สามารถจินตนาการได้อย่างแน่นอน

ผู้ที่สามารถเรียกได้ว่าเป็นจอมจักรพรรดิในโลกมืด หากตื่นขึ้นจากการหลับใหลมาหมื่นกาล จะต้องเป็นเรื่องที่ทำให้ใต้หล้าตะลึงอย่างแน่นอน

ถึงตอนนั้นเกรงว่าทั้งโลกมืดคงมีแดนกษิติครรภ์ปกครอง!

‘จนถึงวันนี้แดนกษิติครรภ์ก็ไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรออกมา เช่นนี้ดูท่าว่า หากพวกเขาอยากใช้แรงปรารถนามหามรรคปลุกจอมจักรพรรดิกษิติครรภ์จากการหลับใหลจริงๆ คงไม่ใช่เรื่องง่าย’

หลินสวินพินิจแท่นบัวสีดำในมือ จมสู่ภวังค์ความคิด

แรงปรารถนามหามรรคเป็นพลังที่มหัศจรรย์อย่างหาที่เปรียบไม่ได้อย่างหนึ่ง ยากจะคาดเดาเหมือนโชคชะตา เลื่อนลอยว่างเปล่าเหมือนกาลเวลา

ตอนนี้หลินสวินมีคัมภีร์ชั้นเลิศมากมาย ย่อมรู้ดีว่าในการบำเพ็ญมรรคจักรพรรดิ แรงปรารถนามหามรรคก็มีประโยชน์สำคัญที่ไม่สามารถแทนที่ได้!

อย่างเช่นก่อนหน้านี้ที่จักรพรรดิธรรมตู้ผิงมอบแท่นบัวแรงปรารถนาชิ้นหนึ่งให้กับเฒ่าชราผมขาวซวีอู๋เหิง ย่อมต้องรู้ดีว่าแรงปรารถนามหามรรคในแท่นบัวแรงปรารถนานี้ สามารถช่วยในการฝึกปราณของระดับจักรพรรดิได้

เพียงแต่น่าเสียดายที่ตอนนี้หลินสวินยังไม่ก้าวสู่ระดับจักรพรรดิ แม้รู้ถึงความมหัศจรรย์ของแรงปรารถนามหามรรคอยู่บ้าง ทว่าประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรมคืออะไรกลับไม่รู้ชัด

แต่หลินสวินกล้ามั่นใจ ว่าแดนกษิติครรภ์เก็บรวบรวมแรงปรารถนามหามรรคอย่างบ้าคลั่งเช่นนี้ จะต้องเป็นมีแผนการยิ่งใหญ่แน่!

‘คิดว่าข้าคนแซ่หลินรังแกได้ง่ายๆ หรือ… ก่อนไปจากแคว้นเรืองเมฆาจะเล่นกับพวกเจ้าให้สาสมสักหน่อย’

ดวงตาดำของหลินสวินลึกล้ำ ความเย็นเยียบวาบผ่าน

เมื่อนานมาแล้วเขาเคยถูกแดนกษิติครรภ์ตามฆ่า หลังจากมาถึงโลกมืด แดนกษิติครรภ์ยิ่งเป็นเหมือนสุนัขเชื่องตัวหนึ่ง ออกประกาศจับเขา

ถึงขั้นที่ตอนนี้เพราะเขาปรากฏตัวในแคว้นเรืองเมฆา แดนกษิติครรภ์จึงเคลื่อนไหวออกตามหาร่องรอยอย่างหนัก!

หากเป็นเมื่อก่อน หลินสวินจะต้องออกจากสถานที่อันตรายนี้ทันทีอย่างแน่นอน

แต่ตอนนี้เขาไม่กลัวนานแล้ว จะจากไปเหมือนเมื่อก่อนได้อย่างไร

……

เมืองผาเขียว

เมืองที่อาณาเขตกว้างใหญ่แห่งหนึ่งในแคว้นเรืองเมฆา อารามกษิติครรภ์ในเมืองสร้างอย่างงดงามโอ่อ่า สง่างามศักดิ์สิทธิ์

นอกเมือง

ผู้สืบทอดแดนกษิติครรภ์ทำตัวเป็นผู้คุ้มกัน หลังจากตรวจสอบผู้แข็งแกร่งทุกคนที่เข้าเมืองอย่างเข้มงวดเป็นที่สุดถึงอนุญาตให้เข้าไป

บนหอกำแพงเมืองสูงใหญ่ยิ่งติดข่าวประกาศจับและภาพวาดที่เกี่ยวกับหลินสวินเต็มไปหมด ราวกับกลัวคนไม่รู้ว่าหลินสวินเป็นคนร้ายอันดับหนึ่งของฟ้าดาราอย่างไรอย่างนั้น

แต่ก็น่าเสียดาย การตรวจสอบจะเข้มงวดเพียงใด ก็ไม่สามารถขวางการเข้าไปของคนอย่างหลินสวินได้

อันที่จริงตอนที่หลินสวินเข้าเมืองผาเขียว ตั้งแต่ต้นจนจบไม่ได้ดึงดูดความสนใจใดๆ สักนิด

ไม่ทันไรเขาก็มาถึงอารามกษิติครรภ์

ภาพอันคุ้นเคยกำลังเกิดขึ้นในอาราม เหล่าผู้แข็งแกร่งที่ต้องการการปกป้องในเมืองกำลังคุกเข่ากราบไหว้บนมรรคสถานใหญ่อย่างศรัทธา

ในกระถางธูปที่อยู่ตรงหน้า ธูปที่จุดอยู่กำลังดึงแรงปรารถนามหามรรคบนร่างพวกเขาทุกอย่างเงียบๆ และพวกเขาล้วนไม่รู้ตัวเลย

‘พวกเขาอยากปลุกเจ้าที่หลับใหลให้ตื่นขึ้นมาจริงหรือ…’

สายตาหลินสวินมองไปยังซุ้มธรรมขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในมรรคสถาน ในซุ้มธรรมมีสัตว์เทพเก้าไม่เหมือนตัวหนึ่งตั้งอยู่ มองสรรพชีวิตอย่างเย่อหยิ่ง ราวกับเทพที่ปกครองในความมืด

“เจ้าเป็นใคร ถึงกับกล้ามองรูปปั้นเทพของบรรพจารย์สำนักข้าอย่างไร้มารยาท” ภิกษุชุดดำคนหนึ่งเดินมาต่อว่าหลินสวิน

“พวกเจ้าเก็บรวบรวมแรงปรารถนามหามรรคเพื่อปลุกมันหรือ” หลินสวินชี้รูปปั้นเก้าไม่เหมือนในซุ้มธรรมที่อยู่ไกลออกไป

ภิกษุชุดดำอึ้งงัน สีหน้าเปลี่ยนไปทันที เอ่ยอย่างเดือดดาล “กำเริบ! ใครก็ได้ มาจับคนผู้นี้ไว้!”

ฮูม…

ภิกษุชุดดำกลุ่มหนึ่งพุ่งออกมา

หลินสวินยืนนิ่งอยู่ที่เดิมไม่ขยับ บนร่างเขากลับมีปราณกระบี่พร่างพราวนับไม่ถ้วนทะยานออกมา ราวกับแสงเทพที่พาดขวางตัดสลับแผ่กระจายออกมา

พรูดๆๆ!

ภิกษุชุดดำแต่ละคนยังไม่ทันมาถึง ก็ถูกปราณกระบี่ฟันศีรษะลงมา ชั่วขณะหนึ่งในอากาศเต็มไปด้วยศีรษะลอยคว้าง เลือดสดสาดกระเซ็นออกมาราวกับตาน้ำนับไม่ถ้วน

“เจ้า… เจ้าเป็นใครกันแน่ ถึงกับกล้ามาก่อเรื่องกับแดนกษิติครรภ์ของข้า” ภิกษุชุดดำที่ด่าทอหลินสวินก่อนหน้านี้สีหน้าเขียวคล้ำ ตาเบิกถลน

“พวกเจ้ากำลังตามหาข้าไม่ใช่หรือ” หลินสวินสีหน้าราบเรียบ

ภิกษุชุดดำราวกับถูกฟ้าผ่า กระจ่างแจ้งอย่างสิ้นเชิง เพียงแต่ครู่ต่อมาศีรษะของเขาก็ร่วงหลุด ตายคาที่

ตอนที่หลินสวินเดินออกจากอารามกษิติครรภ์แห่งนี้ ผู้สืบทอดแดนกษิติครรภ์ทั้งหมดล้วนตายอยู่ในนั้น

แท่นบัวแรงปรารถนาที่ใช้รวบรวมแรงปรารถนามหามรรคถูกหลินสวินเก็บไป

หลังจากหลินสวินออกจากเมืองผาเขียว เมืองที่ถูกควบคุมอย่างเข้มงวดนี้ถึงตกอยู่ในความลนลานและอลหม่านครั้งใหญ่

ยามมาเหมือนเข้าสู่แดนไร้คน เสร็จเรื่องก็สะบัดแขนเสื้อจากไป!

……

ข่าวกระจายออกไปทันที

แต่ตอนที่เหล่าผู้ยิ่งใหญ่แดนกษิติครรภ์มาถึงเมืองผาเขียวก็ไม่เห็นร่องรอยของหลินสวินนานแล้ว ทำเอาพวกเขาโมโหจนแน่นอก ไม่สามารถระบายได้ แทบจะกระอักเลือดแล้ว

ใครก็คิดไม่ถึงว่าในสถานการณ์ที่ตามจับเต็มกำลัง หลินสวินกลับกล้าทำเช่นนี้ อาละวาดโดยไม่เกรงกลัวอะไร!

และหลังจากนั้นเงาร่างของหลินสวินเริ่มปรากฏตัวในเมืองต่างๆ ขอเพียงปรากฏตัว อารามกษิติครรภ์ก็จะต้องถูกทำลาย แท่นบัวแรงปรารถนาถูกชิงไป

การเข่นฆ่าตลอดทางนี้ ตั้งแต่ต้นจนจบไม่มีใครห้ามได้ ไร้คนขวาง พังทลายในทุกที่!

ข่าวก็ปิดไม่อยู่ การสังหารที่ดุจผ่าลำไผ่ของหลินสวินประหนึ่งพลังเรืองรองลุกโชน ทำให้ทั้งแคว้นเรืองเมฆาปั่นป่วน เกิดคลื่นลมทั่วฟ้า

เสียงฮือฮา ตกใจ สะท้านไหวไม่รู้เท่าไหร่ดังขึ้น ทั้งโลกมืดล้วนตกตะลึงไม่กล้าเชื่อ

ตอนที่ข่าวนี้แพร่มาถึงเมืองหมื่นดารา เหล่าขุมอำนาจใหญ่ที่มาจากทั่วหล้าฟ้าดาราต่างสูดหายใจสะท้าน จิตใจสั่นไหว

นี่ทำให้คนรู้สึกเหลือเชื่อจริงๆ หลินสวินเป็นศัตรูของคนทั้งโลกแล้ว ในสถานการณ์ที่ถูกทั่วหล้าตามจับ แต่เขากลับเหมือนไม่กลัวเลยสักนิด ใช้พลังของตนเพียงคนเดียว ก็สร้างลมคาวฝนเลือดในเมืองมากมายในอาณาเขตของแดนกษิติครรภ์!

ตอนที่ภิกษุเฒ่าตู้หมิงรู้เรื่องทั้งหมดนี้ก็โกรธจนแทบระเบิดเช่นกัน

ยามที่งานชุมนุมบัวเลิศกำลังจะเริ่มขึ้น กลับเกิดความปั่นป่วนครั้งใหญ่เช่นนี้ในอาณาเขตของพวกเขา นี่ต้องทำให้คนทั่วหล้าหัวเราะเยาะแดนกษิติครรภ์ของพวกเขาอย่างไม่ต้องสงสัย!

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท