Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 2124 วิญญาณกระบี่ที่ถูกสาป

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 2124 วิญญาณกระบี่ที่ถูกสาป

ตอนที่ 2124 วิญญาณกระบี่ที่ถูกสาป

ซ่า!

เลือดแดงสดสาดกระเซ็น การตายของจักรพรรดิอสูรมารกิเลน ทำให้วิญญาณร้ายระดับจักรพรรดิมากมายรู้สึกใจสั่น

พวกเขาล้วนไม่กล้าเชื่อว่าภายใต้การปิดล้อมเช่นนี้ มกุฎกึ่งจักรพรรดิคนหนึ่งไม่เพียงแต่ไม่ถูกกำราบ กลับเป็นยังสามารถฆ่าคนได้ด้วย!

และนับตั้งแต่เวลานี้ไป หลินสวินก็เริ่มโจมตีกลับ

ร่างแยกทั้งห้าติดตามข้างกายร่างต้น ออกเคลื่อนพลพร้อมกัน ไม่ต่างคนต่างสู้เหมือนก่อนหน้านี้อีก เมื่อเป็นเช่นนี้อานุภาพที่เกิดขึ้นจึงแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม

ห้วงอากาศระเบิดกึกก้อง ลูกประคำที่หลอมจากโครงกระดูกขาวเส้นหนึ่งทะยานเข้ามา แผ่แสงธรรมแปลกประหลาดสีเทาออกมาปกคลุมฟ้าดินแถบนี้

นี่คือสมบัติน่าสะพรึงซึ่งมุ่งเป้าไปที่จิตวิญญาณชิ้นหนึ่ง แสงธรรมสีเทาที่สร้างขึ้นก่อพลังราวกับจะม้วนกลืน สามารถทำให้จิตวิญญาณของผู้คนถูกกัดกร่อนกลายเป็นเถ้าถ่าน

ตูม!

กายมรรคเพลิงแดงของหลินสวินสำแดงเนตรผลาญเผา เปลวไฟโฉบผ่านอากาศ ซัดลูกประคำเส้นนี้ลอยออกไปอย่างหนักหน่วง โครงกระดูกขาวพวกนั้นล้วนถูกเผาจนร้องโหยหวนสั่นระรัว

ขณะเดียวกันร่างต้นของหลินสวินก็ออกโจมตี ซัดหมัดหนึ่งออกไป กระแทกจนหน้าอกของภิกษุที่กลิ่นอายชั่วร้ายซัดโหมไปทั่วร่างนั้นยุบทลาย กระเด็นลอยออกไปทั้งตัว

ฟุ่บ!

กายมรรคทองขาวที่อยู่อีกด้านหนึ่งเตรียมตัวไว้นานแล้ว ใช้หนามเเสงคมทะลวงศีรษะของภิกษุนั่นโดยไม่ลังเล

การเคลื่อนไหวทั้งมวลแทบจะเกิดขึ้นในพริบตา

เมื่อทุกอย่างนี้ปิดฉาก วิญญาณร้ายระดับจักรพรรดิที่ท่าทางเหมือนภิกษุนั้นก็ถูกฆ่าอย่างสมบูรณ์!

ขณะเดียวกันร่างต้นของหลินสวินและกายมรรคทั้งสามอย่างวารีดำ ดินเหลือง ไม้เขียวก็จับจ้องคู่ต่อสู้อีกคนไว้นานแล้ว

ไม่เหมือนการต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับผู้แข็งแกร่งคนอื่น ระหว่างร่างต้นของหลินสวินและกายมรรคทั้งห้า จิตวิญญาณรวมเป็นหนึ่ง ความคิดเชื่อมต่อกัน ยามร่วมมือกันจึงเรียกได้ว่าแนบสนิทไร้ช่องโหว่ ไม่เปิดช่องให้โจมตี

นี่ก็คือสิ่งที่ทำให้พลังสังหารที่หลินสวินสร้างขึ้นยามต่อสู้น่าหวาดกลัวไร้ขอบเขต

เคร้ง!

ไม่ทันไรประทับไร้ชีพก็ปะทะกับขวานยักษ์กระดูกขาวเล่มหนึ่ง ส่งเสียงอึกทึกสนั่นหู

ส่วนผู้ที่ควบคุมขวานยักษ์กระดูกขาวก็คือหญิงสาวที่ร่างเป็นคนศีรษะเป็นงู ท่าทางอ่อนช้อยนั่น ขณะที่สมบัติของนางถูกสกัดกั้น ตัวนางก็ถูกกายมรรควารีดำและกายมรรคไม้เขียวประกบ

“ช่วยข้าด้วย…!”

นางส่งเสียงหวีดร้อง ใกล้จะยืนหยัดไม่อยู่

อันที่จริงวิญญาณร้ายระดับจักรพรรดิตนอื่นที่อยู่ใกล้ก็กำลังสู้สุดกำลัง แต่ล้วนถูกร่างต้นของหลินสวินและกายมรรคร่างอื่นต้านทานและสลายพลัง

ไม่นานหญิงสาวที่ร่างเป็นคนศีรษะเป็นงูก็กรีดร้องโหยหวนด้วยความไม่ยินยอม ถูกธงไร้ระเบียบที่กายมรรคไม้เขียวครอบครองฆ่าตายคาที่

และการตายของหญิงสาวคนนี้ ก็ห่างจากการตายของภิกษุนั่นไม่เท่าไร!

ภาพความตายที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องนี้ กระตุ้นจนวิญญาณร้ายระดับจักรพรรดิพวกนั้นแทบคลั่ง

ร่างต้นและร่างแยกของหลินสวินที่รวมตัวกัน เรียกได้ว่าไร้คู่ต่อกรจริงๆ ทั้งโจมตีและป้องกัน ทั้งครอบครองศาสตราจักรพรรดิแห่งคุนหลุนนานัปการ วิชามรรคที่สำแดงก็ไม่มีสิ่งใดที่ไม่ใช่คัมภีร์ซึ่งเรียกได้ว่าชั้นยอดบนโลก

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ การต่อสู้กับเขาก็เหมือนกำลังต้านภูเขาสูงตระหง่านเทียมฟ้าลูกหนึ่ง ไม่ว่าพวกเขาจะพุ่งสังหารอย่างไรก็ยากสั่นคลอน!

ไม่ทันไรชายไร้หัวที่ทั้งตัวปกคลุมด้วยเกราะพลันถูกดาบหนึ่งของหลินสวินฟันเกราะบนตัวแตก เกือบจะเวลาเดียวกัน กายมรรคดินเหลืองพุ่งเข้ามา ควบรวมประทับแห่งสรรพชีวิตมาพิฆาต

ตูม!

ร่างของชายไร้หัวถูกซัดระเบิด เลือดสีสดสาดกระเซ็นขึ้นไป

ตั้งแต่การต่อสู้เริ่มต้นจนถึงตอนนี้ หลังจากอสูรเฒ่าไม้ไผ่ จักรพรรดิอสูรมารกิเลน ภิกษุ หญิงสาวที่ร่างเป็นคนศีรษะเป็นงูนั่น นี่เป็นวิญญาณร้ายระดับจักรพรรดิตนที่ห้าที่ถูกฆ่าแล้ว!

ต้นสำริดเฒ่าก็ถูกกำราบเข้าไปในเจดีย์มหามรรคไร้สิ้นสุด

ส่วนเวลาก็เพิ่งผ่านไปไม่ถึงครึ่งเค่อ ในเวลาสั้นๆ นี้อย่าว่าแต่หลินสวินถูกกำราบ แม้แต่ได้รับบาดเจ็บยังไม่มี

“เป็นไปได้อย่างไร!” มีคนตะโกนอย่างขุ่นเคือง

“ฆ่า! ใครไม่สู้สุดกำลัง มันผู้นั้นต้องตาย!” มีคนแผดเสียงคำราม

ผู้คนมากมายสีหน้าจริงจังคล้ำเขียว ไม่กล่าวอันใดอีก แต่ความจริงในใจกลับปั่นป่วนเต้นระส่ำ เต็มไปด้วยความตื่นตระหนกและกระสับกระส่าย

หากคู่ต่อสู้เป็นผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิคนหนึ่งก็พอยอมรับได้

แต่ที่สำคัญคือคู่ต่อสู้เป็นแค่มกุฎกึ่งจักรพรรดิคนหนึ่ง นี่ก็คือสิ่งที่ทำให้พวกเขายากจะยอมรับที่สุด

ถึงอย่างไรตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ล้วนไม่เคยเกิดเรื่องเช่นนี้มาก่อน!

ตูม…

การต่อสู้ดุเดือดยิ่งกว่าเดิมแล้ว ฟ้าดินปั่นป่วนอลหม่าน กลิ่นคาวเลือดแผ่ออกมาอย่างต่อเนื่อง แสงมรรคและไอชั่วร้ายไร้สิ้นสุดม้วนกลืน ทำให้นรกอำพรางชั้นที่หกนี้ตกอยู่ในความโกลาหลอย่างสมบูรณ์

ผ่านไปหนึ่งเค่อ

ทยอยมีวิญญาณร้ายระดับจักรพรรดิอีกสี่ตนหลั่งเลือด ณ ที่นั้น สภาพการตายล้วนต่างกันออกไป แต่ล้วนตายอย่างอนาถโดยไม่มีข้อยกเว้น!

และตอนนี้วิญญาณร้ายระดับจักรพรรดิที่ล้อมโจมตีหลินสวินพวกนั้นก็เหลือแค่เจ็ดตน!

พอมองหลินสวินอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นร่างต้นหรือร่างแยกทั้งห้านั้นล้วนไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด อานุภาพดุจสายรุ้ง ต่อสู้อย่างบ้าคลั่ง บุกโจมตีตามอำเภอใจ ผงาดผยองราวกับไร้คู่ต่อกร

นี่สามารถเทียบได้กับการกวาดล้างคู่ต่อสู้ ทรงพลังไร้เทียมทาน!

ฟุ่บ!

ยามที่หลินสวินกำลังคิดจะไปจัดการนกยักษ์กระดูกขาวที่ปีกขาดวิ่นเพลิงลุกโชนนั้น ฝ่ายหลังพลันกระพือปีกแหวกผ่านห้วงอากาศแล้วพุ่งตัวไปทันที

ถึงกับหนีแล้ว!

ตั้งแต่เริ่มสู้ถึงตอนนี้ นี่เป็นวิญญาณร้ายระดับจักรพรรดิตนแรกที่ถูกทำให้ตกใจจนหนีหัวซุกหัวซุน

หลินสวินไม่ได้ไล่ตาม เปลี่ยนเป้าหมายไปสังหารวิญญาณร้ายระดับจักรพรรดิตนอื่น

แต่ในเวลาต่อมา จิตต่อสู้ของวิญญาณร้ายระดับจักรพรรดิพวกนั้นประหนึ่งถูกสั่นคลอน เพียงถูกหลินสวินจับจ้องหมายจะต่อสู้เต็มกำลัง ก็เลือกหลบหนีโดยไม่ลังเล

บ้างทำสำเร็จ โชคดีหอบชีวิตกลับมาได้ บ้างต่อให้วิ่งหนีก็ถูกขัดขวาง ถูกฆ่าตายคาที่ทั้งอย่างนั้น

“ไป!”

“เจ้าหมอนี่ไม่ใช่คนที่พวกเราต่อกรได้!”

“รีบหนีเร็ว!”

ไม่นานจิตต่อสู้ของวิญญาณร้ายระดับจักรพรรดิที่เหลืออยู่นั้นก็พังทลาย แต่ละตนตะโกนก้องฟ้าดิน หนีกระเจิงไปคนละทาง

ไม่มีใครกล้าปะทะกับหลินสวินซึ่งหน้าอีก

หรือกล่าวได้ว่าพลังต่อสู้ที่หลินสวินเผยให้เห็น ทำให้พวกเขารู้สึกตื่นตระหนกและสิ้นหวังแล้ว!

หลินสวินต่อสู้ราวเพลิงลุกโหม ไอสังหารกำลังเข้มข้น มีหรือจะหยุดมือแค่นี้ เขาสูดหายใจลึก ร่างแยกมหามรรคที่เดิมรวมตัวอยู่ข้างกายเคลื่อนที่ไปยังทิศทางที่แตกต่างกัน ตามล่าศัตรูที่หนีตายพวกนั้นไป

ร่างต้นของเขากลับจับจ้องชายชุดดำที่ทั่วร่างราวรวมตัวจากหมอกควันคนหนึ่ง เริ่มไล่ล่าเต็มกำลัง

และนับตั้งแต่เวลานี้ไป หลินสวินก็เป็นฝ่ายจู่โจมโดยสมบูรณ์ เปิดฉากโจมตีกลับในนรกอำพรางชั้นที่หกนี้!

หนึ่งเค่อผ่านไป

ใกล้หุบเขาที่รกร้างว่างเปล่าแถบหนึ่ง กายมรรคไม้เขียวกวาดสายตามองโดยรอบ ธงไร้ระเบียบในมือโบกสะบัดเบาๆ

ตูม!

แสงเทพดุดันหาใดเปรียบนับไม่ถ้วนหวือแหวกออกมา ราวกับรุ้งเทพหลายสายที่พุ่งลงมาจากฟากฟ้า ปกคลุมหุบเขาที่ห่างออกไปไว้ภายใน

หุบเขานั้นถูกสะบั้นแหลก พื้นดินยุบทลาย เกิดหลุมบ่อมหึมาแน่นขนัดมากมาย ลึกล้ำยากหยั่งถึง

ในหลุมบ่อหนึ่งในนั้น วิญญาณร้ายระดับจักรพรรดิตนหนึ่งพุ่งออกมาอย่างล้มลุกคลุกฝุ่น ร่างกายชุ่มเลือด เลือดเนื้อปะปน ท่าทางอนาถ

มันเพิ่งคิดหลบหนีก็ถูกกายมรรคไม้เขียวขวางไว้

“หนีพ้นรึ”

ท่ามกลางเสียงราบเรียบ กายมรรคไม้เขียวสะบัดธงไร้ระเบียบ ครู่ต่อมาวิญญาณร้ายระดับจักรพรรดินั้นก็ถูกแสงเทพที่ดุดันหาใดเปรียบฝังกลบ

ทิศตะวันตกเฉียงใต้

กายมรรคทองขาวอยู่ในชุดคลุมขาว กำลังใช้ดาบหักห้ำหั่นกับวิญญาณร้ายระดับจักรพรรดิที่รูปร่างคล้ายช้างยักษ์ตนหนึ่งอย่างดุเดือด

นี่คือคู่ต่อสู้ที่ถูกเขาตามล่า

อีกทั้งคู่ต่อสู้ก็ใกล้จะยืนหยัดไม่อยู่แล้ว

แต่เวลานี้เอง ในที่ลับนั้นพลันมีเงามืดที่ราวกับอากาศสายหนึ่งพุ่งออกมา ควบคุมกระบี่บินกระดูกขาวเล่มหนึ่ง พุ่งสังหารกายมรรคทองขาวจากด้านหลัง

ตั้งแต่ต้นจนจบไร้สุ้มเสียง ถึงขั้นไม่มีคลื่นพลังแผ่ออกมาเพียงเสี้ยว ดูแปลกประหลาดเป็นอย่างยิ่ง

วิญญาณร้ายระดับจักรพรรดิที่เหมือนช้างยักษ์นั้นเห็นภาพนี้ ในดวงตาที่แดงก่ำดั่งโคมไฟพลันฉายแววปิติยินดี

แต่เพียงพริบตาเท่านั้น ความปิติยินดีนี้ก็ถูกความตื่นตะลึงและหวาดผวาเข้ามาแทนที

พลันเห็น…

กายมรรคเพลิงแดงของหลินสวินเคลื่อนผ่านอากาศมาอย่างไม่คาดฝัน โบกทวนมหามรรคไร้สวรรค์ครึ่งท่อน แทงใส่เงามืดที่เหมือนห้วงอากาศสายนั้น

ตูม!

เงามืดนั้นไม่ทันตั้งตัว ถูกฟันจนซวนเซกระเด็นลอยออกไป ส่งเสียงร้องอย่างเจ็บปวด

เกือบจะเวลาเดียวกัน ฝั่งกายมรรคทองขาวเงื้อดาบผ่าแหวก สังหารวิญญาณร้ายระดับจักรพรรดิที่เหมือนช้างยักษ์นั่นซึ่งเดิมทีก็ใกล้จะยืนหยัดไม่อยู่

ฉัวะ!

ศีรษะของมันกระเด็นขึ้นเหนือฟ้า เลือดอาบท้องนภา

กายมรรคทองขาวหันหลังกลับ ก้าวไปทางคู่ต่อสู้ที่กำลังห้ำหั่นกับกายมรรคเพลิงแดง

ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ทิศตะวันออกเฉียงใต้…

ก็กำลังเปิดฉากเหตุการณ์แบบเดียวกัน คู่ต่อสู้หนีหัวซุกหัวซุน แต่ร่างต้นและร่างแยกมหามรรคของหลินสวินก็แยกกันไล่ล่าเช่นเดียวกัน เปิดฉากการเข่นฆ่านองเลือดขึ้นมากมาย

ระหว่างนี้วิญญาณร้ายระดับจักรพรรดิที่ซ่อนตัวไม่ลงมือมาตลอดบางส่วน หลังจากเห็นร่างต้นและร่างแยกของหลินสวินกระจายกันออกไปก็อดลงมือไม่ได้แล้ว

เพียงชั่วขณะก็ทำให้กลางฟ้าดินของนรกอำพรางชั้นที่หกนี้ ทุกหนแห่งล้วนเป็นภาพห้ำหั่นอลหม่าน โกลาหลหาใดเปรียบ

หลังผ่านไปหนึ่งก้านธูป

จำนวนระดับจักรพรรดิที่ตายในมือร่างต้นและร่างแยกทั้งห้าของหลินสวิน รวมกันแล้วมีมากถึงยี่สิบเอ็ดตนอย่างน่าตกใจ!

เวลานี้แม้ว่าหลินสวินจะไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่กลับรู้สึกอ่อนเพลีย

สุดท้ายเขาก็เป็นแค่ระดับมกุฎกึ่งจักรพรรดิ การใช้ร่างแยกทั้งห้าพร้อมกัน วิชามรรคที่สำแดงออกมา ศาสตราจักรพรรดิที่ควบคุมทั้งหมด แม้อานุภาพจะยิ่งใหญ่มหัศจรรย์หาใดเปรียบ แต่ก็ใช้พลังไปอย่างน่าตะลึงเช่นกัน

หากไม่ใช่ว่ามรรควิถีทั้งตัวเขาแข็งแกร่งหาใดเปรียบ ก็ไม่มีทางยืนหยัดได้ถึงหนึ่งก้านธูปแต่แรก

‘วิญญาณร้ายระดับจักรพรรดิในที่นี้แม้จะมาก แต่ส่วนใหญ่ล้วนเทียบได้กับระดับจักรพรรดิขั้นหนึ่ง ไม่สามารถชักนำภัยคุกคามถึงชีวิตที่แท้จริงมาให้ข้าได้’

‘แต่การฝึกอยู่ที่นี่ช่วงหนึ่งก็ไม่เลว’

ขณะที่ร่างต้นของหลินสวินใคร่ครวญ ก็คิดเรียกร่างแยกทั้งห้ากลับมาแล้ว หยุดมือชั่วคราว พักผ่อนครู่หนึ่ง

แต่เวลานี้เอง…

ฟุ่บ!

กระบี่หักเปื้อนเลือดเล่มหนึ่งกรีดแหวกห้วงอากาศ ฟันเฉือนเข้ามา ปราณกระบี่ที่อำมหิตหาใดเปรียบทำให้ฟ้าดินแถบนี้มืดสลัว น่าสะพรึงอย่างที่สุด

เคร้ง!

ดาบไร้วิชาแผ่ปราณดาบเจิดจ้า ขวางการจู่โจมกะทันหันของกระบี่หักเล่มนี้ไว้

จากนั้นเหตุการณ์ที่น่าเหลือเชื่อก็เกิดขึ้น กระบี่หักเล่มนั้นไหววูบเบาๆ กลางอากาศ กลายเป็นเด็กหนุ่มผมสีโลหิตที่ทั้งตัวดำสนิท หน้าตาอำมหิตคนหนึ่ง เขาสูงแค่สองฉื่อ แสงโลหิตไหลวนไปทั้งตัว ความโกรธแค้นทะลวงเหนือเมฆา

เห็นได้ชัดว่านี่เป็นวิญญาณกระบี่ที่ควบรวมสติปัญญาออกมาได้ตนหนึ่ง!

“วิญญาณของกระบี่หักที่รายล้อมด้วยคำสาปและความคั่งแค้นนั้นปรากฏตัวอีกแล้ว…”

ในที่ลับวิญญาณร้ายระดับจักรพรรดิตนหนึ่งที่สังเกตเห็นภาพนี้ใจกระตุกวูบ คล้ายยากจะเชื่อ ด้วยวิญญาณของกระบี่หักนี้ไม่ได้ปรากฏตัวมานานมากแล้ว

กลับเห็นเด็กหนุ่มผมสีโลหิตที่สูงสองฉื่อนั่นจ้องมองหลินสวิน แววตาเหี้ยมโหดเยียบเย็นกล่าว “ทิ้งกล่องกระบี่ที่อยู่ด้านหลังเจ้าไว้ ข้ารับรองว่าจะไม่มีใครกล้าขวางเจ้า”

หลินสวินเลิกคิ้ว วิญญาณกระบี่นี้น่าจะเป็นวิญญาณร้ายเช่นกัน ทั้งยังควบรวมปัญญาออกมาแล้ว รู้ว่ากล่องกระบี่สำริดที่อยู่ด้านหลังตนนั้นไม่ธรรมดา!

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท