Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 2142 ความลับตะลึงฟ้าที่ศิษย์พี่พูดถึง

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 2142 ความลับตะลึงฟ้าที่ศิษย์พี่พูดถึง

ตอนที่ 2142 ความลับตะลึงฟ้าที่ศิษย์พี่พูดถึง

ชายชุดขาวเงียบไปครู่ใหญ่ค่อยเอ่ยว่า “เจ้ามาแล้ว ก็ไม่มีความจำเป็นต้องสู้แล้ว”

ในใจหลินสวินสั่นไหว

ความแข็งแกร่งของชายชุดขาว ก่อนหน้านี้เขาเคยได้เห็นแล้ว ต่อให้ผีสุราและต้าหวงอยู่ตรงหน้า ก็ไม่เคยทำให้เจตจำนงของเขาเปลี่ยนแปลงแม้แต่เสี้ยวเดียว

ทว่าพอศิษย์พี่รองปรากฏตัว กลับทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลง

ไม่มีความจำเป็นต้องสู้ต่อ เป็นเพราะเขาคิดว่าเมื่อศิษย์พี่รองปรากฏตัว ก็ไม่มีโอกาสชนะแล้ว!

จากเรื่องนี้แค่คิดก็รู้ว่าศิษย์พี่รองแข็งแกร่งเพียงใด

นี่จึงจะเป็นจุดที่ทำให้หลินสวินตกใจ

“ไม่สู้แล้ว ก็ควรจะคุยสักหน่อยว่าจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร”

ศิษย์พี่รองเสียงราบเรียบ “หนึ่ง ข้าจะทำตามข้อตกลงในตอนนั้น ไม่ฆ่าเจ้า”

“สอง ในเมื่อเจ้าหมอนี่เป็นทายาทจักรพรรดินรกเลือดทมิฬ ข้าสามารถให้ทางรอดสายหนึ่งกับเขา”

“สาม เงื่อนไขที่จะทำตามสองข้อแรก คือศิษย์น้องของข้าจะยอมรับหรือไม่”

พูดถึงตอนสุดท้าย สายตาของจ้งชิวมองไปยังหลินสวิน สีหน้ายังคงเต็มไปด้วยความหยิ่งทระนง แต่ในสายตาแฝงความอ่อนโยนเสี้ยวหนึ่ง

เขาพยักหน้าให้หลินสวิน

หลินสวินประสานหมัด “หลินสวินคารวะศิษย์พี่รอง”

จ้งชิวขานรับว่าอืม เคลื่อนสายตาไปมองชายชุดขาวคนนั้นอีกครั้ง “เจ้าตัดสินใจเถอะ”

เขาไม่ใช่คนที่ชอบพูดไร้สาระ

ชายชุดขาวเงียบไปครู่หนึ่งก่อนกล่าวว่า “ข้าสามารถทิ้งมรรคกระบี่ทั้งชีวิตมอบให้กับศิษย์น้องของเจ้าได้”

จ้งชิวอึ้งไป ดูเหมือนประหลาดใจเล็กน้อย

ผีสุราและต้าหวงกลับเผยสีหน้าตกใจ

จูคง ตัวตนอันน่ากลัวที่ถูกกำราบในชั้นสิบแปดของนรกอำพราง

แต่ในช่วงต้นยุคดึกดำบรรพ์ จูคงคือจอมกระบี่อันดับหนึ่งของโลกมืด เป็นบุคคลระดับตำนานที่ชื่อเสียงเทียบเคียงจักรพรรดิกระบี่ไท่เสวียน

ในข่าวลือ จูคงเป็นสิ่งมีชีวิตฟ้าประทานที่ถือกำเนิดในแม่น้ำนรกแรกกำเนิดเหมือนจักรพรรดินรกเลือดทมิฬ ตั้งแต่มีสติปัญญาตื่นรู้ก็ครอบครองมรรคกระบี่ชั้นเลิศแล้ว!

ความแข็งแกร่งของเขา ได้รับการพิสูจน์ตั้งแต่ในเคราะห์จ่อมจมครั้งแรกแล้ว แม้ในกาลเวลาไร้สิ้นสุดที่ผ่านมาเขาถูกขังอยู่ในชั้นสิบแปดของนรกอำพราง แต่ก็แข็งแกร่งจนถึงขั้นสามารถกำราบบรรพจารย์จักรพรรดิได้!

ตัวตนที่น่ากลัวเช่นนี้ กลับยอมทิ้งมรดกมรรคกระบี่ทั้งชีวิตเพื่อแก้ไขปัญหาให้บุตรนรก นี่น่าตกใจเกินไปแล้ว

“เจ้าทำเช่นนี้ คงไม่ใช่เพียงเพื่อช่วยทายาทของจักรพรรดินรกเลือดทมิฬกระมัง” จ้งชิวพูด เขาเดาอะไรออกรางๆ แล้ว

“ไม่ผิด”

ชายชุดขาวพยักหน้าเปิดเผย

เขาไม่ได้อธิบาย

จ้งชิวก็ไม่ได้ซักไซ้ต่อ เพียงหันสายตาไปมองหลินสวินแล้วเอ่ยว่า “ศิษย์น้อง เจ้าคิดว่าอย่างไร”

หลินสวินพูดโดยไม่คิด “รากปฐมจิตวิญญาณของต้นไม้เทพคุนอู๋จะต้องทิ้งเอาไว้ อย่างอื่นศิษย์พี่เป็นผู้ตัดสินใจ”

จ้งชิวพยักหน้า

“รากปฐมจิตวิญญาณของต้นไม้เทพคุนอู๋หรือ” บุตรนรกอึ้งไป ราวกับห้าอสนีผ่าลงกลางศีรษะ เพื่อกำราบสิ่งนี้เขาจ่ายค่าตอบแทนไปไม่น้อย

พูดอย่างไม่เกินจริง ที่เขามาเยือนนรกอำพรางครั้งนี้ เป้าหมายก็เพื่อช่วงชิงสิ่งนี้

สำหรับเขา ข้อเรียกร้องของหลินสวินเท่ากับกรีดเนื้อเลยเชียว!

“ได้” กลับเห็นชายชุดขาวตอบรับอย่างไม่ลังเลสักนิด

บุตรนรกสีหน้าเปลี่ยนไปมาไม่อาจสงบได้ เขาเองก็ดูออกว่าตอนนี้เขากับชายชุดขาวราวกับปลาบนเขียง อยากรอดชีวิตมีเพียงการให้ผู้อื่นสูบเลือดเนื้อไป

“กาหลอมจิตนี่…”

หลินสวินเพิ่งเอ่ยปาก บุตรนรกก็คำรามออกว่า “แม้ข้าตายก็ไม่มีทางให้สมบัตินี้กับคนอื่น!”

“ศิษย์น้อง อย่าข้องเกี่ยวสมบัตินี้จะดีที่สุด” จ้งชิวเตือน

หลินสวินยิ้มพูด “ข้าเพียงพูดถึงเฉยๆ”

ในใจอันที่จริงก็เสียดายเล็กน้อย ความแข็งแกร่งของกาหลอมจิต ไม่ด้อยกว่าเจดีย์มหามรรคไร้สิ้นสุดแน่!

“ก็เอาตามนี้เถอะ”

ชายชุดขาวตัดสินใจ

ไม่นานชายชุดขาวก็พาบุตรนรกจากไป หายไปจากชั้นเก้าของนรกอำพรางแห่งนี้

ก่อนไปเขาทิ้งมรดกมรรคกระบี่ทั้งชีวิตไว้ในม้วนหยก ขณะเดียวกันก็ทิ้งรากปฐมจิตวิญญาณของต้นไม้เทพคุนอู๋เอาไว้

ก่อนไปบุตรนรกเหม่อลอย สีหน้าที่คล้ำเขียวเต็มไปด้วยความไม่จำยอม แต่สุดท้ายก็ไม่ปริปากแม้แต่คำเดียว

หลินสวินรู้ว่าหลังจากผ่านเรื่องนี้ เจ้าหมอนี่คงแค้นตนเข้ากระดูกอย่างสิ้นเชิง ในอนาคตหากเจอกันอีก จะต้องดำเนินการแก้แค้นอย่างแน่นอน

ทว่าหลินสวินไม่เพียงไม่กลัว กลับยังมีความคาดหวังอยู่รางๆ เจอกันคราวหน้า เด็กแจกทรัพย์นี่จะให้ตนปล้นสมบัติได้อีกเท่าไหร่

……

ผีสุราและต้าหวงจากไปก่อน ทั้งสองต่างรู้ดีว่าหลังจากนี้ศิษย์พี่ศิษย์น้องคู่นี้จะต้องมีเรื่องคุยกันแน่

สายฟ้าปั่นป่วน กลับเชื่องราวกับลูกสัตว์ กลางฟ้าดินแห่งนี้เต็มไปด้วยความสงบสันติ

ในบ่ออสนีที่อยู่ห่างออกไป ต้นไม้เทพคุนอู๋ที่แดงชาดราวกับหลอมจากแร่ทองแดงเพลิง ดับสิ้นไปทุกกระเบียนในบ่ออสนีไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่

รากปฐมจิตวิญญาณของมัน ก่อนหน้านี้ถูกบุตรนรกช่วงชิงไป ตอนนี้ตกอยู่ในมือของหลินสวิน

จ้งชิวยืนนิ่งอยู่ข้างบ่ออสนี เงียบไปครู่หนึ่งค่อยเอ่ยว่า “เดิมทีข้าคิดว่าหลังจากแดนปรินิพพานสิ้นสุดลงค่อยเจอเจ้า แต่เจอตอนนี้ก็ไม่เป็นไร”

หลินสวินยืนอยู่ข้างๆ เงียบฟัง

เขาดูออกว่าศิษย์พี่รองคนนี้ไม่ใช่คนที่ชอบถามไถ่ความเป็นอยู่

“นั่ง”

จ้งชิวมองเขาคราหนึ่งแล้วนั่งขัดสมาธิลงก่อน

หลินสวินเองก็ไม่ได้เกรงใจ นั่งลงข้างๆ สีหน้านิ่งสงบราบเรียบ

“อาจเป็นเพราะเจ้ามีสภาวะจิตเช่นนี้ ถึงได้สามารถเอาชนะเจตจำนงกระถางใหญ่ได้ แข็งแกร่งกว่าข้าในตอนนั้นมาก”

เสียงของจ้งชิวดังขึ้นเนิบๆ “เช่นนี้ก็ดี ผู้สืบทอดของคีรีดวงกมลเดิมก็เป็นเช่นนี้ เหมือนที่อาจารย์พูดกับศิษย์พี่ใหญ่ในตอนนั้น ศิษย์ไม่จำเป็นต้องด้อยกว่าอาจารย์”

“และในสายตาข้า เจ้าในฐานะศิษย์คนสุดท้ายที่เข้าสำนัก ทั้งยังมีมรดกมหามรรคที่อาจารย์ทิ้งเอาไว้ ก็ควรจะแข็งแกร่งกว่าศิษย์พี่อย่างพวกเรา!”

ฟังถึงตรงนี้หลินสวินเอ่ยถามว่า “ถ้าอย่างนั้น ข้าได้รับการยอมรับจากศิษย์พี่แล้วหรือ”

จ้งชิวอึ้ง “ดูท่าในใจเจ้ามีความคิดจะแข่งกับข้า”

หลินสวินยิ้ม “หากไม่มีความคิดที่จะแข่งขันจะได้รับการยอมรับจากศิษย์พี่ได้อย่างไร แน่นอนว่าการยอมรับเป็นแค่ขั้นแรก ต่อไป”

จ้งชิวพูดว่า “ต่อไปทำไม”

หลินสวินสบตากับสายตาของจ้งชิว พูดอย่างจริงจัง “ศิษย์ไม่จำเป็นต้องด้อยกว่าอาจารย์ ศิษย์น้องไม่จำเป็นต้องด้อยกว่าศิษย์พี่”

ยามนี้ในที่สุดจ้งชิวก็เผยรอยยิ้ม ราวกับพอใจกับคำตอบของหลินสวินมาก เอ่ยว่า “ข้ารอวันนั้นที่เจ้าจะก้าวข้ามข้า”

หลังจากนั้นศิษย์พี่ศิษย์น้องทั้งสองคุยกันอีกเยอะมาก

ในที่สุดหลินสวินก็ได้รู้เรื่องราวบางอย่าง

อย่างเช่นจูคงนั่น ร่างเดิมคือปลาแดงตัวหนึ่งที่เกิดในแม่น้ำนรกแรกกำเนิด ครอบครองมรรคกระบี่ชั้นเลิศแต่กำเนิด เป็นพวกระดับตำนานยุคเดียวกับจักรพรรดินรกเลือดทมิฬ

จูคงกับจักรพรรดินรกเลือดทมิฬสนิทสนมกัน แต่เพราะแนวคิดมหามรรคที่เสาะแสวงไม่เหมือนกัน สุดท้ายจึงแยกทางกัน

ที่จูคงปกป้องบุตรนรก ก็เพราะแม้มหามรรคที่เขากับจักรพรรดินรกเลือดทมิฬเสาะแสวงแตกต่างกัน แต่ก็ระลึกถึงมิตรภาพในตอนนั้นมาโดยตลอด จึงปฏิบัติกับบุตรนรกเหมือนหลานของตน

ที่จูคงถูกขังไว้ที่นี่ ความจริงก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับจักรพรรดินรกเลือดทมิฬ

หลังจากเคราะห์จ่อมจมครั้งแรกปะทุขึ้น บุคคลเทียมฟ้าในช่วงต้นยุคดึกดำบรรพ์อย่างพวกจูคง จักรพรรดินรกเลือดทมิฬ จักรพรรดิกระบี่ไท่เสวียนล้วนมายังโลกมืด

เพื่อช่วงชิง ‘ต้นกำเนิดโลก’ ของโลกมืด

สุดท้ายพวกจักรพรรดิกระบี่ไท่เสวียนชนะ ส่วนจูคงเพื่อช่วยจักรพรรดินรกเลือดทมิฬจึงถูกกำราบจากเคราะห์จ่อมจม ถูกขังอยู่ในนรกอำพราง

ฟังถึงตรงนี้หลินสวินอดอึ้งไม่ได้ “จูคงนี่แยกทางกับจักรพรรดินรกเลือดทมิฬแล้วไม่ใช่หรือ เหตุใดจึงต้องช่วยสุดชีวิตเช่นนี้”

“แยกทางกันเพราะมรรคที่แตกต่าง แต่ไม่กระทบต่อมิตรภาพที่ผ่านมาของทั้งสอง”

จ้งชิวเอ่ยต่อ “ก็เพราะเช่นนี้ ข้าจึงชื่นชมความสง่างามของจูคงเป็นอย่างมาก ตัวเขาก็เหมือนมรรคกระบี่ของเขา องอาจโดดเด่น ปลอดโปร่งไพศาล”

“หากเปลี่ยนเป็นสมัยที่พลังรุ่งเรืองถึงขีดสุด ข้าอยากเอาชนะจูคงก็ต้องจ่ายค่าตอบแทนอยู่บ้าง”

พูดถึงสุดท้าย น้ำเสียงแฝงความทอดถอนใจ

ความองอาจทั้งชีวิตทำให้ศิษย์พี่รองชื่นชมเป็นอย่างมาก จากเรื่องนี้สามารถมองได้ว่า จูคงคนนี้เป็นคนที่ยอดเยี่ยมคนหนึ่งจริงๆ

จากนั้นหลินสวินก็ได้รู้ความลับตะลึงฟ้าเรื่องหนึ่ง!

ที่แท้ยามเคราะห์จ่อมจมมาเยือนครั้งแรก ‘ต้นกำเนิดโลก’ ที่ผู้ยิ่งใหญ่ในช่วงต้นยุคดึกดำบรรพ์อย่างพวกจักรพรรดิกระบี่ไท่เสวียนที่มาชิงในโลกมืด ก็คือแดนมกุฎที่เคยปรากฏในดินแดนรกร้างโบราณ!

จากที่จ้งชิวพูด ตอนนั้นที่พวกจักรพรรดิกระบี่ไท่เสวียนทำเช่นนี้ เพราะอยากรักษาต้นกำเนิดที่เป็นของโลกมืดเอาไว้ หวังว่าหลังจากเคราะห์จ่อมจมสิ้นสุดลง จะสามารถทำให้โลกมืดกลับเป็นเหมือนเดิมได้

แต่ผลลัพธ์ได้พิสูจน์ว่า ภายใต้เคราะห์จ่อมจม โลกมืดจมลงไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว ไม่มีความเป็นไปได้ที่จะฟื้นตัวขึ้นมาอีก

กระทั่งศึกมรรคสิบทิศปะทุขึ้น พลังระเบียบต้องห้ามที่มาจากฟากฝั่งฟ้าดาราปกคลุมทางเดินโบราณฟ้าดารา ต้นกำเนิดโลกที่ได้มาจากโลกมืดนี้ถึงได้มีประโยชน์

นั่นก็คือแดนมกุฎ!

ควรรู้ว่าภายใต้การปกคลุมของพลังระเบียบต้องห้าม ในดินแดนรกร้างโบราณไม่มีมกุฎมรรคาให้เสาะแสวงได้อีก แต่การปรากฏของแดนมกุฎได้ทิ้งความหวังหนึ่งให้กับดินแดนรกร้างโบราณ!

เมื่อได้รู้เรื่องพวกนี้ หลินสวินจึงคลายความสงสัยที่ซ่อนอยู่ในใจมาหลายปี

มิน่าแดนมกุฎถึงเรียกได้ว่าเป็นแดนแห่งวาสนาชั้นเลิศซึ่งไม่เคยมีมาก่อน ที่แท้โลกแห่งนี้ก็แปลงมาจากพลังต้นกำเนิดของโลกมืด!

และไม่แปลกที่แดนมกุฎนั่นจะซ่อนมรดกของบุคคลชั้นเลิศอย่างพวกจักรพรรดิสงครามอู๋ยาง จักรพรรดิกระบี่ไท่เสวียน เซียนผลาญเฉินหลินคง

เดิมทีนี่ก็คือสิ่งที่พวกจักรพรรดิกระบี่ไท่เสวียนทิ้งไว้!

ก็เพราะแดนมกุฎ จึงทำให้หลินสวินก้าวสู่มกุฎมรรคา ครอบครองรากฐานพลังที่สามารถประชันกับหมื่นผู้กล้าทั่วหล้าได้

และเพราะแดนมกุฎ ถึงทำให้ดินแดนรกร้างโบราณได้แก้ชะตาใหม่ ปรากฏบุคคลขอบเขตมกุฎมากมาย!

คิดถึงตรงนี้ในใจหลินสวินอดทอดถอนใจไม่ได้ สิ่งที่พวกจักรพรรดิกระบี่ไท่เสวียนทำ เรียกได้ว่าเป็นคุณูปการนับพันหมื่นปี! อยากไม่ชื่นชมยังยาก

หลินสวินอดถามไม่ได้ “ศิษย์พี่ ตอนนี้พวกจักรพรรดิกระบี่ไท่เสวียนอยู่ที่ไหนหรือ”

“ฟากฝั่งฟ้าดารา” จ้งชิวตอบง่ายมาก

“ฟากฝั่งฟ้าดาราอีกแล้ว…” หลินสวินอึ้ง

เขากับจ้งชิวคุยกันเยอะมาก ทำให้ความสงสัยบางอย่างในใจเขาค่อยๆ ได้รับคำตอบ

อย่างเช่น การปรากฏตัวของแดนปรินิพพาน แม้พลังระเบียบต้องห้ามก็ไม่สามารถรบกวนและทำลายได้

อย่างเช่น จักรพรรดิสวรรค์ดำรงที่มาจากฟากฝั่งฟ้าดารา ในเวลาอันสั้นไม่มีทางกลับจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ได้

อย่างเช่น ผลลัพธ์ของการต่อสู้ระหว่างซีและหญิงชุดม่วง…

แต่ก็ยังมีหลายคำถามที่จ้งชิวไม่สามารถให้คำตอบได้

อย่างเช่น ท่านลู่ที่เคยเป็นเจ้าของเรือนเร้นหมอก… ตอนนี้อยู่ที่ไหน

——

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท