สายฟ้าพลิกม้วนเสียงดังกัมปนาท ทำให้ฟ้าดาราตกอยู่ในความสั่นสะเทือน
สายฟ้าสีเลือดสีแดงก่ำตัดสลับ กลายเป็นดาบกระบี่แหลมคมไร้ใดเปรียบนับไม่ถ้วน พริบไหวในส่วนลึกของเมฆาเคราะห์มืดดำ!
“เคราะห์แปลงเป็นดาบกระบี่ ทัณฑ์สวรรค์ไร้จำกัด!” มีเฒ่าดึกดำบรรพ์ตกใจ หนังหัวชาวาบ เหตุการณ์ประหลาดน่าตะตะลึงเช่นนี้น่ากลัวเกินไปอย่างไม่ต้องสงสัย
ฟึ่บ! ฟึ่บ! ฟึ่บ!
ดาบกระบี่ที่ท่วมฟ้าร่วงหล่น เจิดจ้าบาดตา แปลงจากเคราะห์ระเบียบสูงส่งนี้ เต็มไปด้วยอานุภาพทำลายล้างที่ยากจะจินตนาการ
หลินสวินต้านทานเต็มกำลัง พลังต่อสู้รอบตัวโคจรอย่างบ้างคลั่ง เร่งเร้าถึงขีดสุด
แต่แม้จะเป็นเช่นนี้ บนร่างเขาไม่ทันไรก็ถูกฟันเป็นแผลเลือดอาบนับไม่ถ้วน เผ้าผมยุ่งเหยิง เลือดสดสาดเซ็น
อีกทั้งบนร่างส่วนใหญ่ยังถูกเผาดำเกรียม เส้นผมล้วนไหม้ ย่ำแย่จนดูไม่ได้
จนถึงสุดท้ายแม้แต่ผิวหนังยังเป็นรอยแตก ประหนึ่งพื้นดินแตกแห้ง หลุดร่วงเป็นชิ้นๆ หลินสวินประสบอันตรายครั้งใหญ่แล้ว
มหาเคราะห์บรรลุจักรพรรดินี้แปลกประหลาดและน่ากลัวเกินไป เหนือกว่าจินตนาการ
‘ในสายฟ้ามีความโกรธ สั่งสมแก่นพลังฟ้าดิน หากไม่สามารถนิพพานเกิดใหม่ในการทำลายล้าง จะต้องกลายเป็นขี้เถ้าสลายภายใต้การทำลายล้าง…’
หลินสวินกำลังสู้สุดกำลัง ขอเพียงแค่สามารถอดทนไปได้ กายใจและจิตวิญญาณก็จะยิ่งแข็งแกร่ง เพียงแต่การเคี่ยวกรำนี้วิปริตเกินไป พลาดไปจุดเดียวก็จะดับสลายสิ้นซาก
เขาไม่กล้าคิดมาก เจตจำนงและจิตวิญญาณจดจ่อยิ่งยวด เผชิญหน้ากับด่านเคราะห์อสนี ต่อสู้ไม่หยุด
แม้หัวแตกเลือดออก บาดเจ็บสาหัส บนร่างไหม้เกรียม ผิวหนังเหี่ยวแห้งหลุดร่วงออกมาเป็นแผ่นๆ
ทว่าจิตวิญญาณของเขากลับแน่วนิ่งอย่างที่สุด ในร่างฟูมฟักพลังอันบริสุทธิ์ยิ่งยวด เปล่งประกายแสงรุนแรง
นี่ก็เหมือนการหลอมทองเซียน ชะล้างขัดเกลาหิน ล้างสิ่งปนเปื้อนออกไป เหลือไว้เพียงแก่นพลัง สร้างนับรบที่แข็งแกร่งและเฉียบคมที่สุด
เพียงแต่การเคี่ยวกรำเช่นนี้อันตรายเกินไป เดินอยู่ระหว่างความเป็นความตาย ต่อให้เปลี่ยนเป็นระดับจักรพรรดิคนอื่นๆ ซึ่งอยู่ที่นี่ก็รับไม่ไหว
ร่างกายเจ็บปวดทรมาน ถึงขั้นแห้งเหี่ยวหลุดลอก แต่สารกาย พลังชีวิตและจิตวิญญาณของหลินสวินกลับเจิดจรัสกว่าเดิม หลอมต้นกำเนิดที่บริสุทธิ์ที่สุดออกมา กำลังเติบโตและแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง
หว่างคิ้ววาบประกาย เตาหลอมหนึ่งเปล่งแสง สำแดงมรรคและวิชาอยู่ในนั้นเช่นกัน ดำเนินการเคี่ยวกรำในแบบเดียวกัน
นี่คือรูปจำลองเจตจำนง!
ขอเพียงแค่รูปจำลองเจตจำนงไม่ดับสิ้น แม้ร่างกายจะถูกทำลาย แต่ก็สามารถฟื้นคืนชีวิตใหม่ได้
ดังนั้นเมื่อเห็นว่าตนเลือดเนื้อแห้งเหือด ผิวหนังหลุดลอก หลินสวินจึงไม่ได้ลนลาน เพราะภายในเอ็นกระดูกอร่าม อวัยวะตันฟห้าพลุ่งพล่าน ร่างกายของตนกำลังเกิดการเปลี่ยนแปลง
ในที่สุดเขาก็สัมผัสถึงพลังชีวิตในน้ำตกสายฟ้า อ้าปากคำรามก่อนซัดหมัดออกไปรับดาบกระบี่สีเลือดท่วมฟ้า หนึ่งหมัดทุบทำลายออกไป
และในตอนนี้เอง ร่างของเขาทะยานขึ้น ราวกับหุบเหวใหญ่พุ่งทะยานกลืนกินแสงสายฟ้า
ตูม!
ฟ้าดินกึกก้อง แสงอสนีไร้สิ้นสุด
หลินสวินกำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงน่าตกใจ ร่างกายแผ่ขยาย หน้าผากโปร่งแสง แสงอสนีพุ่งเข้าไปในร่างไม่ขาดสาย เปลี่ยนแปลงสภาพที่แห้งเหือดของเขา
นี่คือพลังชีวิตสายหนึ่ง ทำให้เลือดเนื้อของเขาเกิดใหม่อีกครั้ง
ไอม่วงบูรพา มงคลและเรืองรอง
ถึงตอนนี้เคราะห์อสนีรอบที่สองซึ่งแปลงเป็นดาบกระบี่สีเลือดสลายไป เมฆเคราะห์ที่ปกคลุมอยู่บนท้องฟ้าจมสู่ความเงียบงันชั่วขณะ
เงาร่างของหลินสวินยืนนิ่งอยู่กลางอากาศ ประกายอสนีเป็นสายๆ โลดแล่นอยู่ทั่วร่าง สว่างไสวเจิดจ้า พลังชีวิตที่น่าตกใจบ่มเพาะในร่างของเขา ซ่อมแซมบาดแผลของเขาอย่างรวดเร็ว
หลินสวินถึงขั้นรู้สึกว่าตนได้ก้าวเข้าสู่การกลายเป็นจักรพรรดิมาแล้วหนึ่งก้าว เกิดการเปลี่ยนแปลงที่มหัศจรรย์อย่างที่สุด แม้แต่พลังกายที่สูญเสียไปในการต่อสู้ก่อนหน้านี้ก็ได้รับการแปรสภาพถึงขีดสุดในชั่วขณะนี้
‘นิพพานในการทำลายล้าง…’ เขาราวกับหยั่งถึง
บนกำแพงเมืองหมื่นมรรคไกลออกไป สัตว์ประหลาดเฒ่าทุกคนพูดไม่ออก มองเงาร่างผงาดผยองที่ยืนตระหง่านอยู่ภายใต้เมฆาเคราะห์ของหลินสวิน ในใจสั่นไหว
มหาเคราะห์ชั้นยอดที่ยากจะเห็นนับแต่โบราณกาล กลับถูกเขาต้านทานไว้ได้สองรอบติดกัน!
“ดี ดียิ่ง!” จักรพรรดิสงครามเฟิงหลิงตื่นเต้นจนปากสั่น เขาดูออกว่าหลินสวินที่ทะลวงระดับจักรพรรดิภายใต้สถานการณ์อันตรายอย่างที่สุดนี้ มีการเริ่มต้นที่ไม่เลวแล้ว
เพียงแต่…
มหาเคราะห์ชั้นยอดของการบรรลุจักรพรรดิคราวนี้ เห็นชัดว่าไม่ง่ายดายเพียงนี้ แม้แต่จักรพรรดิสงครามเฟิงหลิงยังไม่กล้าคาดเดาผลลัพธ์ตอนท้าย
ซย่าจื้อยังคงยืนอยู่ไกลๆ เงียบๆ กำทวนกระดูกขาวแน่น นางเองก็กำลังฉวยโอกาสอันล้ำค่านี้ฟื้นฟูบาดแผล
ส่วนบริเวณที่ไกลยิ่งกว่า ทัพสัตว์ประหลาดยิ่งใหญ่ไม่กล้าเข้าใกล้พื้นที่นี้แม้แต่ครึ่งก้าว แต่ละตัวล้วนถูกกลิ่นอายของด่านเคราะห์ทำให้สะท้านสะเทือน สั่นระริกด้วยความกลัว
ทั้งหมดนี้ก็ทำให้ยามหลินสวินข้ามด่านเคราะห์ ไม่ต้องกังวลชั่วคราวว่าจะถูกรบกวน
เคราะห์อสนีรอบที่สามมาเร็วเหนือความคาดหมาย ไม่ทันไรบนท้องฟ้าพลันก็มีดวงดาวมากมายร่วงหล่น
ดวงดาวทุกดวงล้วนมีประกายสีเงินบาดตาไหลหลั่ง พวกมันไม่ได้ใหญ่ แต่กลับเหมือนพายุฝนซัดสาด หนาแน่นแออัด!
มองจากไกลๆ ก็เหมือนฟ้าถล่มดินทลาย หมื่นดาราร่วงหล่น! ปรากฏการณ์ประหลาดระดับนี้ทำเอาสัตว์ประหลาดเฒ่าไม่รู้เท่าไรขนลุกไปทั้งตัว
นี่มันเคราะห์อะไรกัน
เปรี้ยง!
ตอนที่ดวงดาวสายหนึ่งร่วงหล่นพุ่งใส่หลินสวิน พลันระเบิดแสงอสนีกะทันหัน ระเบิดอสนีสะเทือนหู น่ากลัวยิ่งยวด
ดวงดาวอสนีนี้น่ากลัวมาก ตอนที่ระเบิดพลังอสนีที่ปล่อยออกมาประหนึ่งภูเขาถล่มสมุทรซัดสาด ทำเอาหลินสวินถูกซัดกระเด็นออกไป ในปากกระอักเลือด พลังน่าตกใจเกินไปแล้ว
แววตาหลินสวินเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด
พลังด่านเคราะห์รอบที่สาม แข็งแกร่งกว่ารอบที่สองช่วงใหญ่เลยเชียว!
ตูม โครมๆ!
ฟ้าดินสั่นไหว ดาวดวงหนักพันล้านจวินแล้วดวงเล่ากระแทกลงมาอย่างต่อเนื่อง กลบทับเงาร่างของหลินสวินไว้ภายใน
การระเบิดทุกครั้งจะเกิดสายฟ้ารุนแรงไร้ที่เปรียบ พุ่งโจมตีใส่หลินสวิน ระเบิดจนเขาเนื้อตัวแตกยับ เอ็นกระดูกหัก ร่างกายภายนอกที่ก่อนหน้านี้ฟื้นคืนมาได้อย่างยากลำบากได้รับบาดเจ็บอีกครั้ง เปลี่ยนเป็นแตกหักขึ้นมา
ในเวลาเดียวกันยังมีพลังอสนีแทรกเข้าในร่าง แทบจะทำลายเขาเป็นเสี่ยงๆ
หลินสวินสูดหายใจลึกคราหนึ่ง รู้ว่าจะปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้ ไม่เช่นนั้นต้องตายในเคราะห์อสนีพิสดารนี้แน่
บนร่างของเขาค่อยๆ เปล่งแสง ก่อนจะรุนแรงขึ้น เลือดลมพวยพุ่ง กลิ่นอายแข็งแกร่งเดือดพล่าน
เขาใช้ทุกสิ่ง ปลดปล่อยศักยภาพทั้งตัว ทั้งร่างลุกโชนราวกับเตาไฟ สุดท้ายเขากลายเป็นสุริยันดวงโตสีทองดวงหนึ่ง สว่างไสวอย่างที่สุด
ในที่สุดหลินสวินก็พุ่งออกจากการปกคลุมของดวงดาวอสนีแน่นขนัดเหล่านั้น เงาร่างพนิบไหวพุ่งออกไปไกลๆ
ชั่วขณะนี้พันธนาการของพลังระเบียบในกำแพงเมืองหมื่นมรรคราวกับว่างเปล่า เขาสามารถเคลื่อนย้ายอย่างง่ายดาย มาถึงฟ้าดาราไกลออกไป
“นี่…”
“เขาถึงกับหลุดจากพันธนาการของพลังระเบียนในแดนปรินิพพาน!”
“นี่เขาคิดจะทำอะไร”
เสียงอุทานด้วยความตกใจไม่รู้เท่าไรดังขึ้น ยากจะเชื่อ ควรรู้ว่าบนกำแพงเมืองหมื่นมรรค ระดับจักรพรรดิทุกคนที่เฝ้าป้อมปราการล้วนถูกจำกัดการเคลื่อนไหว ไม่สามารถออกจากป้อมปราการไปไกลได้ ยิ่งไม่ต้องคิดถึงการทะยานขึ้นสู่ฟ้าดารา
แต่ตอนนี้หลินสวินที่กำลังข้ามด่านเคราะห์กลับทำลายพันธนาการได้ชั้นหนึ่ง!
ตูมโครม!
ดวงดาวอสนีพร่างพรมเข้าปกคลุมหลินสวิน ไม่ว่าเขาจะหนีไปถึงไหน ล้วนพบเจอการโจมตีไร้ไมตรีทันที
เพียงแต่ชั่วขณะนี้สัตว์ประหลาดฟ้าดาราเหล่านั้นกลับประสบเคราะห์ เงาร่างของหลินสวินพุ่งไปถึงบริเวณที่พวกมันหลบซ่อนอยู่ ยามมีปฏิกิริยาตอบสนอง ก็เห็นอสนีที่ราวกับดวงดาวนับไม่ถ้วนพุ่งเข้ามาแล้ว
ชั่วขณะหนึ่งเสียงโหยหวนดังขึ้นไม่ขาดสาย ร่างของสัตว์ประหลาดฟ้าดาราเหล่านี้ใหญ่มหึมาปานนั้น ยามหลบหลีกล้วนเกิดความวุ่นวาย ชนกันไม่หยุด มีหลายสิบตัวถูกดวงดาวร่วงใส่จนร่างแหลกเป็นเสี่ยงทันที เลือดเนื้อไหม้เกรียม ควันลอยคลุ้ง
สัตว์ประหลาดเหล่านี้แม้ไม่มีสติปัญญา แต่มีการรับรู้ตามสัญชาตญาณ รู้สึกถึงอันตราย จึงหนีอย่างไม่ลังเลสักนิด
ทว่ามีหรือหลินสวินจะปล่อยพวกมันไปง่ายๆ เช่นนี้ เงาร่างเขาพริบไหว ไล่ตามไปทุกที่ ร่างของเขาปรากฏที่ไหน ที่นั่นจะต้องมีเคราะห์อสนีทรงพลังมาเยือน ดวงดาวแน่นขนัดระเบิดออก สร้างความเสียหายต่อทัพใหญ่สัตว์ประหลาดอย่างหนัก
ไม่กี่อึดใจเท่าไหร่ก็มีสัตว์ประหลาดฟ้าดารามากกว่าร้อยตัวถูกฆ่า ร่างถูกผ่าแหลก หายไปในกระแสอสนีรุนแรง
ภาพนี้พวกสัตว์ประหลานเฒ่าซึ่งอยู่บนกำแพงเมืองหมื่นมรรคเห็นแล้วยังตาค้าง แต่ละคนอึ้งงัน ภายใต้มหาเคราะห์ยิ่งใหญ่ระดับนี้ เจ้าหมอนี่กลับยังกล้า ‘ชักนำเคราะห์ให้ผู้อื่น’ อย่างใจกล้าเช่นนี้
เห็นชัดว่าไม่รู้จักอันตราย!
ทว่าแม้แต่พวกเขาก็ต้องยอมรับ ว่าการกระทำทั้งหมดนี้ร้ายกาจจริงๆ มองเห็นทัพใหญ่สัตว์ประหลาดที่ถูกสังหารจนหนีกระเจิงนั่น ทำให้คนอดรู้สึกเหนือจริงราวกับเป็นความฝันไม่ได้
“เยี่ยม ยอดเยี่ยม!”
จักรพรรดิสงครามเฟิงหลิงตื่นเต้น เลือดร้อนเดือดพล่าน ยืมเคราะห์สนีสังหารศัตรู นี่เป็นความคิดที่ยอดเยี่ยมยิ่ง!
น่าเสียดายที่สถานการณ์ราบรื่นดำเนินไปได้ไม่นาน หลินสวินก็พบเจอการคุมคามอย่างหนัก ถูกดวงดาวอสนีที่ร่วงหลนลงมาราวกับลมฝนนั่นปกคลุมอีกครั้ง
เขาไม่กล้าแบ่งสมาธิอีก จดจ่อกับการต้านทาน
บาดเจ็บ
บาดเจ็บอย่างต่อเนื่อง
จนกระทั่งหลังจากนั้นร่างกายภายนอกของเขาระเบิดออก ถูกกลบอยู่ในเคราะห์อสนีทั้งหมด
นี่ทำให้หัวใจของจักรพรรดิสงครามเฟิงหลิงอดแขวนลอยสูงไม่ได้ ก่อนหน้านี้เขายังคึกคักหาใดเปรียบ แต่ตอนนี้กลับกังวลไม่อาจสงบได้ เรียกได้ว่าแปรปรวนรวดเร็ว
ซย่าจื้อคอยดูอยู่ตลอด ทันทีที่เห็นภาพนี้นางก้าวออกไปก้าวหนึ่ง คล้ายหมายจะพุ่งขึ้นไป แต่สุดท้ายก็อดทนไว้
ในสัมผัสของนาง กลิ่นอายของหลินสวินยังไม่ได้หายไป
ตามคาด หลังจากนั้นเพียงพริบตา กระแสอสนีที่ราวกับคลื่นมหาสมุทรนั่นพลันถูกหุบเหวใหญ่กลืนกิน หายไปอย่างต่อเนื่อง
และตรงกลางวังวน ละอองแสงนับไม่ถ้วนไหลหลั่ง ค่อยๆ ควบรวมเงาร่างหนึ่งขึ้นมา เป็นหลินสวินนั่นเอง!
ร่างของเขาเหมือนหลุมที่ไร้สิ้นสุด กลืนกินเคราะห์อสนีเหล่านั้นอย่างต่อเนื่อง ภาพนั้นล้มล้างการรับรู้ของทุกคนโดยสมบูรณ์ ในหัวว่างเปล่า
เคราะห์อสนีสามารถถูกกลืนกินได้ตั้งแต่เมื่อไหร่
นี่สามารถทำให้คนคลุ้มคลั่งได้ทีเดียว เพราะตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันแทบไม่เคยเกิดเรื่องเหลือเชื่อเช่นนี้มาก่อน
แน่นอนว่าความจริงที่ทำให้สัตว์ประหลาดเฒ่าเหล่านั้นไม่สามารถทนได้คือ เคราะห์ชั้นเลิศที่วิปริตน่ากลัวเช่นนี้ กลับยังไม่สามารถฆ่าหลินสวินได้!
นี่ทำให้ในอกของพวกเขาอัดอั้นไปหมด
ตูมโครม!
ไม่นานเงาร่างของหลินสวินก็เหมือนกับวาฬกลืนน้ำ กลืนกินพลังเคราะห์อสนีทั่วฟ้าจนสิ้น ไม่เหลือแม้แต่หยดเดียว
เขาเปล่งแสงไปทั้งตัว เจิดจ้าราวกับภาพมายา พลังชีวิตน่าตกตะลึงพลุ่งพล่านไปทั่วตัว และในร่างของเขาก็เกิดการเปลี่ยนแปลงน่าตกใจที่พลิกฟ้าดิน
นี่ก็คือ นิพพานในการทำลายล้าง!
เคราะห์อสนีรอบที่สามนี้แม้จะน่ากลัว เกือบสังหารหลินสวิน
แต่ชั่วขณะสุดท้ายยังคงถูกหลินสวินต้านทานไว้ได้ ทั้งยังกลืนกินพลังชีวิตในอสนีเคราะห์นั่น ทำให้ร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง!
นี่ทำให้หลินสวินยิ่งเชื่อมั่น ว่าเคราะห์แห่งบรรลุมกุฎจักรพรรดิครั้งนี้ แม้อันตรายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน แต่การแปรสภาพที่ได้รับก็ต้องยิ่งใหญ่อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนเช่นกัน!