ตอนที่ 2200 ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีเขาเพียงคนเดียว
โลกใหญ่หงเหมิง เรือนมรรคดึกดำบรรพ์
‘ยอดเขามายา’ ที่งามวิจิตรคือสถานที่สำคัญของเรือนมรรคดึกดำบรรพ์
“นี่… เป็นไปได้อย่างไร!?”
เจ้าสำนักลู่เหิงเทียนอึ้งงัน เขาเพิ่งได้ข่าวที่ส่งมาจากโลกมืด ทั้งตัวราวกับถูกฟ้าผ่า จิตใจเกือบเสียการควบคุม
จักรพรรดิสงครามฉางหลิวระดับจักรพรรดิขั้นหกคนหนึ่ง ทั้งเป็นศิษย์พี่ของลู่เหิงเทียน แต่คล้ายว่าจะสิ้นชีพในแดนปรินิพพานนั่น!
กลางโถงใหญ่บรรยากาศกดดัน พวกเบื้องบนของเรือนมรรคดึกดำบรรพ์มากมายสีหน้าอึมครึม ในใจแต่ละคนล้วนม้วนซัดไม่หยุด ไม่อาจนิ่งสงบ
พวกเขาไม่อาจรับได้เช่นกัน
ครั้งนี้ระดับจักรพรรดิของเรือนมรรคดึกดำบรรพ์ที่มุ่งหน้าไปแดนปรินิพพานมีทั้งหมดเก้าคน แต่มีหกคนกลับมาไม่ได้ ภายในนั้นยังรวมถึงระดับจักรพรรดิขั้นหกอย่างจักรพรรดิสงครามฉางหลิว ระดับจักรพรรดิขั้นห้าสองคนและระดับจักรพรรดิขั้นสี่สามคนด้วย
ส่วนสามคนที่รอดออกมานั้น พลังปราณล้วนอยู่ในระดับจักรพรรดิขั้นสาม!
ความเสียหายนี้หนักหน่วงเกินไปอย่างไม่ต้องสงสัย
ต้องรู้ว่าหลังจากการประชันหมากครั้งใหญ่นั้น เส้นทางมุ่งสู่ฟากฝั่งฟ้าดาราได้ปรากฏอีกครั้ง ทำให้สัตว์ประหลาดเฒ่าระดับจักรพรรดิมากมายมีโอกาสมุ่งหน้าไปอีกฟากฝั่ง
ตอนนั้นในเรือนมรรคดึกดำบรรพ์มีผู้อาวุโสบางคนจากไปเช่นกัน สัตว์ประหลาดเฒ่าระดับจักรพรรดิที่เหลือมีแค่เกือบยี่สิบคน
แต่ตอนนี้เพียงชั่วขณะก็เท่ากับเสียไปหกคน!
แรงโจมตีนี้ยิ่งใหญ่เกินไปจริงๆ พาให้คนยากจะยอมรับ
และต้องรู้ว่าเรือนมรรคดึกดำบรรพ์เป็นหนึ่งในหกเรือนมรรคใหญ่ ข่มขวัญทั่วหล้า รากฐานเก่าแก่หาใดเปรียบ ตอนนี้กลับถูกโจมตีอย่างหนักเช่นนี้
แค่คิดก็รู้แล้วว่าขุมอำนาจที่เข้าไปในแดนปรินิพพานพวกนั้น ความสูญเสียต้องไม่มีทางน้อยแน่!
“เศษเดนคีรีดวงกมลที่ถูกประกาศจับคนหนึ่ง กลับบรรลุจักรพรรดิในขอบเขตมกุฎ ชิงศุภโชคยอดหนทางสู่อมตะไป… สวรรค์ช่างตาบอดจริงๆ!”
ลู่เหิงเทียนเดือดดาลอย่างที่สุด หน้าคล้ำเขียวจนน่ากลัว เขาไม่ได้เสียอาการเช่นนี้มาหลายปีแล้ว
“เจ้าสำนัก เจ้าหมอนี่ผงาดกร้าว จากข่าวที่แจ้งมา ด้วยพลังต่อสู้ที่เพิ่งก้าวสู่ระดับจักรพรรดิของเขา สามารถต่อกรกับระดับจักรพรรดิขั้นหกได้ หากเขามีชีวิตอยู่… ต้องเป็นมหันตภัยของพวกเราแน่!”
มีคนกล่าวเสียงขรึม
มีคนเอ่ยปากทันใด “พูดลำบาก เจ้าหลินสวินนี่สามารถชิงศุภโชคยอดอมตะไปได้ มีหรือจะถูกแดนปรินิพพานกำจัด กลับเป็นพวกศิษย์พี่ฉางหลิว…”
พูดไม่ทันจบ แต่ทุกคนต่างรู้ว่าหมายถึงอะไร
“เจ้าสำนัก ไม่ว่าอย่างไรพวกเราก็ควรคิดไว้ล่วงหน้า ด้วยความแค้นของพวกเรากับคีรีดวงกมล ประกอบกับหลายปีนี้เคยหมายหัวหลินสวินนี่หลายครั้ง หากอีกฝ่ายรอดออกมาจากแดนปรินิพพาน ต้องไม่ยอมวางมือยุติเรื่องราวแน่!”
มีคนกล่าวอย่างกังวล “ข่าวที่ส่งมานั้นล้วนบอกว่าเจ้าหมอนี่เคยประกาศในแดนปรินิพาน ว่าวันหน้าจะเหยียบทั่วหล้าฟ้าดารา ไปเยือนศัตรูพวกนั้นทีละสำนัก”
นี่ทำให้ในใจทุกคนสั่นสะท้าน ชายหนุ่มที่ก้าวสู่ระดับมกุฎจักรพรรดิ ทั้งมีศักยภาพแฝงยอดอมตะคนหนึ่ง หากเปิดฉากล้างแค้น ผลที่ตามมานั้นคงร้ายแรงจริงๆ!
“น่าขัน ทั่วฟ้าดารามีสำนักมากมาย เศษเดนคีรีดวงกมลอย่างเขาคนเดียว คิดจริงๆ หรือว่าก้าวสู่ระดับมกุฎจักรพรรดิแล้วจะอาละวาดเหิมเกริมได้”
มีคนยิ้มหยัน
“เฮ้อ ใครจะกล้าเชื่อว่ามดปลวกตัวเล็กจ้อยที่ไม่ถูกพวกเราเห็นอยู่ในสายตาเมื่อปีนั้น ตอนนี้… กลับมีศักยภาพแฝงที่คุกคามพวกเราแล้ว”
มีคนเสียงเศร้ารันทด
ความจริงนี้ทำให้คนยากจะยอมรับ ก่อนหน้านี้แม้ว่าหลินสวินจะชื่อเสียงสะเทือนฟ้าดารา แต่สำนักโบราณไหนบ้างที่เห็นเขาอยู่ในสายตาจริงๆ
ใครจะคิดว่าเจ้าหมอนี่ วันหน้าจะคุกคามตนได้
“ทุกท่านอย่าลืมสิ จักรพรรดิสวรรค์ดำรงยังอยู่!”
ทันใดนั้นพลันมีคนเอ่ยปาก “หลินสวินนี่เป็นถึงคนที่ถูกจักรพรรดิสวรรค์ดำรงประกาศจับ หากจักรพรรดิสวรรค์ดำรงรู้ว่าหลินสวินเด่นผงาดถึงขั้นนี้แล้ว มีหรือจะเก็บมือเฝ้ามอง”
คำพูดนี้ทำให้ทุกคนนัยน์ตาเป็นประกาย
สุดท้ายลู่เหิงเทียนสูดหายใจลึกแล้วตัดสินใจ “ไม่อาจฝากความหวังทั้งหมดไว้กับจักรพรรดิสวรรค์ดำรง ตั้งแต่วันนี้ไปให้สืบข่าวที่เกี่ยวข้องกับเจ้าหลินสวินนี่เต็มกำลัง ถ้าตายข้าต้องรู้ว่าเขาตายที่ไหน ถ้ารอดชีวิตก็จับจ้องการเคลื่อนไหวทั้งหมดของเขา!
วันนี้ทั้งเรือนมรรคดึกดำบรรพ์สะท้านสะเทือน
เช่นเดียวกับเรือนมรรคดึกดำบรรพ์ ขุมอำนาจเก่าแก่อย่างเรือนมรรคจักรวาล เรือนมรรคยุทธจักร เรือนมรรคเหล่ามาร เรือนมรรคโลกาสวรรค์ สิบเผ่านักรบใหญ่ รวมถึงเผ่าจักรพรรดิดึกดำบรรพ์บางส่วนก็ทยอยได้ข่าวพวกนี้ เพียงชั่วขณะล้วนตกอยู่ในความสะท้านสะเทือนครั้งใหญ่
บ้างยากจะเชื่อ บ้างคั่งแค้นเกินต้าน บ้างตื่นตระหนกและกดดัน
หลินสวิน!
ชื่อที่พวกเขาคุ้นหูจนบรรยายได้นี้ ปัจจุบันกลับเหมือนเงามืดที่ทำให้คนหวาดหวั่น ปกคลุมอยู่บนท้องฟ้าเหนือขุมอำนาจใหญ่ชั้นหนึ่ง
…
ตามเวลาที่ล่วงเลย ทั่วทางเดินโบราณฟ้าดาราพลุ่งพล่านอย่างสมบูรณ์ แต่ละโลก แต่ละเมือง เกือบทั้งหมดกำลังกล่าวถึงชื่อเดียวกัน…
จักรพรรดิเต้ายวน หลินสวิน!
ตำนานคนหนึ่งที่ส่องประกายทั่วฟ้าดาราเหมือนดวงตะวัน!
“นี่เพิ่งผ่านไปไม่กี่ปี เขาก็เหยียบระดับมกุฎจักรพรรดิแล้ว ดี ดีจริงๆ!”
เขตแดนดาราจื่อเหิง โลกต้าอวี่ ตระกูลอวี่
เมื่อรู้ข่าวเกี่ยวกับหลินสวิน จักรพรรดิดาบชิงหยางอวี่ชิงหยางอดหัวเราะอย่างเบิกบานไม่ได้ เสียงสะเทือนชั้นเมฆ
ปีนั้นยามหลินสวินเพิ่งเข้ามาในทางเดินโบราณฟ้าดารา ก็เคยได้รับการคุ้มครองจากอวี่ชิงหยาง ทั้งได้มอบคัมภีร์เก้ากระถางสยบหล้าให้หลินสวิน
“สหายน้อย ข้าไม่หวังให้เจ้าตอบแทนในภายหน้า แค่หวังว่าสักวันหนึ่งเจ้าจะกลับมาเจอเฒ่าชราอย่างข้า ให้ข้ารับรู้ฝีไม้ลายมือของมกุฎมหาจักรพรรดิสักหน่อย…”
อวี่ชิงหยางทอดถอนใจ
มกุฎมหาจักรพรรดิ!
พลังของสี่คำนี้กดทับระดับจักรพรรดิในปัจจุบันมาเท่าไหร่
…
เขตแดนดาราจักรพรรดิขาว โลกใหญ่จินเทียน
เผ่าจักรพรรดิดึกดำบรรพ์ตระกูลจินเทียน
เมื่อมีข่าวเกี่ยวกับแดนปรินิพพานส่งมา ทั้งตระกูลจินเทียนก็สะท้านสะเทือน ทว่าสีหน้าของแต่ละคนกลับแปลกไปอยู่บ้าง บรรยากาศก็ดูพิกลนัก
สาเหตุคือ พวกเขารู้อยู่ก่อนแล้วว่าจินเทียนเสวียนเยวี่ยที่ถูกขนานนามเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งแห่งเขตแดนดาราจักรพรรดิขาว ผู้มากสามารถรุ่นเยาว์แห่งตระกูลจินเทียนของพวกเขา หลายปีก่อนได้กลายเป็นผู้ติดตามข้างกายหลินเต้ายวนนั่น
นี่ทำให้ทั้งตระกูลยากจะยอมรับ หลายคนถึงขั้นรู้สึกอับอาย หากไม่ใช่ว่ามีจักรพรรดิกระบี่วายุขจัดข้อโต้แย้งและกำราบเรื่องนี้ลง บุคคลสำคัญระดับสูงของตระกูลจินเทียนพวกนั้นคงไปคิดบัญชีกับหลินสวิน พาจินเทียนเสวียนเยวี่ยกลับมานานแล้ว
โดยเฉพาะเจ็ดปีก่อน เมื่อรู้ว่าจินเทียนเสวียนเยวี่ยยอมทิ้งแซ่ ตัดขาดความสัมพันธ์กับตระกูลเพื่อติดตามข้างกายหลินสวินต่อ ก็ทำให้ทั้งตระกูลเดือดดาล กระแสเสียงจำนวนมากล้วนป่าวประกาศว่าจะจับตัวจินเทียนเสวียนเยวี่ยกลับมาลงโทษขั้นรุนแรง
แต่ใครก็คิดไม่ถึงว่าเพิ่งผ่านไปเจ็ดปี ผู้สืบทอดคีรีดวงกมลที่ไม่มีใครให้ความสำคัญคนนั้นกลับบรรลุมกุฎจักรพรรดิในคราเดียว ทั้งชิงศุภโชคยอดอมตะไปได้
ถึงขั้นที่ว่าเขายังใช้พลังของตัวเอง สังหารจนสัตว์ประหลาดเฒ่าระดับจักรพรรดิที่มาจากทั่วฟ้าดารามากมายแตกพ่ายซ่านเซ็น!
ตอนนี้เขาคือจักรพรรดิเต้ายวนที่ชื่อเสียงสะเทือนฟ้าดารา! เป็นมกุฎมหาจักรพรรดิที่ทำให้ขุมอำนาจมากมายหวาดกลัว!
นี่ทำให้ตระกูลจินเทียนนอกจากจะสั่นสะท้านแล้ว ยังรู้สึกพิกลและแปลกประหลาดอย่างอดไม่ได้
เสียงที่ป่าวประกาศว่าจะจับจินเทียนเสวียนเยวี่ยกลับมาลงโทษขั้นรุนแรงพวกนั้นก็เงียบกริบ ใครจะกล้าสวมใจเสือไปชิงตัวคนข้างกายของจักรพรรดิเต้ายวน
แม้ว่าคนผู้นั้นจะเป็นทายาทสายตรงแห่งตระกูลจินเทียนของพวกเขาก็ตาม!
“เสวียนเยวี่ยไม่ใช่เด็กแล้ว ควรเดินไปตามทางของตนเอง ภายหน้าใครก็ไม่อาจสบประมาทและโจมตีลับหลังเสวียนเยวี่ยอีก!”
วันนี้ผู้นำตระกูลจินเทียนออกคำสั่งด้วยท่าทีแข็งกร้าว ทั้งตระกูลไม่มีใครกล้าโต้แย้งใดๆ
หลังจากจักรพรรดิกระบี่วายุรู้เรื่องนี้ ในใจอดนึกไม่ได้ ถ้าภายหน้าจักรพรรดิสวรรค์ดำรงถูกตีพ่าย บนทางเดินโบราณฟ้าดารานี้หลินสวินก็นับว่าสูงสุดไม่ใช่หรือ
ถึงตอนนั้นหากอาศัยความสัมพันธ์ของจินเทียนเสวียนเยวี่ยกับหลินสวิน ฐานะตระกูลจินเทียนของพวกเขา… เกรงว่าคงลอยสูงตามไปด้วย!
นึกถึงตรงนี้ในใจจักรพรรดิกระบี่วายุล้วนตื่นเต้นขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ แต่ไม่ทันไรเขาก็ใจเย็นลง ด้วยเขารู้ดีว่าขอแค่จักรพรรดิสวรรค์ดำรงยังอยู่ ก็ต้องมองหลินสวินเป็นภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดแน่!
…
ทางเดินโบราณฟ้าดารามีเก้าเขตแดนดาราใหญ่ แต่ละเขตแดนดารามีโลกต่างขนาดมากมายกระจายอยู่ กว้างใหญ่และไพศาลหาใดเปรียบ
ในโลกพวกนี้มีเหล่าผู้กล้าที่ฉายแววอัศจรรย์ในเมืองหนึ่ง บ้างโดดเด่นเป็นสง่าในดินแดนแห่งหนึ่ง บ้างครองอำนาจเหนือผู้คนระดับเดียวกันในโลกหนึ่งได้…
บ้างก็จัดอยู่ในอันดับต้นๆ ของเขตแดนดาราแห่งหนึ่ง
บนทางเดินโบราณฟ้าดาราที่กว้างใหญ่ไร้ขอบเขต คนจำพวกนี้มีไม่รู้เท่าไหร่ พวกเขาเป็นผู้กล้าในแต่ละโลกและเขตแดน
แต่หากกวาดตามองทั่วหล้าจะดูเล็กจนไม่สลักสำคัญ
ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน คนที่สามารถสร้างชื่อให้เลื่องลือทั่วทางเดินโบราณฟ้าดารา ย่อมเรียกได้ว่าเป็นตัวตนที่หายากดั่งขนหงส์เขากิเลน
ถึงอย่างไรทางเดินโบราณฟ้าดาราก็กว้างใหญ่เกินไปจริงๆ
แต่ในช่วงเวลานี้ชื่อของหลินสวินจักรพรรดิเต้ายวน กลับแพร่กระจายไปทั่วทุกโลก ทุกอาณาเขต ทุกเมืองบนทางเดินโบราณฟ้าดารา!
นี่ก็คืออิทธิพลของการบรรลุมกุฎจักรพรรดิ ชิงศุภโชคยอดอมตะในแดนปรินิพพาน! นี่คือยอดตำนานที่หลินสวินสร้างขึ้นมาด้วยตัวคนเดียว!
ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีเขาเพียงคนเดียว
…
เมื่อรู้ข่าวเหล่านี้พวกเสวียนจิ่วอิ้น จินเทียนเสวียนเยวี่ย หลิงเคอจื่อต่างราวกับฝันไป ครู่ใหญ่จึงกล้าเชื่อเรื่องทั้งหมดนี้ อารมณ์ก็ปั่นป่วนเป็นอย่างยิ่ง
ส่วนหมีอู๋หยาและหลิงหงจวงที่เคยทัดเทียมกับหลินสวิน เคยเป็นคู่แข่งระดับเดียวกันในปีนั้น แต่ละคนต่างสั่นสะท้านพูดไม่ออก
อย่าว่าแต่ริษยา แม้แต่ความคิดอิจฉาล้วนไม่มี รู้สึกเพียงขมขื่นและจนปัญญาอย่างบอกไม่ถูก
“ผู้กล้าที่อยู่ในยุคเดียวกับหลินสวิน ย่อมถูกลิขิตให้เป็นเรื่องโชคร้ายที่สุดนับแต่อดีตถึงปัจจุบัน…” ผู้คนนับไม่ถ้วนกล่าวทอดถอนใจเช่นนี้
ตอนนี้คนที่หลินสวินก้าวข้ามคือเหล่าคนหนุ่มที่เจิดจรัสอย่างพวกเขา ภายหน้าขอแค่เขายังอยู่ ด้วยรากฐานพลังและศักยภาพแฝงที่น่ากลัวนั้นของเขา ต้องก้าวข้ามผู้ยิ่งใหญ่เทียมฟ้ารุ่นอาวุโสพวกนั้นแน่!
หลังจากผู้ฝึกปราณทุกคนทั่วทางเดินโบราณฟ้าดาราใจเย็นลง ก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมายเช่นกัน
จักรพรรดิเต้ายวนหลินสวิน ตอนนี้ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่
หากเขามีชีวิตอยู่ เมื่อก้าวออกมาจากแดนปรินิพพาน เขาจะเผชิญหน้ากับภัยคุกคามที่มาจากจักรพรรดิสวรรค์ดำรงอย่างไร
………………………