Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 2246 กระบวนค่ายกลต้องห้าม

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 2246 กระบวนค่ายกลต้องห้าม

ตอนที่ 2246 กระบวนค่ายกลต้องห้าม

แสงมรรคดุจสายฝน เลือดนองราวกับกระแสน้ำ

ทันทีที่ซีปรากฏตัวก็ฆ่าจักรพรรดิมังกรปราบสมุทรก่อน จากนั้นค่อยฟันจักรพรรดิมังกรหมอกโลหิต ใช้เวลาแค่ชั่วดีดนิ้วเท่านั้น เร็วจนน่าเหลือเชื่อ

ฝีไม้ลายมือเช่นนั้นโดดเด่นเหนือใคร งามสง่าเหนือโลก!

เมื่อจักรพรรดิมังกรมายาได้สติกลับมาก็ไปช่วยไม่ทันแล้ว เหตุการณ์นองเลือดต่างๆ นั้นกระตุ้นเขาจนโกรธจัดเช่นกัน สีหน้าล้วนคล้ำเขียวบิดเบี้ยว

แม้ว่ารากฐานพลังของเผ่าเจินหลงจะน่าหวาดกลัวหาใดเปรียบ ครองอำนาจเหนือสิ่งมีชีวิตหมื่นเผ่าในแดนเจินหลง แต่พวกที่บรรลุจักรพรรดิอย่างแท้จริงก็มีจำกัด

บุคคลอย่างจักรพรรดิมังกรปราบสมุทร จักรพรรดิมังกรหมอกโลหิต แน่นอนว่าเป็นแกนหลักของเผ่าเจินหลง การตายของพวกเขาเรียกได้ว่าเป็นความสูญเสียไม่น้อย

“สารเลว! พวกเจ้าล้วนสมควรตาย!” จักรพรรดิมังกรมายาส่งเสียงคำราม สีหน้าคล้ำเขียว น้ำเสียงเจือความคั่งแค้นไร้สิ้นสุด

ตูม!

เขาพุ่งทะยานออกไป เรียกกระบี่มรรคที่เปล่งประกายเจิดจรัสเล่มหนึ่งออกมา ฟาดฟันไปทางซีที่อยู่ห่างไกล

เดิมซีกำลังจะฉวยโอกาสสังหารจักรพรรดิมังกรวาโยกลืนกินนั่น แต่ในพริบตานี้นางเหมือนสัมผัสได้ว่าอันตราย หยุดเท้าลงทันที ทวนไร้สวรรค์ในมือระเบิดไอพลังอำมหิตที่น่ากลัวร้ายกาจออกมาดังวู้ม แทงใส่กระบี่มรรคที่ฟาดฟันมานั้นโดยพลัน

ตูม!

เสียงระเบิดสะท้านฟ้าสะเทือนดินดังก้องขึ้น สะเทือนทั่วทิศ ห้วงอากาศสามพันจั้งพังทลาย

พลันเห็นว่าในสนามรบกระบี่กับทวนปะทะกัน ต่างฝ่ายต่างปะทุกลิ่นอายสังหารน่าหวาดกลัว ปลดปล่อยอานุภาพออกมา ทำให้ตะวันจันทราสั่นสะเทือน ภูผาธาราพังทลาย

ซีอดแปลกใจไม่ได้ “กระบี่ไร้รูป?”

ขณะเดียวกันหลินสวินก็สัมผัสได้อย่างชัดเจน ก้อนทองแดงที่มาจากเตามารดาหลอมสมบัติแห่งคุนหลุนในร่างตนนั้น เปลี่ยนเป็นร้อนฉ่าขึ้นมา

นี่ทำให้เขาระบุได้ในพริบตา กระบี่มรรคที่เจิดจรัสหาใดเปรียบ มองไม่เห็นรูปลักษณ์ใดเล่มนั้น ต้องเป็นกระบี่ไร้รูปหนึ่งในเก้าศาสตราจักรพรรดิแห่งคุนหลุนแน่นอน!

แต่หลินสวินกลับคิดไม่ถึง กระบี่มรรคเพียงหนึ่งเดียวในเก้าศาสตราจักรพรรดิแห่งคุนหลุนนี้ ถึงกับตกอยู่ในมือของเผ่าเจินหลง!

ห่างออกไปจักรพรรดิมังกรมายาเองก็ตกใจเช่นกัน ด้วยรู้จักทวนมหามรรคไร้สวรรค์

ตูม!

เมื่อซีปลดปล่อยพลัง ทวนไร้สวรรค์ระเบิดแสงไร้ใดเปรียบ ซัดกระบี่มรรคเล่มนั้นจนถอยกรูดอย่างแข็งกร้าว

ถูกจู่โจมเช่นนี้จักรพรรดิมังกรมายาก็ถูกกระเทือนจนร่างซวนเซ พลังขับเคลื่อนรอบตัวพลิกตลบ สีหน้าเปลี่ยนไปทันที

สิ่งที่ทำให้เขาไม่ทันตั้งตัวที่สุดคือ ในชั่วขณะนี้เขาสังเกตเห็นอย่างชัดเจน กระบี่ไร้รูปที่ถูกจิตวิญญาณของเขาควบคุมอย่างแน่นหนามาตลอด เวลานี้กลับมีสัญญาณดิ้นรนอย่างรุนแรง กำลังจะหลุดลอยออกไป!

แย่แล้ว!

จักรพรรดิมังกรมายาทั้งตกใจทั้งโกรธแค้น สะบัดแขนเสื้อคราหนึ่ง ธงรบสิบแปดผืนพุ่งผ่านห้วงอากาศออกมา ธงรบแต่ละผืนล้วนปกคลุมด้วยลายมังกรลึกลับ ภายในแฝงคลื่นกฎเกณฑ์ปริศนา ทันทีที่ปรากฏฟ้าดินแถบนี้พลันถูกหมอกหนาแถบหนึ่งปกคลุมทันใด

กระบวนค่ายกลเทพหมอกมายา!

เมื่ออยู่ในหมอกหนา ประสาทสัมผัสทั้งหกไม่เพียงถูกบดบัง แม้แต่ความสามารถในการสัมผัสรับรู้ของจิตใจและจิตวิญญาณก็ถูกขวางกั้นอย่างมาก

หลินสวินขมวดคิ้ว สงบจิตสัมผัส หลังจากนั้นครู่หนึ่งเขาพลันซัดหมัดหนึ่งออกไป

ตูม!

กระบวนค่ายกลพลิกตลบ หมอกควันพลันฟุ้งกระจายเหมือนถูกลมกาฬวาตโหมทำลาย ธงกระบวนสิบแปดผืนที่กระจายรอบทิศล้วนระเบิดออกทุกชุ่น

เห็นชัดว่ากระบวนค่ายกลมายาเช่นนี้ไม่อาจกักขังหลินสวินไว้ได้แต่แรก

พอมองไปกลางสนามรบอีกครั้ง นอกจากซีกับตนแล้วกลับไม่มีเงาร่างของจักรพรรดิมังกรทั้งสาม อย่างจักรพรรดิมังกรมายา จักรพรรดิมังกรวาโยกลืนกิน จักรพรรดิมังกรมารดารานั่นนานแล้ว

“หนีไปแล้ว” นัยน์ตากระจ่างคู่นั้นของซีทอดมองวังมหามรรคหมื่นมังกร

หลินสวินมองตามไป ก็เห็นว่าบนอาคารตรงกำแพงวังที่เก่าแก่สง่างามซึ่งห่างออกไปนั้น จักรพรรดิมังกรมายาในชุดคลุมเขียว จักรพรรดิมังกรวาโยกลืนกินที่ทั้งตัวปกคลุมด้วยเกราะสีเงิน รวมถึงจักรพรรดิมังกรมารดาราที่บาดเจ็บหนักเจียนตายล้วนยืนอยู่บนนั้น

สีหน้าของทั้งสามล้วนคล้ำเขียวหาใดเปรียบ ในดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธและเคียดแค้น

“พวกเจ้า… เป็นใครกันแน่!?” จักรพรรดิมังกรมายาตวาดลั่น เสียงสะเทือนชั้นเมฆ

เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ทำให้เขาตระหนักได้ หลินสวินกับซีต้องไม่ใช่คนทั่วไปแน่ ถึงขั้นไม่มีทางเป็นผู้แข็งแกร่งของแดนเจินหลงเช่นกัน!

นัยน์ตาดำของหลินสวินเยียบเย็น กล่าวว่า “พวกเราเป็นใครไม่สำคัญ สิ่งสำคัญคือมาถึงตอนนี้แล้ว หัวหน้าเผ่าเจินหลงที่น่าเกรงขามอย่างอ๋าวฮ่วนไห่ก็ไม่กล้าปรากฏตัว?”

“ฮึ!”

จักรพรรดิมังกรมายาสีหน้าไม่น่าดู หลินสวินยิ่งอยากเจออ๋าวฮ่วนไห่ก็ทำให้เขายิ่งรู้สึกว่าไม่เข้าที แน่นอนว่าไม่มีทางบอก

ที่ทำให้พวกจักรพรรดิมังกรมายาหนาวเยือกในใจคือที่นี่เป็นแดนวังมังกร แต่อีกฝ่ายกลับโจมตีจนพวกเขาแตกพ่ายซ่านเซ็น เวลานี้ถึงขั้นได้แต่หลบซ่อนอยู่ในวังมหามรรคหมื่นมังกรนั่น

นี่เป็นความอับอายครั้งใหญ่อย่างไม่ต้องสงสัย!

หากแพร่กระจายออกไป หน้าตาและอานุภาพของพวกเขาเผ่าเจินหลงต้องอันตรธานหายไปแน่!

พวกเขาเป็นใคร

อีกทั้งมาด้วยเหตุใด ถึงได้ต้องการเจอหัวหน้าเผ่า

ข้อสงสัยนับไม่ถ้วนผุดขึ้นในใจพวกจักรพรรดิมังกรมายา แต่ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไร ครั้งนี้พวกเขาย่อมไม่อาจยอมให้พวกหลินสวินจากไปเช่นนี้แน่!

ห่างออกไปเงาร่างของซย่าจื้อพลันปรากฏ เงาร่างสันโดษ กลิ่นอายเยียบเย็น ทั่วร่างยังอบอวลด้วยไอสังหารดุดันที่ทิ้งร่องรอยไว้

“หลินสวิน นี่ยังกินได้ไหม”

นางมาพร้อมกับถือร่างชุ่มเลือดหนึ่งที่เต็มไปด้วยรอยพรุน เลือดเนื้อแหลกเหลว เมื่อมองอย่างละเอียดจึงรู้ว่าเป็นชายหนุ่มชุดม่วงที่มีพลังต่อสู้ระดับจักรพรรดิขั้นเจ็ดนั่นเอง

ในที่นั้นเงียบสงัดไปชั่วขณะ ทุกสายตาต่างมองไปยังซย่าจื้อ สีหน้าของพวกจักรพรรดิมังกรมายายิ่งแปรเปลี่ยนหลากสีสัน เดือดดาล เหี้ยมเกรียม ประหลาดใจ ยากจะเชื่อ…

“เสวี่ยถิง…!” จักรพรรดิมังกรวาโยกลืนกินแผดเสียงด้วยความคับแค้นใจแทบคลั่ง ชายหนุ่มผมม่วงที่ถูกซย่าจื้อฆ่าก็คือน้องชายแท้ๆ ของเขา ชื่อว่าอ๋าวเสวี่ยถิง ระดับจักรพรรดิขั้นเจ็ดที่มีพรสวรรค์ชวนตะลึงหาใดเปรียบคนหนึ่ง ใช้เวลาไม่นานก็จะก้าวขึ้นไปอยู่ในระดับจักรพรรดิขั้นแปดแล้ว!

แต่ตอนนี้อ๋าวเสวี่ยถิงกลับถูกฆ่า ทั้งอีกฝ่ายยังมองเขาเป็นอาหารด้วย!

นี่ทำให้เส้นผมของจักรพรรดิมังกรวาโยกลืนกินชี้ตั้ง โกรธจนดวงตาปูดโปนแทบถลน

หลินสวินกล่าว “เก็บไว้ก่อน วันนี้อาจล่าหนอนยักษ์เฒ่าได้อีกมาก”

ซย่าจื้อพยักหน้า ตั้งแต่ต้นจนจบล้วนดูนิ่งสงบและผ่อนคลายหาใดเปรียบ

“ทุกท่าน ศัตรูประชิดบ้านแล้ว ฆ่าคนในเผ่าของพวกเรา หยามศักดิ์ศรีของพวกเรา หากไม่กำจัดพวกเขา เผ่าเจินหลงของพวกเราจะเอาเกียรติภูมิไปไว้ที่ไหน!?”

จักรพรรดิมังกรมารดาราตะโกนลั่น เกรี้ยวกราดแทบคลั่งเช่นกัน

“เหอะๆๆ ตะโกนเสียงดังขนาดนี้ ทำไมพวกเจ้าต้องหลบซ่อนในวังมหามรรคหมื่นมังกรนั่นด้วย มาๆๆ ข้าจะยืนอยู่ตรงนี้ รอหนอนยักษ์หน้าเหม็นอย่างพวกเจ้ามาสู้กัน!”

ห้วงอากาศเกิดคลื่นกระเพื่อมดังสวบ ต้าหวงถือดาบไร้วิชาเจิดจ้าปรากฏตัวในที่นั้น เชิญพวกจักรพรรดิมังกรมายาประลองด้วยท่าทีกำเริบเสิบสาน

ขณะเดียวกันเสียงสื่อจิตของมันก็ดังขึ้นในหูหลินสวิน ‘เฒ่าระยำระดับจักรพรรดิขั้นแปดนั่นถูกข้าสังหารแล้ว แต่พวกเราต้องรีบเคลื่อนไหว ใช้เวลาไม่นานบริเวณใกล้เคียงนี้จะถูกผู้แข็งแกร่งที่รีบเร่งมาจากทั่วทิศปิดล้อม…’

นัยน์ตาดำของหลินสวินล้ำลึก เขาพยักหน้าน้อยๆ

ในเวลานี้เอง…

“เปิดใช้กระบวนค่ายกล!”

จักรพรรดิมังกรมายาส่งเสียงคำรามยาวเหมือนอสนีบาต เผยความเด็ดขาดหาใดเปรียบ

พอมองจักรพรรดิมังกรวาโยกลืนกินและจักรพรรดิมังกรมารดาราอีกครั้ง ในดวงตาก็เต็มไปด้วยความอำมหิตและคลุ้มคลั่ง

กลางฟ้าดินมีกลิ่นอายอันตรายหาใดเปรียบอบอวลออกมาฉับพลัน กลางภูผาธารากว้างใหญ่ทั่วทิศปรากฏค่ายกลลายมรรคที่เร้นลับแน่นขนัดนับไม่ถ้วนเกือบจะในเวลาเดียวกัน แผ่ออกมาเหมือนบังฟ้าคลุมตะวัน

ส่วนวังมหามรรคหมื่นมังกรที่สง่างามและศักดิ์สิทธิ์เหมือนที่พำนักของทวยเทพนั้น เวลานี้ก็แผ่ละอองแสงพร่างพรายเจิดจรัสไร้สิ้นสุด ประสานเป็นดวงดารานับหมื่นแสน ธารดาราไร้ขอบเขต แค่กลิ่นอายที่ปลดปล่อยออกมาก็ทำให้ฟ้าดินแถบนี้ตกอยู่ในบรรยากาศกดดันและน่ากลัวถึงขีดสุดอย่างหนึ่ง

โครม ครืน!

แสงศักดิ์สิทธิ์ไหลบ่า เสียงมรรคแผ่กระจายดุจกระแสน้ำ

ฟ้าดินแถบนี้ล้วนเปลี่ยนไป เหมือนกลายเป็นจักรวาลฟ้าดาราที่กว้างใหญ่ไพศาลแห่งหนึ่ง ธารดาราไหลวน ก่อให้เกิดแสงมรรคทั่วฟ้า!

พวกหลินสวินสัมผัสได้ถึงอันตรายในพริบตา แต่ไม่มีโอกาสหลบแล้ว ด้วยห้วงอากาศทั่วทิศในฟ้าดินไร้ขอบเขตนั้น ทั้งหมดล้วนถูกปิดผนึกในพริบตา

ไม่ว่าจะหนีไปที่ไหน ไม่ว่าหลบซ่อนอยู่แห่งใด ก็ถูกลิขิตให้ติดอยู่ในกระบวนค่ายกลน่ากลัวที่เรียกได้ว่าไร้เทียมทานแห่งนี้

พร้อมกันนั้นในแต่ละพื้นที่ของแดนวังมังกรล้วนตกใจ!

“กระบวนค่ายกลต้องห้ามของวังมหามรรคหมื่นมังกร! หรือว่าโจรถ่อยนั่นบุกไปถึงแกนกลางสำคัญของเผ่าเราแล้ว แม้แต่เฒ่าดึกดำบรรพ์พวกนั้นก็ขวางไว้ไม่ได้หรือ”

เสียงอึกทึกครึกโครมนับไม่ถ้วนดังขึ้น

กระบวนค่ายกลต้องห้ามของวังมหามรรคหมื่นมังกร ถูกมองเป็นแนวป้องกันชีวิตของเผ่าเจินหลง ความน่ากลัวของอานุภาพ สามารถฆ่าระดับบรรพจารย์จักรพรรดิ!

เล่าลือว่าในกระบวนค่ายกลต้องห้ามของวังมหามรรคหมื่นมังกรนั้น ถึงขั้นให้กำเนิด ‘วิญญาณค่ายกลลายมรรค’! ร่างวิญญาณลายมรรคที่มีคลื่นชีวิตอย่างหนึ่ง!

“พวกเราประเมินความน่ากลัวของคู่ต่อสู้ต่ำไป ยังดีที่กระบวนค่ายกลต้องห้ามเปิดใช้งานแล้ว ครั้งนี้ต่อให้คู่ต่อสู้แข็งแกร่งแค่ไหนก็ต้องถูกสังหารแน่!”

ผู้แข็งแกร่งเผ่าเจินหลงมากมายที่กำลังรีบเร่งไปวังมหามรรคหมื่นมังกรจากทั่วทิศพวกนั้น หลังจากเห็นภาพนี้สีหน้าล้วนซับซ้อนหาใดเปรียบ

ไม่จำเป็นต้องสงสัย ครั้งนี้พวกเขาประมาทศัตรูจริงๆ บางทีอาจเป็นเพราะอยู่สูงเหนือผู้อื่นมานานเกินไป หรืออาจเป็นเพราะไม่เคยเจอเรื่องอันตรายเช่นนี้มาหลายปีแล้ว

ครั้งนี้หลินสวินแฝงตัวเข้ามาในแดนวังมังกร จับตัวองค์ชายสี่และองค์ชายเจ็ดไปก่อน จากนั้นก็พุ่งสังหารมาวังมหามรรคหมื่นมังกรตลอดทาง นำพาเหตุไม่คาดฝันและการโจมตีมาสู่พวกเขามากเหลือเกิน

จากความไม่กล้าเชื่อในตอนแรก ถึงความโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เดือดดาลและโกรธจัดในตอนนี้ ทำให้พวกเขารับรู้ได้อย่างแจ่มชัดว่าคู่ต่อสู้ในครั้งนี้อันตรายระดับใด!

นี่ต้องเป็นมหันตภัยครั้งประวัติการณ์ที่เผ่าเจินหลงพบเจอนับแต่อดีตถึงปัจจุบันแน่!

ยังดีที่ตอนนี้กระบวนค่ายกลต้องห้ามเปิดใช้งานแล้ว ทำให้ผู้แข็งแกร่งเผ่าเจินหลงที่เดิมทีร้อนใจดั่งไฟเผา ตระหนกขุ่นเคืองหาใดเปรียบพวกนั้นต่างลอบโล่งอก

‘ทำอย่างไรดี!?’

ผู้ติดตามอาวุโสที่มาจากเก้าเผ่าจักรพรรดิใหญ่พวกนั้น เวลานี้ในใจเหลือเพียงความหนาวสะท้านและสิ้นหวัง

กระบวนค่ายกลต้องห้ามถูกเปิดใช้งาน เจ้าหลินเต้ายวนนั่น… จะยังรอดชีวิตออกไปจากแดนวังมังกรได้อีกหรือ

ในสถานการณ์เช่นนี้ ต่อให้พวกเขาอยากเข้าไปช่วยก็เป็นไปไม่ได้!

โครมครืน…

แดนวังมังกรที่มีวังมหามรรคหมื่นมังกรเป็นศูนย์กลาง กระบวนค่ายกลโบราณขนาดมหึมาส่งเสียงกัมปนาทไม่หยุด แสงมรรคและรัศมีเทพไร้ขอบเขตแผ่คลุมฟ้าดินแถบนั้นจนสิ้น กลางภูผาธาราเต็มไปด้วยความมืดมน ห้วงอากาศและสรรพสิ่งล้วนกลายเป็นจุณ

กระบวนค่ายกลโบราณที่สามารถฆ่าบรรพจารย์จักรพรรดิโคจร ถึงขั้นทำให้โลกแห่งหนึ่งตกอยู่ในแรงสั่นสะเทือนได้ กฎเกณฑ์ฟ้าดินปั่นป่วนและบิดเบี้ยว พังทลายอย่างสมบูรณ์!

ดวงดาวนับหมื่นแสนกลายเป็นธารดารา พลิกตลบหมุนวนกลางห้วงอากาศ นี่คือพลังน่าพรั่นพรึงที่วิวัฒน์จากกระบวนค่ายกลนั้น ราวกับโลกที่แท้จริงใบหนึ่ง

พวกหลินสวินก็ติดอยู่ในนั้นเหมือนถูกฟ้าดินทอดทิ้ง!

“ฮ่าๆๆ ครั้งนี้ข้าอยากดูนักว่าพวกเจ้าจะดิ้นรนได้ถึงเมื่อไหร่!” ในวังมหามรรคหมื่นมังกร เสียงหัวเราะเยียบเย็นที่เจือความคั่งแค้นไร้สิ้นสุดของจักรพรรดิมังกรมายาดังขึ้น

…………………

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท