Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 2281 คลื่นลมก่อตัวในเมืองจักรพรรดิ

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 2281 คลื่นลมก่อตัวในเมืองจักรพรรดิ

ตอนที่ 2281 คลื่นลมก่อตัวในเมืองจักรพรรดิ

นอกร้านช่างเทพ มีระดับจักรพรรดิทุกหนแห่ง ผู้ฝึกปราณทั่วไปแทบจะไม่มีที่ยืน ได้แต่ยืนมองอยู่ในจุดที่ห่างไกลออกไป

ระดับจักรพรรดิมากเกินไป ทั่วร่างยังแผ่กลิ่นอายออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ ย่อมทำให้ผู้คนหายใจไม่สะดวก ใครจะกล้าเข้าใกล้

มีคนลอบนับจำนวน ในเวลาสั้นๆ แค่สี่วัน จำนวนของระดับจักรพรรดิที่รวมตัวกันที่นี่มีมากถึงสี่สิบห้าคนอย่างน่าอัศจรรย์!

ภายในนั้นถึงขั้นมีเฒ่าดึกดำบรรพ์ระดับจักรพรรดิขั้นเก้าที่ไม่เคยปรากฏตัวมาเนิ่นนานห้าคน

นี่คือจำนวนที่สามารถทำให้ใต้หล้าหันมามอง ทำให้สรรพชีวิตใจสั่นสะท้าน สะท้อนภาพสะเทือนใต้หล้าอย่าง ‘เหล่าจักรพรรดิรวมตัว’ ออกมา

และตอนนี้ระดับจักรพรรดิพวกนี้ล้วนดูมีความอดทนยิ่ง เฝ้ารออยู่ตรงนั้นอย่างเงียบสงบ ไม่มีใครเผยความหงุดหงิดใดออกมาแม้แต่เสี้ยวเดียว

สี่วันมานี้เรื่องที่หลินเต้ายวนหลอมศาสตราจักรพรรดิออกมาสิบสองชิ้นครึกโครมไปทั่วเมือง ก่อให้เกิดคลื่นลมล้นฟ้านานแล้ว

ที่สะท้านใจคนที่สุดคือ ศาสตราจักรพรรดิสิบสองชิ้นนั้นล้วนเรียกได้ว่าเป็นของชั้นยอด!

นี่ก็คือสิ่งที่ทำให้ผู้คนเข้าใจกระจ่าง ว่าเหตุใดเผ่าจักรพรรดิช่างเทพที่เย่อหยิ่งถือดีถึงถูกหลินเต้ายวนคนเดียวสยบ

บนวิถีสลักวิญญาณ ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญลุ่มลึกเกินคาดเดาเช่นนี้ ใครเล่าจะไม่สั่นสะท้านหรือเลื่อมใสเขา

สำหรับผู้ฝึกปราณทุกคนในเมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิง เรื่องที่เกิดขึ้นหลายวันนี้ก็เหมือนตำนานเทพครั้งประวัติการณ์กำลังเปิดฉาก

และหลินเต้ายวนคนนี้ก็เป็นตำนานที่เล่าขานในเทพปกรณัม!

ตอนนี้ระดับจักรพรรดิที่รวมตัวยืนอยู่นอกร้านช่างเทพนี้ไม่ได้มาดูเรื่องสนุกเท่านั้น พวกเขาล้วนหวั่นไหว ทั้งตัดสินใจว่าจะเชิญหลินสวินไปหลอมอาวุธให้!

ซ้ำพวกเขายังเข้าแถว รอปรับแต่งศาสตราจักรพรรดิแล้วด้วย

เมื่อรู้เรื่องทั้งหมดนี้หัวหน้าเผ่าหงส์เซียนหวงชางเทียนที่ควบคุมดูแลในที่ลับมาตลอดก็นั่งไม่ติดแล้ว ออกมาดูแลส่วนนี้ที่นี้ด้วยตัวเอง

ด้วยฐานะโดดเด่นประหนึ่งนายเหนือหัวนั้นของเขา ต่อให้เป็นระดับบรรพจารย์จักรพรรดิก็ต้องให้เกียรติถึงสามส่วน ไม่กล้าบุ่มบ่ามทำตามอำเภอใจ

ด้วยเหตุนี้บุคคลสำคัญที่รวมตัวอยู่ใกล้ร้านช่างเทพแม้จะมาก แต่กลับเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่เกิดความโกลาหลหรือคลื่นลมอะไร

สำหรับสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมเป็นสิ่งที่หวงชางเทียนอยากให้เป็น

‘หัวหน้าเผ่า หลายวันมานี้พวกเราจับตายผู้แข็งแกร่งสองเผ่าอย่างเสือขาวและเต่าดำในเมืองได้สามสิบเจ็ดคนแล้ว แต่น่าเสียดายที่เป็นพวกกุ้งฝอยปลาน้อยทั้งสิ้น ไม่มีพวกที่เหนือกว่าระดับจักรพรรดิ’

ชายชราชุดดำคนหนึ่งมาเข้าพบ สื่อจิตรายงานหวงชางเทียน

‘นอกจากนี้ภายในเผ่าของพวกเรายังพบคนในเผ่าที่ถูกหนอนเทพกักวิญญาณควบคุมอีกสามสิบเก้าคน ในนั้นมีสี่คนที่เป็นระดับอาวุโส อีกสิบหกคนหายสาบสูญอย่างแปลกประหลาด ยังมีเก้าคนที่ดูน่าสงสัย…’

เขาพูดพลางส่งมอบม้วนหยกหนึ่งให้หวงชางเทียน ‘นี่คือรายชื่อ หัวหน้าเผ่าโปรดตรวจสอบด้วย’

หวงชางเทียนเปิดม้วนหยกออกดู สื่อจิตด้วยสีหน้าราบเรียบ ‘จับคนในเผ่าตามรายชื่อนี้ขังไว้ให้หมด ให้ผู้ลงทัณฑ์อาวุโสไต่สวนด้วยตัวเอง ต้องทรมานจนยอมสารภาพว่าคนร้ายที่ให้พวกเขากลืนหนอนเทพกักวิญญาณเป็นใคร ทั้งตอนนี้อยู่ที่ไหน’

ชายชราชุดดำพยักหน้า จากนั้นจึงกล่าวเสียงขรึม ‘หัวหน้าเผ่า ต้อง… ตรวจสอบระดับจักรพรรดิในเผ่าอีกครั้งหรือไม่’

หวงชางเทียนหรี่ตาเล็กน้อย เงียบไปครู่หนึ่ง นัยน์ตาฉายแววเด็ดเดี่ยวพลางกล่าว ‘เรื่องนี้ให้ผู้อาวุโสชั้นสูงจัดการ จำไว้ ยามตรวจสอบอย่าทำให้เกิดคลื่นลม’

ชายชราชุดดำรับคำสั่งอย่างเคร่งครัด

‘หากพบว่าในหมู่ผู้อาวุโสระดับจักรพรรดิของเผ่าพวกนั้นมีปัญหาจริง…’

หวงชางเทียนสูดหายใจลึก นัยน์ตาฉายแววโหดเหี้ยมเสี้ยวหนึ่ง ‘ก็ให้ผู้อาวุโสชั้นสูงจัดการเสียเดี๋ยวนั้น หากขัดขืนให้ฆ่าทันที!’

ชายชราชุดดำใจสั่นสะท้าน รับคำสั่งจากไป

‘หนอนบ่อนไส้ไม่กำจัด หากให้พวกเจ้าตีประสานทั้งนอกและใน เผ่าหงส์เซียนของข้า… จะไม่ร่วงหล่นสู่แดนดินที่ไม่อาจหวนคืนหรือ… หวังเพียงว่า… จะไม่มีคนทรยศมากเช่นนั้นกระมัง…’

แววตาหวงชางเทียนลุ่มลึก

เมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิงในปัจจุบันยังเจริญรุ่งเรืองครึกครื้น ถึงขั้นที่ว่าการปราฏตัวของหลินสวินดึงดูดความสนใจจากผู้คนในใต้หล้าได้ทั้งหมด

แต่หวงชางเทียนรู้ดีว่าเบื้องหลังความอึกทึกนี้ แท้จริงแล้วมีคลื่นใต้น้ำพลุ่งพล่าน พายุฝนมาเยือน!

เผ่าเสือขาวและเต่าดำยังไม่เคยแยกเขี้ยวคมอย่างแท้จริง แต่พวกเขาต้องออกอุบายล่วงหน้าแล้วแน่นอน

บางทีอาจรอแค่ผู้ยิ่งใหญ่จากตระกูลลั่วของอีกฟากฝั่งคนนั้นมาเยือน กำลังพลทั้งหมดที่ซ่อนตัวในที่ลับของสองเผ่านี้ก็จะจู่โจมดุจสายฟ้า!

ตอนนี้สิ่งที่หวงชางเทียนหวาดกลัวที่สุดไม่ใช่เรื่องพวกนี้ หากแต่ห่วงว่ายามบรรพชนตื่นขึ้นจะเกิดเรื่องไม่คาดฝันบางอย่าง

นี่ก็คือเหตุผลพื้นฐานที่เขาต้องควบคุมดูแลอยู่ที่นี่ด้วยตัวเอง

เวลาเคลื่อนคล้อย ผ่านไปสองเดือนโดยไม่รู้ตัว

ชั้นบนสุดของหอสุราสูงพันจั้งแห่งหนึ่งที่อยู่ห่างจากร้านช่างเทพระดับหนึ่งหมายเลขหนึ่งไปไกลลิบ

วันนี้ชายชุดคลุมแดงคนหนึ่งและชายชราผมเผ้าหนวดเคราขาวโพลนอีกคนมาถึงเมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิง ทั้งปรากฏตัว ณ ที่นั้น

ชายชุดคลุมแดงมีฉายาจักรพรรดิว่า ‘บรรพจารย์จักรพรรดิวั่นหลิว’ มาจากเผ่าเสือขาว อำนาจล้นฟ้า ฐานะโดดเด่นเหนือใคร

ชายชราผมเผ้าหนวดเคราขาวโพลนมีนามว่า ‘บรรพจารย์จักรพรรดิเฉียนอิ่น’ เป็นเฒ่าดึกดำบรรพ์คนหนึ่งของเผ่าเต่าดำ มีฐานะสูงส่งเช่นกัน

เรื่องที่เผ่าเสือขาวกับเต่าดำวางแผนโจมตีเผ่าหงส์เซียนในครั้งนี้ ก็มีเฒ่าชราสองคนนี้เป็นผู้นำ

“ตรวจสอบที่มาของหลินเต้ายวนนี่เจอหรือไม่”

บรรพจารย์จักรพรรดิวั่นหลิวเอ่ยปาก เขาหน้าตาเหมือนชายหนุ่ม ในดวงตากลับสะท้อนลักษณ์ประหลาดน่าพรั่นพรึงอย่างฟ้าถล่มดินทลาย สรรพสิ่งแห้งเหี่ยว

ชายชราชุดเทาคนหนึ่งยืนอยู่ด้านข้าง กล่าวอย่างนอบน้อม “เรียนผู้อาวุโส ตอนนี้สิ่งเดียวที่มั่นใจได้คือหลินเต้ายวนคนนี้มาจากพื้นที่นอกแดนหงส์เซียน”

“ถ้าเช่นนั้นก็มีโอกาสสูงที่เขาจะมาจากทางเดินโบราณฟ้าดาราสินะ” บรรพจารย์จักรพรรดิวั่นหลิวสายตาวูบไหว

ไม่มีใครตอบ

“เจ้าหวงชางเทียนนี่วางอุบายเก่งนัก ใช้ชื่อเสียงของหลินเต้ายวนดึงดูดระดับจักรพรรดิแต่ละเผ่าทั่วแดนหงส์เซียนนี้มาเกือบทั้งหมด รวมตัวอยู่หน้าร้านช่างเทพระดับหนึ่งหมายเลขหนึ่งนั่น สร้างปราการชั้นหนึ่งขึ้นมาโดยปริยาย”

บรรพจารย์จักรพรรดิเฉียนอิ่นที่หนวดเคราขาวสะอาดซึ่งอยู่ตรงข้ามส่งเสียงแหบชรา “สหายยุทธ์วั่นหลิวคิดว่าพวกเราควรทำอย่างไรต่อไป”

บรรพจารย์จักรพรรดิวั่นหลิวมุ่นคิ้ว จมสู่ห้วงความคิด

เดิมทีตามแผนของพวกเขาสองเผ่าเสือขาวและเต่าดำ คือใช้การลอบลงมือควบคุมบุคคลแกนหลักในเผ่าหงส์เซียนให้ได้มากที่สุดก่อน

เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว หลังจากผู้ยิ่งใหญ่แห่งตระกูลลั่วของอีกฟากฝั่งคนนั้นมาถึง ก็จะตีประสานทั้งนอกในพร้อมผู้แข็งแกร่งเผ่าหงส์เซียนที่ถูกควบคุมพวกนั้น บดขยี้เผ่าหงส์เซียนได้ในคราเดียว

แต่ใครจะคิดว่าตัวแปรกลับเกิดขึ้นแล้ว

สองเดือนก่อนเผ่าหงส์เซียนพลันเริ่มเคลื่อนไหว ใช้อานุภาพดุจสายฟ้าจับตายผู้แข็งแกร่งของเผ่าเสือขาวและเต่าดำทั่วเมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิงเต็มกำลัง

ซ้ำ ‘ตัวหมาก’ ของเผ่าหงส์เซียนที่ถูกพวกเขาควบคุมก่อนหน้านี้ก็ถูกกำจัดไปทีละคน!

นี่เท่ากับทำลายแผนการก่อนหน้านี้ของพวกเขาอย่างแข็งกร้าว

หากมีเพียงเท่านี้ก็ช่างเถอะ

ครั้งนี้เผ่าเสือขาวและเต่าดำได้เคลื่อนกำลังพลทั้งเผ่าเตรียมไว้นานแล้ว รอแค่เปิดศึกก็จะบุกตะลุย ใช้พลังต่อสู้อันเด็ดขาดไปกำราบเผ่าหงส์เซียน

หรือกล่าวได้ว่าต่อให้ปะทะซึ่งหน้า ทั้งสองเผ่าก็มีความมั่นใจว่าจะบดขยี้เผ่าหงส์เซียนได้

ทว่าตอนนี้พวกเขากลับเจอเรื่องยากจัดการอย่างหนึ่ง…

หลินเต้ายวน!

ปฐมาจารย์สลักลายมรรคที่ไม่รู้ว่าโผล่มาจากไหนคนหนึ่ง ความเชี่ยวชาญด้านลายมรรคของเขาถึงขั้นทำให้เผ่าจักรพรรดิช่างเทพเลื่อมใส!

สองเดือนมานี้เมื่อการหลอมอาวุธของเขาเปิดฉาก ทั้งแดนหงส์เซียนล้วนตกสู่ความพลุ่งพล่าน ก่อให้เกิดความปั่นป่วนโกลาหลที่ไม่เคยมีมาก่อน

หลังจากบรรพจารย์จักรพรรดิวั่นหลิวและบรรพจารย์จักรพรรดิเฉียนอิ่นรู้เรื่องนี้ก็อดไหวหวั่นไม่ได้ รู้สึกตกใจถึงขั้นสั่นสะท้าน

ปฐมาจารย์สลักลายมรรคคนหนึ่งที่หลอมศาสตราจักรพรรดิได้เฉลี่ยสามชิ้นทุกวัน ทั้งศาสตราจักรพรรดิที่หลอมทั้งหมดยังเป็นของชั้นยอด ล้วนสามารถสะเทือนกาลนิรันดร์ ทำให้ใต้หล้าตกตะลึงได้อย่างสิ้นเชิง พันหมื่นปีล้วนยากจะได้เห็น!

แต่เรื่องที่ทำให้พวกบรรพจารย์จักรพรรดิวั่นหลิวรู้สึกตึงมือ ก็คือสิ่งที่หลินเต้ายวนคนนี้ชักนำมา

ด้วยสองเดือนมานี้ระดับจักรพรรดิทยอยมาจากทุกพื้นที่ในแดนหงส์เซียนอย่างไม่ขาดสาย มีมากนับร้อยจนพาให้คนขนพองสยองเกล้าแล้ว!

ในอดีตที่ผ่านระดับจักรพรรดิคนหนึ่งเหมือนเทพมังกรเห็นหัวไม่เห็นหาง คิดอยากเจอสักครั้งล้วนยากนัก

แต่ตอนนี้หน้าร้านช่างเทพระดับหนึ่งหมายเลขหนึ่งกลับมีระดับจักรพรรดินับร้อยคนมาอยู่รวมกัน ภาพนั้นต่อให้กวาดสายตามองทั่วหล้าหมื่นแดนดิน ยังเรียกว่าพบเห็นได้ยากในชั่วกาล!

ทั้งหมดนี้ล้วนเกิดจากหลินเต้ายวนนั่นคนเดียว

เป้าหมายที่แท้จริงของเผ่าเสือขาวและเต่าดำในครั้งนี้ ก็อยู่ในอาณาเขตของร้านช่างเทพระดับหนึ่งหมายเลขหนึ่งเสียด้าย

คนโง่ยังรู้ว่าขอเพียงหลินเต้ายวนนั่นยังอยู่ ใครกล้าบุกเข้าไปในร้านช่างเทพระดับหนึ่งหมายเลขหนึ่ง มันผู้นั้นต้องผ่านด่านระดับจักรพรรดินับร้อยคนนั่นไปก่อน!

นี่ก็คือเรื่องที่ทำให้พวกบรรพจารย์จักรพรรดิวั่นหลิวรู้สึกตึงมือ

ระดับจักรพรรดิเป็นร้อยคน!

นั่นสามารถคุกคามเผ่าฟ้าประทานอย่างเผ่าเสือขาวและเต่าดำของพวกเขาได้อย่างร้ายแรงแล้ว!

“ตอนนี้สิ่งที่แน่ใจได้คือหวงชางเทียนรู้แผนการของพวกเราสองเผ่า ทั้งเตรียมพร้อมรับมือเรื่องนี้อยู่ก่อนแล้ว”

ครู่ใหญ่บรรพจารย์จักรพรรดิวั่นหลิวจึงเอ่ยปาก “นี่ก็หมายความว่าต่อให้พวกเราดำเนินการอะไร อีกฝ่ายก็จะตอบสนองทันที”

เขาเว้นช่วงไป ในดวงตาฉายแววเยียบเย็น “แต่ข้าไม่เชื่อว่าระดับจักรพรรดิมากมายที่รวมตัวกันนั้น หลังจากรู้สถานการณ์ของเผ่าหงส์เซียนแล้ว ยังมีความกล้าที่จะเลือกอยู่ต่อ!”

บรรพจารย์จักรพรรดิเฉียนอิ่นกล่าวคล้ายขบคิด “ถ้าเช่นนั้นตอนนี้ก็จะเผยแผนการที่พวกเราคิดโจมตีเผ่าหงส์เซียนออกมาโดยตรงแล้วหรือ”

“ก็ได้แต่ทำเช่นนี้แล้ว หากรอให้คนใหญ่คนโตจากตระกูลลั่วอีกฟากฝั่งคนนั้นมาแล้วค่อยเคลื่อนไหว ก็ออกจะสายไป…”

เสียงของบรรพจารย์จักรพรรดิวั่นหลิวต่ำลึกและเยียบเย็น

บรรพจารย์จักรพรรดิเฉียนอิ่นพยักหน้า

ในวันนั้นมีข่าวหนึ่งแพร่ออกมา

เผ่าเสือขาวและเต่าดำรับคำสั่งตระกูลลั่วอีกฟากฝั่ง อีกไม่นานจะมาเมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิง กำราบเผ่าหงส์เซียน!

ทันทีที่ข่าวแพร่ออกไป ทั้งเมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิงตกอยู่ในความปั่นป่วนราวกับฟ้าถล่มดินทลาย

ยังไม่รอให้ผู้คนยืนยันความจริงของข่าวนี้ ไม่ทันไรก็มีข่าวมากมายทยอยแพร่กระจายออกไป

“วันที่เข้ากำราบ ทุกคนที่เป็นพวกเดียวกับเผ่าหงส์เซียนต้องถูกกวาดล้างทั้งเผ่า!”

“ก่อนที่กองทัพโจมตีจะมาถึง ขุมอำนาจที่ไม่ถอนตัวออกจากเมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิงต้องถูกกวาดล้าง!”

“ขอเพียงเป็นผู้ที่ยินดีทำประโยชน์ให้เผ่าเสือขาวและเต่าดำ วันหน้าหลังจากกำราบเผ่าหงส์เซียนแล้ว ย่อมได้รับรางวัลมากมาย!”

…เมื่อข่าวพวกนี้แพร่กระจายดุจเขาถล่มสมุทรคำราม ทั้งเมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิงก็ตกอยู่ในความปั่นป่วนไร้สิ้นสุดอย่างสมบูรณ์ ผู้ฝึกปราณนับไม่ถ้วนใจสั่นสะท้าน ขวัญหนีดีฝ่อ หน้าเปลี่ยนสีด้วยเหตุนี้!

ทุกคนต่างรับรู้ว่ามหันตภัยใหญ่ที่ไม่เคยมีมาก่อน ใกล้จะม้วนกลืนเมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิงเหมือนพายุแล้ว!

………………………….

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท