Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 2291 เตากระบี่หนึ่งเดียว

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 2291 เตากระบี่หนึ่งเดียว

เวลาเพียงถ้วยชาสั้นๆ

พลังปราณของหลินสวินก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนถึงระดับจักรพรรดิขั้นสามขั้นสมบูรณ์ ส่วนแกนเทพแรกกำเนิดที่จักรพรรดิวิญญาณหมื่นเพลิงมอบให้กลับหลอมไปเพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น

จากเรื่องนี้สามารถมองเห็นได้ว่า แกนเทพแรกกำเนิดที่สามารถทำให้ระดับบรรพจารย์จักรพรรดิอยากได้น้ำลายไหล ใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล

หากสถานการณ์เช่นนี้ดำเนินต่อไป หลินสวินกล้ามั่นใจว่าอีกไม่นานตนอาจถึงขั้นทำให้เกิดสัญญาณการทะลวงขั้น!

เพียงแต่ก็ในตอนนี้เอง ทางเข้าของแดนลับกลับเกิดการสั่นไหวรุนแรงระลอกหนึ่ง เหมือนถูกโจมตีอย่างน่ากลัวที่สุดอย่างไรอย่างนั้น

หลินสวินตื่นจากการนั่งสมาธิทันที ลืมตาขึ้น อานุภาพกดดันยิ่งยวดอันไร้รูปแผ่ออกจากร่างเขา

“ลั่วเจีย” สายตาของเขามองไปยังไกลๆ

ตลอดเวลาที่ผ่านมาลั่วเจียยืนอยู่ตรงนี้มาตลอด มองเห็นหลินสวินหลอมศาสตราจักรพรรดิบริสุทธิ์ ความสั่นสะเทือนนั้นไม่ต้องพูดมาก

ตอนที่ได้ยินเสียงเรียกของหลินสวิน นางเหมือนเพิ่งตื่นจากฝัน ได้สติจากความคิดที่สับสนวุ่นวาย “พี่หลิน มีอะไรหรือ”

“ศัตรูโจมตีมาแล้ว ที่นี่อยู่นานไม่ได้ ได้แต่ต้องให้เจ้าอดสูสักหน่อยแล้ว”

หลินสวินว่าแล้วก็ลุกขึ้นยืนและสะบัดแขนเสื้อทันที แสงมรรคแถบหนึ่งปรากฏขึ้น ม้วนเงาร่างของลั่วเจียพาเข้าไปในเจดีย์ไร้สิ้นสุด

โครม!

ทางเข้าก็แตกออกในเวลานี้ แสงมรรคที่น่ากลัวแถบหนึ่งพรั่งพรูเข้ามาราวกับเขื่อนระเบิด

พร้อมกันนั้นยังมีเงาร่างที่กลิ่นอายน่าสะพรึงกลัวกลุ่มหนึ่ง ล้วนเป็นระดับจักรพรรดิที่มาจากเผ่าเต่าดำและเสือขาว

“เร็ว ที่นี่คือสถานที่ที่บรรพชนหงส์เซียนหลับใหล ทำลายที่นี่ซะ บรรพชนหงส์เซียนนั่นก็จะไม่สามารถนิพพานสำเร็จ!”

มีคนตะโกนอย่างตื่นเต้น

“ที่นี่มีเจ้าคนเดียวหรือ”

สายตามากมายมองไปยังหลินสวิน ในแววตาแผ่ไอสังหารทั่วทิศ

คนจำนวนมากกว่ากลับกำลังสังเกตแดนลับแห่งนี้ เหมือนพยายามหาที่ซ่อนตัวของบรรพชนหงส์เซียน

“ไม่ต้องพูดไร้สาระ ฆ่าเจ้าหมอนี่ก่อน!”

มีคนอดไม่อยู่จะลงมือแล้ว กลับถูกเฒ่าชราชุดนักพรตสง่างามคนหนึ่งขวางเอาไว้

“อ้อ จริงสิ เจ้าก็คือหลินเต้ายวนคนนั้นกระมัง ก่อนพวกเราจะมาก็เคยได้ยินชื่อเสียงของเจ้า”

สายตาของเฒ่าชราชุดนักพรตนั่นก็แวววาว จ้องหลินสวินแล้วกล่าว “ตอนนี้เจ้าเองก็เห็นแล้วว่าเมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิงแห่งนี้ถูกทำลายไปแล้ว อีกไม่นานเผ่าหงส์เซียนก็จะถูกลบชื่อออกจากโลก หากเจ้าอยากรอดชีวิต ไม่สู้สวามิภักดิ์ต่อเผ่าเต่าดำของข้า ข้ารับรองว่าจะให้มอบผลประโยชน์ที่ดีที่สุดกับเจ้า!”

ระดับจักรพรรดิคนอื่นๆ พลันตระหนักได้ถึงฐานะของหลินสวิน แต่ละคนเหมือนจ้องเหยื่อที่น่าดึงดูดที่สุดในโลก

หลินเต้ายวน!

นักหลอมอาวุธในตำนานที่เมื่อไม่นานมานี้ทำให้เกิดความฮือฮาในแดนหงส์เซียน ว่ากันว่าศาสตราจักรพรรดิที่เขาหลอมออกมาล้วนเรียกได้ว่าเป็นของชั้นยอดโดยไม่มียกเว้น!

สิ่งที่เหลือเชื่อที่สุดคือความเร็วในการหลอมอาวุธของเขารวดเร็วอย่างที่สุด เฉลี่ยหนึ่งวันสามารถหลอมศาสตราจักรพรรดิออกมาได้สองถึงสามชิ้น และไม่มีความล้มเหลวเกิดขึ้น

นักหลอมอาวุธที่มีสีสันตำนานคนหนึ่ง เป็น ‘อัจฉริยะ’ ที่ทุกขุมอำนาจแย่งกันยิ่งยวดอย่างแน่นอน

“ข้าจะพาเขากลับเผ่าเสือขาว หลอมศาสตราจักรพรรดิให้เผ่าข้า!”

พลันมีชายที่กลิ่นอายดุดันคนหนึ่งพูดขึ้น สายตาเร่าร้อนเผยการข่มขู่ “ไม่เช่นนั้นข้ายอมทำลายเขาเสียตอนนี้ ยังดีกว่ายอมให้เขาตกอยู่ในมือขุมอำนาจอื่น!”

“ไม่ผิด แน่นอนว่าต้องเป็นเช่นนี้!”

ระดับจักรพรดิของเผ่าเสือขาวต่างพยักหน้า

แต่สีหน้าของระดับจักรพรรดิเผ่าเต่าดำที่เฒ่าชราชุดนักพรตเป็นผู้นำกลับไม่น่าดูขึ้นมา

“ขอโทษด้วย หลินต้ายวนนี่ครั้งนี้ทำได้เพียงไปกับเผ่าเต่าดำของพวกเรา เผ่าเสือขาวของเจ้าอยากแย่งก็ต้องชั่งน้ำหนักให้ดี!” เฒ่าชราชุดนักพรตสีหน้าไร้อารมณ์ น้ำเสียงแข็งกระด้าง

ชายดุดันคนนั้นเดือดดาลยิ่ง ชี้หลินสวินแล้วตวาดเสียงดัง “หลินเต้ายวน ตอนนี้ตามข้าไปโดยดี ข้ารับรองว่าที่นี่ไม่มีใครกล้าทำร้ายเจ้าถึงชีวิตเจ้า ไม่เช่นนั้นข้าฆ่าเจ้าทันที”

“พวกเจ้ากล้า!”

เฒ่าชราชุดนักพรตพูดอย่างเย็นชา “เผ่าเต่าดำของข้าไม่ได้ ใครก็อย่าคิดว่าจะได้!”

ทันใดนั้นระหว่างระดับจักรพรรดิของเผ่าเสือขาวและเต่าดำกลับเกิดการปะทะกัน ถลึงตามองกันด้วยความโกรธ สถานการณ์ตึงเครียด

ดวงตาดำของหลินสวินเย็นชา ในใจเกิดความรู้สึกน่าขันที่พูดไม่ออก สารเลวพวกนี้เห็นตนเป็นอะไร

เหยื่อที่แย่งกันไปมา สังหารได้ตามใจชอบเช่นนั้นหรือ

ตูม!

ทันใดนั้นเผ่าเสือขาวมีคนข่มอารมณ์ไม่อยู่ชิงออกโจมตีก่อน

ชายที่สูงใหญ่กำยำคนหนึ่งเงาร่างพริบไหว ยื่นมือคว้าไปยังหลินสวิน “คนแซ่หลิน หากเจ้ากล้าดิ้นรนข้าฉีกเจ้าทั้งเป็น!”

“รนหาที่ตาย!”

เฒ่าชราชุดนักพรตสีหน้าไม่น่าดู จะยอมมองเผ่าเสือขาวชิงคนไปตาปริบๆ ได้อย่างไร เพียงแต่เขาเพิ่งหมายจะออกมือ ในที่นั้นก็มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น

ก็เห็น…

หลินสวินคว้ามือลวกๆ ก็จับชายสูงใหญ่กำยำแห่งเผ่าเสือขาวคนนั้นไว้ในมือ เหมือนหิ้วลูกไก่อย่างไรอย่างนั้น

จากนั้นสองแขนของเขาฉีกออกไปด้านข้างเบาๆ

ครืด!

ร่างของชายกำยำที่มีพลังปราณระดับจักรพรรดิขั้นสี่ถูกฉีกออกเหมือนผ้าผืนหนึ่ง เลือดสดไหลหลั่งลงพื้นราวกับน้ำตก หลินสวินโยนออกไปลวกๆ ชิ้นส่วนร่างกายที่ฉีกขาดสองท่อนถูกทิ้งไว้ข้างๆ เหมือนขยะ

ฉีกระดับจักรพรรดิด้วยมือ!

ภาพที่นองเลือดอย่างที่สุดนี้ทำเอาในใจระดับจักรพรรดิเผ่าเสือขาวและเต่าดำสั่นสะท้าน สีหน้าเปลี่ยนไปยิ่งยวด

“เร็วเข้า ลงมือพร้อมกัน จับเขาไว้ก่อน!”

ชายดุดันตะโกน

“ใช่ จับก่อนค่อยว่า!”

เฒ่าชราชุดนักพรตเองก็ตระหนักได้ถึงความผิดปกติ ตะโกนออกมา

ตูม!

ระดับจักรพรรดิเผ่าเสือขาวเต่าดำต่างลงมือโดยไม่ลังเล บ้างเรียกศาสตราจักรพรรดิออกมา บ้างกระตุ้นวิชาลับ อานุภาพน่ากลัวไร้ขอบเขต

ระดับจักรพรรดิทั่วไปคนหนึ่งก็สามารถเผาภูเขาต้มสมุทร ทำลายล้างภูผาธาราแห่งหนึ่งได้ นับประสาอะไรกับระดับจักรพรรดิกลุ่มหนึ่งลงมือ

ภาพเช่นนี้ถึงขั้นสามารถทำให้ระดับจักรพรรดิรู้สึกสิ้นหวัง!

“ไม่รู้จักดีชั่ว วันนี้จะเอาชีวิตพวกเจ้ามาสังเวยศาสตราจักรพรรดิของข้าคนแซ่หลิน”

ทว่าในสถานการณ์เช่นนี้ มุมปากของหลินสวินกลับเผยความเย็นเยียบ

วู้ม!

ทันใดนั้นแสงมรรคที่พลุ่งพล่านหาใดเปรียบแถบหนึ่งทะยานออกมา เตาหลอมส่องแสง ปลดปล่อยอานุภาพยิ่งใหญ่ปานกำราบเวิ้งฟ้า

ระหว่างที่เตาหลอมหมุนอยู่ในอากาศ เสียงตูมดังขึ้นคราหนึ่ง การจู่โจมที่ปกคลุมมาจากทั่วทิศล้วนถูกทลาย สลายและทำลายล้าง!

ไม่มีมิ่งใดไม่สะท้านสะเทือน!

ระดับจักรพรรดิทั้งกลุ่มนัยน์ตาหดรัด

เล่มพวกเขาที่เข้ามาก่อนมีระดับจักรพรรดิสิบเจ็ดคน ที่อ่อนแอที่สุดก็มีพลังปราณระดับจักรพรรดิขั้นสอง ที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างชายดุดันและเฒ่าชราชุดนักพรต ล้วนมีพลังระดับจักรพรรดิขั้นเจ็ด เรียกได้ว่าเป็นบุคคลชั้นยอดในระดับจักรพรรดิแล้ว

ทว่าการจู่โจมพร้อมกันครั้งนี้ กลับถูกเตาหลอมหนึ่งขวางไว้ได้อย่างหมดจด!

ไม่รอพวกเขาคิดกระจ่าง หลินสวินก็ลงมือโดยไม่ลังเลแล้ว

“ฟัน!”

เสียงชิ้งดังขึ้นคราหนึ่ง ในเตาหลอมปรากฏกระบี่มรรคเล่มหนึ่ง ชักนำแสงมรรคปานธารดาราเก้าฟ้าฟันสังหารออกไป ท่ามกลางความเลือนรางคล้ายมีสุริยันจันทราดาราลอยอยู่ภายใน

นี่เป็นหนึ่งกระบี่ระดับใดกัน

ดุดันไม่อาจจินตนาการ เหมือนสามารถฟันผ่าท้องฟ้า ตัดผ่านหมื่นกาล!

พริบตานั้นเสียงโหยหวนดังขึ้น ระดับจักรพรรดิที่อยู่หน้าสุดคนหนึ่งถูกหนึ่งกระบี่นี้สังหารโดยตรง ร่างกายถูกปราณกระบี่ที่ตีไพศาลบดขยี้ กลายเป็นฝุ่นผงล่องลอย

ในที่นั้นแตกตื่น เสียงอุทานด้วยความตกใจดังขึ้นจากทั่วทิศ

“เร็วเข้า โจมตีเขาพร้อมกัน!”

“ฆ่า!”

ชายดุดันและเฒ่าชราชุดนักพรตนำเหล่าจักรพรรดิพุ่งใส่หลินสวินเต็มกำลังประหนึ่งบ้าคลั่ง

แต่ไม่ว่าศาสตราจักรพรรดิหรือวิชามรรคของพวกเขาจะแข็งแกร่งเพียงใด มหัศจรรย์เพียงไหน ล้วนถูกเตาหลอมตรงหน้าหลินสวินโจมตีและสลายไป เหมือนหมื่นวิชาไม่อาจกล้ำกลาย!

และในระหว่างนี้เมื่อความคิดหลินสวินขยับไหว กระบี่มรรคเล่มหนึ่งพริบไหววาบวาว เปิดฉากกดดันและสังหารเด็ดขาด

“ฟัน!”

“ฟัน!”

“ฟัน!”

ทุกครั้งที่สิ้นเสียงของหลินสวิน จะต้องมีระดับจักรพรรดิคนหนึ่งถูกสังหารคาที่ จิตสิ้นวิญญาณสลาย ไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้

การสังหารที่เผด็จการดุดันเช่นนั้น ช่างเหมือนหักทำลายไม้ผุ ไร้ซึ่งศัตรูต้านทานได้!

ศาสตราจักรพรรดิหลายชิ้นอึงอล หมายต้านการเข่นฆ่าของกระบี่มรรคนั่น ทว่าชั่วพริบตาก็ถูกโจมตีจนสลายไปในการปะทะ กลายเป็นละอองแสงสาดเซ็นทั่วฟ้า

กล่าวอีกนัยหนึ่ง เผชิญกับกระบี่มรรคนั่น ศาสตราจักรพรรดิที่เหล่าระดับจักรพรรดิเผ่าเสือขาวและเต่าดำเรียกออกมา ล้วนต้านไม่ได้แม้แต่การโจมตีเดียว เปราะบางเหมือนกระดาษเปื่อย!

ปัง! ปัง! ปัง!

ในที่นั้นมีศาสตราจักรพรรดิถูกทำลายอย่างต่อเนื่อง เสียงระเบิดดังไม่หยุด ขณะเดียวกันยิ่งปะปนเสียงโหยหวนเศร้ารันทด

ก็เห็นระดับจักรพรรดิเหล่านั้นระเบิดออกเหมือนผ่าต้นไผ่ ละอองเลือดแดงสดร้อนระอุสาดพรม ตายคาที่

นี่เป็นการสังหารอย่างสมบูรณ์!

ต่อให้เป็นระดับจักรพรรดิสิบเจ็ดคนร่วมมือกัน แม้เป็นระดับจักรพรรดิขั้นเจ็ดก็ไม่เพียงพอ

หลินสวินยืนนิ่งอยู่ที่เดิม หนึ่งเตาหลอมหนึ่งกระบี่ โจมตีได้ทุกอย่าง ป้องกันได้ทุกสิ่ง กำลังเก็บวิญญาณของระดับจักรพรรดิเหล่านั้น!

ตูม!

ไม่นานเกราะและสมบัติตรงหน้าชายดุดันระเบิดออกพร้อมกัน ร่างกายถูกกระบี่มรรคของหลินสวินผ่าครึ่ง

และตอนนี้ในที่นั้นเหลือเพียงเฒ่าชราชุดนักพรตคนเดียวแล้ว เขาสีหน้าหวาดกลัว เต็มไปด้วยความตกใจ วิญญาณแทบหลุดออกมา

ชั่วขณะที่ชายดุดันถูกฆ่า จิตต่อสู้งของเขาก็พังพินาศสิ้นเชิง หมุนตัวหนีเหมือนสุนัขไร้บ้าน

เพียงแต่เมื่อแสงมรรคสายหนึ่งพริบไหว

แสงเลือดแดงสดแถบหนึ่งตวัดขึ้น ระดับจักรพรรดิขั้นเจ็ดอย่างเฒ่าชราชุดนักพรตก็ถูกฟันเอวขาด

ยามนี้ระดับจักรพรรดิสิบเจ็ดคนถูกสังหาร กลายเป็นเศษฝุ่นภายใต้ศาสตราจักรพรรดิของหลินสวิน ไม่มีใครรอดชีวิต!

และทั้งหมดนี้ใช้เวลาเพียงไม่เท่าไรเท่านั้น

ชิ้ง!

กระบี่มรรคส่งเสียงครวญใส หวนกลับในเตาหลอมอีกครั้ง ถูกหลินสวินกำไว้ในมือ

“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เจ้าก็ชื่อว่า… เตากระบี่หนึ่งเดียว!” ดวงตาดำของหลินสวินลึกล้ำ ตั้งชื่อให้กับศาสตราจักรพรรดิบริสุทธิ์ของตน

หลอมหมื่นมรรค วิวัฒน์หมื่นวิชา หมื่นกาลไม่เคยมีมาก่อน หนึ่งเดียวในโลก!

วู้ม!

เตากระบี่หนึ่งเดียวสั่นเบาๆ เหมือนกำลังโห่ร้องให้กับชื่อของตน จิตวิญญาณเต็มเปี่ยม

นี่ทำให้หลินสวินอดคาดหวังไม่ได้ ตอนที่เตากระบี่หนึ่งเดียวเกิดการเปลี่ยนแปลง วันที่ถือกำเนิดวิญญาณอาวุธ จะมีความองอาจที่แตกต่างเพียงใด

สวบๆๆ!

ทันใดนั้นห้วงอากาศเกิดคลื่นระลอกหนึ่ง เงาร่างหลายสายพุ่งเข้าแดนลับอีกครั้ง ล้วนเป็นระดับจักรพรรดิ

เห็นได้ชัดว่าระดับจักรพรรดิเหล่านี้มาถึงช้ากว่าก้าวหนึ่ง

ยามเห็นว่าในแดนลับว่างเปล่า เหลือเพียงแค่หลินสวินคนเดียว ระดับจักรพรรดิเจ็ดคนที่มาจากเผ่าเสือขาวและเต่าดำเหล่านี้ล้วนสัมผัสได้ถึงความไม่เข้าที

แต่ไม่รอพวกเขารู้สถานการณ์แน่ชัด หลินสวินก็เปิดฉากเข่นฆ่าโดยไม่ลังเลแล้ว

ตูม!

เตากระบี่หนึ่งเดียวทะยานออกมา แสงมรรคมากมายไหลหลั่ง เพียงแค่อานุภาพที่ปลดปล่อยออกมาก็ทำให้ฟ้าดินแห่งนี้จมสู่ความสั่นไหวแล้ว

หลินสวินพูดอย่างเนิบช้าในใจ ‘ศึกใหญ่วันนี้ ก็ถือว่าให้เจ้าลองลับคมเป็นครั้งแรก ดื่มเลือดจักรพรรดิให้อิ่ม!’

ชิ้ง!

ในเตาหลอม กระบี่มรรคหนึ่งเดียวทะยานออกมา ความคมของมันไร้ใดเปรียบ เสียงครวญใสดังก้องเก้าชั้นฟ้าสิบแผ่นดิน ทำเอาเมฆลมเปลี่ยนสี

——

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท