Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 2309 ผู้อาวุโสช่วยข้าด้วย

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 2309 ผู้อาวุโสช่วยข้าด้วย

ตอนที่ 2309 ผู้อาวุโสช่วยข้าด้วย

ใต้เขาหุบเหวโลหิตเหล่าผู้กล้าเสียววาบ ไม่มีใครไม่สั่นสะท้านเพราะเรื่องนี้

ก่อนหน้านี้ อวี้คุนจื่อเจ้าสำนักสำนักโบราณจรัสเทพพาเฒ่าดึกดำบรรพ์ระดับจักรพรรดิกลุ่มหนึ่งมายอดเขาหุบเหวโลหิต กระบวนทัพระดับนั้นทำให้คนส่วนใหญ่มั่นใจว่าหากจักรพรรดิเต้ายวนกล้าโผล่มา ต้องประสบการโจมตีปานทำลายล้างอย่างแน่นอน

ถึงขั้นล้วนสงสัยว่าจักรพรรดิเต้ายวนไม่กล้ามาตามนัดด้วยซ้ำ

ทว่าตอนนี้จักรพรรดิเต้ายวนไม่เพียงมาแล้ว ซ้ำยังมาคนเดียว ใช้อานุภาพบดขยี้ทลายพลังของเขาหุบเหวโลหิต สังหารสัตว์ประหลาดเฒ่าระดับจักรพรรดิทั้งกลุ่ม แผลงฤทธิ์ไร้ศัตรู!

นี่ทำลายความรู้ความเข้าใจของผู้คนโดยสิ้นเชิง

“อวี้คุนจื่อ จนป่านนี้แล้วเจ้ายังไม่เรียกผู้ช่วยเหล่านั้นออกมาอีกหรือ”

บนยอดเขาเหลือเพียงอวี้คุนจื่อคนเดียว หลินสวินย่างเท้าไปเบื้องหน้า สายตาเย็นเยียบชวนสยอง อานุภาพทั้งร่างปิดครอบเวิ้งฟ้า

อวี้คุนจื่อสูดหายใจลึกกล่าวว่า “เจ้าได้ตามที่หวัง!”

ตูม!

ชั่วอึดใจในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งพยับหมอกปกคลุมทั่วเขาหุบเหวโลหิตนั่น มีเงาร่างน่าสะพรึงสายแล้วสายเล่าพุ่งพรวดออกมา กรูเข้ามาทางยอดเขา

นั่นเป็นภิกษุชุดดำทั้งกลุ่ม ไม่ว่าแก่หรือหนุ่มล้วนปลดปล่อยอานุภาพน่าสะพรึงระดับจักรพรรดิออกมา

โดยเฉพาะภิกษุเฒ่าที่เป็นผู้นำ ผิวหนังครึ่งหนึ่งเหี่ยวแห้งเน่าเปื่อย อีกครึ่งหนึ่งมีพลังมีชีวิตเปี่ยมล้น ปรากฏเป็นอนุภาพประหลาดที่รุ่งโรจน์ร่วงโรยสับเปลี่ยน เกิดดับไม่เที่ยง

นี่คือเฒ่าดึกดำบรรพ์แดนกษิติครรภ์ที่สถานะสูงส่งจนน่าตกใจคนหนึ่ง ฉายา ‘บรรพจารย์จักรพรรดิขู่เซิง’!

ข้างกายบรรพจารย์จักรพรรดิขู่เซิงมีมหาจักรพรรดิมรรคธรรมแดนกษิติครรภ์ทั้งกลุ่มติดตามมาเก้าคน แต่ละคนอยู่ในโลกมืดล้วนมีอานุภาพไม่อาจประเมินได้

เมื่อเห็นเช่นนี้หลินสวินชะงักเท้าที่รุกโจมตี สายตาลุ่มลึก สีหน้าเป็นปกติ

ก่อนหน้านี้ยามมาถึงยอดเขาหุบเหวโลหิต เขาก็สัมผัสได้ว่าทั่วบนล่างเขาลูกนี้ นอกจากพวกอวี้คุนจื่อแล้วยังมีกลิ่นอายแข็งแกร่งอื่นๆ บางส่วนซุ่มอยู่ที่นี่ด้วย

ดังนั้นเมื่อกลุ่มพวกบรรพจารย์จักรพรรดิขู่เซิงปรากฏตัว หลินสวินจึงไม่แปลกใจนัก

“แดนกษิติครรภ์ก็ถึงกับส่งคนมาซุ่มโจมตีที่นี่ด้วย!”

ในพื้นที่ละแวกเชิงเขากลับมีเสียงร้องอุทานดังขึ้นระลอกหนึ่ง คนนับไม่ถ้วนตกใจ ล้วนถูกภาพที่เกิดปุบปับทำให้ตกตะลึงไม่กล้าเชื่อ

“หากจัดการแค่จักรพรรดิเต้ายวน แน่นอนว่าคงไม่เคลื่อนกำลังพลขนานใหญ่เช่นนี้ จากที่ข้าเดา การนัดพบที่เขาหุบเหวโลหิตครั้งนี้ สองยักษ์ใหญ่อย่างสำนักโบราณจรัสเทพและแดนกษิติครรภ์น่าจะร่วมมือกันนานแล้ว เพื่อจะกำจัดจักรพรรดิเต้ายวน รวมถึงกองกำลังที่เหลืออยู่ของหอวิหคทองแดงนั่นให้สิ้นซาก แต่ใครก็คาดไม่ถึงว่าจักรพรรดิเต้ายวนจะถึงกับมุ่งหน้ามาคนเดียว…”

“น่าจะเป็นเช่นนี้แหละ”

เสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ ดังขึ้นไม่หยุดราวหม้อเดือด

และบนยอดเขาหุบเหวโลหิต

หลังพวกบรรพจารย์จักรพรรดิขู่เซิงปรากฏตัว อวี้คุนจื่อกลับสีหน้าไม่น่ามองนัก ถึงขั้นเจือแววอึมครึมไม่สิ้น

จากสัญญาของพวกเขาสำนักโบราณจรัสเทพและแดนกษิติครรภ์ก่อนหน้านี้ การเคลื่อนไหวสังหารหลินสวินครั้งนี้ให้สำนักโบราณจรัสเทพเป็นผู้นำ

ทว่าตอนนี้กำลังพลของสำนักโบราณจรัสเทพเหลือเพียงเขาอวี้คุนจื่อคนเดียว ถึงขั้นที่ชีวิตประสบอันตรายถึงตาย!

นี่จะไม่ให้ในใจอวี้คุนจื่อรู้สึกอับอายได้อย่างไร

โดยเฉพาะตอนนี้ยังต้องขอความช่วยเหลือจากคนของแดนกษิติครรภ์ ยิ่งทำให้เขารู้สึกอับอายแทบอยากแทรกแผ่นดินหนี

บรรพจารย์จักรพรรดิขู่เซิงเหลือบมองอวี้คุนจื่อปราดหนึ่งก็ยิ้มขึ้นมา“สหายยุทธ์อวี้คุนจื่อ เจ้าควรปล่อยพลังผนึกของเขาลูกนี้แล้วให้พวกข้ามาช่วยเสริมทัพนานแล้ว แต่ว่าตอนนี้… ก็ยังไม่สายเกินการ”

อวี้คุนจื่อแค่นเสียงเย็นไม่พูดจา ในใจยิ่งไม่สบอารมณ์ขึ้นเรื่อยๆ

นัดหมายที่เขาหุบเหวโลหิตครานี้ สิ่งที่เขาพึ่งพาที่สุดก็คือความสามารถควบคุมนัยเร้นลับระเบียบของเขาหุบเหวโลหิต เมื่อมีพลังนี้ก็ถึงขั้นกล้ามองข้ามบรรพจารย์จักรพรรดิขู่เซิงได้

แต่ตอนนี้…

ความจริงพิสูจน์แล้วว่าพลังเขาหุบเหวโลหิตนี้ใช้กับหลินสวินไม่ได้สักนิด!

“ยังไม่สายเกินการจริงๆ นอกจากพวกเจ้าแล้วยังมีคนอื่นอีกหรือไม่” กลับเห็นหลินสวินเอ่ยปาก คำพูดสบายๆ ไม่มีความกลัวเกรงใดๆ เผยให้เห็นแม้แต่น้อย

บรรพจารย์จักรพรรดิขู่เซิงอึ้งไปเล็กน้อย ชี้หลินสวินแล้วหัวเราะด่า “ฮ่าๆ เดรัจฉานน้อยอย่าใจร้อน ข้าจะโปรดสัตว์เจ้าเดี๋ยวนี้”

ตูม!

พูดยังไม่ทันขาดคำ บาตรทองม่วงใบหนึ่งพุ่งทะยานขึ้นกลางอากาศ สาดแสงธรรมสีดำแปลกประหลาดมากมายแผ่ครอบไปทางหลินสวิน

บาตรหมื่นเคราะห์!

สมบัติประจำตัวของบรรพจารย์จักรพรรดิขู่เซิง ลือกันว่าเขาดับทำลายความชั่วร้าย หลุดพ้นสลายเคราะห์มาชั่วชีวิตนี้ พลังแห่งการข้ามเคราะพ้นทุกข์ที่สั่งสมมาทั้งหมดล้วนหลอมเข้าไปในสมบัติบริสุทธิ์ชิ้นนี้

อย่าว่าแต่ระดับจักรพรรดิทั่วไป แม้แต่บรรพจารย์จักรพรรดิรุ่นเดียวกัน หากถูกบาตรนี้ปิดครอบก็จะจมสู่นรกพ้นทุกข์ อยู่ก็ไม่ได้ตายก็ไม่สามารถ พบเจอความทรมานและการกัดกร่อนของการข้ามเคราะห์พ้นทุกข์ชั่วกัปชั่วกัลป์ น่ากลัวเป็นที่สุด

บรรพจารย์จักรพรรดิขู่เซิงลงมือ ทำให้ทุกคนล้วนกระปรี้กระเปร่า

ท่วงท่าแข็งแกร่งเผด็จการก่อนหน้านี้ของหลินสวิน ทำเอาคนที่ระดับต่ำกว่าบรรพจารย์จักรพรรดิอย่างพวกเขาหวาดกลัวอยู่ในใจ

กล่าวได้ว่า ตอนนี้บรรพจารย์จักรพรรดิขู่เซิงก็คือที่พึ่งใหญ่ที่สุดของพวกเขา!

‘เจ้าเฒ่านี่เหี้ยมได้ใจจริงๆ งัดไพ่ตายออกมาใช้ทันทีที่ลงมือ เห็นได้ชัดว่าไม่คิดจะให้โอกาสหลินเต้ายวนนี่รอดชีวิตสักนิด” อวี้คุนจื่อสีหน้าเปลี่ยนสลับไปมา

เดิมทีโอกาสสังหารหลินสวินควรจะเป็นของพวกเขาสำนักโบราณจรัสเทพ แต่ตอนนี้… เขาอวี้คุนจื่อกลับกลายเป็นผู้ชมเสียได้!

หากเรื่องในวันนี้แพร่ออกไป หน้าตาและอำนาจบารมีของพวกเขาสำนักโบราณจรัสเทพคงป่นปี้!

และในช่วงคับขันอันตรายหาใดเปรียบนี้

ปึง!

เงาร่างดุจมายาสายหนึ่งปรากฏขึ้นเงียบๆ มือเรียวดุจหยกกวาดเบาๆ บาตรหมื่นเคราะห์ที่น่าสะพรึงจนทำให้ระดับจักรพรรดิคนไหนๆ ล้วนสิ้นหวัง ราวพบเจอแรงโจมตีอย่างแรง ส่งเสียงดังวู้มคราหนึ่งก่อนซวนเซลอยคว่ำออกไป

หืม?

บรรพจารย์จักรพรรดิขู่เซิงนัยน์ตาหดรัดโดยพลัน

ขณะเดียวกันอวี้คุนจื่อและผู้ยิ่งใหญ่แดนกษิติครรภ์คนอื่นๆ ล้วนสั่นไหวไปทั้งร่าง หน้าเปลี่ยนสียกใหญ่ ต่างมองไปทางเงาร่างอรชรที่ปรากฏปุบปับสายนั้น

คนผู้นี้ย่อมเป็นซี

“เดรัจฉานเฒ่านี่ใจร้อนรีบไปตาย ผู้อาวุโส ได้แต่มอบให้ท่านจัดการแล้ว”

หลินสวินกล่าวผ่านๆ

ซีพยักหน้า เงาร่างขยับไหว ละอองแสงดั่งภาพฝันสาดพรม ถักทอกลายเป็นเงาแสงประดุจระเบียบ พุ่งไปทางบรรพจารย์จักรพรรดิขู่เซิง

“สยบ!” บรรพจารย์จักรพรรดิขู่เซิงตะโกนลั่น

บนตัวเขาแสงเทพรุ่งเรืองโรยราเจิดจรัส ควบรวมเป็นขาวดำสองสี อานุภาพบรรพจารย์จักรพรรดิทั่วร่างปลดปล่อยออกมาที่นี่อย่างไม่เคยมีมาก่อน

เวิ้งฟ้าแถบนี้สั่นสะเทือนปั่นป่วนรุนแรง

ก็เห็นบาตรหมื่นเคราะห์ส่องแสง ปรากฏภาพประหลาดดั่งนรกขวางอยู่ตรงหน้า

แต่เมื่อซีกดนิ้วออกไป

ปึง!

ภาพดุจนรกนั่นแตกออกราวกับผ็ษที่ถูกฉีก บาตรหมื่นเคราะห์ถูกซัดจนส่งเสียงครวญแสบหู กระแทกห้วงอากาศเสียงดังโครมคราม กระเด็นคว่ำออกไป

ขณะเดียวกันบรรพจารย์จักรพรรดิขู่เซิงก็กระอักเลือด

ภาพเช่นนี้ทำให้พวกอวี้คุนจื่อหน้าเปลี่ยนสีกันเป็นแถบ หวาดหวั่นสุดขีด มีหรือจะคิดว่าบรรพจารย์จักรพรรดิขู่เซิงที่ถูกพวกเขามองเป็นที่พึ่งยิ่งใหญ่ที่สุดกลับส่อแววพ่ายแพ้!

ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร!?

สวบ!

ไม่รอให้พวกเขาเข้าใจ หลินสวินที่อยู่ไกลออกไปก็ลงมือแล้ว เตากระบี่ส่องแสง ส่งเสียงดังกระหึ่ม พาดขวางกลางอากาศ กระบี่มรรคเล่มหนึ่งลากรุ้งเทพเจิดจรัสหมื่นจั้งฟันออกมา

“รีบลงมือพร้อมกันเร็ว!”

อวี้คุนจื่อตะโกนลั่น

ไม่ต้องให้เขาเตือนเลยด้วยซ้ำ ระดับจักรพรรดิแดนกษิติครรภ์เหล่านั้นก็ตอบสนองทันที

ตูมโครม!

พวกเขาบ้างอานุภาพดุจเหล็กกล้า บ้างราวพระเวทสยบมาร บ้างเหมือนมุนินทร์เยือนโลก บ้างก็ดุจพระโพธิโปรดสัตว์…

ศาสตราจักรพรรดิที่แสงธรรมสีดำไหลเวียนเหล่านั้นส่งเสียงกึกก้องทะยานขึ้นไป มีลูกประคำ แส้หางม้า โคมเขียว ม้วนตำราโบราณ ดอกบัว บรรทัดทัณฑ์ ปลาไม้…

มากมายสารพัด หลากหลายสีสัน

ขณะเดียวกันก็มีวิชาไหลหลั่งราวกระแสน้ำเชี่ยวพาดผ่าน กลบทับยอดเขาหุบเหวโลหิตนั่นในชั่วขณะเดียว ทำเอาฟ้าดินเปลี่ยนสี

อานุภาพปิดล้อมระดับนี้ น่ากลัวยิ่งอย่างไม่ต้องสงสัย สามารถทำให้เทพผีหวาดหวั่น สรรพชีวิตสิ้นหวังได้

แต่หลินสวินในตอนนี้เป็นคนระดับใด เดินทางผ่านสองโลกอย่างเจินหลงและหงส์เซียน ระดับจักรพรรดิที่ฆ่าตายนับไม่หวาดไม่ไหว

ผู้แข็งแกร่งระดับบรรพจารย์จักรพรรดิก็ต้องหลั่งเลือดใต้เงื้อมมือเขา นับประสาอะไรกับการจัดการพวกที่ห่างชั้นกับบรรพจารย์จักรพรรดิไกลโขกลุ่มหนึ่ง

ก็เห็นว่า…

กระบี่ครวญใสก้องกระหึ่มดุจอสนีสวรรค์ กระบี่มรรคฟาดฟันตัดขวาง ปรากฏอานุภาพบดขยี้ทั่วลาน ฟันศาสตราจักรพรรดิแตกกระจุย กำจัดวิชามรรคสิ้นซาก พุ่งสังหารไร้อุปสรรค

และเบื้องหน้าหลินสวิน เตากระบี่แผ่ประกายเทพจรัสตา กายมรรคทั้งห้าพริบไหวเคลื่อนทะยาน โจมตีสังหารในที่นี้พร้อมกับร่างเดิมของเขา

ทันใดนั้นอานุภาพกวาดล้างดั่งไร้ศัตรูก็ปรากฏขึ้นในที่นั้นอีกครั้ง

พรูด! พรูด!

เพียงชั่วอึดใจระดับจักรพรรดิขั้นเจ็ดแดนกษิติครรภ์สองคนก็ถูกสังหาร คนหนึ่งถูกกระบี่มรรคฟันหัว บดขยี้ร่างกายและจิตวิญญาณ อีกคนถูกพลังหมัดของหลินสวินซัดเข้าใส่ ร่างกายแยกส่วน แตกระเบิดกลางอากาศ ละอองเลือดสาดกระเซ็น

และพลังโจมตีของหลินสวินยิ่งกร้าวแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ดุจไม่มีสิ่งใดต้านได้ เต็มไปด้วยมาดสง่าที่ไร้ใครเทียม อานุภาพกดดันที่ปลดปล่อยในทุกอิริยาบถก็กดบีบจนคู่ต่อสู้แตกพ่าย

อย่าว่าแต่ล้อมกรอบและกดดันเลย แม้แต่ต้านหลินสวินซึ่งๆ หน้าก็ไม่มีใครทำได้!

ตูมโครม!

เลือดนองสาดกระเซ็น อสนีสั่นไหว บนยอดเขาหุบเหวโลหิตนั่นเกิดภาพวันสิ้นโลกอันเดือดคลั่ง สั่นสะท้าน และโกลาหล

ผู้แข็งแกร่งที่เฝ้ามองอยู่ไกลๆ มีหรือจะเคยเห็นภาพ ‘เลือดนองดั่งบุปผา จักรพรรดิร่วงหล่นดั่งสายฝน’ เช่นนี้มาก่อน แต่ละคนสั่นสะท้านหนังหัวชาหนึบ จิตใจหลุดลอย

ภาพเหตุการณ์ต่างๆ นั้นทำให้ผู้คนล้วนสงสัย ว่าศึกมรรคจักรพรรดิบรรพกาลจะเกิดขึ้นอีกครั้ง

และหลินสวินที่เคลื่อนตัวอยู่ในสนามรบก็กลายเป็นจุดดึงดูดสายตาที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย

พรูด!

พรูด!

พรูด!

พร้อมกับเวลาที่เคลื่อนคล้อย ระดับจักรพรรดิร่วงหล่นคนแล้วคนเล่า เลือดสาดย้อมฟ้าคราม

พวกเขาสู้สุดชีวิต แต่สุดท้ายกลับเปลืองแรงเปล่า และลองพยายามหนีตายแล้ว ทว่าในจังหวะที่หมุนตัวก็ถูกสังหารคาที่

หลินสวินไม่คิดจะให้โอกาสพวกเขารอดชีวิตออกไป!

ไม่นานนักก็เหลือเพียงอวี้คุนจื่อและระดับจักรพรรดิขั้นแปดคนหนึ่งของแดนกษิติครรภ์ เพียงแต่เวลานี้สีหน้าพวกขาเขียวคล้ำไม่น่าดู เต็มไปด้วยแววตื่นตระหนกและสะพรึงกลัว

ต่อสู้จนถึงตอนนี้ ระดับจักรพรรดิที่ร่วงหล่นภายใต้น้ำมือหลินสวินมีสิบกว่าคนแล้ว ทว่าตั้งแต่ต้นจนจบกลับไม่มีใครสามารถทำร้ายหลินสวินได้แม้แต่น้อย!

ตรงกันข้าม ความแข็งแกร่งในพลังของอีกฝ่ายยิ่งกร้าวแกร่งกว่าเมื่อครู่!

ตูม!

เตากระบี่เคลื่อนขวาง กำราบใส่ระดับจักรพรรดิแดนกษิติครรภ์คนนั้น ฝ่ายหลังเห็นเช่นนี้ก็อดร้องเสียงหลงดังลั่นไม่ได้

“ผู้อาวุโสช่วยข้าด้วย…”

เสียงเจือแววสิ้นหวัง

ตูม!

และในขณะเดียวกัน ส่วนลึกของชั้นเมฆบนเวิ้งฟ้าเกิดเสียงระเบิดดังลั่น ละอองเลือดสาดทั่วฟ้า สมบัติชำรุดชิ้นหนึ่งร่วงลงมาดุจดาวตกที่ร่วงหล่น

เมื่อมองโดยละเอียด นั่นถึงกับเป็นบาตรหมื่นเคราะห์! เพียงแต่ถูกซัดกระจุย อับแสงหมองศรี!

และในที่นั้นไม่มีเงาร่างของบรรพจารย์จักรพรรดิขู่เซิงนานแล้ว

ในหมอกควันคละคลุ้ง มีเพียงเงาร่างอรชรดุจภาพฝันของซีเดินลงมาจากเวิ้งฟ้า กล่าวเสียงใสกังวาน

“ผู้อาวุโสของเจ้าช่วยเจ้าไม่ได้หรอก”

ผู้แข็งแกร่งแดนกษิติครรภ์ระดับจักรพรรดิขั้นแปดคนนั้นมองเห็นภาพเช่นนี้ก็ตาแทบถลน ในใจเกิดความสิ้นหวังรุนแรง

นี่เพิ่งไม่นานเท่าไหร่เอง ผู้อาวุโสก็ถูกสังหารแล้วหรือ!?

และขณะที่เขาเพิ่งเกิดคำถามข้อนี้ในใจ

ตูม!

เตากระบี่เจิดจ้าแสบตาราวอาทิตย์ดวงใหญ่กดทับลงมา กระแทกร่างกายที่เรียกได้ว่าเป็นดั่งเหล็กกล้าทนทานของเขาจนระเบิดเป็นเสี่ยง เลือดสดพุ่งกระฉูดสูงลิ่ว

——

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท