หนึ่งกระบี่!
โม่จั้นที่ถูกมองว่าเป็นหนึ่งใน ‘เจ็ดนักโทษ’ ถูกฆ่า
กะโหลกศีรษะแตกละเอียด ร่างกายระเบิดออกโดยตรงภายใต้การปกคลุมของปราณกระบี่ไร้เทียมทาน ฝนเลือดแผ่พุ่ง กายสิ้นมรรคสลาย
ใครก็คิดไม่ถึงว่าการจู่โจมของหลินสวินจะดุดันไร้เทียมทานขนาดนี้!
“แข็งแกร่งมาก!”
คนไม่รู้เท่าไหร่หัวใจสะท้าน ถูกภาพนองเลือดนี้ทำเอาสั่นสะท้าน
โม่จั้นเป็นบรรพจารย์ขั้นเก้ารุ่นอาวุโส มรรควิถีดุดันถึงที่สุด แต่กลับสิ้นชีพในกระบี่เดียว!
หลังจากความเงียบชั่วครู่
จู่ๆ เสียงสนทนาอันเย็นเยียบระลอกหนึ่งก็ดังขึ้น
“เจ้าหมอนี่รับมือยาก ลงมือพร้อมกันเป็นอย่างไร”
“ได้”
“ใครฆ่าเขาได้ ความดีความชอบก็เป็นของคนผู้นั้น!”
ที่มาพร้อมกับเสียง คือเงาร่างหกร่างทยอยปรากฏตัวกลางห้วงอากาศ มีทั้งชายทั้งหญิง พลังล้นฟ้า ทันทีที่ปรากฏตัวก็โจมตีไปยังหลินสวินทันที
ตูม!
แสงมรรคหลากชนิดพัดโบก ทำให้ที่แห่งนี้เหมือนกลายเป็นนรก พวกเขาล้อมโจมตีหลินสวิน แสงเทพไร้สิ้นสุด กลบท่วมถนนสายยาว
ถ้าไม่ใช่เพราะในเมืองมีกระบวนผนึกเก่าแก่ อย่าว่าแต่ถนนสายนี้ แม้แต่ตัวเมืองคงแหลกสลายกลายเป็นเถ้าถ่าน
“บรรพจารย์หงเหอ เชียนโส่วเค่อ จักรพรรดิหลงเฮ่อ… นอกจากโม่จั้นที่ตายไปแล้ว เจ็ดนักโทษของเมืองตั้งต้นล้วนเคลื่อนไหวพร้อมกัน!”
“เพียงแต่น่าแปลก เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้เจ้าเมืองกลับไม่ปรากฏตัวหรือ”
“นั่นก็ต้องดูว่าหลิงเสวียนจื่อจะผ่านด่านนี้ได้หรือไม่”
…เหล่าคนที่มองดูการต่อสู้อยู่ในที่มืดจำคนน่ากลัวหกคนที่ลงมือพร้อมกันได้ ล้วนกลั้นหายใจจดจ่อ จับตามองอย่างใกล้ชิด
สวบ!
หลินสวินรวดเร็วยิ่ง เงาร่างเคลื่อนไหวเหมือนลำแสง โลดแล่นอยู่ระหว่างศาสตราวุธต่างๆ โจมตีอย่างแข็งกร้าว
“ไป!”
เสียงแค่นเย็นเยียบหนึ่งดังขึ้น เฒ่าชราชุดสีเลือดคนหนึ่งร่างกายพริบไหวด้วยท่าแปลกๆ ทวนวงเดือนในมือหนักไม่รู้กี่หมื่นชั่ง ฟันลงมาอย่างแรง
นี่เป็นอาวุธดุดันชั้นเลิศที่สมชื่อชิ้นหนึ่ง ด้ามทวนสีเลือด คมทวนเจิดจ้าราวกับหิมะ กรีดแหวกท้องฟ้า ส่งเสียงคำรามน่ากลัว เหมือนมีเทพมารกลุ่มหนึ่งคำราม ทิ่มแทงจักรวาล ทะลวงการขวางกั้นทั้งหมด น่ากลัวไร้ขอบเขต!
ในเวลาเดียวกันอีกห้าคนก็ส่งเสียงคำรามยาว ทุ่มสุดกำลัง ลงมือเต็มที่ วิชาอัศจรรย์และศาสตราจักรพรรดิราวกับกลุ่มอุกกาบาต แข็งแกร่งและน่ากลัว ล้วนพุ่งไปทางหลินสวินคนเดียว
เปรี๊ยะ!
เสียงแตกดังมาจากพื้นถนน กระบวนผนึกชั้นยอดที่ปกคลุมในเมืองถูกทำลายลงส่วนหนึ่ง ทำเอาทุกคนหน้าเปลี่ยนสี
ทวนนี้น่ากลัวแค่ไหนกันแน่
ชั่วขณะนี้หกนักโทษที่ดุดันลงมือพร้อมกัน ล้อมโจมตีขึ้นไป ทำให้หลินสวินตกอยู่ในอันตราย!
ในสายตาทุกคน เมื่อทวนนี้แทงลงไป ไม่ว่าอย่างไรหลินสวินก็ต้านไม่ไหว ทว่าก็เป็นชั่วขณะนี้ที่หลินสวินสะบัดหมัดกระแทกออกไปอย่างแรง
เคร้ง!
เสียงกระแทกสายหนึ่งดังก้องเก้าชั้นฟ้าสิบแผ่นดิน หลายคนเจ็บแปลบที่หูทั้งสองข้าง จิตวิญญาณสั่นไหว ในปากทีรสเลือด พลังทำลายล้างของการโจมตีนี้เป็นที่ประจักษ์
“อะไรน่ะ เป็นไปไม่ได้ เขาใช้มือสกัดการโจมตีได้อย่างไร มกุฎจักรพรรดิขั้นเจ็ดมีพลังเย้ยฟ้าขนาดนี้ได้อย่างไร”
คนมากมายต่างอึ้งงัน ไม่กล้าเชื่อทั้งหมดนี้
หลินสวินปล่อยหมัดมือเปล่าตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ ไม่ได้ใช้สมบัติ และตอนนี้เขายิ่งใช้หมัดกระแทกคมทวนที่เจิดจ้าราวกับหิมะนั่น สะเทือนจนทวนดีดกระเด็นออกไป!
ครืนโครม!
ขณะเดียวกันรอบตัวเขาส่องแสงสว่างไสว ซัดพลังโจมตีทั้งหมดสลายไป ละอองแสงสาดกระเซ็น ส่วนตัวเขาไม่ได้รับบาดเจ็บเลยสักนิด
หลินสวินในตอนนี้เหมือนเทพมารพลิกฟ้าคนหนึ่ง ผมดำแผ่สยาย แม้ต่อสู้เพียงลำพัง อานุภาพกลับไม่ถดถอยสักนิด
“ตาย!”
ทันใดนั้นเงาร่างของหลินสวินทะยานขึ้นฟ้า ซัดออกไปอีกหนึ่งหมัด สะท้านฟ้าสะเทือนดิน โดดเด่นไร้ที่เปรียบ
ตูม!
หมัดที่เจิดจ้ายิ่งยวดนี้ บดขยี้จนเกิดรอยแยกแคบยาวหาใดเปรียบในห้วงอากาศ
ที่ปลายสุดของรอยแยก ชายสวมเกราะสีครามเขียวคนหนึ่งร่างกายเหมือนดอกไม้ไฟ แตกระเบิดออกโดยพลันในชั่วขณะนี้ เลือดย้อมห้วงอากาศเป็นแนวยาว!
นี่เป็นหมัดที่อหังการที่สุดอย่างแน่นอน ใครก็ไม่สามารถต้านทานได้ เร็วและรุนแรง ดุจดั่งคลื่นทะเล แข็งแกร่งถึงขีดสุด!
“แข็งแกร่งมาก!”
คนไม่รู้เท่าไหร่หวาดกลัว ถูกหมัดนี้ทำเอาหวาดหวั่น จิตใจสั่นไหว
ภายใต้การล้อมโจมตี ยังคงมีอานุภาพเข่นฆ่า ความแข็งแกร่งของพลังต่อสู้ที่หลินสวินสำแดงออกมา ล้มล้างการรับรู้ของทุกคนไปแล้ว
ต่อให้เป็นคนที่กำลังล้อมโจมตีหลินสวินอยู่ ในใจก็หนาวเยือกขึ้นมาระลอกหนึ่ง สีหน้ายิ่งเคร่งขรึม ยามลงมือก็ดุจทุ่มสุดชีวิต ไม่กล้าออมมือแม้แต่น้อย
ชิ้ง!
ทวนสีม่วงเล่มหนึ่งแทงออกจากมือของชายกลางคนชุดขาวกะทันหัน
เสมือนฟ้าถล่มดินทลาย อานุภาพของทวนนี้ยิ่งใหญ่เกินไปจริงๆ ทวนม่วงแทงออกไป เหมือนดั่งสุริยันม่วงดวงหนึ่งระเบิดออก เพลิงแสงล้นฟ้า เต็มไปด้วยสีม่วงทุกแห่งหน
นี่คือทวนที่ดุจดั่งสังหารเทพดับมาร! เวิ้งฟ้ากว้างหมื่นจั้งเหมือนกำลังสั่นสะท้านใกล้จะถล่ม เมืองโบราณทั้งเมืองประหนึ่งจะแยกตัว สั่นไหวรุนแรง
“ฆ่า!”
คนอื่นๆ ต่างตะโกน ร่วมโจมตีไปพร้อมกับชายกลางคนชุดขาว
และตอนนี้เอง แววประหลาดสายหนึ่งวาบผ่านดวงตาของหลินสวิน คล้ายสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง
จากนั้นเขาก็ไม่ชักช้าอีก
วู้ม!
เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งที่แปรสภาพเปลี่ยนแปลงไปทั้งหมดในมหาเคราะห์ชั้นเลิศ ปรากฏสู่โลกในตอนนี้
ครืน โครม!
ฟ้าถล่มดินทลาย แสงมรรคมากมายสาดพุ่งจากเตากระบี่ไร้ก้นบึ้ง ตัวเตาปรากฏลักษณ์อัศจรรย์มากมาย เช่นโลกที่เหมือนทะเลดาราจักรวาล หลักการฟ้าดิน สุริยันจันทราดารา บุปผาปักษามัจฉาแมลง… เรืองรองไพศาลไร้จำกัด
ในเสียงอึงอล ทวนสีม่วงที่ฟันลงมาถูกซัดแหลกละเอียดตรงๆ ระเบิดออกโดยพลัน
ส่วนเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งก็สั่นเบาๆ คราหนึ่ง จากนั้นหมุนกลับ ปากเตาพุ่งลง กระบี่มรรคเล่มหนึ่งโฉบออกมาด้วยความเร็วเหลือเชื่อ
พรูด!
ชายกลางคนชุดขาวถูกฟันในพริบตา เงาร่างกลายเป็นขี้เถ้าล่องลอย
ฆ่าไปอีกคน!
แต่นี่แค่เริ่มต้นเท่านั้น
พร้อมๆ กับการไหวเคลื่อนของเตากระบี่ไร้ก้นบึ้ง แสงมรรคไหลลู่ หมื่นวิญญาณปรากฏ ธารดาราไหลเคลื่อน ป้องกันหลินสวินไว้ด้านล่าง
เขาทะยานขึ้นฟ้า เปิดฉากโจมตีอย่างแท้จริงในชั่วขณะนี้!
ตูม!
เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งส่งเสียงกึกก้อง กระแทกไปเบื้องหน้า ห้วงอากาศทรุดทลายรุนแรง
มีสองคนหนีไม่ทัน ไม่เพียงสมบัติถูกเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งบดขยี้ กระทั่งร่างกายก็ถูกกระแทกจนเลือดเนื้อแหลกเละ แสงมรรคมากมายที่ไหลร่วงลงมา ยิ่งกดจนเอ็นกระดูกของพวกเขาแตกละเอียดทุกกระเบียด เลือดเนื้อสาดกระเซ็น
“ไม่!”
“เป็นไปได้อย่างไร…”
พวกเขาส่งเสียงโหยหวนน่ากลัว ก่อนจะกลายเป็นหมอกเลือดสองกลุ่ม
เหล่าคนที่มองดูอยู่ในที่มืดล้วนขวัญหนีดีฝ่อโดยไม่มียกเว้น อานุภาพของเตาหลอมนี้ยิ่งใหญ่เกินไปแล้ว เพียงแค่แสงมรรคที่ไหลร่วงลงมา ก็บดขยี้บรรพจารย์ขั้นเก้าที่ดุดันยิ่งยวดสองคนให้แหลกละเอียดได้ อานุภาพระดับนี้น่าเหลือเชื่อจริงๆ น่าสะพรึงอย่างไม่อาจจินตนาการได้!
“หรือนี่คือยอดศาสตรามรรคจักรพรรดิชิ้นหนึ่ง สมบัติชั้นเลิศที่บรรพจารย์มรรคยังยากจะหลอมและครอบครอง แทบจะเป็นดั่งตำนาน!”
“จะต้องเป็นยอดศาสตรามรรคจักรพรรดิอย่างแน่นอน มีเพียงสมบัติจักรพรรดิชั้นเลิศที่เป็นดั่งตำนานนี้ จึงจะมีอานุภาพเหนือชั้นเช่นนี้ สามารถกดโลกแห่งหนึ่งให้ทรุดทลาย ซัดสะเทือนสุริยันจันทราดารา”
เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งสะดุดตาเกินไปจริงๆ บนนั้นมีสุริยันจันทราดารา มีสัตว์ปีกสัตว์บก มีภูผาธาราไหมื่นลักษณ์ มีสรรพวิญญาณ ไอแรกกำเนิดอบอวล วิเศษอัศจรรย์ยากจะคาดเดา
มองจากไกลๆ ก็ยังทำให้คนรู้สึกถึงความกดดันอย่างที่สุด สั่นกลัวอย่างควบคุมไม่อยู่
“ไป!”
ในบรรดาเจ็ดนักโทษเหลือเพียงแค่สองคน เห็นภาพเช่นนี้ไม่มีใครไม่หวาดกลัว หมายจะหนีทันที
แต่หลินสวินจะให้พวกเขาสมปรารถนาได้อย่างไร เงาร่างของเขาไม่ขยับ เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งกลับพุ่งออกไปพร้อมเสียงอึงอล ปลดปล่อยแสงเรืองรองไร้จำกัด พุ่งไปยังคนหนึ่งในนั้น
และในเตาหลอม กระบี่มรรคที่เรียบง่ายเล่มหนึ่งพุ่งออกมา พริบไหวในอากาศฟันไปยังอีกคน
ตูม!
พรูด!
เสียงที่ต่างกันโดยสิ้นเชิงดังติดต่อกัน
คนหนึ่งถูกเตากระบี่กำราบสังหาร ร่างถูกแสงมรรคผลาญสิ้น
อีกคนถูกกระบี่มรรคตัดหัว กายสิ้นมรรคสลาย
ทั้งหมดนี้เร็วจนน่าเหลือเชื่อ ถึงขั้นทำให้ตอบสนองไม่ทัน
แม้แต่ผู้แข็งแกร่งที่ชมการต่อสู้อยู่ในที่มืดต่างอดอึ้งจนอ้าปากค้างไม่ได้ ตกใจจนเหงื่อท่วมตัว นี่น่ากลัวเกินไป ที่เรียกว่าไม่มีสิ่งใดที่ทำลายไม่ได้ก็เป็นเช่นนี้!
ตอนนี้เจ็ดนักโทษถูกกำจัดทั้งหมดแล้ว
สนามรบที่แหลกเละมีเพียงหลินสวินยืนอยู่ เงาร่างสูงสง่า นิ่งสงบใจเย็นเหมือนเช่นยามที่เขาเพิ่งเดินออกจากค่ายกลเคลื่อนย้ายโบราณ
เมื่อผู้คนได้สติจากความตื่นตระหนก กลับพบว่าหลินสวินไม่รู้จากไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ในสนามรบนองเลือดและโกลาหลไม่เหลือใครอีกเลย
‘เขาจะต้องไปที่จวนเจ้าเมืองแน่!’
หลายคนเกิดความคิดเดียวกันโดยไม่ได้นัดหมาย
ทันใดนั้นในที่มืดมีคนไม่รู้เท่าไหร่พุ่งไปทางจวนเจ้าเมืองทันที
น่ากลัวเกินไป!
หลิงเสวียนจื่อคนเดียว สังหารเหิงจั้น สังหารทหารคุ้มกันจวนเจ้าเมือง ฆ่าเจ็ดนักโทษ… โหมกระพือลมคาวฝนเลือดตลอดทาง
และตอนนี้ เห็นได้ชัดว่าเขาจะไปโจมตีจวนเจ้าเมืองแล้ว!
คนไม่รู้เท่าไหร่ปากคอแห้งผาก เรื่องสะท้านสะเทือนนองเลือดเช่นนี้ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ใครจะคิดว่าวันนี้จะได้พบเจอ
จวนเจ้าเมือง!
นั่นเป็นตัวแทนความน่าเกรงขามของเผ่าจักรพรรดิอมตะแห่งโลกยอดนิรันดร์เชียวนะ!
ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันใครกล้าไปท้าทาย!
แต่วันนี้กลับมีคนร้ายกาจอย่างหลิงเสวียนจื่อโผล่มา!
“เหตุใดข้าจึงคิดว่าการต่อสู้ก่อนหน้านี้ประหลาดอยู่สักหน่อย ก่อนใช้เตาหลอมนั่น หลิงเสวียนจื่อเหมือนออมมือมาโดยตลอด จงใจยื้อเวลา”
เยวี่ยตู๋ชิวขมวดคิ้ว ก่อนหน้านี้เขากับเซี่ยงเสี่ยวหยวนมองดูการต่อสู้ทั้งหมดอยู่ในมุมมืดด้วยกัน ในใจไม่สามารถสงบได้
แต่ตอนนี้เมื่อใคร่ครวญอย่างใจเย็น กลับพบเลศนัยอยู่
“ไม่ผิด หากใช้สมบัติตั้งแต่แรก ด้วยพลังต่อสู้ที่เขาสำแดงออกมา ไม่สามารถใช้ได้นานขนาดนี้แน่”
เซี่ยงเสี่ยวหยวนเองก็สงสัยอยู่บ้าง จงใจยื้อเวลาหรือ เขาจะทำอะไรกันแน่
“ไป ไปดูที่จวนเจ้าเมืองสักหน่อย”
เยวี่ยตู๋ชิวว่าพลางหมุนตัวจากไป
เซี่ยงเสี่ยวหยวนเองก็ตามไป
หากมองลงมาจากท้องฟ้า จะพบว่าเมืองตั้งต้นในชั่วขณะนี้ มีกลิ่นอายระดับจักรพรรดิไม่รู้เท่าไหร่กำลังแห่ไปทางจวนเจ้าเมือง
เห็นชัดว่าการต่อสู้ครั้งใหญ่ที่สะเทือนฟ้าดินก่อนหน้านี้ทำให้พวกเขาไม่สามารถสงบได้อย่างสิ้นเชิง จิตใจถูกดึงดูดโดยสมบูรณ์
และในยามนี้
ในจวนเจ้าเมือง เหิงเทียนซั่วจมสู่ความตกตะลึงและกราดเกรี้ยวถึงขีดสุดแล้ว
กองกำลังที่ส่งไปฆ่าหลิงเสวียนจื่อถึงกับตายหมดแล้ว!
เจ้าเฒ่าเจ็ดคนนั้นก็ทยอยร่วงหล่น!
ข่าวการตายทั้งหมดนี้ไม่ต้องให้ใครมารายงาน เหิงเทียนซั่วก็รู้ได้จากป้ายหยกที่สลายอย่างต่อเนื่องนั่นแล้ว
“เจ้าหมอนี่คิดว่าจะพลิกฟ้าได้จริงๆ หรือ” เหิงเทียนซั่วสีหน้าอึมครึมน่ากลัว สายตาเย็นเยียบ
“ท่านลุง นี่… นี่จะทำอย่างไร”
อารมณ์ของเหวินเซ่าเหิงเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง สีหน้าซีดขาว ดูย่ำแย่อย่างที่สุด
เขาถึงขั้นรู้สึกหนาวเยือกอย่างบอกไม่ถูก เป็นครั้งแรกที่รู้สึกถึงความตื่นตระหนกและหวาดกลัวที่พูดไม่ออก
“ทำอย่างไรหรือ แน่นอนว่าต้องกำจัดเจ้าหมอนี่ซะ!”
เหิงเทียนซั่วโกรธจนหน้าเขียว ลุกขึ้นยืน พลังรอบตัวประหนึ่งภูเขาไฟที่กำลังจะระเบิด ทำเอาทั้งคฤหาสน์สั่นสะเทือนรุนแรง
——