Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 2486 ปริศนาของอันดับ

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 2486 ปริศนาของอันดับ

ตอนที่ 2486 ปริศนาของอันดับ

ฮว่ารั่วซวี!

ชายที่ราวกับตำนานคนหนึ่ง มาจากน่านฟ้าที่เจ็ด ตระกูลเบื้องหลังเขาครอบครองระเบียบระดับสวรรค์ อานุภาพน่าหวาดกลัว

เมื่อจำฐานะของเขาได้ ผู้คนนับไม่ถ้วนที่อยู่ใกล้ล้วนตกใจ

เห็นชัดว่าฮว่ารั่วซวีก็ได้ยินข่าว ดังนั้นจึงรีบมาตรวจสอบ

“นายน้อย ได้ยินว่าคนผู้นี้แปลกหน้า ไม่มีใครรู้จัก เห็นชัดว่าไม่ใช่ผู้ทรงอิทธิพลที่มาจากโลกยอดนิรันดร์ น่าจะเป็นพวกโดดเด่นที่มาจากโลกพันจักรวาล”

ข้างกายฮว่ารั่วซวียังมีฮูหยินงามชุดม่วงหน้าตาโดดเด่น ท่าทางงามสง่าคนหนึ่งยืนอยู่ด้วย ทุกการเคลื่อนไหวมีกลิ่นอายของระดับบรรพจารย์จักรพรรดิไหลวน น่าเกรงขามหาใดเปรียบ

“มาจากโลกพันจักรวาลหรือ ไม่ธรรมดายิ่งนัก”

ฮว่ารั่วซวีเอ่ยปาก “การเดินทางครั้งนี้ หากทำให้ข้าประสานกฎเกณฑ์มหามรรคทั้งตัวเข้ากับพลังปราณในร่างได้อย่างสมบูรณ์แบบ อันดับของข้าต้องสูงขึ้นอีกช่วงใหญ่แน่”

เสียงเขาแน่วนิ่งเจือแรงดึงดูดอันเป็นเอกลักษณ์ ท่าทางสุขุม มีความมั่นใจที่ยากบรรยายอย่างหนึ่ง

“นายน้อย ทำไมต้องสนใจเรื่องพวกนี้ด้วย สุดท้ายอันดับนี้ก็แค่ชั่วคราว แค่พวกที่มาจากโลกพันจักรวาลคนหนึ่ง ต่อให้เป็นอัจฉริยะ ภายหน้าก็ไม่อาจเทียบกับท่านได้แน่”

ฮูหยินงามชุดม่วงที่อยู่ด้านข้างยิ้มกล่าว

ไม่มีใครรู้สึกว่าคำพูดนี้ของนางมีส่วนไหนที่ไม่ถูก

ด้วยนั่นคือฮว่ารั่วซวี ตำนานคนหนึ่งที่หากอยู่ในโลกยอดนิรันดร์ย่อมทำให้บุคคลสำคัญนับไม่ถ้วนให้เกียรติถึงสามส่วน

ฮว่ารั่วซวีแค่ยิ้มรับ ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธเรื่องนี้

ครู่ต่อมาพวกเขาก็หายไปกลางอากาศ

แม้ว่าเวลาที่ปรากฏตัวจะเป็นแค่ช่วงสั้นๆ แต่ฮว่ารั่วซวีเป็นผู้โดดเด่น เมื่อข่าวการมาเยือนของเขาแพร่ออกไปก็เปิดฉากความโกลาหลครั้งใหญ่ ก่อให้เกิดประเด็นร้อน

ไม่ต้องสงสัยแม้แต่น้อย ด้วยการปรากฏตัวของพวกเขา ทำให้การฝากชื่อไว้บนกระดานเร้นลับของหลินสวินยิ่งส่งอิทธิพลมากขึ้น

บุคคลแห่งยุคบางส่วนที่เดิมทะนงตัว ไม่สนใจเรื่องนี้ก็พากันแปลกใจอย่างอดไม่ได้ เริ่มสนใจเรื่องนี้อย่างจริงจัง

ใครต่างก็รู้สึกได้รางๆ ว่าบุคคลปริศนาที่มาจากโลกพันจักรวาลนี้ ต้องเป็นศัตรูผู้แข็งแกร่งประหนึ่งดาวดวงโต กำลังจะส่องประกายไม่เสื่อมสูญ

“เป็นเขา ต้องเป็นเขาแน่!”

เมืองยอดยุทธ์ ในคฤหาสน์โอ่อ่าหลังหนึ่ง นัยน์ตาของลั่วหลิงซึ่งนั่งอยู่บนที่นั่งหลักฉายแววเยียบเย็น

นางรู้ข่าวที่ทำให้ฮือฮากันทั้งเมืองซึ่งเพิ่งส่งกลับมาแล้ว

“ใครหรือ”

มีคนอดถามไม่ได้

“แน่นอนว่าเป็น… ลูกพี่ลูกน้องคนนั้นของข้า”

เสียงของลั่วหลิงแฝงความเย็นชาเสียดกระดูก

กลางฝ่ามือขาวกระจ่างเรียบเนียนของนางถือหินหยกดำสนิทก้อนหนึ่ง บนนั้นมีรอยเลือดเปื้อนอยู่เล็กน้อย แม้ว่าแห้งเกรอะกรังมานานแล้ว แต่กลับโปร่งแสงแดงสดเหมือนเดิม อบอวลด้วยกลิ่นอายที่พาให้คนใจสั่นระรัว

เวลานี้หินหยกสีดำนี่กำลังเกิดคลื่นสะเทือนที่คล้ายมีคล้ายไม่มีเสี้ยวหนึ่ง เหมือนกำลังสั่นสะท้าน ส่งเสียงราวกับสัมผัสอะไรได้

การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้ลั่วหลิงมั่นใจหาใดเปรียบ บุคคลปริศนาที่ฝากชื่อไว้บนกระดานเร้นลับหน้าศิลาศึกข้ามแดนก่อนหน้านี้ ต้องเป็นหลินสวินอย่างไร้ข้อกังขา!

ด้วยหินหยกสีดำนี้ย้อมด้วยกลิ่นอายสายเลือดของหุบเหวกลืนกิน เป็นสมบัติประหลาดที่ตกทอดมาจากเจ้าแห่งมรรคาสวรรค์ของตระกูลลั่วเมื่อปีนั้น

สมบัตินี้สามารถตรวจสอบพรสวรรค์สายเลือดในตัวคนตระกูลลั่วได้ เมื่อสัมผัสถึงกลิ่นอายของหุบเหวกลืนกินก็จะเกิดการขานรับ น่าอัศจรรย์หาใดเปรียบ

ขอเพียงตระกูลลั่วมีเด็กทารกเกิดใหม่ ย่อมถูกหินก้อนนี้ตรวจสอบพรสวรรค์ตั้งแต่พริบตาแรกทันที

และตอนนี้สมบัตินี่ก็ถูกลั่วหลิงนำมาสัมผัสและจำแนกร่องรอยของหลินสวิน!

“แจ้งข่าวไปยังตระกูลเหิงและตระกูลเหวิน บอกพวกเขาว่าหลินสวินเข้ามาในเมืองยอดยุทธ์แล้ว”

นัยน์ตาลั่วหลิงฉายแววเฉียบคมเยียบเย็น “นอกจากนี้ก็แพร่ข่าวออกไปด้วย บอกว่าบุคคลปริศนาที่ทำให้เกิดลักษณ์ประหลาดสะเทือนใต้หล้าหน้าศิลาศึกข้ามแดนในวันนี้ ก็คือหลินสวินที่ปัจจุบันมีชื่ออยู่ในลำดับสามของกระดานประกาศจับนั่น!”

ในโถงใหญ่ผู้ฝึกปราณมากมายซึ่งเป็นบริวารของตระกูลลั่วล้วนเผยสีหน้าประหลาด

แผนการนี้ของลั่วหลิงหนีไม่พ้นสี่คำ

ยืมดาบฆ่าคน!

พวกเขาเข้าใจแผนการของลั่วหลิงแล้ว ต่างพากันพยักหน้าอย่างอดไม่ได้

หลายวันก่อนลั่วหลิงพาพวกเขาเหล่าผู้ฝึกปราณของตระกูลลั่วมาเมืองยอดยุทธ์ ทั้งปล่อยข่าวทันทีว่าหลินสวินนี่ต้องปรากฏตัวในเมืองยอดยุทธ์แน่

ตอนนั้นข่าวนี้ยังดึงดูดความสนใจของคนทั้งเมือง

ขุมอำนาจของตระกูลเหวิน ตระกูลเหิงรวมตัวกันนานแล้ว เตรียมพร้อมรับมือทุกเมื่อ

นอกจากนี้ยังมีบุคคลแข็งแกร่งมากมายรู้สึกสนใจ ถึงขั้นกล่าวว่าขอเพียงนักโทษที่ถูกประกาศจับอย่างหลินสวินเข้าเมืองมาก็จะฆ่าโดยไม่ปรานี

ทั้งหมดเพื่อรางวัลค่าหัวที่เรียกได้ว่าสูงลิ่วก้อนนั้น

ตอนนี้หลินสวินเข้าเมืองมาแล้ว ทั้งยังทำให้เกิดปรากฏการณ์ประหลาดสะเทือนใต้หล้าหน้าศิลาศึกข้ามแดนด้วย

เวลานี้การเผยฐานะของเขา บอกกล่าวผู้คนในใต้หล้าว่าเขาเข้าเมืองมาแล้ว แค่คิดก็รู้ว่าจะล่อให้บุคคลแข็งแกร่งเกิดความละโมบและไอสังหารมากเท่าไหร่!

เหล่าบริวารรับคำสั่งจากไป

ขณะที่โลกภายนอกคลื่นลมโหมกระหน่ำ เต็มไปด้วยการวิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเดือด หลินสวินกลับเข้ามาในโรงเตี๊ยมนานแล้ว

“รีบบอกมา เจ้าได้อันดับที่เท่าไหร่บนกระดานเร้นลับกันแน่” นกกระจอกเขียวร้อนรนทนไม่ไหวแล้ว ถามอย่างกระวนกระวาย

“อันดับที่เก้าร้อยสิบแปด”

หลินสวินกล่าวง่ายๆ ไม่ได้ปิดบัง แต่แววตากลับดูแปลกออกไป

ก่อนหน้านี้ยามเขาทำการฝากชื่อ เขาสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าพลังประหลาดของศิลาศึกข้ามแดนโถมเข้ามาในร่างตนราวกับกระแสน้ำ สัมผัสมรรควิถี สภาวะจิต เจตจำนงของตน

นี่ทำให้เขาต่อต้านโดยสัญชาตญาณ หลังจากแน่ใจว่าพลังประหลาดนี้ไม่มีเจตนาร้ายแต่อย่างใด เขาจึงค่อยผ่อนคลายลง

แต่เมื่อพลังประหลาดนี้ต้องการสัมผัสชีพจรปราณวิญญาณต้นกำเนิดตรงเส้นปราณหัวใจของตน กลับถูกหลินสวินขวางไว้!

ชีพจรปราณวิญญาณต้นกำเนิดเป็นความลับสุดยอดของเขา ภายในแฝงพรสวรรค์หุบเหวกลืนกินขั้นสองไว้ ไม่อาจเปิดเผยได้เด็ดขาด

ต่อให้เป็นพลังของศิลาศึกข้ามแดน เขาก็ไม่ยอมถูกสำรวจ

ดังนั้นตอนฝากชื่อไว้บนกระดานเร้นลับจึงทำให้เขาหยุดอยู่ตรงอันดับที่เก้าร้อยสิบแปด

จากที่หลินสวินเดา หากตอนนั้นเขาไม่ขวางการตรวจสอบของพลังประหลาดนั่น อันดับของตน…

เกรงว่าคงพุ่งทะยานไปอย่างต่อเนื่อง ไม่มีทางหยุดที่อันดับเก้าร้อยสิบแปดง่ายๆ เช่นนั้นแน่

ถึงอย่างไรในบรรดารากฐานพลัง พรสวรรค์ มรรควิถี เจตจำนง… พรสวรรค์เป็นปัจจัยสำคัญที่สุด มีอิทธิพลอย่างมาก

การตรวจสอบที่ขาดปัจจัยด้านพรสวรรค์นี้ ย่อมทำให้อันดับดูรั้งท้ายไปมากเป็นธรรมดา

ต่อให้เป็นเช่นนั้น หลังจากนกกระจอกเขียวรู้ก็ยังอึ้งไปพักหนึ่ง

ผ่านไปครู่ใหญ่นกกระจอกเขียวจึงเอ่ยปากชม “วิปริต วิปริตดังคาด เพิ่งฝากชื่อเป็นครั้งแรกก็ก้าวขึ้นไปอยู่ในหนึ่งพันอันดับแรกของกระดานเร้นลับแล้ว อันดับนี้เพียงพอจะซัดสะเทือนกาลนิรันดร์ หากอยู่ในโลกยอดนิรันดร์ ย่อมถึงขั้นก่อให้เกิดความโกลาหลในน่านฟ้าที่เจ็ดได้!”

น่านฟ้าที่เจ็ดคืออาณาเขตของขุมอำนาจเผ่าจักรพรรดิอมตะที่ครอบครองระเบียบระดับสวรรค์ สามารถทำให้โลกนี้ปั่นป่วนได้ แค่คิดก็รู้แล้วว่าอันดับนี้ของหลินสวินไม่ต่ำต้อย แต่ชวนตะลึงหาใดเปรียบ!

“อะไรที่เรียกว่าฝากชื่อไว้เป็นครั้งแรก ภายหน้ายังฝากชื่อเป็นครั้งที่สองได้อีกหรือ” หลินสวินเอ่ยถาม

นกกระจอกเขียวกล่าว “ไม่อาจพูดเช่นนั้น ครั้งนี้หลังจากเจ้าใช้พลังเจตจำนงฝากชื่อไว้บนศิลาศึกข้ามแดนแล้ว ภายหน้ายามท่องไปในแดนใหญ่พันศึก ผลงานการต่อสู้ที่ได้รับ มรรควิถีที่ยกระดับทั้งหมด ย่อมถูกพลังระเบียบของแดนใหญ่พันศึกรับรู้ได้ทันที”

“เจ้าเองก็รู้ว่าพลังของศิลาศึกข้ามแดนสามารถเชื่อมต่อกับระเบียบของแดนใหญ่พันศึกได้ นี่ก็หมายความว่าผลงานที่เจ้าทำได้ มรรควิถีที่ยกระดับทั้งหมดก็จะถูกศิลาศึกข้ามแดนรับรู้ด้วย และส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงอันดับบนกระดานเร้นลับของเจ้า”

นกกระจอกเขียวเว้นช่วงไปก่อนกล่าวสรุป “สรุปโดยง่ายคือ นับจากนี้ไปคู่ต่อสู้ที่เจ้าสังหารยิ่งแข็งแกร่ง การแปรสภาพพลังยิ่งร้ายกาจ อันดับบนศิลาศึกข้ามแดนของเจ้าก็ยิ่งเปลี่ยนตามไปด้วย”

คราวนี้หลินสวินจึงเข้าใจกระจ่าง

นี่ก็หมายความว่าอันดับบนกระดานเร้นลับตอนนี้ ความจริงแล้วเป็นแค่อันดับชั่วคราว ใช่ว่าจะไม่เปลี่ยนแปลงชั่วนิรันดร์

“เจ้าหนุ่ม พยายามเข้าเถอะ”

นกกระจอกเขียววางท่าเหมือนผู้อาวุโสกล่าวให้กำลังใจ “ข้าได้ยินว่าในอดีตเคยมีมหาจักรพรรดิระดับตำนานคนหนึ่ง ยกระดับของตนจนติดร้อยอันดับแรกได้ในคราเดียวก่อนไปถึงโลกยอดนิรันดร์”

“ตอนนั้นเรื่องนี้ไม่เพียงสร้างความปั่นป่วนในแดนใหญ่พันศึก ยังทำให้มิติจักรวาลที่มหาจักรพรรดิระดับตำนานคนนี้จากมาได้รับประโยชน์อย่างมากด้วย อันดับในโลกพันจักรวาลพุ่งขึ้นมาอยู่ในห้าสิบอันดับแรกอย่างแข็งกร้าว”

“คนผู้หนึ่งเปลี่ยนแปลงอันดับของมิติจักรวาลแห่งหนึ่ง สร้างปาฏิหาริย์ที่ไม่เคยมีมาก่อน ห้าวหาญเพียงใด!”

หลินสวินอดกล่าวไม่ได้ “อันดับของมิติจักรวาลนี้เปลี่ยนไปแล้วได้ประโยชน์อะไร”

นกกระจอกเขียวทำหน้าดูแคลน คล้ายกำลังบอกว่าแม้แต่เรื่องนี้เจ้ายังไม่รู้ ไม่โง่งมเกินไปหน่อยรึ

แต่มันก็ยังอธิบายอย่างอดทน

ที่แท้อันดับมิติจักรวาลในโลกพันจักรวาลยิ่งอยู่สูง ก็ยิ่งเข้าใกล้ตำแหน่งที่แดนใหญ่พันศึกตั้งอยู่ กลิ่นอายมหามรรคของมิติจักรวาลแห่งนั้นจะเปลี่ยนเป็นแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ!

หลินสวินอดตะลึงไม่ได้

ด้วยจากคำพูดของนกกระจอกเขียว ตำแหน่งที่มิติจักรวาลตั้งอยู่นั้นไม่แน่นอน หากแต่เหมือนดวงดาว สามารถเคลื่อนย้ายและเปลี่ยนแปลงได้!

อย่างเช่นทางเดินโบราณฟ้าดาราในช่วงต้นดึกดำบรรพ์ เดิมเป็นมิติจักรวาลที่จัดอยู่ในอันดับหนึ่งของโลกพันจักรวาล ตำแหน่งของมันเดิมทีอยู่ใกล้แดนใหญ่พันศึกที่สุด!

แต่เมื่อทางเดินโบราณฟ้าดาราตกต่ำลงเรื่อยๆ อันดับค่อยๆ รั้งท้าย ตำแหน่งของมันก็ถูกเบียดไปจนห่างไกลจากแดนใหญ่พันศึกเรื่อยๆ…

เมื่อเข้าใจเรื่องพวกนี้แล้ว หลินสวินยิ่งไม่อาจนิ่งสงบกว่าเดิม

อันดับในศิลาศึกข้ามแดน ถึงกับมีความเกี่ยวข้องพิเศษกับตำแหน่งของโลกพันจักรวาลเช่นนี้

ถึงขั้นส่งผลกระทบต่อความรุ่งเรืองและเสื่อมถอยของมิติจักรวาลแห่งหนึ่งด้วย!

นี่น่าเหลือเชื่อมากอย่างไม่ต้องสงสัย!

หลินสวินครุ่นคิดพลางกล่าว “ถ้าเช่นนั้นหากข้าเลื่อนอันดับไปถึงตำแหน่งแรกของกระดานเร้นลับ นั่นไม่ได้หมายความว่าอันดับของทางเดินโบราณฟ้าดาราที่ข้าจากมา ก็จะก้าวขึ้นไปอยู่ในอันดับต้นของโลกพันจักรวาลด้วยหรอกหรือ”

นกกระจอกเขียวพยักหน้า “น่าจะเป็นเช่นนั้น”

เมื่อหลินสวินฟังจบแววตาก็เปลี่ยนเป็นผิดแปลกขึ้นมา เขาไม่เคยคิดหาโอกาสเปลี่ยนชะตาอะไรให้ทางเดินโบราณฟ้าดารา

แต่ภายใต้ความจับพลัดจับผลู กลับทำให้ตนมีโอกาสนี้เสียอย่างนั้น…

พาให้คนรับมือไม่ทันจริงๆ

จากนั้นหลินสวินก็ไม่คิดเรื่องพวกนี้อีก เขาไม่มีความคิดจะเป็นผู้ช่วยโลก

สาเหตุที่เลือกฝากชื่อไว้บนศิลาศึกข้ามแดน ก็เพื่อเตรียมการเผื่อภายหน้ายามไปถึงด่านนภาอมตะที่สี่สิบเก้าจะได้เข้าไปใน ‘สมรภูมิทวยเทพ’

เรื่องอื่นเขาไม่ได้สนใจมากขนาดนั้น

“นกกระจอกเขียว หลังจากนี้สามวันข้าจะเข้าไปในโบราณสถานมหามรรคนั่นแล้ว เจ้าถือโอกาสนี้เล่าเรื่องเกี่ยวกับโบราณสถานมหามรรคนี้ให้ข้าฟังหน่อย”

หลินสวินกล่าวเสียงขรึม

นกกระจอกเขียวรับคำอย่างยินดี

และในยามที่หลินสวินกับนกกระจอกเขียวพูดคุยกัน

ในเมืองยอดยุทธ์ เมื่อลั่วหลิงส่งคนไปกระจายข่าวก็ก่อให้เกิดความโกลาหลทั่วเมืองในเวลาอันสั้น

…………………

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท