Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 2559 ไม่ทันแล้ว

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 2559 ไม่ทันแล้ว

ตอนที่ 2559 ไม่ทันแล้ว

จงหลีเซียวสิ้นชีพแล้ว

ซ้ำยังถูกหลินสวินใช้กระบี่มรรคฟันทั้งเป็นภายใต้สถานการณ์ที่บนตัวมีไพ่ตายรักษาชีวิตมากมาย ทว่าแม้แต่ไพ่ตายก็ไม่ทันได้สร้างประโยชน์

ไพ่ตายรักษาชีวิตที่มกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิอย่างเขาพกติดตัว ส่วนใหญ่ล้วนประทับพลังระดับอมตะหรือกลิ่นอายระเบียบที่แข็งแกร่งบางอย่างไว้ ครอบครองอภินิหารน่าเหลือเชื่อนานัปการ

แต่สุดท้ายก็ใช่ว่าไร้คู่ต่อกร

เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งในมือหลินสวิน ผ่านการเคี่ยวกรำและแปรสภาพในช่วงหลายปีนี้จนไม่กลัวการโจมตีของไพ่ตายพวกนี้นานแล้ว เรียกได้ว่าทรงพลังเกินต้านทาน

ต้องรู้ว่าถึงตอนนี้เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งหลอมวัตถุอมตะไปนับไม่ถ้วน หลายปีมานี้ยังได้รับการฟูมฟักจากพลังระเบียบนานัปการ เปลี่ยนเป็นน่าเหลือเชื่อถึงขีดสุดอยู่ก่อนแล้ว แม้ว่าอานุภาพจะไม่อาจเทียบกับศาสตรามรรคอมตะได้ แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ศาสตราจักรพรรดิทั่วไปเทียบได้นานแล้ว

การที่ไม่ยอมเผยให้เห็นก่อนหน้านี้ เพียงแค่กลัวศัตรูพวกนี้หนีไปเท่านั้น

แต่ตอนนี้ถึงเวลาเผยทีเด็ดออกมาแล้ว แน่นอนว่าหลินสวินไม่มีทางปิดบังอำพรางอีก

ฟุ่บ!

หลินสวินโคจรเตากระบี่ไร้ก้นบึ้ง ท่ามกลางเสียงกัมปนาทดังครั่นครืนเหมือนจะบดทลายท้องนภา ผู้ฝึกปราณสามสี่คนไม่ทันแม้แต่จะตอบสนอง ร่างกายก็ระเบิดกระจุยกลางอากาศ จิตสิ้นวิญญาณสลาย

อานุภาพนั้นน่ากลัวเกินไปแล้ว

ก่อนจะใช้เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งหลินสวินก็มีอานุภาพไร้คู่ต่อกร สังหารจนไม่มีใครในที่นั้นต้านทานได้ แต่เมื่อเขาโคจรเตากระบี่ไร้ก้นบึ้ง อานุภาพก็เพิ่มขึ้นอีกช่วงใหญ่กะทันหัน!

จิตต่อสู้ของเหล่าผู้ฝึกปราณที่เหลืออยู่ก็สลายตามไปด้วย หลบหนีไม่เป็นกระบวน ไม่กล้าลังเลและรั้งอยู่อีก

แม้หลินสวินจะตัวคนเดียวแต่กลับเหยียดหยันทั่วสนามรบ กลืนกินภูผาธารา ทรงพลังไร้เทียมทาน นี่คืออานุภาพยิ่งใหญ่ของผู้นำใต้หล้าที่แท้จริงอย่างหนึ่ง!

แม้แต่ผู้แข็งแกร่งของสี่ตระกูลตงหวงก็เสียหายหนักในการต่อสู้ก่อนหน้านี้ เหลือเพียงพวกกู้ปั้นจวงกับอวิ๋นลั่วหงไม่กี่คนที่อาศัยช่วงชุลมุนหนีมาได้

ไม่นานก็เหลือแค่พวกฉีหลิงอวิ๋น ชือพั่วจวิน ลิ่นเฟิงเพียงสิบกว่าคน

“ไม่อาจลังเลได้อีกแล้ว หากไม่ใช้ไพ่ตายอีกพวกเราต้องแพ้หมดรูปแน่” เสียงของฉีหลิงอวิ๋นใสเย็น ดูนิ่งสงบหาใดเปรียบ

จริงอยู่ว่าหลินสวินในตอนนี้แข็งแกร่งถึงขั้นประหนึ่งไร้คู่ต่อกร แต่สาเหตุที่พวกเขาไม่ได้ถอยร่น หนึ่งคือไม่ยินยอม สองก็คือมีที่พึ่งพิง

ตูม!

ห้วงอากาศสั่นสะเทือนรุนแรง ลิ่นเฟิงเงื้อมือซัดประทับมรรคมหึมาหนึ่งออกมา ประทับเก่าแก่เหมือนหล่อจากไพฑูรย์ ส่วนฐานสลักคำว่า ‘พลิกฟ้า’ ไว้สองคำ เจิดจรัสส่องประกาย

ทันทีที่พุ่งออกมา ประทับพลิกฟ้านี้ก็เปลี่ยนขนาดเป็นเท่ายอดเขาลูกหนึ่ง กดกำราบไปข้างหน้า

ตำหนักเซียนใจกลางสั่นสะเทือน ทรุดทลายดังสนั่น หากไม่มีพลังกฎระเบียบลึกลับพิทักษ์ที่แห่งนี้ ที่นี่ต้องราพณาสูรแน่

ตึง!!

หลินสวินลงมือเหมือนจักรพรรดิสวรรค์องค์หนึ่ง ใช้เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งต้านทาน ทั้งสองระเบิดแสงเรืองรองเจิดจรัสถึงขีดสุด เหมือนมีภูเขาไฟแสนลูกปะทุขึ้น อานุภาพของพลังทำลายล้างแผ่กระจาย สั่นสะเทือนใจคน

ทุกคนสะท้านไหว ไม่มีใครไม่ถอยร่น

มีสองคนถูกแฉลบโดน ผิวกายแตกระแหง เลือดสีสดไหลทะลัก ทั้งตัวถูกซัดลอยออกไปอย่างแรง

อานุภาพเช่นนี้บ้าระห่ำเกินไปแล้ว อยู่เหนือการคาดเดาของทุกคน!

หลินสวินเลิกคิ้ว ประทับพลิกฟ้านี้ไม่ธรรมดา ไม่เพียงเต็มไปด้วยกลิ่นอายอมตะ ยังมีพลังระเบียบเป็นเส้นริ้วอบอวลอยู่รางๆ อัศจรรย์เกินคาดเดา

หากไม่เป็นเช่นนี้ลิ่นเฟิงย่อมต้านการโจมตีนี้ไม่อยู่แต่แรก!

ขณะเดียวกันลิ่นเฟิงก็ใจสะท้านไม่หยุด ประทับพลิกฟ้าเป็นถึงสมบัติล้ำค่าที่ได้มาจากผู้ยิ่งใหญ่ระดับอมตะคนหนึ่งในตระกูลฉี ความเป็นมายิ่งใหญ่ ได้ยินว่าเป็นสมบัติเทพฟ้าประทานที่ก่อเกิดในต้นกำเนิดระเบียบแห่งหนึ่ง เป็นหนึ่งไม่มีสอง เรียกได้ว่าภายใต้ประทับย่อมพลิกฟ้าพลิกดิน!

ด้วยติดตามฉีหลิงอวิ๋นออกเดินทางครั้งนี้ ลิ่นเฟิงจึงมีโอกาสใช้สมบัตินี้เป็นไพ่ตาย ไม่อย่างนั้นด้วยฐานะในตระกูลฉีของเขา ย่อมไม่มีคุณสมบัติพอจะใช้สมบัตินี้แต่แรก

แต่ตอนนี้สมบัติที่แข็งแกร่งอย่างประทับพลิกฟ้าก็ถูกขวางแล้ว!

หลินสวินลงมืออย่างอหังการแกร่งกล้า องอาจเหนือใต้หล้า พุ่งโจมตีมาอีกครั้ง

ลิ่นเฟิงไม่กล้าประมาท แทบกระตุ้นประทับพลิกฟ้าเหมือนเอาชีวิตเข้าแลก อานุภาพระดับมกุฎบรรพจารย์ทั้งตัวดุจเขาถล่มสมุทรคำราม น่าหวาดกลัวไร้จำกัด

หลินสวินเฉยชา ใช้เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งมาต้านทาน เกิดเสียงดังเคร้งอึกทึกสนั่นหู

เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง!

ทุกการโจมตีล้วนเรียกได้ว่าสะท้านโลก แม้ว่าประทับพลิกฟ้าจะสมบูรณ์ไม่สึกหรอ แต่ลิ่นเฟิงกลับถูกซัดจนเลือดลมตีกลับ เงาร่างเซถอยอย่างต่อเนื่อง ถึงตอนท้ายก็เลือดกบปากจมูก!

“ฆ่า!”

ในช่วงเวลาสำคัญชือพั่วจวินพุ่งเข้ามา เบื้องหน้าปรากฏน้ำเต้าทองม่วงลูกหนึ่ง ธารดาราเวิ้งว้างไร้สิ้นสุดแถบหนึ่งไหลพุ่งออกมาจากน้ำเต้า ปกคลุมฟ้าดินราวกับมหาสมุทร ชวนประหวั่นไร้ขอบเขต

สิ่งที่อบอวลในธารดารานั้นคือกลิ่นอายอมตะเป็นเส้นริ้ว ครอบคลุมห้วงอากาศ ดับสลายสรรพสิ่ง

นี่คือภาพชวนประหวั่นถึงขีดสุดอย่างหนึ่ง แค่ธารดาราสายหนึ่งเท่านั้น กลับคล้ายจะหลอมสรรพสิ่งบนโลก ทำลายสิ่งมีชีวิตทั้งหมดภายในนั้น!

ส่วนน้ำเต้าทองม่วงนั้นก็มีสัญลักษณ์นานัปการแผ่คลุม ราวกับจอมเทพสำนักพรตในตำนาน ควบคุมดูแลเหนือเก้าชั้นฟ้า ควบคุมธารดาราสายนั้นแต่ไกล กวัดแกว่งจักรวาล

ไม่ต้องสงสัยว่าน้ำเต้าทองม่วงนี้ก็เป็นยอดอาวุธสังหารที่น่าเหลือเชื่อชิ้นหนึ่ง เจตะอมตะอบอวล ต้องการจะหลอมหลินสวิน

เงาร่างที่จู่โจมอย่างอาจหาญของหลินสวินหยุดชะงักในพริบตา ถูกธารดาราอมตะสายนั้นโจมตี ราวกับจมอยู่ในมหาสมุทร

อีกด้านหนึ่งลิ่นเฟิงโคจรประทับพลิกฟ้าโจมตีอย่างแข็งกร้าว ร่วมมือกับชือพั่วจวิน ถึงกับมีท่าทีว่าจะกำราบหลินสวินได้รางๆ

หลายคนเห็นแล้วใจสะท้าน

ฉีหลิงอวิ๋นกล่าวตัดสินใจอย่างเด็ดขาดทันที “ทุกท่านยังรออะไรอยู่ ตอนนี้ไม่มีหนทางให้ถอยแล้ว พวกเราเข้าไปพร้อมกัน ร่วมมือกันฆ่าเขาซะ!”

“ฆ่า!”

พวกเขาส่งเสียงคำราม บุกสังหารไปข้างหน้า ศาสตราวุธนานัปการ เจดีย์สมบัติ โคมโบราณ บรรทัดหยก กระบี่เทพ… แสงสมบัติเริงระบำสาดส่องทั่วฟ้า พุ่งไปทางหลินสวินพร้อมกัน

ภายในนั้นยังมีไพ่ตายล้ำค่าที่ลึกลับหาใดเปรียบนานัปการ อย่างยันต์ที่ประทับเจตจำนงอมตะ แผนภาพที่เต็มไปด้วยอานุภาพสังหารล้นฟ้า…

พลังนั้นล้วนกำราบบรรพจารย์จักรพรรดิได้โดยง่าย!

ตูม…

เสียงกัมปนาทสะท้านฟ้าสะเทือนดินดังก้อง บริเวณที่หลินสวินอยู่เกิดกระแสพลังทำลายล้างชวนประหวั่นถึงขีดสุดปกคลุมห้วงอากาศแถบนั้นไว้อย่างสมบูรณ์

นี่ต้องเป็นเคราะห์สังหารถึงชีวิตแน่ เกรงว่าระดับจักรพรรดิคนใดอยู่ที่นี่ก็หนีความตายไม่พ้น

ทว่าไม่นานทุกคนต่างต้องตกใจ

เมื่อละอองแสงและแสงสมบัติจางไป บริเวณที่หลินสวินอยู่ล้วนถูกทำลาย ห้วงอากาศทรุดตัว แต่เขากลับปลอดภัย!

เขายืนอยู่ตรงนั้น แววตาลุ่มลึก เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งลอยเหนือศีรษะ แสงมรรคนับหมื่นแสนโน้มลงมาป้องกันเขาไว้ภายในราวหมื่นวิชาไม่อาจกล้ำกราย

การโจมตีถึงชีวิตที่น่าหวาดกลัวก่อนหน้านี้ กลับไม่อาจทำลายการป้องกันของเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งได้!

“นี่…”

ฉีหลิงอวิ๋นหน้าเปลี่ยนสีแล้ว

คนอื่นยิ่งนัยน์ตาหดรัด ในใจเย็นวาบ ในการโจมตีนี้พวกเขาใช้ไพ่ตายกันหมด ล้วนคุกคามชีวิตของระดับอมตะได้!

แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าหลินสวินแล้วกลับยังคงไม่ได้ผล

ชิ้ง!

ก็เห็นเงาร่างหลินสวินไม่ขยับ กระบี่มรรคเล่มหนึ่งในเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งกลับพุ่งออกมา โฉบตรงไปข้างหน้า

เสียงฟุ่บดังขึ้นเบาๆ ผู้ฝึกปราณคนหนึ่งหว่างคิ้วระเบิด ถูกทะลวงเป็นรูโหว่ชุ่มเลือด น้ำเลือดแดงสดสาดกระเซ็นขึ้นมา เขาล้มหงายหลังแล้วแน่นิ่งไป

นี่คือบรรพจารย์จักรพรรดิคนหนึ่งที่ติดตามข้างกายชือพั่วจวิน มีชีวิตอยู่มาไม่รู้กี่หมื่นปี แต่กลับต้านพลังกระบี่ของหลินสวินไม่อยู่!

บรรยากาศวังเวงทันที เสียงตะโกนโห่ร้องเงียบสงบ คนมากมายหวั่นหวาด หยุดเท้าโดยไม่รู้ตัว

แต่การโจมตีของหลินสวินไม่ได้หยุดลง เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งกำราบกลางฟ้าดิน แสงมรรคไร้สิ้นสุดโน้มลงมาราวกับน้ำตกกว้างใหญ่หลากสาย ทั้งเหมือนธารสวรรค์สายแล้วสายเล่า

น้ำเต้าทองม่วงกับประทับพลิกฟ้าล้วนถูกซัดจนสั่นครืน ใช่ว่าสมบัติสองอย่างนี้ไม่แข็งแกร่งพอ หากแต่คนที่ใช้พวกมันมีพลังปราณที่ต้านการโจมตีของหลินสวินไม่อยู่

เสียงตูมดังขึ้น ในที่นั้นมีหลายคนกระดูกหักกล้ามเนื้อฉีก ร่างแหลกกระจาย ถูกซัดจนร่างระเบิดกระจุย พลังจิตกลายเป็นเถ้าถ่านตายคาที่ทันที

หลินสวินในตอนนี้ไอสังหารทะยานฟ้า ใช้วิชาที่แข็งแกร่งที่สุดสังหารศัตรู

เมื่อถึงช่วงท้าย ในสนามรบก็เหลือแค่พวกฉีหลิงอวิ๋น ชือพั่วจวิน ลิ่นเฟิงสามคน คนอื่นไม่ถูกฆ่าก็หนีไปนานแล้ว

แต่เวลานี้พลังขับเคลื่อนที่แข็งแกร่งสายหนึ่งปะทุขึ้นกะทันหัน ย่อตัวพุ่งไปข้างหน้าพุ่งเข้าใส่ด้านหลังหลินสวิน

คนที่ลงมือคือฉีหลิงอวิ๋น!

ซ้ำทันทีที่นางลงมือก็มาอยู่ด้านหลังหลินสวิน มือถือวัชระสีดำเปื้อนเลือดเล่มหนึ่ง แทงเข้าไปกลางหลังของหลินสวิน

เร็วจนน่าเหลือเชื่อ!

หลินสวินในตอนนี้กำลังต้านประทับพลิกฟ้าของลิ่นเฟิงและน้ำเต้าทองม่วงของชือพั่วจวิน ในสายตาของทุกคนคือไม่มีทางหลบการโจมตีที่มาจากด้านหลังนี้ได้แต่แรก

แต่ใครเล่าจะคาดคิด

หลินสวินไม่ได้หลีกหลบ แต่ด้านหลังเขากลับมีกายมรรคไม้เขียวพุ่งออกมาแล้วซัดหมัดกะทันหัน

ความแข็งแกร่งของพลังหมัดสามารถทำลายหมื่นวิญญาณในใต้หล้า ดับสุริยันจันทราดาราได้

ตึง!

ท่ามกลางเสียงปะทะกึกก้อง แม้ว่าวัชระจะถูกขวาง ทว่าในใจหลินสวินกลับเกิดสัญญาณเตือน สัมผัสได้ถึงความอันตราย

พร้อมกันนี้บนวัชระในมือของฉีหลิงอวิ๋นแผ่กลิ่นอายอำมหิตราวกับผนึกหลากสายออกมา ตัววัชระเปื้อนเลือดปรากฏภาพมรรคชุ่มเลือดภาพหนึ่ง แผ่คลุมไปยังกายมรรคไม้เขียว

เงาร่างของกายมรรคไม้เขียวไหววูบ หายเข้าไปในร่างต้นของหลินสวินฉับพลัน

ในเวลาเดียวกันเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งกดข่มลงมา แสงมรรคไร้สิ้นสุดแผ่คลุม ขวางอยู่ด้านหลังร่างต้นของหลินสวิน

ตูม!

ห้วงอากาศระเบิดออก ไอขุ่นมัวพลุ่งพล่าน บริเวณนี้อลหม่าน วัชระในมือฉีหลิงอวิ๋นระเบิดกระจุย สุดท้ายนี่ก็เป็นอาวุธลับชิ้นหนึ่ง หลังจากอานุภาพที่ปลดปล่อยออกมาถูกต้านทานก็ไม่มีภัยคุกคามอีก

เดิมทีฉีหลิงอวิ๋นคิดอาศัยไพ่ตายที่ยากพบเห็นบนโลกชิ้นนี้ทำร้ายหลินสวินให้เลือดอาบ ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่น่าเสียดายที่ผิดแผน

นางนับว่าเด็ดขาดยิ่ง ถอยหนีห่างไปทันที แต่สีหน้าดูสับสนแล้ว

ขณะเดียวกันลิ่นเฟิงบุกเข้ามาอีกครั้ง ควบคุมประทับพลิกฟ้าถล่มใส่หลินสวิน ร่องรอยมหามรรคเรือนพันเรือนหมื่นปกคลุมฟ้าดิน

อีกด้านหนึ่งชือพั่วจวินโคจรน้ำเต้าทองม่วงตีขนาบ อานุภาพชวนประหวั่น

“เวลาล่วงมามากแล้ว ขอส่งพวกเจ้าไปลงนรกเลยแล้วกัน!” หลินสวินพูดพลางเยื้องย่างออกศึก เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งเคลื่อนคล้อย อานุภาพเป็นหนึ่งไม่มีสอง

ตูม!

อานุภาพของการต่อสู้ปั่นป่วนม้วนพัดออกไป

ไม่ทันไรแม้แต่ลิ่นเฟิงกับชือพั่วจวินก็แบกรับไม่อยู่ ทั้งสองคนกระอักเลือดคำโต ถูกอานุภาพของหลินสวินคนเดียวกำราบจนได้รับบาดเจ็บ

ถึงตอนท้ายหลินสวินตะโกน ถึงกับใช้เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งกำราบประทับพลิกฟ้านั้นอย่างแข็งกร้าว ผนึกไว้กลางอากาศ ไม่อาจขยับเขยื้อน

จากนั้นหลินสวินก็พุ่งเข้ามาแล้วซัดหมัดหนึ่งออกไป

ตูม!

หมัดนี้ทะลวงอกของลิ่นเฟิงโดยตรง ทำให้เขาระเบิดกระจุยคาที่ วิชาลับหรือสมบัติวิเศษใดล้วนต้านการโจมตีไร้เทียมทานนี้ไม่อยู่!

มกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิซึ่งมาจากน่านฟ้าที่ห้า ถูกตระกูลฉีแห่งน่านฟ้าที่แปดรับมาเป็นผู้ติดตามคนนี้ ถูกฆ่าตายคาที่ สิ้นชีพโดยสมบูรณ์

ฉีหลิงอวิ๋นตัวแข็งทื่อราวตกสู่ถ้ำน้ำแข็ง เดิมนางคิดไปช่วยโดยไม่เสียดายไพ่ตายในมือ ไหนเลยจะคิดว่าทุกอย่างกลับเกิดขึ้นเร็วเช่นนี้

เร็วจนนางคิดไปช่วยก็ยังไม่ทัน!

………………….

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท