Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 2636 เก็บภูเขา

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 2636 เก็บภูเขา

ตอนที่ 2636 เก็บภูเขา

ยิ่งเข้าใกล้ภูเขาเทพสนามแม่เหล็กที่ประหนึ่งหินโม่นั้น พลังบดขยี้ก็ยิ่งน่ากลัว

เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งสั่นสะเทือนดังหึ่งๆ ทำให้หลินสวินเหมือนตกอยู่ในกระแสวังวนอันน่ากลัว ไม่เพียงแต่เคลื่อนไหวลำบาก ขนาดจะยืนให้มั่นคงยังยาก

ตูม ครืน!

พายุพลังแม่เหล็กอันน่ากลัวม้วนตลบ พลังบดขยี้บ้าคลั่งเต็มเปี่ยม ยิ่งมีพลังระเบียบห้วงอากาศประหลาดกำลังซัดสาดและม้วนกวาด

แม้ระเบียบนิพพานในเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งจะสามารถกลืนกินพลังห้วงอากาศอันแปลกประหลาดเช่นนั้นได้ แต่กลับถูกพายุพลังแม่เหล็กโจมตีจนสั่นสะเทือนรุนแรง

ต่อให้หลินสวินกระตุ้นมรรควิถีของตนถึงขีดสุดยังรู้สึกกินแรงหาใดเทียบ

เขาตกตะลึงอย่างอดไม่ได้

ไม่ต้องสงสัยสักนิดว่าถ้าไม่ได้เตากระบี่ไร้ก้นบึ้ง เกรงว่าด้วยมรรควิถีของเขาคงถูกบดขยี้ทำลายล้างไปนานแล้ว

หลินสวินไม่ลองเข้าไปใกล้อีก อันที่จริงเขาก็ทำไม่ได้สักนิด ต่อให้ทุ่มพลังเต็มที่ก็ยังเคลื่อนไหวได้ยาก

หลินสวินสีหน้าปนเปไปด้วยความรู้สึกต่างๆ

ตอนนี้เขากำลังใช้พลังทั้งหมดที่มีเข้าต้านทาน ชะล่าใจนิดเดียวก็จะถูกพายุพลังแม่เหล็กนั้นม้วนกวาด ถึงตอนนั้นเกรงว่าต่อให้มีเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งก็พ้นจากจุดจบที่ถูกบดขยี้ได้ยาก

สถานการณ์เช่นนี้ คิดจะเก็บภูเขาเทพสนามแม่เหล็กก็เป็นเรื่องเพ้อฝัน

ตูม!

จู่ๆ หินสีดำก้อนใหญ่เท่าบ้านก้อนหนึ่งก็ร่วงตกลงมาจากภูเขาเทพสนามแม่เหล็กนั้น ถูกพายุห้วงอากาศพัดม้วนพุ่งมาทางนี้

หลินสวินอึ้งไปก่อน จากนั้นก็ตาเป็นประกาย ในใจมีความคิดแล้ว

สวบ!

เงาร่างเขาถอยหลังออกมาหลายสิบจั้ง

ระยะห่างนี้ทำให้เขาต้านทานพายุพลังแม่เหล็กไปพร้อมๆ กับแบ่งกำลังไปทำเรื่องอื่นได้พอดี

“โอม!”

หลินสวินยื่นมือไปคว้า หินเทพพลังแม่เหล็กขนาดเท่าบ้านที่กำลังจะพุ่งมาทางนี้ก็ประหนึ่งอสูรยักษ์ที่ถูกมัดเชือกไว้ ไม่ว่าพายุพลังแม่เหล็กจะโจมตีอย่างไร ก็ยังถูกดึงมาอยู่ข้างหน้าหลินสวินทีละน้อย

หลินสวินออกแรงที่นิ้ว เสียงกร๊อบแกร๊บดังขึ้น เศษหินพากันร่วงพรู หินเทพพลังแม่เหล็กใหญ่เท่าบ้านก็กลายเป็นเหล็กเทพพลังแม่เหล็กหนักประมาณห้าสิบชั่ง เปล่งแสงเจิดจ้า

หลินสวินเก็บมันทันที แววตาเจือรอยยิ้มแล้ว

ทันใดนั้นเงาร่างเขาไหววูบ กายมรรคทั้งห้าปรากฏตัวกระตุ้นเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งร่วมกับร่างต้น เช่นนี้แล้วความกดดันของหลินสวินก็ลดลงฉับพลัน

ถึงขั้นร่างต้นของหลินสวินยังหาเวลาไปคว้าลูกกลอนโอสถกำหนึ่งมาเติมพลังที่หมดเปลืองไปไม่หยุดนั้นได้

ไม่นานนักก็มีหินเทพพลังแม่เหล็กลอยหวือมาอีก คราวนี้มีถึงสิบกว่าก้อน แต่ละก้อนใหญ่เท่าอ่างล้างหน้า

หลินสวินที่ออมพลังรอไว้นานแล้วตามเดิม ใช้พลังของร่างแยกเก็บหินเทพพลังแม่เหล็กเหล่านี้มาทั้งหมด

หลังจากกำจัดเศษหินไป เหล็กเทพพลังแม่เหล็กเกือบยี่สิบชั่งก็เข้ากระเป๋าหลินสวิน

“ไม่เลวๆ”

หลินสวินจิตใจผ่อนคลายขึ้นมา ตามการคาดเดาของเขา ใช้วิธีนี้เก็บรวมรวมเหล็กเทพพลังแม่เหล็ก แม้จะยังใช้เวลามากถึงจะรวบรวมได้ครบหนึ่งแสนชั่ง แต่เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดแล้ว

นี่ก็เหมือนหว่านแหจับปลา พายุพลังแม่เหล็กเป็นเหมือนทะเลสาบ ส่วนหินเทพพลังแม่เหล็กก็เหมือนฝูงปลา ปลาจะโผล่หัวมาได้ทุกเมื่อ

สิ่งที่หลินสวินต้องทำก็คือลากปลาที่โผล่หัวขึ้นมาพวกนี้มาให้หมด!

ในช่วงเวลาต่อมาหลินสวินก็รออยู่ตรงนี้ ใช้เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งต้านทานพลังบดขยี้รุนแรงนั้น ขอเพียงมีหินเทพพลังแม่เหล็กลอยออกมาก็จะถูกเขาคว้าไว้ได้

หนึ่งชั่วยามผ่านไป

หลินสวินเก็บเหล็กเทพพลังแม่เหล็กได้ห้าร้อยชั่ง

สองชั่วยามผ่านไป

หลินสวินรวบรวมได้หนึ่งพันสองร้อยชั่ง

สามชั่วยามผ่านไป…

พร้อมๆ กับเวลาที่ผ่านไป เหล็กเทพพลังแม่เหล็กที่หลินสวินรวบรวมได้ก็เพิ่มจำนวนมากขึ้นไปด้วย เหมือนการจับปลาได้แหแล้วแหเล่า ในใจมีแต่ตวามรู้สึกได้ผลเก็บเกี่ยว

ทว่ากลับใช้โอสถขนานวิเศษมากขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน เนื้องจากต้องต้านพลังพายุพลังแม่เหล็กอยู่ตลอด ทำให้หลินสวินต้องหลอมลูกกลอนโอสถมาเติมพลังกายไม่หยุด

แต่เทียบกับการเก็บเกี่ยวเหล็กเทพพลังแม่เหล็ก ลูกกลอนโอสถที่สิ้นเปลืองไปเหล่านี้ไม่อยู่ในสายตาหลินสวินสักนิด

เวลาหนึ่งวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว

บริเวณนอกเขตลมสนามแม่เหล็ก ตอนนี้เหล่าผู้ฝึกปราณที่รอชิงหินเทพพลังแม่เหล็กเหล่านั้นต่างงุนงง

ผ่านไปหนึ่งวันแล้ว กลับไม่มีหินเทพพลังแม่เหล็กพุ่งออกมาจากกระแสแม่เหล็กนั่นอีกแม้สักก้อน

นี่มันเกิดอะไรขึ้น!

ทุกคนสับสนฉงนใจ

“นี่คงไม่ใช่ว่าเจ้าหมอนั่นเล่นพิเรนทร์อะไรใช่ไหม” มีคนพึมพำ นึกถึงชายหนุ่มที่กระโจนเข้าไปในเขตลมสนามแม่เหล็ก หลังจากฆ่าหลงเฟิงบรรพจารย์จักรพรรดิสำนักมารใต้พิภพเมื่อครู่คนนั้น

“เกรงว่าเจ้าหมอนั่นจะตายไปนานแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นต่อให้เขารอด จะไปเก็บหินเทพพลังแม่เหล็กทั้งหมดได้อย่างไร”

“ถ้าเช่นนั้นแล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”

ในบริเวณนั้นเต็มไปด้วยความกังขา สีหน้าผู้ฝึกปราณเหล่านั้นต่างไม่น่าดู

ส่วนบริเวณที่อยู่ไม่ไกลจากภูเขาเทพสนามแม่เหล็กซึ่งอยู่ลึกสุดของเขตลมสนามแม่เหล็ก หลินสวินไม่รู้เลยว่าเพราะตน ทำให้ผู้ฝึกปราณที่อยู่ภายนอกพวกนั้นร้อนใจและฉงนสงสัยแค่ไหน…

เก้าวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว

พวกผู้ฝึกปราณที่รอชิงหินเทพพลังแม่เหล็กอยู่ภายนอกต่างรอจนสีหน้าอึมครึมกันหมด หลายคนทนไม่ไหวนานแล้ว อ้าปากด่าทอฉาดใหญ่แล้วก็หมุนตัวจากไป

ส่วนหลินสวินในตอนนี้ เก็บเหล็กเทพพลังแม่เหล็กที่คนภายนอกรอแย่งชิงอยู่ได้ถึงเก้าหมื่นเก้าพันกว่าชั่งแล้ว ห่างจากเป้าหมายเพียงนิดเดียว!

ต่อให้โอสถวิเศษที่เก็บสะสมในช่วงหลายปีมานี้จะใช้ไปเกินครึ่ง แต่หลินสวินกลับปรีดา ดีใจและตื่นเต้น เต็มไปด้วยความรู้สึกประสบความสำเร็วและได้รับผลเก็บเกี่ยว

ครืน…

ไกลออกไปหินเทพพลังแม่เหล็กกลุ่มหนึ่งพุ่งออกมาอีกครั้ง หลินสวินที่คุ้นมือนานแล้วก็มือไวตาไว ชั่วพริบตาก็จับ ‘ปลา’ พวกนี้ได้

“รวมกันก็หนึ่งหมื่นกับสามชั่งแล้ว!”

หลินสวินนับจำนวนเล็กน้อย ทั้งตัวผ่อนคลายลง

เพียงแต่ตอนที่เขากำลังคิดจะจากไปนั้น เมื่อมองดูภูเขาเทพสนามแม่เหล็กที่ประหนึ่งหินโม่มหึมาซึ่งอยู่ไกลๆ ความรู้สึกไม่ยินยอมก็ผุดขึ้นในใจอย่างเลี่ยงไม่ได้

ถ้าเอาภูเขาทั้งลูกไปได้… เช่นนั้นจะดีขนาดไหนนะ…

ก็ในตอนนี้เองที่ในใจเขากระตุกวูบ ความคิดใจกล้าอย่างหนึ่งปรากฏขึ้นในสมอง

พอไตร่ตรองซ้ำไปซ้ำมา เขาก็ตัดสินใจสู้สักตั้ง!

ในเวลาต่อมาเขาตั้งใจปรับพลังกาย ฟื้นฟูกำลังตัวเอง ถึงกับเอาโอสถเทพหายากที่เก็บไว้จำนวนหนึ่งออกมาหลอม

กระทั่งมรรควิถีของตนฟื้นฟูถึงระดับสมบูรณ์ หลินสวินก็ไม่ลังเลอีก กระตุ้นเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งพุ่งเข้าไปทันที

พันจั้ง

ร้อยจั้ง

สิบจั้ง

กระทั่งห่างจากภูเขาเทพสนามแม่เหล็กเพียงไม่ถึงสิบจั้ง ก็ถึงขีดจำกัดที่หลินสวินจะรับได้แล้ว

ก็ในตอนนี้เอง

ตูม!

กลางห้วงอากาศ สายฝนแห่งกาลเวลาโปรยปราย วาดเค้าโครงเป็นประตูลึกลับบานหนึ่ง ราวกับประตูใหญ่ที่ผ่านไปสู่มิติอื่น ลึกล้ำดำมืด

ประตูเนรเทศ!

ชั่วพริบตานี้ภูเขาเทพสนามแม่เหล็กที่ลอยเอื่อยๆ อยู่นั้นพลันสั่นสะเทือน เหมือนโดนพลังเกาะเกี่ยวอันน่ากลัว ดิ้นรนรุนแรงขึ้นมาทันที

ฟ้าดินแห่งนี้ปั่นป่วนโกลาหลโดยสมบูรณ์

ก็พบว่าโดยรอบภูเขาเทพสนามแม่เหล็กนั้น พลังระเบียบห้วงอากาศอันแน่นขนัดเป็นสายๆ แปรเปลี่ยนเป็นโซ่เทพใหญ่หนา สีทองหม่นอันลึกลับปรากฏออกมา

หลินสวินใจสั่นไหว เขาเดาไว้ไม่ผิด พลังระเบียบห้วงอากาศอันแปลกประหลาดนั้นก็เหมือนกรงขังที่แปลงมาจากสายโซ่นับไม่ถ้วน ผนึกภูเขาเทพสนามแม่เหล็กไว้ที่นี่อย่างแน่นหนา

และเมื่อปลดปล่อยอานุภาพประตูเนรเทศออกมา พลังระเบียบห้วงอากาศอันพิสดารนี้กลับกลายเป็นอุปสรรคอย่างหนึ่ง หมายจะขัดขวางไม่ให้ภูเขาเทพสนามแม่เหล็กถูกกลืนกินเข้าไปในประตูเนรเทศ

“ไป!”

หลินสวินไม่ลังเลใดๆ สูดหายใจลึกเฮือกหนึ่งแล้วโคจรเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งถึงขีดสุด

ประตูเนรเทศยันไว้ได้เพียงสามลมหายใจ ต้องดึงเอาภูเขาเทพสนามแม่เหล็กเข้าไปในช่วงเวลาแสนสั้นนี้ หาไม่แล้วการเคลื่อนไหวนี้ก็จะล้มเหลวในที่สุด

วู้ม…

ท่ามกลางเสียงหวีดหวิวแปลกประหลาด ลวดลายดอกบัวที่แปลงมาจากระเบียบนิพพานปรากฏขึ้น ปลดปล่อยแสงไร้สิ้นสุดออกมาปกคลุมพลังระเบียบห้วงอากาศสีทองหม่นที่แน่นขนัดนั้นอย่างรวดเร็ว

เพียงพริบตาพลังระเบียบห้วงอากาศสีทองหม่นนั้นก็ถูกกำราบ ถูกสยบและรับเข้าไปในระเบียบนิพพาน ไร้พลังต้านท้านแม้สักนิด

และเมื่อเสียผนึกพลังระเบียบห้วงอากาศสีทองหม่นนั้นไป ภูเขาเทพสนามแม่เหล็กก็เคลื่อนย้ายไปในอากาศอย่างสูญเสียการควบคุม ถูกลากเข้าไปในประตูเนรเทศนั้น

ครืน!

พริบตาที่ภูเขาสนามแม่เหล็กหายไปนั้น ประตูเนเทศก็ลับหายตามไปด้วย

หลินสวินอ้าปากหอบหายใจเฮือกใหญ่ ประตูเนรเทศใช้พลังมากเกินไปแล้ว อย่ามองว่ายันไว้ได้แค่สามลมหายใจ เมื่อครู่พลังกายในสภาพสมบูรณ์ที่หลินสวินเพิ่งฟื้นฟูไปนั้น ก็ถูกใช้ไปมากถึงเจ็ดส่วนในชั่วขณะเดียวเช่นกัน!

แต่แม้จะเป็นเช่นนี้หลินสวินกลับตื่นเต้นดีใจ ทั้งตัวผ่อนคลายหาใดเทียบ

สำเร็จแล้ว!

เขาใช้ประตูเนรเทศ ส่งภูเขาเทพสนามแม่เหล็กไปยังหุบเหวไร้ก้นบึ้ง!

ภายหน้าขอเพียงศักยภาพของเขาเพิ่มสูงขึ้น ไม่ช้าก็เร็วจะต้องดึงเอาภูเขาเทพสนามแม่เหล็กลูกนี้ออกมาจากประตูเนรเทศได้!

สิ่งที่ทำให้หลินสวินยิ่งดีใจก็คือ ขณะที่ดึงภูเขาเทพสนามแม่เหล็กเข้าไป ระเบียบนิพพานก็สยบพลังระเบียบห้วงอากาศสีทองหม่นแปลกประหลาดนั้นได้เช่นกัน

ยิงธนูดอกเดียวได้นกสองตัว!

“ถ้าไม่ลองท้าทายเช่นนี้ เกรงว่าจะคลาดกับวาสนานี้ไปแล้ว”

สีหน้าหลินสวินเปี่ยมด้วยรอยยิ้ม

เมื่อไม่มีภูเขาเทพสนามแม่เหล็กกับพลังระเบียบห้วงอากาศแปลกประหลาดนั้น สถานที่บ้าระห่ำยุ่งเหยิงเป็นที่สุดแห่งนี้ก็คืนสู่ความสงบแล้ว

หลินสวินไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้ กลืนและหลอมโอสถวิญญาณทันที ส่วนจิตรับรู้ของเขาก็สำรวจเข้าไปในเตากระบี่ไร้ก้นบึ้ง

ก็พบว่าพลังระเบียบห้วงอากาศสีทองหม่นนั้นถูกกำราบ เปลี่ยนเป็นว่านานสอนง่ายหาใดเทียบแล้ว

และตอนนี้ วิญญาณระเบียบอู๋ซวงก็เอ่ยปากอย่างตื่นเต้น เสียงใสกังวาน “นายท่าน นี่เป็นพลังระเบียบห้วงอากาศระดับสวรรค์ขั้นแปด แก่นแท้ของมันบ้าคลั่ง ดุดัน มีอานุภาพลึกลับสุดหยั่งอย่าง ‘ผนึก’ ‘ตัดขาด’ ‘ล้มคว่ำ’ เป็นต้น ไม่อาจเทียบกับพลังระเบียบห้วงอากาศทั่วไปได้!”

ระดับสวรรค์ขั้นแปด!

หลินสวินใจสะท้าน ตระหนักได้ว่าเก็บสมบัติได้แล้ว

ระเบียบระดับสวรรค์กับระเบียบระดับปฐพีแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ระดับขั้นยิ่งสูง อานุภาพของมันก็จะเปลี่ยนไปชนิดพลิกฟ้าพลิกดิน

ยกตัวอย่างที่ง่ายที่สุด

ทั้งที่เผ่าจักรพรรดิอมตะครอบครองพลังระเบียบระดับสวรรค์ แต่ขุมอำนาจอย่างสี่ตระกูลตงหวงกลับอยู่ได้แค่ในน่านฟ้าที่เจ็ด

ทว่าสิบยักษ์ใหญ่อมตะน่านฟ้าที่แปดซึ่งครอบครองพลังระเบียบสวรรค์เหมือนกัน สถานะ อำนาจ พลังที่พวกเขาครอบครอง… กลับเหนือกว่าเผ่าจักรพรรดิอมตะน่านฟ้าที่เจ็ดเหล่านั้นมาก

เพราะเหตุใด

สิ่งสำคัญก็อยู่ที่ขั้นของระเบียบสวรรค์นี้!

ลือกันว่าสิบยักษ์ใหญ่อมตะน่านฟ้าที่แปดเหล่านั้น ต่างครอบครองพลังระเบียบระดับสวรรค์ขั้นที่เก้า มิหนำซ้ำยังไม่ได้ครอบครองแค่ชนิดเดียว

ทั้งยังไม่ขาดระเบียบระดับสวรรค์ขั้นที่เก้าชนิดหายากซึ่งสามารถให้กำเนิดวิญญาณระเบียบได้จำนวนหนึ่ง!

เทียบกันแล้ว ขั้นของพลังระเบียบที่เผ่าจักรพรรดิอมตะน่านฟ้าที่เจ็ดเหล่านั้นครอบครองก็ด้อยกว่าอยู่บ้าง

หรือพูดอีกอย่างก็คือ ในบางกรณี ขั้นพลังระเบียบสามารถส่งผลต่อสถานการณ์และสถานะของเผ่าจักรพรรดิอมตะตระกูลต่างๆ ได้!

——

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท