Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 2690 จู่โจมกายเขา ทลายใจเขา

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 2690 จู่โจมกายเขา ทลายใจเขา

ตอนที่ 2690 จู่โจมกายเขา ทลายใจเขา

วังกระบี่หมื่นยอด

เมื่อเห็นเซียวเหวินหยวนหวนกลับมา ตงหวงชิงยิ้มถาม “หลังจากพี่เซียวเจอหลินสวิน คิดว่าเจ้าหมอนี่เป็นอย่างไร”

เซียวเหวินหยวนอึ้งไป กล่าวว่า “พี่ตงหวงคิดว่าอย่างไร”

ตงหวงชิงยิ้มพูดอย่างเบิกบาน “ถึงอย่างไรข้าก็เป็นคนตระกูลตงหวง กับผู้สืบทอดคีรีดวงกมลย่อมไม่มีอะไรให้วิจารณ์ ตอนนี้ก็ไม่เหมาะที่จะพูดอะไร”

เซียวเหวินหยวนอดยิ้มไม่ได้ “พี่ตงหวงถือว่าพูดตรง จากมุมมองของข้า หลินสวินคนนี้นับว่าเป็นคนหนุ่มที่น่าสนใจมาก”

“คำพูดนี้หมายความว่าอย่างไร” ตงหวงชิงขมวดคิ้วถาม

เซียวเหวินหยวนพูดง่ายๆ “ในหลายปีมานี้เจ้าหมอนี่ผูกแค้นก่อศัตรูกับขุมอำนาจอมตะมากมาย แต่ที่เหนือความคาดหมายคือ จนตอนนี้เขายังอยู่ดีมีสุข นี่น่าสนใจมากไม่ใช่หรือ”

ตงหวงชิงเงียบไปครู่หนึ่งค่อยเอ่ยว่า “ถ้าอย่างนั้น พี่เซียวคิดว่าเจ้าหมอนี่สามารถผ่านการทดสอบคัดเลือกครั้งนี้หรือ”

เซียวเหวินหยวนส่ายหน้า “ข้าไม่ได้พูดเช่นนี้ เรื่องการคัดเลือกครั้งนี้ทุกท่านต่างรู้ดี ว่าขอเพียงการทดสอบเริ่มขึ้น หลินสวินจะต้องกลายเป็นเป้าหมายของทุกคน ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ข้าไม่กล้าพูดอะไร”

ตงหวงชิงหัวเราะฮ่าๆ กล่าวว่า “นี่เป็นเรื่องสมเหตุสมผลอยู่แล้ว ทุกคนล้วนรู้ว่าคีรีดวงกมลแทบจะเป็นศัตรูร่วมของทั่วหล้า ขุมอำนาจไม่รู้เท่าไรอยากถอนรากถอนโคนพวกเขาจนแทบทนไม่ไหว ตอนนี้หลินสวินกลับปรากฏตัวออกมาอย่างเกรียงไกร อยากจะกราบอาจารย์เข้าสู่หอบรรพจารย์ลัทธิแรกกำเนิดของเรา เห็นชัดว่าเขามองหอบรรพจารย์ลัทธิแรกกำเนิดเป็นที่หลบภัย”

เขาหยุดไปครู่หนึ่ง ในดวงตาเผยความเย็นเยียบ “บางทีเจ้าหมอนี่คงคิดว่าขอเพียงเป็นผู้สืบทอดของลัทธิแรกกำเนิด ก็สามารถไร้กังวล ไม่มีใครกล้าทำร้ายเขากระมัง”

เซียวเหวินหยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย

หลีเจินที่เงียบมาโดยตลอดพลันเอ่ยขึ้นมาด้วยเสียงต่ำลึก “หากเจ้าหมอนี่กลายเป็นผู้สืบทอดลัทธิแรกกำเนิดจริง ยังจะมีคนกล้าทำร้ายเขาหรือ”

เขาตัวใหญ่หนา ผิวสีทองแดง ผมหนวดยุ่งเหยิง นัยน์ตาดุจสายฟ้า บทจะไม่พูดก็ไม่พูด หากพูดขึ้นมาก็มอบความรู้สึกกดข่มที่แรงกล้าแก่ทุกคน

รอยยิ้มของตงหวงชิงหายไป พูดเรียบๆ “นั่นต้องดูว่าเขาจะมีโอกาสกลายเป็นผู้สืบทอดลัทธิแรกกำเนิดก่อนหรือไม่”

ดวงตาของหลีเจินจ้องตงหวงชิงไม่กะพริบ เอ่ยว่า “เจ้าไม่ได้ตอบคำถามข้าตรงๆ”

ราวกับคาดคั้นเอาความ บรรยากาศก็กดดันขึ้นสามส่วน

สายตาของตงหวงชิงมองหลีเจินโดยไม่หลบหลีกเช่นกัน เอ่ยว่า “เพราะคำถามนี้ไม่มีความหมาย หลินสวินไม่มีโอกาสผ่านการคัดเลือกอยู่แล้ว!”

คำพูดชัดแจ้ง

หลีเจินจ้องตงหวงชิงครู่หนึ่งค่อยกล่าวว่า “หากเจ้ากล้าฝ่าฝืนกฎทำเรื่องอัปยศ ข้าไม่ให้อภัยแน่”

ตงหวงชิงสีหน้าอึมครึมลง เอ่ยว่า “หลีเจิน เจ้าหมายความว่าอย่างไร”

“พอแล้ว พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องทะเลาะกันเช่นนี้”

ฟางเต้าผิงที่นิ่งเงียบราวกับคนนอกมาโดยตลอดยามนี้ขมวดคิ้วเอ่ยปาก “การคัดเลือกครั้งนี้ ความต้องการของข้าง่ายมาก ทำตามกฎ นี่ก็คือจุดยืนของข้า”

หลีเจินเงียบ ไม่พูดอะไรอีก

ตงหวงชิงพยักหน้ากล่าว “รองหัวหน้าหอฟางวางใจ ข้าไม่มีทางยอมให้เรื่องฝ่าฝืนกฎเช่นนั้นเกิดขึ้นแน่”

เซียวเหวินหยวนมองหลีเจินแล้วมองตงหวงชิง มือเล่นคทาหยกสมปรารถนาไปพลาง ยิ้มแย้มไม่เอ่ยคำ

ยังไม่เริ่มการทดสอบก็ทำให้ผู้อาวุโสที่ควบคุมการทดสอบสองคนขัดแย้งกัน การมาเยือนของหลินสวินทำให้เกิดลมพายุที่คาดไม่ถึงจริงๆ…

เพียงแต่ท่าทีของรองหัวหน้าหอฟางเป็นอย่างไรกันแน่

เซียวเหวินหยวนมองไม่ออก แต่ในใจกลับยิ่งรู้สึกน่าสนใจ

คลื่นลมแปลกประหลาด คลื่นใต้น้ำปรากฏ!

……

สมรภูมิหมื่นยอด

ภายใต้ท้องฟ้าสีฟ้าคราม ภูผาธาราเป็นลูกคลื่น กว้างใหญ่ไพศาลไร้จำกัด

เงาร่างของหลินสวินปรากฏตัวในหุบเขา

ที่มาพร้อมกับการปรากฏตัวของเขา คือพลังกฎระเบียบไร้รูปสายหนึ่งที่กดข่มลงมา ผนึกพลังปราณบนตัวเขา แต่ไม่กระทบต่อการก้าวเดิน

ก่อนการทดสอบจะเริ่มขึ้น พลังปราณจะถูกผนึกเช่นนี้ตลอด

สายตาของหลินสวินกวาดมองรอบๆ ครู่หนึ่งหลังจากนั้นจึงนั่งขัดสมาธิลงตรงๆ

ในหัวเริ่มย้อนคิดข้อมูลต่างๆ ที่มีเกี่ยวข้องกับการทดสอบรอบที่หนึ่ง

ในการทดสอบ ห้ามใช้พลังระเบียบ!

ห้ามใช้สมบัติลับและพลังภายนอกที่เหนือกว่าระดับมกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิ!

ป้ายยืนยันคือสมบัติปกป้องชีวิตชิ้นสุดท้าย หากถูกโจมตีสังหารจะสามารถรักษาชีวิตไว้ได้

เวลาการทดสอบหนึ่งเดือน

เอาชนะคู่ต่อสู้สามคนในระยะเวลาที่กำหนด ก็จะสามารถเข้าสู่การทดสอบรอบที่สองได้

…ในกฎการทดสอบเหล่านี้ สิ่งเดียวที่ทำให้หลินสวินขมวดคิ้วคือ หลังจากสังหารคู่ต่อสู้ อีกฝ่ายจะไม่ตายอย่างแท้จริง แต่จะถูกป้ายยืนยันปกป้องชีวิตเอาไว้เสี้ยวหนึ่ง

แม้จะรู้สึกต่อต้านอยู่บ้าง แต่หลินสวินก็คิดแผนรับมือไว้แล้ว

หากเจอศัตรู จู่โจมกายเขา ทลายใจเขา!

พลังปราณยิ่งสูง หากสภาวะจิตมีปัญหา คราวเคราะห์ที่ต้องเผชิญก็จะยิ่งอันตราย

เหมือนเช่นอาจารย์อาคงเจวี๋ย ก็เพราะสภาวะจิตเกิดปัญหา สติปัญญาบ้าคลั่ง จิตใจสับสน สถานการณ์น่าอนาถอย่างที่สุด

หรืออย่างเหยียนจี้หัวหน้าหอแรกนภา ว่ากันว่าก็เพราะสภาวะจิตเกิดปัญหา ยามฝึกปราณฝึกจนเหลือเพียงแค่พลังจิตเสี้ยวหนึ่ง…

หลินสวินมั่นใจว่าขอเพียงโจมตีสภาวะจิตของอีกฝ่ายพังทลาย แม้จะสามารถรักษาชีวิตไว้ได้ รอดชีวิตมาก็เป็นแค่คนไร้ประโยชน์ ต่อให้สามารถฟื้นฟูและรักษาพลังปราณไว้ได้ ชีวิตนี้ก็เลิกคิดจะก้าวขึ้นสู่มรรคาอมตะ!

เพียงแต่อยากทำได้ถึงขั้นนี้ไม่ง่ายเลย

ถึงอย่างไรพวกที่สามารถก้าวสู่ระดับมกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิได้ สภาวะจิตล้วนถูกเคี่ยวกรำจนแข็งแกร่งอย่างที่สุด กร้าวแกร่งยิ่งยวด ไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะเทียบได้

‘กับคนประเภทนี้ วิธีโจมตีจิตใจจำพวกการทรมาน เย้ยหยัน ท้าทายล้วนไม่มีประโยชน์ หากอยากโจมตีสภาวะจิตของอีกฝ่ายให้สลาย ก็ต้องสร้างแรงโจมตีที่อันตรายถึงชีวิตในพลังที่เขามั่นใจที่สุด ให้เขาใช้ชีวิตอยู่ในเงามืดของข้าทั้งชีวิต เช่นนี้สภาวะจิตของเขาก็จะสลายไปเอง…’

ในใจหลินสวินตัดสินใจแน่วแน่

จากนั้นเขาลุกขึ้นยืน เริ่มเดินสำรวจพื้นที่รอบๆ หุบเขาแห่งนี้

แม้พลังปราณถูกผนึก แต่ไม่ได้กระทบต่อการทำความเข้าใจและสัมผัสทุกสิ่งของโลกใบนี้

เวลาสองวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว

หน้าวังกระบี่หมื่นยอด บนลานมรรคที่กว้างใหญ่

วู้ม!

คลื่นแปลกประหลาดระลอกหนึ่งพวยพุ่ง ปรากฏม้วนภาพโลกที่แปลกประหลาดภาพหนึ่ง ในนั้นภูผาธารากว้างใหญ่ไพศาล ยิ่งใหญ่เกรียงไกร

เป็นสมรภูมิหมื่นยอดนั่นเอง

ช่วงที่ผ่านมานี้มีผู้ฝึกปราณรออยู่บริเวณรอบๆ นานแล้ว ล้วนหยุดพูดคุยในชั่วขณะนี้ สายตามองไปยังโลกสมรภูมิหมื่นยอดที่ปรากฏออกมาโดยพร้อมเพรียง

“การทดสอบรอบที่หนึ่งกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว!”

ผู้คนที่รอมานานแล้วตอนนี้ต่างอดตื่นเต้นไม่ได้

ผ่านมาหลายปีกว่าหอบรรพจารย์ลัทธิแรกกำเนิดจะประกาศรับผู้สืบทอดอีกครั้ง โอกาสเช่นนี้ไม่อาจร้องขอ ดึงดูดความสนใจของขุมอำนาจในน่านฟ้าต่างๆ

อย่างในครั้งนี้ กระทั่งทายาทของสี่ขุมอำนาจยักษ์ใหญ่แห่งน่านฟ้าที่แปดยังเข้าร่วม เรียกได้ว่าคึกคักอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

และตอนนี้การทดสอบรอบแรกกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว จะมีมกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิที่โดดเด่นมากเท่าไรสามารถผ่านด่านไปได้อย่างราบรื่น

ท่ามกลางบรรยากาศเคร่งขรึมและเงียบสงบ ฟางเต้าผิงรองหัวหน้าหอแรกพิสุทธิ์ปรากฏตัวหน้าวังกระบี่หมื่นยอด พร้อมด้วยผู้อาวุโสทั้งสามอย่างตงหวงชิง เซียวเหวินหยวน หลีเจิน

ดึงดูดความสนใจของทั้งที่นั้นทันที

ฟางเต้าผิงเอามือไพล่หลัง เอ่ยเรียบๆ ว่า “มกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิที่เข้าร่วมการคัดเลือกผู้สืบทอดลัทธิแรกกำเนิดครั้งนี้มีทั้งหมดหนึ่งร้อยเก้าคน หลังจากการทดสอบเริ่มขึ้น ทุกท่านจะได้เห็นการต่อสู้ที่เกิดขึ้นในสมรภูมิหมื่นยอด”

“และก็หมายความว่า ทุกท่านจะเป็นพยานของการทดสอบครั้งนี้”

“เงื่อนไขของข้าเรียบง่ายมาก ไม่ว่าเป็นใคร ไม่ว่ามีที่มาอย่างไร เบื้องหลังเป็นอย่างไร ในการทดสอบหากมีการทุจริตหรือฝ่าฝืนกฎการทดสอบ ล้วนถูกคัดออกทันที”

คำพูดนี้ราวกับเสียงระฆังยามเช้าเสียงกลองยามค่ำ ทำให้ในใจทุกคนหวั่นเกรง

ยึดมั่นตามกฎ!

นี่ก็คือจุดยืนของฟางเต้าผิง และเป็นจุดยืนของหอแรกพิสุทธิ์และหอบรรพจารย์ลัทธิแรกกำเนิด!

สิ้นเสียง ฟางเต้าผิงพลันพยักหน้าให้กับเซียวเหวินหยวน

เซียวเหวินหยวนก้าวมาข้างหน้าทันที คทาหยกสมปรารถนาในโบกสะบัดเบาๆ

โลกสมรภูมิหมื่นยอดที่แผ่ออกมาราวกับม้วนภาพที่ลอยอยู่กลางอากาศนั้น เกิดเป็นระลอกคลื่นขึ้นในชั่วขณะนี้

จากนั้นในสมรภูมิหมื่นยอดปรากฏเงาร่างของมกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิหนึ่งร้อยเก้าคนที่เข้าร่วมการทดสอบ เหมือนตัวหมากที่ยุ่งเหยิงมากมาย กระจายอยู่ในสถานที่ที่แตกต่างกันในโลกนั้น

ทันใดนั้นบริเวณลานมรรคำพลันฮือฮา เสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังขึ้นทั่วทุกทิศ

“ดูนั่น นั่นตงหวงเซ่าเหวินมกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิที่แข็งแกร่งที่สุดในรุ่นนี้ของตระกูลตงหวง ฉายาบุตรกิเลนของน่านฟ้าที่แปด มีอภินิหารพรสวรรค์ต้องห้ามน่ากลัว ว่ากันว่าเขาเคยข้ามระดับไปสังหารระดับอมตะ!”

“คนผู้นั้นก็คือฉีชิงซือ ตั้งแต่ก้าวสู่ระดับมกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิ หมื่นศึกไม่เคยพ่าย โดดเด่นเหนือเหล่าผู้กล้า เป็นเทพธิดาที่น่าทึ่งอย่างที่สุดคนหนึ่งในน่านฟ้าที่แปด”

“เห็นหรือยัง นั่นคือมู่จุนอู๋ ‘บนมหามรรคมีเพียงข้าที่อยู่เหนือสุด’! เป็นพวกน่ากลัวปานไร้ศัตรู!”

……

เสียงพูดคุยต่างๆ ดังขึ้น ในที่นั้นเกิดการวิจารณ์อย่างดุเดือด

มกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิหนึ่งร้อยเก้าคนที่เข้าร่วมการทดสอบครั้งนี้ ทุกคนล้วนเรียกได้ว่าเป็นพวกเย้ยฟ้าในระดับเดียวกัน ต่างมีอานุภาพชื่อเสียง และความองอาจล้นฟ้า

หากเป็นเมื่อก่อน พวกเขาคือบุคคลโดดเด่นยิ่งยวดในแต่ละน่านฟ้า ดุจดั่งสุริยันที่ส่องสว่างโลกฟากหนึ่งแต่เพียงผู้เดียว

ตอนนี้มาล้วนรวมตัวกันในสมรภูมิหมื่นยอด กำลังจะชิงชัยกัน นี่จะไม่ให้ผู้คนจิตใจไหวหวั่นเฝ้ารอคอยได้อย่างไร

“บนเส้นทางจักรพรรดิ ระดับมกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิอยู่เหนือโลกหล้า ประหนึ่งไร้ศัตรู ยามนี้เหล่ามกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิรวมตัว กำลังจะชิงชัยถกมรรค เหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้พันหมื่นปียากจะเจอสักครั้ง!”

มีเฒ่าดึกดำบรรพ์ถอนหายใจไม่หยุด

เงาร่างของหลินสวินดึงดูดสายตามากเช่นกัน ถึงขั้นมากกว่าผู้เข้าร่วมการทดสอบคนอื่นๆ

เพราะทุกคนล้วนรู้ดีว่าเมื่อการทดสอบเริ่มขึ้น หลินสวินย่อมกลายเป็นเป้า ถูกศัตรูเหล่านั้นโจมตีสังหาร!

“เริ่มการทดสอบ!”

เซียวเหวินหยวนเอ่ยเสียงดังกังวานไปทั่วทั้งที่นั้น

แทบจะในเวลาเดียวกัน

ผู้แข็งแกร่งที่กระจายอยู่ในพื้นที่ที่แตกต่างกันของสมรภูมิหมื่นยอด ล้วนสัมผัสได้ว่าพลังปราณที่ถูกผนึกฟื้นคืนมาในชั่วขณะนี้

นี่หมายความว่าการทดสอบเริ่มขึ้นแล้ว!

ในหุบเขา

หลินสวินพลันลืมตาจากการนั่งสมาธิ

เขาลุกขึ้นกวาดมองรอบๆ ชุดขาวพระจันทร์โบกสะบัดจนเกิดเสียง ไอสังหารที่พลุ่งพล่านหาใดเปรียบปรากฏขึ้นในใจ

เขาไม่ได้ปกปิด และไม่ได้ซ่อนกลิ่นอายใดๆ บนร่าง เอามือไพล่หลังเดินออกจากหุบเขา

สง่าผ่าเผย!

หลายปีมานี้เขาถูกขุมอำนาจศัตรูมากมายตามฆ่า ถูกมองอย่างหยามเหยียดว่าเป็นเศษเดนคีรีดวงกมล ไม่ว่าเดินไปถึงไหนล้วนต้องปกปิดร่องรอย อดทนข่มไอสังหาร ลงมืออย่างเก็บงำ

แม้แต่หน้าวังกระบี่หมื่นยอดก่อนหน้านี้ เขากับศิษย์พี่จวินฮวนก็ถูกขุมอำนาจศัตรูเหล่านั้นท้าทายและเย้ยหยันอย่างต่อเนื่อง

ทว่าตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป ในอาณาเขตของหอบรรพจารย์ลัทธิแรกกำเนิด ในสมรภูมิหมื่นยอดแห่งนี้ เขาจะไม่หลบซ่อนตัวเหมือนก่อนหน้านี้อีกแล้ว!

……………………..

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท