ตอนที่ 2726 ดินแดนนามชางถู
สาเหตุที่ภารกิจเก้าดาราเป็นภารกิจเก้าดารา ก็ด้วยมันเป็นภารกิจที่ยากที่สุด
ผู้สืบทอดในหอบรรพจารย์ลัทธิแรกกำเนิด แต่ละคนล้วนเหมือนปีศาจและวิปริต ทว่าผู้ทำภารกิจเก้าดาราสำเร็จเพียงลำพังได้อย่างแท้จริงกลับมีจำนวนแค่นับนิ้วได้
ตัวอย่างเช่นการล่าเจ้าแห่งวิญญาณร้าย ผู้สืบทอดที่รับภารกิจนี้ไปก่อนหลินสวิน แทบไม่มีใครเคลื่อนไหวเพียงลำพังสักคน
เทียบกับภารกิจนี้แล้ว การหลอมพลังระเบียบระดับสวรรค์ขั้นหกขึ้นไปสายหนึ่งย่อมลำบากกว่าโดยไม่ต้องสงสัย
หนึ่งคือด้วยอันตราย
สองเป็นเพราะพลังระเบียบระดับนี้มีน้อยและยากพบเห็นเกินไป ไม่อาจร้องขอ เมื่อไหร่ก็ตามที่ปรากฏขึ้นสายหนึ่งจะชักนำมาซึ่งพายุโลหิต
สิ่งสำคัญกว่าคือ ในม้วนหยกภารกิจไม่ได้บันทึกว่าพลังระเบียบระดับนี้อยู่ที่ไหน
นี่ก็หมายความว่าผู้รับภารกิจได้แต่ไปเสาะหาด้วยตัวเอง
‘เมื่อวานเพิ่งกลับมาจากแดนบาป วันนี้เจ้าหมอนี่ยังไปรับภารกิจเก้าดาราอีกหรือ’
หอแรกมายา ในถ้ำสถิตแห่งหนึ่ง ผู้อาวุโสลี่เป่ยสิงรู้สึกผิดคาดอย่างอดไม่ได้
พริบตาแรกที่หลินสวินรับภารกิจก็ถูกเขาสังเกตเห็น
‘ภารกิจครั้งนี้ตึงมืออยู่บ้างแล้ว…’
ลี่เป่ยสิงรู้ว่าอยากวางแผนจัดการหลินสวินล่วงหน้าเหมือนครั้งก่อนคือเรื่องที่เป็นไปไม่ได้แล้ว
เพราะใครก็ไม่อาจแน่ใจว่าหลินสวินจะไปเสาะหาพลังระเบียบระดับสวรรค์ขั้นหกขึ้นไปที่ไหน
นอกเสียจากว่าจะสะกดรอยตามเขาเมื่อออกจากแดนแรกเริ่มไป
แต่หากทำเช่นนั้นฐานะจะเปิดเผยได้โดยง่าย
ลี่เป่ยสิงคิดดูครู่หนึ่งแล้วส่งข่าวไปด้วยการใช้สารลับทันที
ยอดเขาที่สาม
ในตำหนักเก่าแก่หลังหนึ่ง หนานป๋อหงที่กำลังประชุมอยู่ได้รับข่าวจากลี่เป่ยสิง
เขาเลิกคิ้ว จากนั้นจึงเก็บสารลับโดยไม่แสดงสีหน้า เงียบไปครู่หนึ่งค่อยกล่าว “ส่งคนไปจับตามองค่ายกลเคลื่อนย้ายโบราณที่เข้าออกแดนแรกเริ่ม หากพบร่องรอยของเจ้าหลินสวินนั่น ต้องใช้ ‘ยันต์มรรคแรดวิญญาณ’ ส่งข่าวบอกข้าทันที”
“ขอรับ”
ผู้อาวุโสคนหนึ่งจากไปอย่างรีบเร่ง
…
หลังจากหลินสวินรับภารกิจเก้าดาราครั้งที่สอง ก็ก่อให้เกิดคำวิพากษ์วิจารณ์อันร้อนแรงในสามหอเก้ายอดเขา
“ศิษย์น้องหลินสวินทำเช่นนี้ มีความเป็นไปได้แค่สองอย่าง หากไม่ทำเพื่อศึกษามรดกอมตะในเขาตำรา ก็ทำเพื่อกลายเป็นผู้สืบทอดสามหอ!”
บนโลกนี้ไม่เคยขาดคนฉลาด เห็นว่าหลินสวินรับภารกิจเก้าดาราครั้งที่สองไปเช่นนี้ ทุกคนย่อมเดาเค้าเงื่อนบางส่วนออกอย่างอดไม่ได้
“ในประวัติศาสตร์สำนักของพวกเรา ศิษย์น้องหลินสวินน่าจะเป็นผู้สืบทอดที่กลายเป็นศิษย์แกนหลักได้เร็วที่สุด ไม่มีใครเทียม ตอนนี้เขายังคิดใช้วิธีเดียวกันเพื่อกลายเป็นศิษย์สามหออีกหรือ”
คนบางส่วนตกตะลึง
“บางทีศิษย์น้องหลินสวินอาจทำเพื่อทะลวงระดับอมตะโดยเร็ว! ด้วยรากฐานและมรรควิถีของเขา เกรงว่าคงมีศักยภาพแฝงในการทะลวงระดับอมตะอยู่ก่อนแล้ว”
บางคนที่เป็นศิษย์แกนหลักเหมือนกันรู้สึกกดดันมากอย่างอดไม่ได้
“ทุกคนก็ต้องพยายามแล้ว ศิษย์น้องหลินสวินยิ่งสำแดงความสามารถโดดเด่น ยิ่งขับเน้นให้พวกเราดูดาษดื่นและไม่ได้ความ หรือทุกคนอยากอยู่ในเงามืดของศิษย์น้องหลินสวินชั่วชีวิต”
มีคนกล่าวอย่างขุ่นเคือง
“ถูกต้อง! ยอมแพ้เช่นนี้ไม่ได้เด็ดขาด!”
บรรยากาศบนเก้ายอดเขาใหญ่ล้วนเปลี่ยนไปทันที ผู้สืบทอดมากมายต่างอัดอั้น ฝึกปราณอย่างบากบั่นขึ้นมา
แม้แต่เหล่าคนใหญ่คนโตในลัทธิแรกกำเนิดยังคิดไม่ถึง ว่าเพราะการกระทำบางส่วนในช่วงนี้ของหลินสวิน ถึงกับทำให้ศิษย์ร่วมสำนักพวกนั้นเหมือนถูกกระตุ้น เริ่มปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น
แน่นอนว่านี่เป็นเรื่องดี!
แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนแปลกใจคือ หลังจากรับภารกิจเก้าดาราที่สองไป หลินสวินไม่ได้ไปทำภารกิจ หากแต่ฝึกปราณในถ้ำสถิตของตนตลอด
กระทั่งผ่านไปครึ่งเดือน
เขาไม่ได้เคลื่อนไหวสักนิด
นี่ทำให้ผู้นำยอดเขาที่สามหนานป๋อหงรู้สึกผิดคาดอย่างอดไม่ได้ หรือเจ้าหมอนี่จะสังเกตเห็นอันตรายจึงคิดจำศีลช่วงหนึ่งแล้ว?
นานเข้าก็ไม่มีคนสนใจเรื่องนี้เท่าไหร่
แต่บนยอดเขาที่เก้า หลินสวินเฝ้ารอโดยการฝึกตนมาตลอด
ไม่มีใครรู้ว่าวันเดียวกับที่เขารับภารกิจเก้าดาราครั้งที่สอง ผู้นำยอดเขาที่เก้าฉินอู๋อวี้ก็มาหาถึงที่ กล่าวเตือนเขาว่าอย่าออกไปทำภารกิจคนเดียวอีก
แน่นอนว่าหลินสวินแปลกใจมาก
ตอนนั้นคำตอบของฉินอู๋อวี้คือ ต่อให้ออกไปทำภารกิจก็ต้องมีคนไปเป็นเพื่อน และตัดสินใจส่งผู้อาวุโสโม่หลันซานออกเดินทางไปพร้อมหลินสวิน
เพียงแต่ต้องรออีกหนึ่งเดือน เพราะโม่หลันซานกำลังหลอมสมบัติชิ้นหนึ่ง มีเพียงรอเขาออกด่านจึงจะเดินทางไปพร้อมหลินสวินได้
เมื่อหลินสวินรู้เรื่องพวกนี้ในใจก็เอ่อล้นด้วยความอบอุ่นอย่างอดไม่ได้
คราวนี้เขาจึงรู้ว่าผู้นำยอดเขาสนใจทุกการเคลื่อนไหวของเขามาตลอด สาเหตุที่ส่งผู้อาวุโสโม่หลันซานมาเป็นเพื่อน เห็นชัดว่าห่วงว่าเขาเจออันตรายยามปฏิบัติภารกิจ
นี่จะไม่ให้หลินสวินซาบซึ้งได้อย่างไร
เวลาหนึ่งเดือนมาถึงอย่างรวดเร็ว
วันนี้ยามหลินสวินกำลังฝึกปราณ โม่หลันซานก็มาเยือน
“หลินสวิน ให้เจ้ารอนานแล้ว”
เมื่อเจอหลินสวิน โม่หลันซานอมยิ้มกล่าวอย่างอดไม่ได้
“ศิษย์ได้ร่วมทางกับผู้อาวุโสถือเป็นเกียรติใหญ่หลวงแล้ว เฝ้ารอช่วงหนึ่งจะเป็นไร” หลินสวินประสานมือคารวะ
โม่หลันซานหัวเราะเบิกบานขึ้นมาค่อยกล่าว “ผู้นำยอดเขากำชับข้าไว้แล้ว ออกไปปฏิบัติภารกิจครั้งนี้ ข้าแค่ดูแลความปลอดภัยตลอดทางของเจ้า แต่ไม่ก้าวก่ายภารกิจของเจ้า หรือพูดได้ว่าภารกิจเก้าดารานี้เจ้าต้องทำให้สำเร็จเอง”
หลินสวินก็ยิ้มเช่นกัน “เท่านี้ก็พอแล้ว”
“เจ้าคิดไปเสาะหาพลังระเบียบที่ไหน” โม่หลันซานเอ่ยถาม
หลินสวินนำม้วนหยกหนึ่งออกมามอบแก่โม่หลันซานพลางกล่าว “นี่คือม้วนหยกที่ผู้นำยอดเขาเตรียมไว้ให้ข้าเมื่อหนึ่งเดือนก่อน บนนั้นบันทึกสถานที่ในโลกสิบสามแห่งซึ่งเป็นไปได้สูงว่าระเบียบระดับสวรรค์จะก่อเกิดไว้ ผู้อาวุโสโปรดตรวจสอบด้วย”
โม่หลันซานรับมาไว้ในมือแล้วอ่านดู เขาอดไหวหวั่นไม่ได้ กล่าวทอดถอนใจ “ตอนนั้นผู้นำยอดเขาดูต่อต้านการให้เจ้าเข้ามายังยอดเขาที่เก้า แต่ตอนนี้เห็นชัดว่าไม่มองเจ้าเป็นคนนอกแล้ว”
หลินสวินพยักหน้า “ข้าย่อมจะไม่ทำให้ผู้นำยอดเขาผิดหวัง”
ข้อมูลในม้วนหยกเรียกได้ว่าล้ำค่า เป็นสิ่งที่ฉินอู๋อวี้ทุ่มเทอย่างมากในการคัดกรองข้อมูลจากตำราเก่าแก่มากมายในเขาตำราออกมา เป้าหมายก็เพื่อให้หลินสวินทำภารกิจเก้าดาราครั้งที่สองนี้ได้สำเร็จโดยเร็ว!
เท่านี้ก็รู้แล้วว่าในใจฉินอู๋อวี้ให้ความสำคัญกับหลินสวินเพียงใด
วันนั้นหลินสวินใช้ค่ายกลเคลื่อนย้ายโบราณออกจากแดนแรกเริ่มไปพร้อมโม่หลันซาน
ทันทีที่พวกเขาจากไป ผู้นำยอดเขาที่สามหนานป๋อหงก็ได้ข่าว แต่เมื่อรู้ว่าโม่หลันซานออกไปพร้อมหลินสวิน สีหน้าหนานป๋อหงขรึมลงทันที
‘เจ้าฉินอู๋อวี้ตัวดี!’
นัยน์ตาหนานป๋อหงฉายแววเยียบเย็น เขารู้ดีว่าหากฉินอู๋อวี้ไม่ตอบรับและออกหน้าให้ ด้วยฐานะของหลินสวินย่อมไม่อาจเรียกใช้ผู้อาวุโสคนหนึ่งอย่างโม่หลันซานให้เคลื่อนไหวพร้อมกันได้
หนานป๋อหงเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนก้าวออกจากถ้ำสถิตไป
หากจัดการหลินสวินแค่คนเดียว ด้วยพลังที่เขาครอบครองย่อมรับมือได้มากเกินพอ
แต่หากมีโม่หลันซานเพิ่มมาอีกคน…
เรื่องนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่เขาจัดการได้เพียงลำพัง
…
ส่วนลึกของทะเลหมื่นดารา ในจักรวาลโกลาหลแห่งนั้น
วังวนที่ควบรวมจากเงาโลกสามพันหกร้อยกว่าแห่งแต้มแต่งอยู่ตามบริเวณต่างๆ ของจักรวาลแห่งนั้น ทุกวังวนล้วนเชื่อมต่อไปยังโลกที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
ตอนนั้นหลินสวินก็มาที่นี่ เสาะหาประตูเชื่อมต่อไปยังแดนบาปเพื่อล่าเจ้าแห่งวิญญาณร้าย
จักรวาลโกลาหลแห่งนี้ถูกลัทธิแรกกำเนิดเรียกว่า ‘เขตแดนแปรปรวน’
ประตูน้ำวนสามพันกว่าแห่งที่กระจายอยู่ในเขตแดนแปรปรวน ล้วนเกิดจากการที่เหล่าผู้อาวุโสแห่งลัทธิแรกกำเนิดใช้ยอดอภินิหารควบรวมเมื่อนานมาแล้ว
ส่วนโลกด้านหลังประตูน้ำวนพวกนี้ ล้วนตั้งอยู่ในเขตแดนฟ้าดาราระหว่างน่านฟ้าที่เจ็ดกับน่านฟ้าที่แปด
สามารถไปถึงเขตแดนฟ้าดาราบนนภาสูงเก้าหมื่นจั้งจากน่านฟ้าที่เจ็ดได้เช่นกัน แต่ถ้าอยากไปถึงโลกสามพันหกร้อยกว่าแห่งนั้นกลับแทบไม่มีทาง
ด้วยเขตแดนฟ้าดารานั้นกว้างใหญ่เกินไป มีโลกหลายหลากกระจายอยู่ไม่รู้เท่าไหร่
โลกสามพันหกร้อยกว่าแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ซึ่งเหล่าผู้อาวุโสแห่งลัทธิแรกกำเนิดสืบหาและสำรวจหลายปีกว่าจะระบุได้ทีละแห่ง ทั้งเปิดอุโมงค์มิติที่เชื่อมต่อไปยังโลกพวกนี้ไว้ด้วย
“พวกเราเริ่มเสาะหาจากโลกขุมอุดมเป็นอย่างไร”
เงาร่างของโม่หลันซานกับหลินสวินปรากฏอยู่ใกล้เขตแดนแปรปรวน
“ขอรับ”
หลินสวินรับคำอย่างยินดี
ไม่นานเงาร่างของทั้งสองก็หายลับไป
เวลาล่วงเลยไปวันแล้ววันเล่า สามเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ร่องรอยของโม่หลันซานกับหลินสวินปรากฏในโลกแห่งแล้วแห่งเล่า เดินทางอย่างยากลำบาก ไม่ถึงขั้นอันตราย แต่เหน็ดเหนื่อยยิ่งนัก
โลกแต่ละแห่งนั้นล้วนกว้างใหญ่ไพศาล ต่อให้มีม้วนหยกของผู้นำยอดเขาฉินอู๋อวี้ชี้แนะ แต่เมื่อทั้งสองคนมุ่งหน้าไปเสาะหา เรื่องราวก็ไม่เป็นดั่งใจอยู่บ่อยครั้ง
สถานที่ซึ่งเป็นไปได้สูงว่ามีพลังระเบียบก่อเกิดพวกนั้น หากไม่ถูกคนตัดหน้าชิงเก็บพลังระเบียบที่ถือกำเนิดในนั้นไปก่อน
ก็ไม่มีพลังระเบียบอยู่แต่แรก
นี่ทำให้หลินสวินหมดคำพูดและจนปัญญาไปพักหนึ่ง
พลังระเบียบระดับสวรรค์หายากและพบเห็นได้น้อยนัก แม้ว่ามีเป้าหมายให้เสาะหา แต่ยังผิดหวังกลับมาหลายต่อหลายครั้ง นี่ทำให้หลินสวินอดสงสัยไม่ได้ ภารกิจเก้าดาราที่รับมาครั้งนี้เป็นการเลือกที่ผิดพลาดหรือไม่
แต่ประสบการณ์ระหว่างทางกลับทำให้หลินสวินเปิดโลกทัศน์ไม่น้อย
โลกแต่ละแห่งนั้นล้วนมีอารยธรรมและขุมอำนาจฝึกปราณที่แตกต่างกัน หลากหลายลักษณะ ทัศนียภาพแปลกตา ส่วนใหญ่ล้วนเป็นสิ่งที่หลินสวินไม่เคยได้ยินและไม่เคยพบเห็น
โลกบางแห่งถึงขั้นมีผู้แข็งแกร่งระดับอมตะไม่น้อยสร้างอำนาจอยู่ในนั้น
แน่นอนว่าหลินสวินกับโม่หลันซานเหมือนคนผ่านทาง รีบมารีบไป ไม่เจออุปสรรคอันตรายอะไร
ไม่ต้องพูดถึงหลินสวิน อาศัยเพียงมรรควิถีขั้นดับเทพของโม่หลันซาน ย่อมวางอํานาจบาตรใหญ่ในโลกพวกนั้นได้แล้ว
ระหว่างทางโม่หลันซานยังชี้แนะหลินสวินไม่น้อย ทำให้หลินสวินได้รับประโยชน์อย่างมาก
สามคนที่เดินมาต้องมีสักคนเป็นครูของเรา
ยิ่งไปกว่านั้น โม่หลันซานเป็นถึงสัตว์ประหลาดเฒ่าระดับอมตะที่มีชีวิตอยู่มาไม่รู้กี่หมื่นปีคนหนึ่ง การร่วมทางกับเขาก็เหมือนมีอาจารย์อยู่ข้างๆ
วันนี้เงาร่างของโม่หลันซานกับหลินสวิน ปรากฏอยู่ในโลกที่เก้าซึ่งระบุไว้ในม้วนหยก
โลกนี้มีนามว่า ‘ชางถู’
จากเบาะแสในม้วนหยก ทั้งสองคนใช้เวลาไม่กี่วันก็มาถึงส่วนลึกของเทือกเขาแห่งหนึ่งนาม ‘สะเก็ดดาว’ ในโลกชางถู
“เจ้าดู ห่างออกไปประกายดาราอบอวล บดบังฟ้าคลุมตะวัน ราวกับลักษณ์แห่งจักรวาลแรกกำเนิด มีลักษณ์ประหลาดเช่นนี้ เห็นได้ว่าที่นั่นต้องมีพลังระเบียบถือกำเนิดแน่!”
บนท้องฟ้าเหนือหมู่เขา โม่หลันซานชายเสื้อพลิ้วไหว ยื่นมือชี้ไปยังที่ห่างไกล สีหน้าฉายแววยินดี
เดินทางอย่างยากลำบากมาสามเดือนกว่า ในที่สุดก็เหมือนได้เห็นความหวังบ้างแล้ว!
หลินสวินคึกคักขึ้นมา เงยหน้ามองไปยังสถานที่นั้น