Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 2854 ฆ่าหนอนบ่อนไส้

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 2854 ฆ่าหนอนบ่อนไส้

ตอนที่ 2854 ฆ่าหนอนบ่อนไส้

ในใจเฉาเป่ยโต้วและอวิ๋นเทียนหมิงเย็นวาบ พยักหน้าโดยพร้อมเพรียง

“ไป”

หยวนฉางเทียนเคลื่อนตัวมุ่งหน้าไกลออกไป

“ผู้อาวุโสหยวน นี่พวกเราจะไปไหนหรือ”

ระหว่างทางเฉาเป่ยโต้วอดถามไม่ได้

“ออกจากแดนมารบูรพา”

หยวนฉางเทียนกล่าวง่ายๆ “เวลาต่อจากนี้จะได้ไม่ต้องบังเอิญไปเจอกับหลินสวินโดยไม่ตั้งใจ หากเป็นเช่นนี้ตัวข้าไม่เป็นไรหรอก แต่มันจะไม่ดีสำหรับพวกเจ้า”

ในใจเฉาเป่ยโต้วและอวิ๋นเทียนหมิงอึดอัดระลอกหนึ่ง

แต่พวกเขาก็ไม่อาจไม่ยอมรับ เวลานี้พวกเขาไม่อยากเจอหลินสวินจริงๆ

เพียงแต่เวลาแค่ครึ่งชั่วยามให้หลัง

หยวนฉางเทียนชะงักเท้าหยุดกึก หัวคิ้วขมวดน้อยๆ

บริเวณไกลโพ้นเงาร่างสองสายยืนอยู่กลางอากาศ เป็นหลินสวินและหลีเจิน!

“เป็นไปได้อย่างไร…”

เฉาเป่ยโต้วและอวิ๋นเทียนหมิงหน้าเปลี่ยนสีน้อยๆ สถานการณ์ที่ไม่อยากพบเจอที่สุดกลับดูเหมือนจะเกิดขึ้นแล้ว

“บังเอิญนัก ถึงกับพบพี่หลินและผู้อาวุโสหลีอยู่ที่นี่”

หยวนฉางเทียนยิ้มสดใส ก้าวขึ้นไปต้อนรับ

“ไม่บังเอิญสักนิด เพื่อตามหาพวกท่าน ข้าคนแซ่หลินต้องเสียเวลาตั้งหลายวัน ยังดีในที่สุดพวกเราก็พบกันที่นี่ หาไม่เกรงว่าหาทั่วทั้งแดนมารบูรพาก็คงไม่ได้พบทุกท่าน”

หลินสวินกล่างราบเรียบ

ประโยคเดียวทำเอาในใจเฉาเป่ยโต้วและอวิ๋นเทียนหมิงหนักอึ้งอีกครั้ง เจ้าหลินสวินนี่มาเพื่อแก้แค้นดังคาด!

หยวนฉางเทียนถอนใจยาวกล่าวว่า “พี่หลิน พวกเราล้วนเป็นตัวแทนลัทธิแรกกำเนิดเข้าร่วมศึกมรรคครั้งนี้ พอจะถอยสักก้าวได้หรือไม่ อย่าเพิ่งเปิดศึกกันเองในแดนมารสิบทิศนี้ก่อนชั่วคราว หาไม่หากถูกคนอื่นเห็น คนที่ขายหน้าก็คือลัทธิแรกกำเนิดของพวกเรา”

“ตอนเอาข้าไปขายก็ไม่เห็นผู้อาวุโสหยวนจะคำนึงว่าข้าเป็นหนึ่งในคนของลัทธิแรกกำเนิด” หลินสวินยิ้มเย็น “หรือจะบอกว่าเรื่องนี้ก็มีผู้อาวุโสหยวนพัวพันด้วย”

ไม่ไกลนักเฉาเป่ยโต้วตะคอก “หลินสวิน เจ้าเป็นแค่ผู้ดูแล กล่าวกับผู้อาวุโสหยวนเช่นนี้ได้อย่างไร”

“ไส้ศึกอย่างเจ้ามีคุณสมบัติอะไรมากล่าวหาข้าคนแซ่หลิน”

ขณะเอ่ยหลินสวินย่างเท้าเดินเข้ามาแล้ว นัยน์ตาดำลึกล้ำจนน่ากลัว “ข้าบอกตรงๆ ให้ก็ได้ วันนี้ข้าคนแซ่หลินมาช่วยสำนักกำจัดไส้ศึก!”

เฉาเป่ยโต้วหน้าเปลี่ยนสียกใหญ่ “บังอาจ เจ้ากล่าวหาว่าร้ายกันไม่พอ ยังคิดจะลงมืออุกอาจทำร้ายคนด้วยหรือ”

หยวนฉางเทียนกลับคล้ายสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง นัยน์ตาหดรัดกล่าวว่า “ขั้นดับเทพขั้นกลาง! นึกไม่ถึงว่าเพิ่งเข้าแดนมารสิบทิศแค่สองเดือน พลังปราณของพี่หลินถึงกับทะลวงไปอีกหนึ่งขั้นแล้ว ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยมจริงๆ!”

เขาตกใจมาก ไม่ได้ปิดบังสักนิด

เวลาสองเดือน จากขั้นดับเทพขั้นต้นเลื่อนเป็นขั้นดับเทพขั้นกลาง ความเร็วในการพัฒนานี้น่าเหลือเชื่อชัดๆ!

“อะไรนะ!?”

เฉาเป่ยโต้วและอวิ๋นเทียนหมิงต่างก็สะดุ้งตกใจเช่นกัน

หลินสวินตอนอยู่ขั้นดับเทพขั้นต้น พลังต่อสู้ยังเย้ยฟ้าขนาดนั้นแล้ว ตอนนี้จะน่าสะพรึงถึงเพียงใดอีกกัน

“ผู้อาวุโสหยวน หากท่านจะขัดขวาง นั่นเท่ากับเป็นศัตรูของข้าคนแซ่หลิน หากท่านไม่ยินดีเป็นพรรคพวกเดียวกับไส้ศึกสองคนนี้ ต่อจากนี้อย่ายื่นมือเข้าแทรกเรื่องนี้จะดีที่สุด”

ในเสียงเรียบเฉยเงาร่างหลินสวินพริบไหว พุ่งไปทางเฉาเป่ยโต้วและอวิ๋นเทียนหมิงแล้ว

ตูม!

เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งพาดขวางออกไป สาดแสงมรรคไพศาล พลังกาลเวลาหนาแน่นผลุบโผล่ พุ่งเข้าใส่เฉาเป่ยโต้วพร้อมกับหลินสวิน

“หลินสวิน นี่เจ้ากำลังปีนเกลียวอยู่ หากให้สำนักรู้เข้าต้องไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่!!”

เฉาเป่ยโต้วตะโกนลั่น สีหน้าไม่น่ามอง

ขณะพูดการเคลื่อนไหวของเขาไม่ได้อืดอาด เร่งกระตุ้นกระบี่มรรคเล่มหนึ่งฟันออกไป

ฟุ่บ!

ปราณกระบี่ท่วมท้น กฎเกณฑ์พลุ่งพล่าน ดุดันอหังการอย่างถึงที่สุด

จากจุดนี้จะเห็นว่าบุคคลใดก็ตามที่สามารถรับตำแหน่งผู้อาวุโสลัทธิแรกกำเนิด แต่ละคนล้วนมีพลังต่อสู้เหนือกว่าคนระดับเดียวกัน เทียบกับผู้เข้าร่วมศึกสิบยักษ์ใหญ่อมตะเหล่านั้นล้วนแข็งแกร่งกว่าอยู่บ้าง

ทว่าน่าเสียดาย หลินสวินที่เหยียบย่างขั้นดับเทพขั้นกลางห่างไกลเกินกว่าเมื่อก่อนจะเทียบได้นานแล้ว

เขาไม่ได้ใช้อภินิหารพรสวรรค์ใดๆ เพียงใช้เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งซัดโจมตีตรงๆ

เสียงสนั่นอึงอลน่าสะพรึงดังกึกก้อง ปราณกระบี่ที่เฉาเป่ยโต้วฟันออกมาถูกบดขยี้แตกกระจุยตรงๆ ทำเอาฟ้าดินล้วนปั่นป่วนในบัดดล

เฉาเป่ยโต้วนัยน์ตาหดรัด เค้นมรรควิถีทั้งหมดกระตุ้นกระบี่มรรคฟันออกไป

เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง!

กระบี่แต่ละสายล้วนดุดันอหังการ น่าสะพรึงสุดขั้ว ฟันลงบนเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งที่กดดันเข้ามาเต็มแรง

ทว่าฟันออกไปนับร้อยนับพันกระบี่ติดต่อกันก็ไม่สามารถต้านทานอานุภาพกำราบของเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งได้ มีเพียงปราณกระบี่ท่วมฟ้าแตกสลายไม่หยุด ดูงดงามสุดขั้ว

เฉาเป่ยโต้วหน้าเปลี่ยนสีโดยสิ้นเชิง ถอยออกมาหมายจะเบี่ยงหลบ

ชิ้ง!

กระบี่มรรคเล่มหนึ่งพุ่งปราดออกมาจากเตากระบี่ไร้ก้นบึ้ง ฟันออกไปด้วยความเร็วน่าเหลือเชื่อ

ฉัวะ!

ในช่วงคับขันหาใดเปรียบนี้ เฉาเป่ยโต้วใช้กระบี่มรรคขวางไว้ตรงหน้า ทว่าทันทีที่สัมผัสกับกระบี่มรรคของหลินสวินก็ถูกฟันขาดเป็นสองท่อน ส่วนกระบี่มรรคของหลินสวินยังอานุภาพล้นเหลือไม่ลดทอน ฟันฉับไปลง

“ผู้อาวุโสหยวนช่วยด้วย…”

เฉาเป่ยโต้วร้องลั่น เขาสีหน้าขาวซีด ในใจหวาดผวาถึงขีดสุด

พรูด!

ยังไม่ทันพูดจบหัวของเขาก็ถูกฟันหลุดร่วง โลหิตสดพุ่งกระฉูดออกจากลำคอ สาดกระเซ็นราวน้ำตกเลือด

สังหารในกระบี่เดียว!

ท่าทางการสังหารที่บดขยี้สิ้นเชิงเช่นนั้นดุจดั่งเทพไร้ศัตรู กวาดเคลื่อนทั่วโลกมนุษย์ชัดๆ!

ระหว่างขั้นตอนนี้หยวนฉางเทียนอยากพุ่งไปขัดขวางหลายต่อหลายครั้ง ไม่ว่าอย่างไรตอนนี้เฉาเป่ยโต้วก็ติดตามข้างกายเขา หากถูกฆ่าใต้จมูกเขาก็จะทำให้เขาขายหน้ายับเยินเช่นกัน

เพียงแต่หยวนฉางเทียนอดกลั้นไว้ได้ในท้ายที่สุด

หนึ่ง เพราะความแข็งแกร่งในพลังต่อสู้ที่หลินสวินสำแดงออกมาในเวลานี้ทำให้เขาตกใจเช่นกัน

สอง ก็เพราะเขาไม่อยากแตกหักกับหลินสวินในขณะนี้สักนิด นี่จะทำให้การใหญ่ของเขาล่าช้า อาจส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวไขว่คว้ามหาศุภโชคชิ้นนั้นจากแดนมารสิบทิศในอีกสิบปีให้หลังได้

อันที่จริงหยวนฉางเทียนก็รู้ว่าเรื่องพวกนี้ล้วนเป็นข้ออ้าง ว่ากันถึงที่สุดเป็นเพราะส่วนลึกในใจเขาไม่มีความมั่นใจเต็มที่ว่าจะสังหารหลินสวินได้!

ไม่ว่าอย่างไรเฉาเป่ยโต้วก็ตายใต้จมูกเขาทั้งอย่างนี้ ถูกหลินสวินสังหารด้วยอานุภาพดุจผ่าลำไผ่!

ภาพนองเลือดนั่นทำให้สีหน้าหยวนฉางเทียนปกคลุมด้วยเงาทะมึน

ส่วนอวิ๋นเทียนหมิงตกใจจนขนลุกชูชัน เผ่นหนีออกไปไกลในทันที

ต่อให้ไม่ต้องถึงขั้นกระต่ายตายหมาป่าโศกเศร้า แต่ด้วยท่าทีกอดอกดูเฉยๆ อยู่ด้านข้างของหยวนฉางเทียนก็ทำให้เขาตระหนักได้แล้ว ว่าไม่มีทางคาดหวังให้หยวนฉางเทียนสลายเคราะห์สังหารครั้งนี้ได้อีกสักนิด

ดังนั้นจึงมีแต่หนีเท่านั้น!艾琳小說

“หนีพ้นหรือ”

นัยน์ตาหลินสวินทอประกายดูแคลนเสี้ยวหนึ่งแล้วไล่ตามไปทันที

หยวนฉางเทียนมองส่งเงาร่างของหลินสวินและอวิ๋นเทียนหมิง สุดท้ายก็ไม่ได้ไปขัดขวาง

เพียงแต่มือสองข้างของเขากำแน่นอย่างควบคุมไม่อยู่ ภายในมีความเดือดดาลและอดสูทะลักล้นอย่างยากจะปกปิด

ในฐานะบุตรเทพตระกูลหยวนแห่งน่านฟ้าที่เก้า ถึงขั้นว่าข้างกายมีขั้นหลุดพ้นอย่างหยวนซีหลิวคอยปรนนิบัติรับใช้ แม้จะเข้าสู่ลัทธิแรกกำเนิดก็ได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษ ไม่มีใครกล้าไม่เคารพ

แต่ตอนนี้การเข่นฆ่าอย่างไร้ปรานีของหลินสวินกลับทำลายศักดิ์ศรีของเขาอย่างที่สุด ทำให้เขารู้สึกยากจะรับ และออกจะเสียกิริยาเป็นครั้งแรก

ดวงหน้าหล่อเหลานั้นเริ่มคล้ำเขียวขึ้นมารำไร

“ผู้อาวุโสหยวน ท่านคิดว่าหลินสวินทำเช่นนี้ถูกต้องหรือไม่”

ไม่ไกลนักจู่ๆ หลีเจินก็เอ่ยปากถาม

คำถามนี้เห็นชัดว่าระคายหูถึงเพียงนี้ หยวนฉางเทียนสูดหายใจลึกคราหนึ่งแล้วกล่าวเย็นชา “ผู้อาวุโสหลี จะถูกหรือผิด ในใจข้าและท่านต่างรู้ดี ไยต้องถามอีก”

“ผู้อาวุโสหยวนไม่ต้องเดือดดาลเช่นนี้”

หลีเจินคล้ายจงใจทิ่มแทงหยวนฉางเทียน กล่าวว่า “หลินสวินทำเช่นนี้ก็เพื่อกำจัดคนทรยศให้สำนักของเรา จะว่าไปผู้อาวุโสหยวนควรดีใจจึงจะถูก หาไม่หากปล่อยให้คนทรยศสองคนอยู่ข้างกายแล้วสำนักรู้เข้า เกรงว่าจะทำให้ผู้อาวุโสหยวนพลอยเดือดร้อนไปด้วย”

ในใจหยวนฉางเทียนอยากตบหลีเจินให้ตายในฝ่ามือเดียวใจจะขาด แต่สุดท้ายก็ยังข่มกลั้นไว้ กล่าวว่า “ผู้อาวุโสหลีกล่าวถูกต้องที่สุด”

มองดูสีหน้าบิดเบี้ยวเหมือนกินแมลงวันของหยวนฉางเทียน หลีเจินอดยิ้มไม่ได้ เพิ่งหมายจะพูดอะไรเงาร่างของหลินสวินก็ย้อนกลับมาจากไกลๆ แล้ว

สวบ!

หลินสวินแหวกอากาศมาถึง ในมือถือหัวคนโชกเลือดหัวหนึ่ง เป็นของอวิ๋นเทียนหมิง

ผู้นำยอดเขาที่สองผู้นี้ ตั้งแต่หลินสวินเพิ่งเข้าลัทธิแรกกำเนิดก็ตั้งตนเป็นศัตรูกับหลินสวินอย่างไม่ปิดบังใดๆ แต่ตอนนี้กลับตายอนาถด้วยน้ำมือหลินสวิน สีหน้าก่อนสิ้นใจยังเต็มไปด้วยแววตกใจและหวาดกลัว

“พี่หลิน เจ้าทำเช่นนี้กลับไปจะชี้แจงกับทางสำนักว่าอย่างไร”

หยวนฉางเทียนถอนใจยาว

“ผู้อาวุโสหยวนคิดว่าข้าคนแซ่หลินทำไม่ถูกหรือ”

หลินสวินนัยน์ตาเยียบเย็น ทอดมองหยวนฉางเทียน

ในใจหยวนฉางเทียนเย็นวาบ ตระหนักได้ว่าเป็นไปได้สูงที่หลินสวินตั้งใจจะฉีกหน้า อดกล่าวยิ้มขื่นไม่ได้ “เปล่า ข้าเพียงคิดว่าถึงแม้สองคนนี้จะเป็นคนทรยศ ก็ควรมอบให้สำนักเป็นผู้กำหนดบทลงโทษ หากเป็นเช่นนี้ย่อมไม่มีใครพูดว่าร้ายพี่หลินได้”

หลินสวินกล่าวราบเรียบ “ผู้อาวุโสหยวนวางใจได้ ข้าคนแซ่หลินจับเป็นศัตรูบางส่วนตั้งแต่ยามอยู่เทือกเขาหมื่นห้วยไว้แล้ว คนพวกนี้ล้วนเป็นเป็นพยานบุคคล สามารถยืนยันได้ว่าพวกเฉาเป่ยโต้วสองคนเป็นคนทรยศ”

หยวนฉางเทียนนัยน์ตาหดรัดเล็กน้อย ยิ้มกล่าว “เช่นนั้นข้าคนแซ่หยวนก็วางใจแล้ว”

แววตาหลีเจินแปลกพิกล นึกไม่ถึงว่าความสามารถการพูดโกหกโดยตาไม่กะพริบของหลินสวินจะน่าทึ่งเช่นนี้ มีตัวประกันจับเป็นที่ไหนกัน เห็นชัดว่าตบตาหยวนฉางเทียน และกำลังเตือนหยวนฉางเทียนว่าอย่าคิดเล่นไม่ซื่อในเรื่องนี้!

“ต่อจากนี้พี่หลินมีแผนการอย่างไรหรือ” หยวนฉางเทียนกล่าว “จะเคลื่อนไหวพร้อมกันหรือไม่”

หลินสวินส่ายหน้า “ไม่เอาดีกว่า ข้าคนแซ่หลินพูดไว้แต่แรกแล้วว่าจะไม่เอาหายนะบนตัวไปเดือดร้อนคนอื่น ข้าไม่อยากให้ผู้อาวุโสหยวนถูกศัตรูพวกนั้นของข้าหมายหัว”

มุมปากหยวนฉางเทียนกระตุกเบาๆ อย่างจับสังเกตไม่ง่ายนัก กล่าวว่า “ในเมื่อพี่หลินตัดสินใจแล้ว ข้าคนแซ่หยวนก็จะไม่รั้งไว้อีก ขอตัว”

กล่าวจบเขาก็หมุนตัวจากไป

เขากังวลว่าหากอยู่ต่อไปจะข่มกลั้นความเดือดดาลและไอสังหารภายในใจไว้ไม่ได้

“ผู้อาวุโสหยวน”

จู่ๆ เสียงของหลินสวินก็ดังลอยมาจากด้านหลัง

หยวนฉางเทียนชะงักเท้า กล่าวว่า “พี่หลินยังมีธุระอีกหรือ”

“ไม่มีเรื่องอะไร เพียงแค่อยากบอกว่าความอดทนอดกลั้นของผู้อาวุโสหยวนน่าทึ่งจริงๆ แต่ตามความเห็นของข้าคนแซ่หลิน เรื่องบางเรื่องสามารถข่มกลั้นได้ บางเรื่องไม่อาจข่มกลั้น การข่มกลั้นพร่ำเพรื่อ กลับจะทำให้ขาดคมประกายแห่งความกล้าในการเข่นฆ่า กลายเป็นขี้ขลาดอย่างเห็นชัดได้ชัดยิ่ง ท่านคิดว่าอย่างไร”

หลินสวินกล่าว

ประโยคเดียวทำเอาความเดือดดาลในใจที่ข่มเอาไว้อย่างยากลำบากของหยวนฉางเทียนเกือบปะทุ

เขานิ่งเงียบสักพัก สูดหายใจลึกๆ คราหนึ่งแล้วกล่าวว่า “พี่หลิน ตามความเห็นของข้าคนแซ่หยวน ทุกสิ่งในโลกนี้ เรื่องเล็กน้อยไม่อดทนจะทำให้เสียการใหญ่ หากอวดเก่งพร่ำเพรื่อกลับจะตายก่อนวัยอันควรได้ง่ายนัก”

กล่าวจบเงาร่างเขาพุ่งแหวกอากาศออกไป ไม่นานก็อันตรธานหายไป

คล้ายกับว่าหากหลินสวินพูดอีกคำเดียว ล้วนสามารถทำให้ไม่อาจข่มกลั้นไอสังหารในใจ และระเบิดออกมาหมดเกลี้ยงอย่างไรอย่างนั้น

“เจ้าหมอนี่… อดทนเก่งจริงๆ… และน่ากลัวยิ่งเช่นกัน!”

เมื่อเห็นภาพเหตุการณ์ต่างๆ นี้หลีเจินเอ่ยปากอย่างอดไม่ได้ “ในฐานะบุตรเทพ กลับมีความคิดอ่านลึกล้ำเช่นนี้ ต่อไปต้องระมัดระวังคนผู้นี้ให้มากๆ”

หลินสวินยิ้มน้อยๆ กล่าวว่า “หากเขามีความมั่นใจเต็มเปี่ยมว่าจะฆ่าข้าได้ ก่อนหน้านี้ไยต้องเก็บงำ ว่ากันถึงที่สุดเขาก็กลัวเหมือนกัน”

“เช่นนั้นก่อนหน้านี้เหตุใดเจ้าจึงไม่ฆ่าเขา” หลีเจินถาม

หลินสวินเอามือไพล่หลังแล้วกล่าวง่ายๆ “หากฆ่าเขา ข้ากังวลว่าเฒ่าชราบางส่วนจะบ้าคลั่งโดยสิ้นเชิง ไม่เป็นผลดีต่อสถานการณ์ของข้าอย่างมาก แทนที่จะเป็นเช่นนั้นสู้เก็บเขาไว้ก่อนดีกว่า เขาที่ยังมีชีวิตอยู่ถึงจะมีคุณค่าต่อพวกเรามากกว่า”

——

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท