ตอนที่ 2862 กรรมตามสนอง
“ทนไว้ เจ้าเดรัจฉานนี่จะยืนหยัดไม่ไหวแล้ว”
ชางฝูเฟิงเอ่ยปาก แววตาเขาดุจเพลิงลุกโชน ตัวเขาอาบไล้อยู่กลางแสงพร่างพราว ทุกครั้งที่กระบองสำริดทั้งสองในมือเขาโจมตี ฟ้าดินจะสั่นไหวในทันใด
พลังอันน่ากลัวนั้นกระแทกเข้าใส่ตัวราชันสัตว์ระเบียบที่อยู่ไกลออกไป ทำให้ฝ่ายหลังร้องคำรามอย่างเจ็บปวด
“ถ้าตอนนี้มีคนมาปล้นชิงล่ะก็สนุกแน่”
หั่วเซียวเอ่ยหัวเราะร่า
เขาผิวดำคล้ำ โครงร่างหนาใหญ่ ทั้งร่างมีแต่กลิ่นอายดุร้ายป่าเถื่อน
ก่อนหน้านี้ยามอยู่ลัทธิพ่อมดก็เคยท้าทายหลินสวินซึ่งหน้า อยากประลองกับหลินสวิน คุยโวเป็นมั่นเหมาะว่าจะฆ่าหลินสวิน แต่ต่อมาถูกราชครูดินลัทธิพ่อมดจู่เหวินเหิงห้ามเอาไว้
“เช่นนั้นก็ต้องผ่านผนึกเทพที่ใต้เท้าชางวางไว้ให้ได้ก่อน”
มีคนเอ่ยเนิบๆ
ก่อนจะลงมือจัดการราชันสัตว์ระเบียบตัวนี้ ชางฝูเฟิงก็วางกระบวนผนึกลึกลับยากหยั่งถึงปกคลุมทะเลสาบขนาดมหึมาแห่งนี้เอาไว้
ว่ากันว่ากระบวนนี้มีนาม ‘พันยอดซ้อนเขา’ เป็นหนึ่งในสามกระบวนสังหารอันลือชื่อของเผ่าเทพตระกูลชาง สามารถกักขังสังหารขั้นหลุดพ้นได้!
“เลิกพูดไร้สาระ รีบลงมือฆ่าเดรัจฉานนี่ซะ ใต้เท้าชางบอกแล้วว่าระเบียบระดับสวรรค์ขั้นเก้าที่อยู่ในร่างเจ้าเดรัจฉานนี่พิเศษยิ่ง มูลค่าไม่อาจประเมิน”
อีกคนหนึ่งตะคอกขึ้นมา
ก็ในตอนนี้เอง…
จู่ๆ กระบี่มรรคเล่มหนึ่งก็ปรากฏกลางอากาศ พริบไหวกลางฟ้าแล้วฟันมาที่ชางฝูเฟิง
ยามกระบี่นี้ปรากฏ ฟ้าดินพลันหยุดชะงักลงชั่วพริบตา
อภินิหารหยุดเวลา!
ฮูม!
แต่ในชั่วพริบตานี้ ป้ายไม้สีดำชิ้นหนึ่งที่อยู่ตรงเอวของชางฝูเฟิงก็มีแสงประกายงดงามพวยพุ่งออกมาทันที ถึงกับสลายพลังของอภินิหารหยุดเวลาไปได้
ขณะเดียวกันกระบองสำริดทั้งสองในมือชางฝูเฟิงก็กระแทกออกมาทันควัน
เคร้ง!!!
กระบี่มรรคที่อยู่ใกล้เพียงคืบถูกสกัดขวาง กระแทกจนเกิดเป็นละอองแสงสะเก็ดไฟนับไม่ถ้วน
แต่ชางฝูเฟิงกลับดีใจไม่ออก
เพราะในทิศอื่น ร่างแยกของหลินสวินสี่ร่างถือโอกาสชั่วพริบตานี้บุกเข้ามาเล่นงานผู้เข้าร่วมศึกลัทธิพ่อมดสี่คนนั้นโดยไม่ทันตั้งตัว
กร๊อบ!
มีคนร่างถูกโจมตีรุนแรง กระดูกหักเป็นท่อน ถูกซัดกระเด็นออกไปอย่างจัง
โครม!
มีคนเข้าประจันหน้ากับร่างแยกของหลินสวิน แต่กลับถูกซัดจนเลือดออกเจ็ดทวาร หน้าเปลี่ยนสีทันใด
อีกสองคนที่อยู่ไกลๆ โชคดีหลบการโจมตีที่มาโดยกะทันหันนี้ไปได้ แต่ก็ตกใจจนเหงื่อโชกไปทั้งตัว
นอกจากนี้ร่างแยกของหลินสวินอีกร่างได้ฉวยโอกาส สังหารราชันสัตว์ระเบียบตัวนั้นพร้อมๆ กับหลีเจินแล้ว!
การเคลื่อนไหวทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในชั่วพริบตา
รวดเร็วจนน่าเหลือเชื่อ
เมื่อชางฝูเฟิงได้สติกลับมา บริเวณนั้นก็โกลากลแล้ว
“หลินสวิน!!”
ไอสังหารผุดขึ้นในดวงตาเขา มือตวัดกระบองสำริดเข้าใส่ร่างต้นของหลินสวิน
เขาที่เดือดดาล กลิ่นอายทั้งตัวน่ากลัวไร้สิ้นสุด ทั้งร่างอาบด้วยเปลวเพลิงถาโถม คล้ายจะเผาผลาญเก้าชั้นฟ้าสิบแผ่นดิน
โครม!
เมื่อกระบองสำริดทั้งสองในมือเขาตวัดออกมา ห้วงอากาศก็ถูกทุบกระจุย กระแสเพลิงบ้าคลั่งพุ่งไปยังร่างต้นของหลินสวินดุจมังกรพิโรธคำราม
“เหตุใดสหายยุทธต้องโมโหด้วย ตอนนั้นเจ้าก็เคยลอบโจมตีข้าคนแซ่หลินเช่นนี้ไม่ใช่หรือ”
หลินสวินยิ้มน้อยๆ ขณะพูดก็ใช้เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งเข้าปะทะกับชางฝูเฟิงแล้ว
ตูม!
ทั้งสองดั่งทวยเทพสู้ศึก แต่ละคนต่างมีพลังต่อสู้ล้ำเลิศเหนือคนระดับนี้ กระบองกับเตากระบี่เข้าปะทะ เกิดเป็นพลังทำลายล้างทะลวงจักรวาล
แม้แต่หลินสวินยังรู้สึกทึ่งอย่างอดไม่ได้ เพราะเมื่อลงมือกับชางฝูเฟิงจริงๆ ถึงพบว่าบุตรเทพที่มาจากน่านฟ้าที่เก้าผู้นี้แข็งแกร่งยิ่ง เหนือกว่าหวังเจวี๋ยฮ่วนช่วงใหญ่
ขณะเดียวกันในใจชางฝูเฟิงก็ปั่นป่วนไม่หยุด นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ประมือกับหลินสวินจริงๆ และสัมผัสถึงความน่ากลัวของหลินสวินได้ในที่สุด
ต่อให้เขามีมรรควิถีขั้นดับเทพสัมบูรณ์นานแล้ว ในแง่พลังปราณเหนือกว่าหลินสวิน แต่ยามสู้กันกลับเกิดความรู้สึกว่าไม่อาจสั่นคลอนอีกฝ่ายได้
ชางฝูเฟิงไม่กล้าลังเล ใช้อานุภาพทั้งหมด
ชั่วพริบตาทั้งตัวเขาปรากฏโลกอสนีที่มีสายฟ้าตัดสลับเป็นชั้นๆ ทำให้ตอนที่เขาลงมือก็ประหนึ่งเหวี่ยงโลกเป็นชั้นๆ เข้าโจมตี ทุกการโจมตีมีสายฟ้าไพศาลปะทุออกมา น่ากลัวไร้สิ้นสุด
โลกอสนีปวงสวรรค์!
นี่เป็นสิ่งที่แปลงจากพลังกฎเกณฑ์อมตะที่ชางฝูเฟิงครอบครอง และกฎเกณฑ์อมตะที่เขาควบรวมก็หยั่งรู้จาก ‘ระเบียบระดับเทพ’ ของตระกูลเขา อานุภาพย่อมแข็งแกร่งหาใดเทียบ อยู่เหนือพลังระเบียบระดับสวรรค์ทั้งโลกไปไกล
ส่วนกระบองที่อยู่ในมือชางฝูเฟิงก็เป็นยอดสมบัติที่เหนือธรรมดาคู่หนึ่ง นามว่า ‘กระบองคู่เพลิงอสนี’ อานุภาพไม่อาจคาดเดา ในการต้านทานกับเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งก็ยังไม่ตกเป็นเบี้ยล่าง
บัดนี้เมื่อชางฝูเฟิงจู่โจมเต็มกำลัง หลินสวินถึงขั้นสัมผัสได้ถึงแรงกดดัน!
“ไม่เลวๆ แบบนี้ถึงเหมือนบุตรเทพ”
หลินสวินหัวเราะเสียงดัง เขากระตุ้นเตากระบี่ ทั่วร่างเปล่งแสง ทั้งยังไม่ออมแรงและปิดบังอีกต่อไป
ตูม!
ทั้งสองสู้กันดุเดือด ดำเนินการประลองไร้เทียมทาน
แต่ชางฝูเฟิงกลับเริ่มลอบร้อนรน
เพราะในเวลาเดียวกันผู้เข้าร่วมศึกลัทธิพ่อมดสี่คนก็กำลังถูกร่างแยกมหามรรคของหลินสวินจู่โจม มิหนำซ้ำสองคนในนั้นก็ได้รับบาดเจ็บไปแล้ว ยืดหยัดไว้ได้อีกไม่นาน
“ฆ่า!”
ผมยาวของชางฝูเฟิงปลิวสยาย พลานุภาพยิ่งน่ากลัว
เพียงแต่ไม่ว่าเขาหมายจะกดข่มหลินสวินอย่างไรล้วนไม่อาจทำได้
พรูด!
ไม่นานนักประกายเลือดสาดกระเซ็นอยู่ไกลๆ ผู้แข็งแกร่งลัทธิพ่อมดที่ได้รับบาดเจ็บหนักอยู่ก่อนแล้วคนหนึ่งถูกสังหาร ร่างกายถูกหมัดเดียวชกกระจุย จิตสิ้นวิญญาณกระเจิง
แทบจะในเวลาเดียวกัน อีกด้านหนึ่งตอนนี้ผู้แข็งแกร่งลัทธิพ่อมดที่ได้รับบาดเจ็บหนักอีกคนก็ต้านไม่อยู่แล้ว ถูกสังหารคาที่
ผู้แข็งแกร่งลัทธิพ่อมดที่เหลือเพียงสองคนต่างสะท้านใจ โกรธระคนตระหนก
ทั้งหมดนี้กระตุ้นให้ชางฝูเฟิงดวงตาวาวโรจน์ เอ่ยว่า “หลินสวิน จะทำให้ข้าไม่มีทางเลือกจริงๆ หรือ”
ครืน!
กลิ่นอายรอบกายเขาเปลี่ยนไปอีกครั้ง ลวดลายสัญลักษณ์มรรคอสนีอันลึกลับปรากฏขึ้นบนผิวหนังทุกกระเบียด กระทั่งบนแก้มยังถูกลวดลายปริศนานั้นปกคลุม ผมดำทั้งหัวถูกสายฟ้านับไม่ถ้วนโอบล้อม
พลานุภาพทำลายล้างพลันปะทุขึ้นบนร่างเขา ชั่วพริบตานั้นก็เหมือนมีเทพองค์หนึ่งฟื้นตื่นจากภายในร่างเขาโดยสมบูรณ์
อานุภาพดุจจอมมรรคอสนี!
ไม่ต้องสงสัย นี่เป็นไพ่ตายที่แท้จริงของชางฝูเฟิง
ตูม!
เขาแกว่งกระบองคู่เพลิงอสนี ภายใต้การโจมตีเดียว สัญลักษณ์สายฟ้านับไม่ถ้วนอุบัติขึ้น เพลิงเทพไพศาลไหลวน พลังทำลายล้างอันเกรียงไกรเช่นนั้นทำให้ฟ้าดินหม่นหมอง
หลินสวินใช้เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งเข้าปะทะ
ทว่าคราวนี้เขากับเตากระบี่กลับถูกซัดกระเด็นถอยหลัง แม้ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่เลือดลมทั้งร่างกลับปั่นป่วนไม่หยุด
นัยน์ตาเขาหดรัด นี่คงเป็นอภินิหารพรสวรรค์ของชางฝูเฟิง หลอมรวมพลังกฎเกณฑ์อมตะทั้งร่างและปลดปล่อยออกมาถึงขีดสุด ดังนั้นอานุภาพจึงแข็งแกร่งหาใดเทียบ
“ฆ่า!”
ชางฝูเฟิงถลามา สายฟ้าและเพลิงเทพบนตัวต่างแผดเผาห้วงอากาศ กระบองสำริดคู่กระแทกลงมาเหมือนซัดเคราะห์สวรรค์ไร้เทียมทานออกมาครั้งหนึ่ง!
แต่ก็ในตอนนี้เอง หลินสวินกลับหลบไปไกลแล้วหัวเราะร่า “ตอนเจอกันคราวหน้าจะต้องสู้กับเจ้าดีๆ สักครั้ง”
ทันทีที่เสียงพูดดังขึ้น เงาร่างเขาก็เคลื่อนย้ายผ่านห้วงอากาศออกไปไกลแล้ว
ชางฝูเฟิงถึงเห็นว่าราชันสัตว์ระเบียบตัวนั้นถูกสังหารไปแล้ว พลังระเบียบระดับสวรรค์ขั้นเก้าบนตัวมันก็ถูกหลีเจินกับร่างแยกของหลินสวินชิงไป
ไม่ต้องสงสัย เป้าหมายที่หลินสวินมาคราวนี้ไม่ได้มาเพื่อต่อสู้ แต่มาเพื่อชิงวาสนา!
เรื่องนี้กระตุ้นให้ชางฝูเฟิงเดือดดาลยิ่งนัก “หลินสวิน เจ้านึกว่าเจ้าจะหนีไปได้หรือ”
เขากำลังจะไล่ตามไป
ปัง!
ในบริเวณใกล้เคียง ร่างของผู้แข็งแกร่งลัทธิพ่อมดคนหนึ่งพลันระเบิดกระจุย ฝนเลือดสาดกระเซ็น
ชางฝูเฟิงตัวแข็งทื่อ
ที่แท้ผู้แข็งแกร่งลัทธิพ่อมดถูกโจมตีสิ้นชีพในชั่วพริบตาที่หลินสวินหนีไปนั่นเอง เพราะรวดเร็วเกินไป ถึงขนาดที่ร่างกายที่ถูกสังหารของเขาเพิ่งระเบิด จิตสิ้นวิญญาณสลายเอาตอนนี้
“รังแกกันเกินไปแล้ว!”
ชางฝูเฟิงโมโหจนแทบคลั่ง
แต่น่าเสียดาย ตอนนี้หลินสวินกับหลีเจินหนีไปไกลแล้ว หายลับไปกับขอบฟ้าไกลๆ ต่อให้ไล่ตามไปตอนนี้ก็ตามไม่ทัน
ความคับข้องใจอย่างบอกไม่ถูกผุดขึ้นไปทั้งร่าง ทำเอาชางฝูเฟิงแทบจะกระอักเลือดเต็มแก่
การลอบจู่โจมกะทันหันครั้งเดียว ไม่เพียงสังหารขั้นดับเทพสัมบูรณ์ข้างกายเขาไปสามคน กระทั่งราชันสัตว์ระเบียบที่พวกเขากำลังจะจับได้ยังถูกชิงไป นี่เสียหายมากเกินไปแล้ว!
ไม่ไกลนักหั่วเซียวเอ่ยอย่างระทมว่า “ใต้เท้าชาง พวกเขาตายหมดแล้ว!”
ชางฝูเฟิงสีหน้าไม่น่าดู เอ่ยอย่างกราดเกรี้ยว่า “นี่เจ้าโทษข้าอยู่หรือ””ฮณ๊ฯดฯฌซ,
หั่วเซียวเอ่ย “ข้าแค่ไม่เข้าใจว่าเหตุใดผนึกเทพที่ใต้เท้าชางวางไว้กลับไม่แสดงอานุภาพ ทำให้พวกเราไม่ทันได้ป้องกันตัวสักนิดตอนที่หลินสวินฉวยโอกาสบุกมา”
ชางฝูเฟิงสะบัดแขนเสื้อ
ครืน!
ในพื้นที่ใกล้เคียงพลันมีธงกระบวนผืนแล้วผืนเล่าพุ่งออกมา มีจำนวนมากกว่าพันเล่ม นี่เป็นฐานกระบวนค่ายกลพันยอดซ้อนเขา
ทว่าบัดนี้ธงกระบวนผืนหนึ่งในนั้นกลับหม่นหมองอับแสง สูญเสียจิตวิญญาณทั้งหมดไป
พอเห็นภาพนี้ชางฝูเฟิงยังสีหน้าอึมครึม จะไม่รู้ได้อย่างไรว่านี่เป็นเพราะหลินสวินทำลายกระบวนค่ายกลพันยอดซ้อนเขาอย่างเงียบเชียบ และเพื่อสร้าง ‘ทางรอด’ จึงบุกเข้ามาได้อย่างง่ายดาย
“เจ้าสารเลวนี่!”
ชางฝูเฟิงแค้นจนเข่นเขี้ยว
เดิมทีเขาจดจ่อกับการรวบรวมวาสนามาโดยตลอด ไม่อยากไปสู้สุดตัวกับหลินสวินก่อนจะชิงวาสนา
แต่ใครจะคิดว่าอีกฝ่ายกลับเอาความคิดนี้มาใส่หัวเขาเอง!
“ความแค้นนี้ถ้าไม่เอาคืน ขอสาบานว่าจะไม่เลิกรา!”
ชางฝูเฟิงสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง เก็บกลั้นความโกรธและไอสังหารที่พลุ่งพล่านในใจ
……
ครึ่งชั่วยามผ่านไป
เงาร่างหลินสวินกับหลีเจินอยู่ในส่วนลึกของหุบเขาที่อบอวลด้วยไอขุ่นมัวแรกกำเนิดแห่งหนึ่ง
หลินสวินสำแดงประทับผนึกเวลาปกคลุมหุบเขาไว้โดยสมบูรณ์ จากนั้นจึงหย่อนก้นนั่งลงบนพื้นแล้วยิ้มเอ่ยว่า “เกรงว่าเจ้าชางฝูเฟิงนี่คงแค้นข้าแทบคลั่ง”
หลีเจินก็ยิ้มเช่นกัน เอ่ยว่า “นี่ก็เรียกว่าฟ้ามีตา กรรมย่อมตามสนอง ตอนนั้นพวกเขายังเคยลอบโจมตีพวกเราเลย”
ยามพูดเขาก็เอาพลังระเบียบออกมา
นี่เป็นสิ่งที่ได้จากการล่าราชันสัตว์ระเบียบตัวนั้น ละอองแสงเปล่งประกาย คลื่นพลังระเบียบลึกลับสุดหยั่งหลั่งไหล เป็นระเบียบระดับสวรรค์ขั้นเก้าที่สมบูรณ์!
“รีบหลอมมันเร็ว ไม่แน่อาจช่วยให้เจ้าทะลวงถึงขั้นดับเทพสัมบูรณ์ได้ในคราวเดียว”
หลีเจินกล่าว
หลินสวินส่ายหัว “ผู้อาวุโส สมบัตินี้ให้ท่านเก็บไว้เถอะ”
เก้าปีนี้พลังระเบียบที่รวมรวมมาได้หลีเจินล้วนไม่เก็บไป หลินสวินเกรงใจมานานแล้ว
ตอนนี้ในที่สุดก็เก็บระเบียบระดับสวรรค์ขั้นเก้าที่สมบูรณ์ไม่บกพร่องมาได้ ย่อมต้องมอบให้หลีเจินใช้
ท่าทีของหลินสวินหนักแน่นไม่ยอมถอย
เห็นเช่นนี้หลีเจินก็ทำได้เพียงรับไว้ ในใจกลับอุ่นใจ สมบัตินี้มีมูลค่ามากพอจะทำให้สิบยักษ์ใหญ่อมตะแก่งแย่งอย่างบ้าคลั่ง ทั้งยังไม่ใช่สิ่งที่พลังระเบียบบกพร่องเหล่านั้นจะเทียบติด
แต่หลินสวินกลับมอบสมบัตินี้ให้ตน นี่จะไม่ทำให้หลีเจินซาบซึ้งได้อย่างไร
——