Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 2880 อย่างไรเรียกยอดอมตะ

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 2880 อย่างไรเรียกยอดอมตะ

ตอนที่ 2880 อย่างไรเรียกยอดอมตะ

ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่เคยปรากฏมรรคายอดอมตะมาก่อน

แม้ตำนานที่เกี่ยวข้องกับมรรคานี้มีเยอะมาก แต่ส่วนใหญ่ล้วนถูกพิสูจน์ว่าเป็นเรื่องเกินจริงที่ลวงตาเลื่อนลอย

จนกระทั่งหลินสวินปรากDตัว

โลกยอดนิรันดร์ถึงเกิดการถกเถียงเรื่องมรรคานี้ขึ้นมากมาย

แต่ล้วนเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งแทบจะทั้งหมด

ถึงขั้นสามารถพูดได้ว่า ในสายตาผู้แข็งแกร่งส่วนใหญ่ของน่านฟ้าที่แปดและน่านฟ้าที่เก้า ไม่มีใครคิดว่าหนึ่งบัวที่เจ้าแห่งคีรีดวงกมลรอคอยมาหมื่นกาล จะกลายเป็นมกุฎบนมรรคาอมตะ

ต่อให้หลินสวินเคยสร้างชื่อเสียงยิ่งใหญ่ในลัทธิแรกกำเนิด แต่ในสายตาของหลายคน เขาก็คือปีศาจแห่งยุคคนหนึ่ง บนโลกนี้มีคนในระดับเดียวกันสามารถเทียบเคียงเขา ถึงขั้นเหนือกว่าเขาได้

อย่างเช่นบรรดาบุตรเทพแห่งน่านฟ้าที่เก้า

ทว่าในการต่อสู้ ณ ตอนนี้ เหล่าสัตว์ประหลาดเฒ่าที่มาจากสิบยักษ์ใหญ่อมตะกลับจำต้องมองดูปัญหานี้อย่างจริงจัง

หรือหลินสวินก้าวสู่มรรคายอดอมตะแล้วจริงๆ

ไม่เช่นนั้นจะสามารถสังหารทั่วแดนมารสิบทิศ แม้แต่บุตรเทพอย่างพวกเหวินเฉียวสุ่ย ชางฝูเฟิงยังถูกเขาจับเป็นได้อย่างไร

ทั้งเป็นไปได้อย่างไรที่ในตอนนี้จะใช้พลังของขั้นหลุดพ้นขั้นต้น สังหารขั้นหลุดพ้นขั้นสัมบูรณ์สองคนอย่างจงหลีเฉียวและจิงทั่วซานต่อเนื่องกัน

ทุกอย่างล้วนดูเหลือเชื่อมาก ทำให้หวาดหวั่นสงสัย!

ตูม!

สัตว์ประหลาดเฒ่าหกคนเข้าโจมตีหลินสวินและร่างแยกทั้งห้าของเขาพร้อมกัน สารพัดวิธีถูกใช้ออกมา บ้างโคจรสมบัติลับที่อานุภาพไม่อาจคาดเดา บ้างสำแดงวิชาลับก้นหีบ อานุภาพน่าสะพรึงกดดันปั่นป่วน ทำให้ฟ้าดาราสั่นไหวทรุดทลาย

พลังที่สัตว์ประหลาดเฒ่าแต่ละคนครอบครอง ล้วนสามารถสังหารขั้นหลุดพ้นขั้นต้นทุกคนให้ตายอย่างง่ายดาย

แต่ทั้งหมดนี้กลับไม่มีผลต่อหลินสวิน

อย่าว่าแต่จัดการร่างต้นของหลินสวิน กระทั่งร่างแยกทั้งห้าของเขานั่นยังไม่อาจกำราบได้ในเวลาสั้นๆ ด้วยซ้ำ!

นี่ทำให้สัตว์ประหลาดเฒ่าเหล่านั้นทั้งตกใจทั้งเดือดดาลและหวาดหวั่น

คิดจนหัวแตกพวกเขาก็คิดไม่ออก ว่านี่จะเป็นพลังต่อสู้ที่เจ้าหนุ่มที่เพิ่งทะลวงขั้นได้ไม่นานสามารถครอบครองได้!

และตอนนี้หลินสวินก็รับรู้ถึงจิตต่อสู้แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน

เลือดทั่วร่างเหมือนลุกโชน สารกาบ พลังชีวิต จิตวิญญาณเดือดพล่านไปทั้งร่าง สภาวะจิต เจตจำนง ความคิดล้วนถูกจิตต่อสู้ที่พลุ่งพล่านกระตุ้น ทั้งร่างอยู่ในสภาวะต่อสู้อันเร่าร้อน

เขาไม่ได้เจอศึกใหญ่เช่นนี้มานานมากแล้ว

หลายปีมานี้คู่ต่อสู้ที่เจอหากไม่ใช่อ่อนแอเกินไป เช่นบรรดาคนในระดับเดียวกัน ก็เป็นพวกที่น่าสะพรึงเกินไป อย่างเช่นรูปจำลองเจตจำนงของระดับนิรันดร์

แต่ตอนนี้กลับแตกต่าง

เขาแจ้งมรรคขั้นหลุดพ้นแล้ว สัตว์ประหลาดเฒ่าขั้นหลุดพ้นสัมบูรณ์ที่ในอดีตสูงส่ง ก็ไม่สามารถชักนำแรงกดดันถึงชีวิตมาให้เขาได้อีกแล้ว!

ฆ่า!

ดวงตาดำขลับของหลินสวินราวกับสายฟ้า ผมยาวแผ่สยาย

เขาไม่ยั้งมือใดๆ เช่นกัน ปลดปล่อยพลังต่อสู้ทั้งร่างอย่างเสิบสวน ร่างต้นและกายมรรคทั้งห้าเข้าต่อสู้หนึ่งต่อหนึ่งกับศัตรู ไม่เพียงไม่เสียเปรียบ ถึงขั้นมีท่าทีกำราบอีกฝ่ายอยู่รางๆ!

นี่ทำให้สัตว์ประหลาดเฒ่าเหล่านั้นแทบจะคลั่งแล้ว

สิบปีก่อน ในสายตาของพวกเขาหลินสวินยังเป็นเพียงขั้นดับเทพขั้นต้นตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ไม่ควรค่าให้ความสำคัญ

แต่วันนี้หลังผ่านไปสิบปี หลินสวินกลับครอบครองพลังต่อสู้ที่ทำให้พวกเขาสะท้านไหว ความแตกต่างนี้ยิ่งใหญ่เกินไป แรงจู่โจมที่มอวให้ก็ยิ่งใหญ่เกินไปเช่นกัน!

ความรู้สึกเช่นนี้เหมือนมดที่ปกติถูกมองข้าม จู่ๆ ก็มีพลังที่สามารถสังหารมังกรเทพบนท้องฟ้าได้ ทำให้พวกเขายากจะยอมรับในชั่วขณะ!

“ไป!”

ในการต่อสู้ จู่ๆ ร่างต้นของหลินสวินก็ตะโกนออกมาคำหนึ่ง เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งกระแทกศาสตรามรรคของคู่ต่อสู้จนปลิวออกไปทั้งอย่างนั้น อานุภาพน่าสะพรึงไม่ลดลง กระแทกลงบนตัวคู่ต่อสู้อย่างรุนแรง

นี่เป็นสัตว์ประหลาดเฒ่าคนหนึ่งของตระกูลฝู นามว่าฝูเจ๋อ

เมื่อถูกเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งกระแทก กฎเกณฑ์อมตะทั้งร่างก็ถูกโจมตีจนแหลกละเอียด ละอองแสงปลิวว่อน จากนั้นยังไม่ทันได้หลบ ร่างก็ถูกประตูเนรเทศเหนือเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งกลืนกินและหายไปกลางอากาศ

ผู้ยิ่งใหญ่ขั้นหลุดพ้นคนที่สามถูกกำราบ!

หลินสวินรู้ดีที่สุดว่าโลกภายในประตูเนรเทศน่ากลัวเพียงใด ไม่ว่าจะเป็นจงหลีเฉียว จิงทั่วซานก่อนหน้านี้ หรือฝูเจ๋อในตอนนี้ ล้วนจะถูกจานเทพคร่าศพทำลายร่างและจิต ส่วนสมบัติบนร่างพวกเขาจะถูกผาสมบัติร่วงหล่นกักขัง

ถูกกำหนดให้มีแต่ตายไร้ทางรอด!

ในสนามรบปั่นป่วนขึ้นมาอีกครั้ง จิตต่อสู้ของสัตว์ประหลาดเฒ่าพวกนั้นสั่นคลอน หน้าเปลี่ยนสีไม่หยุด

พวกเขาร่วมมือกันยังกำราบหลินสวินไม่ได้ ทั้งหมดนี้ล้วนกำลังพิสูจน์ว่าในขั้นหลุดพ้นของมรรคาอมตะ หลินสวินเป็นยอดอมตะไปแล้วอย่างไม่ต้องสงสัย!

“สมควรตาย!”

ไกลออกไปสีหน้าของหวังจ้งหยวนที่กำลังสู้กับฟางเต้าผิงอย่างดุเดือดคล้ำเขียวเป็นพิเศษ

การตามฆ่าครั้งนี้ พวกเขาพลาดอย่างไม่ต้องสงสัย

เดิมทีคิดว่ารองหัวหน้าหอลัทธิแรกกำเนิดอย่างฟางเต้าผิงเป็นภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุด แต่ตอนนี้ความจริงอันโหดร้ายกำลังบอกพวกเขาว่า ภัยคุกคามที่แท้จริงกลับเป็นหลินสวินที่ก่อนหน้านี้ถูกพวกเขามองข้าม!

สิ่งที่ทำให้หวังจ้งหยวนหนักอึ้งในใจที่สุดคือ ตอนนี้เขากับสัตว์ประหลาดเฒ่าอีกคนที่ลงมือร่วมมือ ก็กำลังเผชิญหน้ากับแรงกดดันของฟางเต้าผิง!

หากไม่ใช่เพราะเขาเตรียมพร้อมอย่างดี พกสมบัติและไพ่ตายมาเพียงพอ ก็อาจถึงขั้นยืนหยัดได้ไม่ถึงตอนนี้

เหตุผลไม่ใช่อื่นใด แม้พลังปราณเท่ากัน แต่ในฐานะรองหัวหน้าหอคนหนึ่งของลัทธิแรกกำเนิด พลังต่อสู้ของฟางเต้าผิงกลับแข็งแกร่งกว่าพวกเขาช่วงใหญ่อย่างเห็นได้ชัด!

“ไป!”

ทันใดนั้นไกลออกไปเสียงของหลินสวินดังขึ้นอีกครั้ง

ก็เห็นสัตว์ประหลาดเฒ่าที่กำลังต่อสู้กับกายมรรคเพลิงแดงถูกร่างต้นของหลินสวินพุ่งเข้าใส่ ทุ่มเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งกระแทกใส่ร่างอย่างรุนแรง ร่างกายแตกกระจายคาที่ เลือดสาดราวกับน้ำตก

ไม่เกินจากที่คาด ร่างกายและพลังจิตที่แตกหักของสัตว์ประหลาดเฒ่าคนนี้ ล้วนถูกอานุภาพของประตูเนรเทศกลืนกินระหว่างที่โดนกระแทก

นี่เป็นขั้นหลุดพ้นสัมบูรณ์คนที่สี่ที่ถูกหลินสวินสังหารแล้ว!

และตอนนี้สถานการณ์ก็ปั่นป่วนอย่างที่สุดแล้ว

สัตว์ประหลาดเฒ่าที่ล้อมโจมตีหลินสวินและร่างแยกทั้งห้าของเขาเหลือเพียงสี่คน ถูกหลินสวินและร่างแยกของเขาเปลี่ยนเป็นฝ่ายล้อมแทน!

ด้านฟางเต้าผิง สถานการณ์ของหวังจ้งหยวนและสัตว์ประหลาดเฒ่าอีกคนก็ไม่สู้ดี ถูกฟางเต้าผิงเล่นงานจนเงยหน้าไม่ขึ้น

สถานการณ์ไม่เป็นผลดีต่อพวกหวังจ้งหยวนอย่างสิ้นเชิง!”ฮณ๊ฯดฯฌซ,

และจุดสำคัญที่ทำให้เกิดการพลิกผัน ก็อยู่ที่หลินสวิน

นี่เป็นตัวแปรที่ใครก็คาดไม่ถึง ไม่ว่าจะเป็นพวกหวังจ้งหยวน กระทั่งฟางเต้าผิงก็คิดไม่ถึง!

“ไป!”

เสียงคุ้นเคยดังขึ้นในสนามรบที่ปั่นป่วนวุ่นวาย เหมือนเสียงที่เร่งเอาชีวิต

ร่างต้นของหลินสวินและกายมรรควารีดำโจมตีขนาบ สังหารสัตว์ประหลาดเฒ่าคนหนึ่งคาได้ในคราเดียว ครั้งนี้ยามอานุภาพของประตูเนรเทศปลดปล่อยออกมา ก็กลืนกินเพียงร่างและเศษเสี้ยวพลังจิตที่ระเบิดแหลกของสัตว์ประหลาดเฒ่า…

“เป็น… เช่นนี้ได้อย่างไร…”

มีสัตว์ประหลาดเฒ่าเอ่ยเสียงสั่น หนังหัวชาวาบ

พลังต่อสู้ของหลินสวินเย้ยฟ้าเกินไป ไม่อาจใช้หลักเหตุผลทั่วไปมาวัดได้ ต่อสู้มาถึงตอนนี้ ทำให้พวกเขาอกสั่นขวัญแขวน จิตต่อสู้สั่นคลอน

“ฆ่า!”

มีสัตว์ประหลาดเฒ่าโจมตีเหมือนบ้าคลั่ง ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ดุดันยิ่งยวด เป็นการสู้สุดชีวิตโดยสมบูรณ์

ไพ่ก้นหีบอะไร ไพ่ตายอะไร ล้วนถูกพวกเขาเรียกออกมาอย่างไม่ลังเล

น่าเสียดายที่ล้วนไร้ประโยชน์

หลินสวินในตอนนี้ เผยให้เห็นอย่างเต็มที่ว่าอย่างไรเรียกว่าอานุภาพปานยอดอมตะไร้ศัตรู ในระดับขั้นเดียวกันไร้ซึ่งคู่ต่อสู้!

“ไป!”

ไม่ทันไรสัตว์ประหลาดเฒ่าอีกคนก็ถูกประตูเนรเทศกลืนกิน อันตรธานแวบไป เดิมทีเขาพยายามหลบหนี ทั้งใช้วิชาลับต้องห้ามอย่างหนึ่ง คลื่นพลังที่น่ากลัวไร้ขอบเขตพวยพุ่งออกมาทั่วตัว แต่ยังไม่ทันปลดปล่อยก็ถูกประตูเนรเทศม้วนกลืนไปแล้ว…

และเขาก็กลายเป็นขั้นหลุดพ้นสัมบูรณ์คนที่ห้าที่หลินสวินสังหารหลังจากก้าวสู่ขั้นหลุดพ้น!

“สลาย!”

ถอนตัว หวังจ้งหยวนกัดฟันตะโกน

เขาตระหนักได้อย่างสิ้นเชิง ว่าสถานการณ์ได้เปลี่ยนแปลงไปถึงขั้นไม่สามารถหวนคืนได้แล้ว ต่อสู้ต่อไปก็ถูกกำหนดให้ปรากฏการบาดเจ็บล้มตายมากกว่าเดิม

เพียงแต่น่าเสียดาย ภายใต้สถานการณ์อันดีเยี่ยมเช่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นหลินสวินหรือฟางเต้าผิง ล้วนไม่คิดให้โอกาสพวกเขาหนี

ตูม!

สถานการณ์การต่อสู้ดุเดือดยิ่งกว่าเดิม ร่างต้นของหลินสวินและร่างแยกทั้งห้าจัดการคู่ต่อสู้สามคนที่เหลือด้วยกัน ทำให้ทุกครั้งที่สัตว์ประหลาดเฒ่าสามคนนี้อยากหนี ล้วนถูกขัดขวาเอาไว้

เมื่อดูฝั่งฟางเต้าผิงอีกครั้งก็เป็นเช่นนี้

หวังจ้งหยวนบาดเจ็บไม่มาก แต่พวกพ้องของเขาได้บาดเจ็บเจียนตายแล้ว ถูกอานุภาพของฟางเต้าผิงกำราบโดยสมบูรณ์ ต่อให้ลองหนีสุดกำลังก็ไม่มีประโยชน์

นี่ทำให้ในใจพวกหวังจ้งหยวนถูกเงาดำปกคลุม สั่นเทิ้มไปทั้งตัว ตระหนักได้ถึงความย่ำแย่ของสถานการณ์อย่างที่สุดแล้ว

“ไป!”

“ตาย!”

แทบจะในเวลาเดียวกัน เสียงตะโกนสองเสียงดังขึ้น

เสียงหนึ่งมาจากหลินสวิน เขากับกายมรรคไม้เขียวร่วมมือกันกำราบสัตว์ประหลาดเฒ่าคนหนึ่ง แล้วเก็บเข้าไปในประตูเนรเทศ

อีกเสียงมาจากกายมรรคเพลิงแดงของหลินสวิน เขากับกายมรรคดินเหลืองใช้วิธีอันแข็งแกร่งสังหารสัตว์ประหลาดเฒ่าอีกคนด้วยกัน ร่างและพลังจิตล้วนถูกเผาผลาญเป็นเถ้าธุลี

ไม่ทันไรฝั่งหลินสวินก็เหลือคู่ต่อสู้เพียงคนเดียว!

“ฟางเต้าผิง พวกเจ้าจะลงมือเด็ดขาดถึงขั้นนี้จริงหรือ!?”

ภาพเหล่านี้กระตุ้นจนหวังจ้งหยวนร้องลั่น “หรือจะบอกว่าพวกเจ้าลัทธิแรกกำเนิดคิดจะแตกหักกับสิบยักษ์ใหญ่อมตะของข้าอย่างสิ้นเชิง”

ฟางเต้าผิงยิ้มเยาะ “เจ้าพูดผิดแล้ว พวกเจ้าต่างหากที่กำลังเปิดศึกกับลัทธิแรกกำเนิดของข้า และตั้งแต่ลัทธิแรกกำเนิดก่อตั้งมา เคยกลัวการคุกคามใดเล่า”

ตูม!

ขณะพูดเขาตวัดดาบในมือลง สังหารสัตว์ประหลาดเฒ่าที่บาดเจ็บหนักเจียนตายคนนั้น ปราณดาบขาวหิมะบดขยี้ทำลายล้างร่างของสัตว์ประหลาดเฒ่าคนนี้

“ตอนนี้ข้าจะส่งเจ้าไปลงนรก!”

แววตาฟางเต้าผิงราวกับสายฟ้า จับจ้องหวังจ้งหยวน

ศึกนี้หลินสวินคว้าความได้เปรียบมาอย่างเบ็ดเสร็จ หากเขาไม่รู้จักใช้ก็โง่เกินไปแล้ว และย่อมไม่ยอมให้คู่ต่อสู้มีโอกาสหนีใดๆ

“ฟางเต้าผิง วันหน้ายามพวกข้าสิบยักษ์ใหญ่อมตะบุกสังหารลัทธิแรกกำเนิด เจ้าก็คือตัวหายนะ!”

หวังจ้งหยวนตะโกน เขาเริ่มสู้สุดชีวิต มรรควิถีทั้งร่างลุกโชนดุเดือด

สวบ!

แต่ก็เป็นตอนนี้ที่หลินสวินและร่างแยกทั้งห้าพุ่งเข้ามา ล้อมโจมตีเขาพร้อมกับฟางเต้าผิง

ที่แท้คู่ต่อสู้คนสุดท้ายที่ถูกหลินสวินล้อมโจมตีก่อนหน้านี้ก็ถูกสังหารไปแล้ว

เห็นดังนี้หวังจ้งหยวนเศร้าระทมจากใจ หมดหวังอย่างสิ้นเชิงแล้ว

ขั้นหลุดพ้นสัมบูรณ์สิบคนรวมตัวเขา ตอนนี้กลับร่วงหล่นที่นี่ นี่เป็นสิ่งที่ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่เคยคิดถึง!

“หลินสวิน สักวันคีรีดวงกมลของพวกเจ้าจะพินาศเหมือนเจ้า!”

หวังจ้งหยวนตะโกน เสียงสะเทือนฟ้าดารา เผยความเดือดดาลและไม่จำยอมยิ่งยวด

ก็ตอนนี้เองร่างต้นของหลินสวินและร่างแยกทั้งห้าของเขาล้อมโจมตีเข้ามาพร้อมกัน พลังโจมตีแน่นขนัดซัดโหม สังหารหวังจ้งหยวนคาที่ ตายไม่เหลือซาก นองเลือดอหังการอย่างที่สุด

ฟางเต้าผิงที่ช้ากว่าเสี้ยวหนึ่งเห็นดังนี้ยังสูดหายใจสะท้านอย่างอดไม่ได้ ความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ว่าด้วยพลังต่อสู้ของหลินสวินในตอนนี้ การชิงตำแหน่งรองหัวหน้าหอเกรงว่าจะเป็นเรื่องที่ง่ายดายมาก!

——

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท