มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 1026
“ถ้าวันนี้เจ้าถอยกลับไป ข้าก็จะถือว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน แต่ถ้าเจ้ายังดื้อดึงไม่ยอมรับผิด ไม่แน่วันนี้เจ้าอาจจะถูกกดอัดอยู่ที่นี่ก็เป็นได้”
สิ้นสุดคำพูดนี้ งูมรณาจิ่วหยินที่ทอยู่ข้าง ๆ หลัวซิวก็ส่งเสียงหึ่ยออกมาด้วยความเย็นชา สำรับการฝึกตนขั้นแดนเทพมารของเขาแล้ว แปดมหาจักรพรรดิยุทธ์เล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ ก็เหมือนกับมด
“ผู้อาวุโส ให้ข้าจัดการเถอะ”
หลัวซิวยิ้มเบา ๆ แล้วพูดขึ้นว่า “ก็แค่แดนมหาจักรพรรดิยุทธ์จิ๊บจ๊อยไม่กี่ตน ไม่ต้องถึงมือท่านผู้อาวุโสหรอก ขอแค่ท่านผู้อาวุโสคอยคุมเชิงให้ข้าก็พอแล้ว”
ระหว่างที่พูด หลัวซิวก้าวขึ้นสู่ท้องฟ้า เผชิญหน้ากับแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์แปดตนโดยลำพัง รวมทั้งนักยุทธ์นับพันของแดนศักดิ์สิทธิ์เสวียนเหมินอาณาจักรใต้ที่รวมตัวกันอยู่
“วันนี้ข้าจะคอยดูว่าพวกเจ้าไม่กี่คนจะปราบปรามพวกข้าอย่างไร” หลัวซิวพูดด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง
“ดื้อดึงไม่ยอมรับผิด !”
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เสวียนเหมินหันมามองหลัวซิว สายตาเปล่งประกาย ภายใต้การปลุกเสกเบิกเนตรของสำนักที่มีพลังและอำนาจยิ่งใหญ่ ลมหายใจของเขาเหมือนเทพมาร แสนสุดลึกล้ำเหนือการคาดเดา
เห็นเขายื่นมืออกมา กางนิ้วทั้งห้าออก รวบรวมพลังฝ่ามือ ขนาดประมาณร้อยเมตร นิ้วมือเหมือนเสา บดบังท้องฟ้าและพระอาทิตย์
“ทว่าเป็นเพียงการใช้เล่ห์เหลี่ยมการปลุกเสกเบิกเนตรถึงทำให้ดูเหมือนมีลมหายใจของเทพมาร แต่สุดท้ายแล้วเจ้าก็ไม่ใช่เทพมารจริงๆ”
หลัวซิวชี้นิ้วออกไป ขั้วความเป็นความตายรวมเป็นหนึ่ง มันกลายเป็นแสงศักดิ์สิทธิ์และยิงออกไป
“โป้ง !”
ฝ่ามือใหญ่ของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เสวียนเหมินถูกแสงศักดิ์สิทธิ์แทงทะลุทันที แสงศักดิ์สิทธิ์นี้ซ่อนไปด้วยพลังเทพดั้งเดิม เหมือนดั่งลูกศร ที่พุ่งไปข้างหน้าไม่หยุดยั้ง สาดส่องไปที่เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เสวียนเหมินต่อไปเรื่อยๆ
“ฝีมือต่ำต้อยความสามารถอันน้อยนิด !”
ร่างของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เสวียนเหมินสั่นไหว หลบหลีกแสงศักดิ์สิทธิ์ เขายกมือขึ้นมาโบก แสงสีทองพุ่งออกมากลายเป็นมังกร และรัดหลัวซิวไว้แน่นในทันที
แสงสีทองนี้ ก็คือสมบัติเชือก เป็นสมบัติวิเศษชั้นสูงชิ้นหนึ่ง
ต่อมา ตราประทับสีน้ำเงินขนาดใหญ่ถูกเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เสวียนเหมินตีออก ช่องว่างถูกบดขยี้จนส่งเสียงดัง มันยุบลง และพังทลาย
ตราประทับแผ่นนี้ก็คือสมบัติวิเศษที่ทรงพลังชิ้นหนึ่ง เป็นสิ่งที่ถ่ายทอดและสืบสานมายาวนานของแดนศักดิ์สิทธิ์เสวียนเหมิน ถึงแม้สมบัติเทพมารจะสูญหายไปแล้ว แต่สมบัติวิเศษระดับมหาจักรพรรดิที่ทรงอำนาจยังคงสืบทอดต่อไปไม่น้อย
แต่เหตุผลที่สมบัติเทพมารแข็งแกร่งกว่าสมบัติวิเศษระดับมหาจักรพรรดิ สิ่งที่แสดงออกมาไม่ใช่แค่ช่องว่างระหว่างพลานุภาพและผังกฎดั้งเดิมของพลังเทพเท่านั้น แต่ยังมีจุดที่สำคัญที่สุด นั่นก็คือจิตภัณฑ์ !
ท่ามกลางสมบัติเทพมาร มีการแบ่งสูงต่ำ สมบัติเทพมารที่เกิดจากจิตภัณฑ์ ในอีกแง่หนึ่ง ถูกเรียกว่าอาวุธเทพที่แท้จริง
เชือกเส้นนี้ที่มัดร่างกายอยู่ ด้วยความสามารถของหลัวซิวไม่สามารถทำให้หลุดพ้นได้ มีแสงเปล่งประกายที่จุดตันเถียนของเขา หอกยุทธ์มังกรดำพุ่งออกไป จิตภัณฑ์หงเทียนกลายเป็นมังกรดำที่โจมตีออกไป เชือกถูกปลดออกทันที และถูกหลัวซิวคว้าไว้ในมือ
นี่คือพลังที่แข็งแกร่งของจิตภัณฑ์ ง่ายต่อการควบคุมสมบัติที่ไม่ได้เกิดจากจิตภัณฑ์
เชือกเส้นนี้คือสมบัติวิเศษระดับมหาจักรพรรดิ แน่นอนว่าไม่สามารถก่อตัวให้มีจิตภัณฑ์ได้ และเมื่อพบเจอกับสมบัติที่มีจิตภัณฑ์ มันก็จะถูกควบคุมได้อย่างง่ายดายในทันที
เนื่องจากจิตภัณฑ์ มีพรสวรรค์ในการควบคุมอาวุธ
ในอีกแง่หนึ่ง จิตภัณฑ์เหมือนกันกับจิตฟ้าดิน เป็นอสูรจิตที่มีอยู่ในรูปแบบพิเศษ
เพียงแต่จิตภัณฑ์ของหอกยุทธ์มังกรดำนั้นค่อนข้างพิเศษ หงเทียนกลายเป็นจิตภัณฑ์ได้ไม่นาน ตอนนี้ยังทำได้แค่ควบคุมสมบัติระดับเทพมารลงมา สำหรับสมบัติและอาวุธระดับเทพมารขึ้นไป ยังทำอะไรไม่ได้
เนื่องจากอาวุธและสมบัติของจอมยุทธ์จะถูกสลักด้วยตราสำนึก ก่อนที่หงเทียนจะกลายเป็นจิตภัณฑ์ เป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวของผู้แข็งแกร่งระดับราชาเทพเท่านั้น ยังไม่สามารถรับมือกับตราสำนึกของเทพมารผู้แข็งแกร่งได้