มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 1066
“นี่เจ้าใกล้จะบรรลุถึงแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์แล้วหรือ?”
เมื่อช่าจื่อเยียนสังเกตเห็นผลการฝึกตนของหลัวซิว แม้คนที่มักจะนิ่งสงบอยู่เสมออย่างนาง ก็ยังอดไม่ได้ที่จะเผยสีหน้าประหลาดใจ
“ฝึกตนร่วมสองระดับความเป็นตาย ว่ากันว่าสองระดับผสานหนึ่ง พลังรบหาที่เปรียบไม่ได้ หากเจ้าบรรลุถึงแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์ พลังก็จะสามารถเทียบเท่าเทพมารจริง ๆ แล้ว” ช่าจื่อเยียนพูดด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ
“คาดไม่ถึงว่าที่พิภพต่ำเล็ก ๆ แห่งนี้ จะมีอัจฉริยะที่ฝึกตนร่วมสองระดับความเป็นตายปรากฏตัวขึ้น” ซุ๋นซินเหลียนก็มองไปยังหลัวซิวด้วยความสนใจ
ได้ยินว่าเขาฝึกตนร่วมสองระดับความเป็นตาย ซุ๋นหวู่หยาก็พลันแววตาเป็นประกายขึ้นมา
“ผู้อาวุโสก็เคยพบผู้อื่นที่ฝึกตนร่วมสองระดับความเป็นตายหรือ?” หลัวซิวพูดสิ่งที่สงสัยอยู่ในใจออกมา
ก่อนนี้เทพแห่งวัฏจักรชีวิตเคยพูดไว้ มีเพียงลูกแก้วความเป็นตายเท่านั้นที่จะสามารถทำให้คนฝึกตนร่วมสองระดับความเป็นตาย หากคนอื่น ๆ หากจะเสี่ยงอันตรายเพื่อลิ้มลอง แน่นอนว่าต้องเกิดความขัดแย้งกันเองของสองระดับความเป็นตาย ถึงแก่ความตายในที่สุด
“เมื่อสี่หมื่นปีก่อน โลกเสวียนเทียนมีอัจฉริยะที่ฝึกตนร่วมสองระดับความเป็นตายปรากฏตัวขึ้นผู้หนึ่ง แต่น่าเสียดายที่คนผู้นี้ฝึกตนได้เพียงถึงแดนเทพมารเท่านั้น ก็ตายเสียแล้ว” ช่าจื่อเยียนพยักหน้าพร้อมพูดตอบ
ว่าตามที่นางพูด เมื่อสี่หมื่นปีก่อน นางยังเป็นแค่เพียงแดนเจ้ายุทธจักร อัจฉริยะผู้นั้นที่ฝึกตนร่วมสองระดับความเป็นตายก็ได้ก้าวขึ้นไปสู่การมีชื่อเสียง แค่เพียงแดนเทพมาร พลังรบก็สามารถเทียบเท่าได้กับเทพฟ้า ชื่อเสียงโด่งดังยิ่งนัก
“ในประวัติศาสตร์เคยมีอัจฉริยะที่ฝึกตนร่วมสองระดับความเป็นตายปรากฏตัวขึ้นอยู่ไม่น้อย แต่ก็ไม่ใช่ว่าใครก็สามารถฝึกตนร่วมสองระดับความเป็นตายได้ ว่ากันว่าเป็นเพราะคุณสมบัติทางร่างกายที่พิเศษ เรียกว่าร่างสองระดับความเป็นตาย” ซุ๋นหวู่หยาค่อย ๆ พูดอธิบาย
สายตาของเขาตกลงบนตัวของหลัวซิว “ในเมื่อเจ้าสามารถฝึกตนสองระดับความเป็นตายได้ เห็นได้ชัดว่าเจ้าก็น่าจะมีคุณสมบัติร่างกายที่พิเศษนั่นด้วยเช่นกัน”
ทันใดนั้น หลัวซิวก็รู้สึกว่าตนเจ็บปวดบริเวณหว่างคิ้ว เลือดสด ๆ หยดหนึ่งบินลอยออกมาจากหว่างคิ้ว ตกลงบนมือของซุ๋นหวู่หยา
ซุ๋นหวู่หยาทำให้เลือดสดหยดนี้ลอยขึ้นมาอยู่กลางอากาศ พูดออกมาเสียงนิ่งเรียบ “ในเลือดของเจ้ามีออร่าของกฎความเป็นตายสองชนิดอยู่ อีกทั้งกฎสุดยอดทั้งสองชนิดยังผสานเข้าด้วยกัน ไม่แยกออกจากกัน ยืนยันได้ว่าเจ้ามีคุณสมบัติร่างกายที่พิเศษประเภทนั้นจริง ๆ”
เมื่อสิ้นเสียง ซุ๋นหวู่หยาก็สะบัดนิ้วออกไป เลือดสดหยดนี้ก็พลันลอยกลับไปที่หว่างคิ้วของหลัวซิว จมลงไปในร่างของเขา
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ หลัวซิวก็พอจะเข้าใจขึ้นมาบ้าง ร่างสองระดับความเป็นตายเป็นร่างกายที่พิเศษจริง ๆ นอกจากคนที่มีร่างกายพิเศษสามารถฝึกตนร่วมกฎสองระดับความเป็นตายได้ ก็มีเพียงผู้สืบทอดลูกแก้วความเป็นตายเท่านั้น จึงจะสามารถฝึกตนได้
ไม่เหมือนกับคนที่เกิดมาพร้อมกับร่างสองระดับความเป็นตาย ร่างของหลัวซิวนั้นได้รับผลจากลูกแก้วความเป็นตายและกลายร่างออกมา
“ไม่ทราบว่าร่างพรสวรรค์สองระดับความเป็นตาย กับร่างสองระดับความเป็นตายที่กำเนิดขึ้นทีหลังอย่างข้า แบบใดที่แข็งแกร่งกว่ากัน?” หลัวซิวแอบสงสัยอยู่ในใจ
“ร่างพิเศษที่หาได้ยากนี้ พวกเราโลกเสวียนเทียนก็เพิ่งจะเคยเจอเมื่อสี่หมื่นปีก่อนเพียงคนเดียวเท่านั้น ในประวัติศาสตร์นับล้านปีที่ผ่านมาก็ยังไม่เคยมีปรากฏขึ้นเลย”
เมื่อแน่ใจแล้วว่าร่างของหลัวซิวเป็นร่างพิเศษ สายตาของซุ๋นซินเหลียน ซุ๋นหวู่หยา และช่าจื่อเยียนทั้งสามคนนี้ก็มองไปยังหลัวซิวด้วยความแตกต่างออกไปในทันที
ร่างพิเศษที่เหมือนกับอัจฉริยะเมื่อสี่หมื่นปีก่อนท่านนั้น นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า หากหลัวซิวสามารถบรรลุถึงแดนเทพมาร พลังของเขาก็สามารถเทียบเท่าเทพฟ้าได้เลยหรือ?
เช่นนั้นหากเขาบรรลุถึงแดนเทพฟ้า ก็จะเป็นเหมือนเทพสงครามเอกภพ ที่ทั่วทั้งพิภพกลางไม่สามารถมีผู้ใดเทียมได้?
เพราะว่าพวกเขาก็คือแดนเทพมาร กระทั่งช่าจื่อเยียนก็มีผลการฝึกตนถึงระดับเทพมารขั้นสูง นางรู้ดีว่าเทพมารผู้หนึ่งสามารถต้านทานเทพฟ้าได้นั้น มันน่าหวาดกลัวถึงเพียงใด
อย่างน้อยด้วยผลการฝึกตนแดนเทพมารขั้นสูงของนาง แม้แต่นิ้วมือหนึ่งของผู้แข็งแกร่งเทพฟ้าก็ยังไม่สามารถต้านเอาไว้ได้ นี่คือความแตกต่างราวฟ้ากับเหว!