มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 1095
ในขณะนี้ ในตำหนักวัฏสงสาร ร่างของหลัวซิวได้หายไปเนิ่นนานแล้ว เขาปรากฏกายอยู่ในลูกแก้วความเป็นความตายโซนสงสารวัฏฐาน
การฝึกฝนตนเขามาถึงแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์แล้ว เขาสามารถรับมอบของขวัญในโลกกฎดั้งเดิมได้
พื้นที่โซนสงสารวัฏนั้นกว้างใหญ่ไร้ที่สิ้นสุด เสมือนท้องฟ้าซึ่งเต็มไปด้วยดวงดาว
ชะตาฟ้าลิคิตเป็นหมื่นวา วัฏจักรอันยิ่งใหญ่จึงได้หมุนเปลี่ยน
“ร่างกลวัฏสงสาร?”
การมอบของขวัญของโลกกฎดั้งเดิมในแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์นั้น เป็นพลังอมตะขั้นที่สองหลังเลื่อนขั้นวิชาแบ่งร่างดับเบิ้ล
ที่เรียกว่าร่างกลวัฏสงสารนั้น หาใช่การฝึกฝนตนในกายชาตินี้ แต่เป็นกายแห่งชาติก่อน
ความคิดของหลัวซิวขยับเขยื้อนเล็กน้อย มีแสงแวบออกมาจากคิ้วของเขา เผยให้เห็นชายหนุ่มที่มีใบหน้าหล่อเหลาคนหนึ่งปรากฏขึ้น
รูปร่างหน้าตาของชายหนุ่มผู้นี้ ไม่แตกต่างจากร่างในชาติก่อนของเขา หลี่ยู่
“ข้าคือร่างในชาติก่อนของเจ้า นามว่าหลี่หยู”
ชายหนุ่มอ้าปากค้างทันที รัศมีของเทพมารอันกว้างใหญ่อย่างไม่อาจคาดเดาได้ แผ่ออกมาจากร่างกายของเขา
นี่……คือร่างกลวัฏสงสาร!
การปลุกชาติที่แล้วให้ตื่นขึ้น เสมือนกับการเกิดใหม่อีกครั้ง!
หลี่ยู่ในชาติก่อนของหลัวซิวอยู่ในอาณาจักรแห่งเทพมารก่อนที่เขาจะล้มลง พลังการต่อสู้เต็มรูปแบบของเขาสามารถเทียบได้กับเทพฟ้า และเขายังสามารถใช้วิชาต้องห้ามเพื่อสังหารเหล่าทวยเทพในขั้นสูงกว่าได้!
หลัวซิวไม่เคยคิดว่าการมอบของขวัญจากโลกกฎดั้งเดิมจะเป็นพลังอมตะเหนือธรรมชาติเช่นนี้ ร่างกลวัฏสงสารสามารถปลุกร่างในชาติก่อนขึ้นมาได้ ความแข็งแกร่งเรียกได้ว่าเหนือกว่าร่างของเขาในชาตินี้เสียด้วยซ้ำ
ต้องรู้ว่าพรสวรรค์ของหลี่ยู่ในชาติก่อนของเขานั้นเก่งกาจมาก เขาฝึกฝนตนเข้าสู่แดนเทพมารได้เมื่อตอนที่เขาอายุ 20 xu อนาคตของเขาไร้ขีดจำกัด
เมื่อเป็นเช่นนี้ ด้วยร่างกลวัฏสงสาร หลัวซิวจึงเทียบเท่ากับการมีสองอัตลักษณ์ที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง หากทั้งคู่ฝึกฝนตนเองให้เข้าสู่ให้อยู่ในแดนขั้นสูงไปพร้อมกัน ชาติก่อนและชาตินี้รวมกันเป็นหนึ่งเดียว ความแข็งแกร่งนั้นอาจพุ่งทะยานขึ้นสู่แดนขั้นใหม่
“นี่คือสิ่งที่เรียกว่าวัฏสงสารหรือ?”
หลัวซิวและหลี่ยู่มองขึ้นไปที่วัฏสงสาร เขาฝึกฝนสองระดับความเป็นตาย แต่ยังคงอยู่ในแดนกฎ มีเพียงรวมทั้งสองให้เป็นหนึ่งเท่านั้นจึงจะได้รับพลังเทพดั้งเดิม แต่แดนกฎของเขายังอยู่ห่างจากโลกกฎดั้งเดิมระยะหนึ่ง
ในกฎการเวียนว่ายตายเกิดเป็นกฎดั้งเดิม เช่นนั้นพลังแห่งวัฏสงสารจึงเป็นพลังที่เอาชนะกฎดั้งเดิมได้งั้นหรือ?
ดูเหมือนเขาจะเห็นประตูอันห่างไกลปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา แต่ประตูนี้อยู่ไกลจากเขามากยิ่ง เขาไม่อาจรู้ได้ว่าเมื่อใดเขาจึงจะสามารถไปถึงประตูนั้นได้
แท้จริงแล้วหลี่ยู่ที่ปรากฏตัวในขณะนี้หาใช่หลี่ยู่ตัวจริง เป็นจิตจำนงของเขาอันมาร่างของหลัวซิวเอง เป็นร่างกลวัฏสงสารของเขา
หลี่ยู่เป็นเพียงชาติหนึ่งในอดีตของเขา หากเขาสามารถรับรู้ถึงอดีตชาติอื่นของตนได้ เขาจะสามารถร่างกลวัฏสงสารได้มากขึ้นใช่หรือไม่?
พลังอมตะนี้เรียกได้ว่าเป็นพลังทวนนภา แม้แต่พลังอมตะมหาอิทธิฤทธิ์ราชาเทพของโลกจักรภพตระกูลหลี่ เทียบกันแล้วยังห่างไกลกว่า 108,000ลี้!
หลัวซิวเปิดห้วงจักรหยั่งรู้ หลี่ยู่ร่างแห่งร่างกลวัฏสงสารได้กลายเป็นลำแสงหายกลับเข้าไปในคิ้วของเขา
“ได้เวลาออกจากการฝึกฝนแล้ว”
ทันใดนั้น ร่างของหลัวซิวก็ได้หายไปจากโซนสงสารวัฏ ในวินาทีต่อมาเขาก็กลับไปยังตำหนักวัฏสงสาร
“ปึง!”
ประตูของตำหนักซึ่งปิดมาเป็นเวลาสามปีถูกเปิดออก หลัวซิวเดินออกไปอย่างช้าๆ ท่ามกลางตำหนักอันมืดมิด
“นี่คือ……”
เขาลืมตาขึ้น มองจากที่สูงลงไปพบสำนักเขาไท่เสวียน และพบว่าสำนักเขาแต่เดิมขนาดไม่นับว่าใหญ่ถูกขยายออกไปในรัศมีหลายหมื่นลี้ ด้วยพื้นที่กว้างใหญ่มีตำหนักมากมายสูงตระหง่านและกว้างใหญ่
โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ใจกลางสำนักเขา มีเทวเทพสูงตระหง่านนับหมื่นฟุตตั้งอยู่ หันหน้าไปทางตำหนักวัฏสงสาร รูปปั้นนั้นเต็มไปด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์อันแพรวพราวราวกับเทวดาที่ลงมาจุติยังโลก
หลัวซิวหัวเราะออกมา ไม่จำเป็นต้องเอ่ยก็รู้ได้ว่าเทวเทพนี้ต้องสร้างโดยเกาเหลียนหงอย่างแน่นอน เพื่อเสริมศักดิ์ศรีของไท่เสวียนที่เลื่อนขึ้นเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์