การโจมตีที่กะทันหันนี้ ทำให้ผู้แข็งแกร่งเทพมารทั้งห้าคนนั้นคาดการณ์ไม่ถึง จมดิ่งอยู่ภายในอย่างรวดเร็ว
ท่ามกลางพลังอันบ้าคลั่งที่กระหน่ำซัดเข้ามา เทพมารทั้งห้าคำรามพลางพุ่งตัวออกมา เสื้อผ้าของทุกคนต่างฉีกขาดเสียหาย เส้นผมยุ่งเหยิง สภาพดูเก้ ๆ กัง ๆ อย่างยิ่ง
นอกจากชายชราเทพมารที่ศักยภาพแข็งแกร่งที่สุดนั่นไม่บาดเจ็บสาหัสมากแล้ว เทพมารอีกสี่คนที่เหลือยิ่งเลือดอาบท่วมตัว อนาถจนทนดูไม่ได้
“สมกับที่เป็นผู้แข็งแกร่งเทพมารจริง ๆ ถึงแม้ผลการฝึกตนจะถูกกดอัดลงมาที่แดนมหาจักรพรรดิยุทธ์ แต่ก็นึกไม่ถึงเลยว่าจะต้านทานค่ายกลหลายสิบค่ายของข้าได้ อีกทั้งยังไม่ตายด้วย!”
เงาร่างของหลัวซิวปรากฏออกมา เขารู้สึกตะลึงงันเล็กน้อย ต้องท้าวความก่อนว่าอานุภาพของค่ายกลระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้น 9 ที่เขาจัดวางนั้นทรงพลังมาก ๆ บวกกับเขาซุ่มโจมตี แต่นึกไม่ถึงเลยว่าจะไม่สามารถฆ่าใครในนี้ได้เลยแม้แต่คนเดียว เห็นได้เลยว่าเทพมารทั้งห้าคนนี้ล้วนเป็นผู้แข็งแกร่ง
“เจ้าเป็นศิษย์ในสำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนเหมินหรือ?”
สายตาอันแวววาวของเทพมารทั้งห้าต่างจ้องมองไปทางป้ายบัญชาการที่แขวนอยู่ตรงเอวเขา ก่อนจะทราบตัวตนเขา
“เป็นแค่มหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้น 2 กระจอก ๆ ถึงกลับกล้าจู่โจมพวกข้าอย่างนั้นหรือ รนหาที่ตาย!”
เทพมารคนหนึ่งในสำนักเซียนไร้เจตสิกโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก ในขณะที่เขากำลังจะลงมือโจมตีอยู่นั้น กลับมีมือใหญ่ปรากฏอยู่ด้านหลังเขาอย่างฉับพลัน ออร่าแวววาวจับตา แผ่คลุมตัวเขาไว้ในฝ่ามือเดียว
“ระวัง!”เทพมารสี่คนที่เหลือเอ่ยปากย้ำเตือน แต่กลับสายไปแล้ว
“อั่ก!”
เลือดที่แดงสดกระเซ็นออกไปทั้งสี่ทิศ ผู้แข็งแกร่งเทพมารที่โกรธเกรี้ยวนี้ถูกบดให้ตายในฝ่ามือเดียว สิ่งที่ปรากฏมีเพียงช่องจิตหนึ่งดวงเท่านั้น ภายใต้กฎการกดอัดในโลกเซียนเสวียนเทียน ออร่าของช่องจิตดูหม่นหมองมาก ไม่มีออร่าของเทพมารไหลเทออกมา
“โครมม!”
ธรณีสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ยักษ์แก้วเทวก้าวเดินออกไปท่ามกลางควันและฝุ่นที่ตลบฟุ้ง
การลงมือจู่โจมในเมื่อกี้นี้ของหลัวซิว กลับทำให้ยักษ์แก้วเทวตัวนี้หลุดพ้นจากสถานการณ์ที่ต้องตาย แต่ทว่าออร่าของมันในตอนนี้กลับลดน้อยลงไปไม่น้อยเลย ร่างกายที่หลอมมาจากแก้วเทวไม่แวววาวตระการตาอีกต่อไป หม่นหมองลงไปเยอะมาก
“ฆ่า!”
หลัวซิวตะคอกเสียงดังลั่น กำหอกยุทธ์มังกรดำไว้ในมือแล้วโถมเข้าใส่ ในขณะเดียวกันยักษ์แก้วเทวก็คำรามอย่างโกรธเกรี้ยวเช่นกัน บุกเข้าไปฆ่าเทพมารอีกสี่คนที่เหลือ
“ข้าจะถ่วงยักษ์แก้วเทวไว้ พวกเจ้าไปกำจัดไอ้หมอนั่นซะ”ชายชราเทพมารที่ศักยภาพแข็งแกร่งที่สุดกำชับหนึ่งคำ ก่อนที่เขาจะเรียกอัญมณีแห่งเทพมารออกมาอย่างรวดเร็ว ต้านทานพลานุภาพที่ดุดันของยักษ์แก้วเทวเอาไว้
มองดูหลัวซิวพุ่งเข้ามาฆ่าด้วยท่าทีที่ดุดัน แต่ผู้แข็งแกร่งเทพมารทั้งสามคนกลับยิ้มอย่างเยือกเย็น“เป็นแค่เจ้าหนุ่มมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้น 2 ก็กล้าลงมือต่อเทพมารอย่างนั้นหรือ ไม่รู้จริง ๆ ว่าควรชมเจ้ากล้าหาญเป็นเลิศ หรือชมเจ้ารนหาที่ตายดี? ถึงแม้ผลการฝึกตนของข้าจะถูกกดอัดลงมาที่แดนมหาจักรพรรดิยุทธ์ แต่ก็มิใช่ผู้ที่มหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้น 2 อย่างเจ้าจะยั่วยุได้อยู่ดี”
“เทพมารแล้วอย่างไร? เทพมารที่ตายอยู่ในเงื้อมมือข้าก็มีไม่น้อยเช่นกัน!”หลัวซิวยิ้มอย่างเย็นเยือกพลางพูด
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เทพมารทั้งสามคนต่างดูเหยียดหยามอย่างมาก พวกเขาไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่าจะมีคนสามารถใช้ศักยภาพของมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้น 2 สังหารเทพมารในโลกเซียนเสวียนเทียนได้
“ใกล้จะตายแล้ว แต่ยังกล้าโม้อวดดีอีก ไปตายซะเถอะ!”
“ผู้ที่ต้องตายคือพวกเจ้าต่างหาก!”
หลัวซิวกระตุ้นเคล็ดวิชาพลังแปรเสวียนเทียน แทงหอกออกไป แสงหอกมังกรดำพุ่งทะลวงไป ทำให้สุญญากาศแตกสลาย
“เคล็ดอัสนีนภา!”
“แสงเทวแท่นเสวียน!”
“วิชาไร้เจตสิก!”
เทพมารทั้งสามตะคอกพร้อมเพรียงกัน แสดงพลังอมตะออกมา เคล็ดอัสนีนภากลายเป็นมังกรสายฟ้าหนึ่งตัว แยกเขี้ยวตะปบเล็บ เริ่มดูดุร้ายน่ากลัว
แสงเทวแท่นเสวียนเปล่งแสงแพรวพรายดั่งเสา อานุภาพมโหฬารพันลึก ทำให้กลางอากาศที่ว่างเปล่าดับสูญ บดทุกสรรพสิ่งให้ละเอียด
วิชาไร้เจตสิกยิ่งเป็นพลังอมตะที่โจมตีจิตวิญญาณ ใช้เพื่อทำลายช่องจิตของผู้แข็งแกร่งเทพมารให้ดับสิ้นโดยเฉพาะ การจัดการตัวหยั่งรู้ของมหาจักรพรรดิยุทธ์ยิ่งทำได้ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก
“ตู้มม!”
แสงหอกมังกรดำที่หลัวซิวโจมตีออกไป ปะทะเข้ากับมังกรสายฟ้าที่กลายมาจากเคล็ดอัสนีนภา ได้ยินเพียงเสียงตู้มดังสะเทือนเลื่อนลั่น มังกรสายฟ้าแตกละเอียดเป็นฝุ่นผงในชั่วพริบตาเดียว แขนของเทพมารที่ใช้เคล็ดอัสนีนภาระเบิดแตกจนเกิดเป็นหมอกเลือด เขาร้องโหยหวนพลางก้าวถอยหลังกลับไป