แม้ช่องจิตจะถูกโจมตีจนแตกสลายและช่าจื่อเยียนก็อาศัยเคล็ดวิชาจนหนีรอดมาได้ แต่นางกลับสูญเสียผลการฝึกตนของเทพมารขั้นสูงไป ปัจจุบันผลการฝึกตนก็ลดลงมาถึงระดับมหายุทธ์
และที่สาหัสกว่าคือสภาพอาการบาดเจ็บในตัวหยั่งรู้ของนาง หากตัวหยั่งรู้แตกสลายแล้วจะไม่สามารถซ่อมแซมได้อีก มากกว่านั้นคือผลการฝึกตนของนางอาจจะลดลงไปอีกได้ อายุไขจะเหลือไม่ถึง 10 ปี!
นางเป็นเทพมารที่ฝึกตนมาหลายหมื่นปีแล้ว สาเหตุที่สามารถมีชีวิตยืนยาวมาเนิ่นนานเช่นนี้นั้น ก็เป็นเพราะอาศัยการประคองของผลการฝึกตน
แต่ตอนนี้กลับไม่มีการประคองจากผลการฝึกตนแล้ว อีกไม่ถึง 10 ปี นางก็จะตายหายไปจากโลกนี้ นอกซะจากว่านางจะสามารถฝึกตนจนบรรลุถึงแดนเทพมารได้ภายในระยะเวลา 10 ปี
เมื่อทราบว่าหลัวซิวจะเดินทางไปยังเมืองแก้วเทว ช่าจื่อเยียนจึงบอกว่าตนยินดีที่จะไปพร้อมกับพวกเขา
“โครม!”
ทันใดนั้นเอง เสียงฟ้าร้องในป่าลมสายฟ้าก็ดังสนั่นขึ้นมา ชั้นบรรยากาศทรุดตัวลงเป็นบริเวณกว้าง มีสายฟ้าและพายุมหาทอร์นาโด
ที่นับไม่ถ้วนปรากฏ
“รีบไป!”
สีหน้าของช่าจื่อเยียนเปลี่ยนไป“พลังอัสนีวาโยจลาจลแล้ว”
ป่าลมสายฟ้าที่มีสภาพแวดล้อมพิเศษนี้ เกิดจากพลังอัสนีวาโยที่ไม่มั่นคง เมื่อผ่านการตกตะกอนมาเป็นเวลายาวนานหลายปี พลังอัสนีวาโยก็จะยิ่งอยู่ยิ่งแข็งแกร่งขึ้น กระทั่งบรรลุถึงจุดวิกฤตหนึ่ง พลังก็จะสูญเสียการควบคุม ปะทุออกมาอย่างบ้าคลั่งโดยสิ้นเชิง
ภายใต้การจลาจลของพลังอัสนีวาโย ต่อให้เป็นผู้แข็งแกร่งระดับเทพมารก็ไม่สามารถต้านทานหรือโชคดีรอดพ้นไปได้
หลัวซิวเรียกเตาเทพออกมา ดูดร่างเสี่ยวเจียงหมิงและช่าจื่อเยียนเข้าไปเก็บในเตาเทพ จากนั้นเขาก็รีบกระตุ้นปีกเทพดาราไร้มลทิน บินหนีออกไปจากที่นี่ด้วยความเร็วที่รวดเร็วที่สุด
“โครมม……”
ป่าไม้บริเวณโดยรอบหนึ่งพันไมล์ถูกทำลายอยู่ท่ามกลางชั้นบรรยากาศที่ทรุดตัวลง พลังแห่งกฎลมอัสนีทั้งสองกฎปะทุออกมาอย่างบ้าคลั่ง ซึ่งสามารถทำลายล้างผู้แข็งแกร่งระดับเทพมารได้อย่างง่ายดาย
พูดได้เลยว่าความเร็วในการเคลื่อนที่ของปีกเทพดาราไร้มลทิน รวดเร็วที่สุดในสมบัติระดับเทพมารแล้ว แต่สุดท้ายแล้วหลัวซิวก็ไม่สามารถพุ่งออกไปจากป่าลมสายฟ้าได้อย่างปลอดภัยอยู่ดี ถูกพลังแห่งกฎลมอัสนีโจมตีเมื่อไปถึงชายขอบป่าลมสายฟ้า
สิ่งที่น่ากลัวคือพลังแห่งกฎธาตุลมดั้งเดิมทำให้ร่างเนื้อมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้น 9 ของเขาบาดเจ็บสาหัสมาก ตัวหยั่งรู้ยิ่งบาดเจ็บเพราะพลังแห่งกฎธาตุอัสนีดั้งเดิม แทบจะทำให้ช่องจิตของเขาแตกสลาย
“อั่ก!”
กระอักเลือดที่แดงสดออกมาอย่างต่อเนื่อง หลัวซิวร่วงหล่นลงไปในตำแหน่งที่อยู่ห่างจากขอบป่าลมสายฟ้าเพียงร้อยกว่าไมล์เท่านั้น ออร่าของปีกเทพดาราไร้มลทินหม่นหมองลง ร่างกายเขามีเลือดอาบท่วมตัว แทบจะถูกถลกหนังออกมาหนึ่งชั้น
“ประมาทเกินไปแล้ว……”
ความปวดร้าวทรมานที่น่าเวทนา ถึงแม้จะเป็นเขาที่มีจิตใจแน่วแน่ ก็รู้สึกเจ็บมากจนต้องกัดฟันซี๊ดปาก ร่างยุทธ์ร่างเนื้อแทบจะพิการ ตัวหยั่งรู้บาดเจ็บสาหัส มีรอยแตกร้าวกระจายไปทั่ว
ในความเป็นจริงสาเหตุที่เขาบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้นั้น เป็นเพราะเขานำพลังส่วนมากไปคุ้มกันเตาเทพ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้พลังที่รุนแรงของลมอัสนีแทรกซึมเข้าไปในเตา ทำให้เสี่ยวเจียงหมิงและช่าจื่อเยียนได้รับบาดเจ็บ
เขารู้สึกผิดต่อพี่น้องคู่นี้มากถึงมากที่สุด จึงจะปล่อยให้พวกเขาได้รับบาดเจ็บใด ๆ อีกไม่ได้
“โชคดีที่ช่องจิตไม่ถูกทำลาย มิเช่นนั้นบาดแผลของข้าต้องเป็นดั่งช่าจื่อเยียนแน่นอน”เมื่อตรวจสอบสภาพอาการบาดเจ็บของตัวเองรอบหนึ่ง หลัวซิวก็นึกคิดที่ตนเคราะห์ดีในใจ
หากช่องจิตแตกสลาย วิญญาณดั้งเดิมของเขาก็จะบาดเจ็บสาหัสไปด้วย ผลการฝึกตนก็จะลดลงไปตามกัน
มาตรแม้นว่าร่างแยกนี้จะไม่เกรงกลัวความตาย แต่ถ้าหากไม่มีการคุ้มกันจากเขา เสี่ยวเจียงหมิงและช่าจื่อเยียนไม่สามารถมีชีวิตรอดออกมาจากพลังลมอัสนีที่บ้าคลั่งนั้นได้แน่นอน
เขาหยิบยาออกมาหนึ่งเม็ดแล้วกินมันลงไป คงสภาพอาการบาดเจ็บไว้ได้ชั่วคราว ร่างแยกกฎความตายไม่สามารถใช้พลังแห่งกฎได้ มิเช่นนั้นละก็ ถึงแม้อาการบาดเจ็บจะสาหัสมากกว่านี้ ก็สามารถฟื้นฟูกลับมาเป็นปกติได้อย่างรวดเร็ว
“ต้องไปหาสถานที่ฟื้นฟูอาการบาดเจ็บก่อน”
หลัวซิวไม่ได้หยุดพักอยู่ตรงที่เดิม พลังแห่งลมอัสนีจลาจล ซึ่งมันอาจจะจุดชนวนให้ออร่ากฎดั้งเดิมที่แข็งแกร่งกว่าปั่นปวน และอาจจะดึงดูดเหล่าผู้แข็งแกร่งที่อยู่บริเวณนี้มาที่นี่ก็เป็นได้