มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 1302
“ข้าหวังว่าสักวันหาเจ้าบรรลุถึงแดนที่แน่นอนแล้ว ข้าอยากให้เจ้าช่วยข้าสังหารคนคนหนึ่ง ซึ่งการตกต่ำของตระกูลหงข้า เป็นเพราะการทรยศของคนคนนั้น!”หงเทียนตอบกลับ
“เขาเป็นคนแบบใดหรือ?”หลัวซิวถาม
หงเทียนส่ายหน้า“จากผลการฝึกตนในปัจจุบันของเจ้า เมื่อเปรียบเทียบกับมันแล้ว ยังห่างกันอีกหนึ่งแสนแปดหมื่นไมล์เลย รอผลการฝึกตนของเจ้าบรรลุถึงระดับนั้นเมื่อใด เมื่อนั้นข้าจะบอกเจ้าเอง”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลัวซิวก็พอจะคาดเดาได้แล้วว่าคู่อริที่หงเทียนหมายถึงน่าจะเป็นมกุฎเทพคนหนึ่ง หรืออาจจะมีโอกาสเป็นจ้าวมหาเทพก็ได้
ที่หงเทียนไม่พูดออกมานั้น คาดว่าก็น่าจะเป็นเพราะเกรงว่าจะทำลายความมั่นใจของเขา ถึงอย่างไรปัจจุบันเขาไม่ใช่แม้กระทั่งเทพมาร จึงยิ่งไม่ต้องพูดถึงช่วงระยะความต่างของแดนมกุฎเทพหรือจ้าวมหาเทพเลย
“หากผู้ที่เจ้าหมายถึงสมควรตายจริง ๆ เมื่อข้ามีศักยภาพสูงพอที่จะทำเช่นนั้นได้ ข้าต้องลงมืออยู่แล้ว ข้าจะไม่ฝ่าฝืนมาตรฐานและพื้นฐานของตัวข้าแน่นอน”หลัวซิวก็ไม่ได้ตอบตกลงในทันทีเช่นกัน
“ได้ยินเจ้าพูดเช่นนี้ก็เพียงพอแล้ว!”
หงเทียนยิ้มพลางผงกหัว“พูดตามตรงเลยว่าการที่อยู่ในพิภพต่ำ และสามารถทำได้ดีเช่นเจ้านั้นถือว่าไม่ง่ายเลย พรสวรรค์และศักยภาพของเจ้า เป็นสิ่งที่ข้าเคยได้พบเห็นเพียงหนเดียวเท่านั้นในชั่วชีวิตนี้ หากไม่มีอะไรผิดพลาด การฝึกจนบรรลุถึงแดนราชาเทพนั้นไม่น่าจะยาก ในส่วนของเรื่องที่ว่าจะสามารถฝึกจนบรรลุเป็นมกุฎเทพได้หรือไม่นั้น คงต้องดูการรังสรรค์ของโชคชะตาอีกทีแล้วล่ะ”
ในระหว่างที่พูดอยู่นั้น หงเทียนก็ได้นำเคล็ดวิชาที่ไม่สมบูรณ์ครบถ้วนของจุดลมปราณถ่ายทอดเข้าไปในตัวหยั่งรู้หลัวซิว
ร่างกายของคนเรามีจุดลมปราณหนึ่งร้อยแปด เคล็ดวิชาของตระกูลหงไม่สมบูรณ์ครบถ้วนแต่อย่างใด มีวิชาการเปิดจุดลมปราณเพียง 18 จุดเท่านั้น
จากการบรรยายในเคล็ดวิชา จุดลมปราณหนึ่งร้อยแปดอยู่บนศีรษะ ร่างกาย รวมไปถึงแขนขาทั้งสี่ข้างของมนุษย์ แบ่งออกเป็นส่วนใหญ่ ๆ ในทุก ๆ ส่วนมีจุดลมปราณ 18 จุด เคล็ดวิชาที่ไม่สมบูรณ์ครบถ้วนของตระกูลหง ครอบคลุมวิชาการเปิดจุดลมปราณทั้ง 18 จุดที่อยู่บนแขนข้างซ้ายของมนุษย์
การเปิดจุดลมปราณบนร่างกายมนุษย์ ต้องใช้พลังจากสมุนไพรเพิ่มพลังต่าง ๆ นานา ควบคู่กับกฎดั้งเดิมที่ตัวเราเองยึดกุม ดึงดูดกฎฟ้าดินดั้งเดิมเข้าไปในจุดลมปราณ
จุดลมปราณในร่างกายมนุษย์มีตรีภพหนึ่ง เหมือนดังสภาวะจักรวาลที่ยังไม่ผ่านการบุกเบิกวิวัฒนาการ หลังจากที่บุกเบิกมันแล้ว ก็จะวิวัฒนาการกลายเป็นพิภพหนึ่ง ซ่อนอยู่ในจุดลมปราณและกลายเป็นโลการ่างใน
โลการ่างในสามารถสะสมพลังงานที่มากมายมหาศาล เสนอสิ่งที่ต้องการในการต่อสู้ของตัวนักยุทธ์ อีกทั้งยังสามารถอาศัยโลการ่างในเชื่อมประสานกับฟ้าดินดั้งเดิมของโลกภายนอก ตระหนักรู้วิถีแห่งกฎ ทำให้กฎในโลการ่างในสมบูรณ์
จากการที่โลการ่างในยิ่งอยู่ยิ่งสมบูรณ์ขึ้น พลังที่ตัวยุทธ์จะได้รับก็เพิ่มขึ้นตามเช่นกัน มีศักยภาพอย่างไร้ที่สิ้นสุด
การที่จะเปิดจุดลมปราณในร่างกายมนุษย์ออกนั้น ต้องเพียบพร้อมไปด้วยเงื่อนไขสามข้อ เงื่อนไขแรกก็คือแดนกฎระดับเทพมาร เช่นนี้ถึงจะสามารถเรียกใช้กฎดั้งเดิมที่ตนยึดกุมมาเชื่อมประสานกับกฎฟ้าดินดั้งเดิมได้
และเงื่อนไขที่สองก็คือร่างยุทธ์ระดับเทพมาร หากไม่มีร่างเนื้อที่แข็งแกร่งมากพอ ก็ไม่สามารถจุพละกำลังมหาศาลของพิภพหนึ่งในจุดลมปราณได้ ร่างเนื้อยิ่งแข็งแกร่ง โลการ่างในที่กำเนิดมาจากจุดลมปราณก็ยิ่งแข็งแกร่ง พลังที่มอบให้แก่ตัวนักยุทธ์ก็ยิ่งมาก
และเงื่อนไขที่สามก็คือทรัพยากร!
ตรีภพที่อยู่ในจุดลมปราณ เหมือนห้วงดาราโบราณที่ยังไม่ถูกบุกเบิก ต้องทะลวงมันให้แตก วิวัฒนาการขั้นตอนการกำเนิดโลกใบใหม่ ซึ่งต้องการพลังที่มหาศาลมาสนับสนุน การเปิดจุดลมปราณทุกจุดล้วนต้องสูญเสียสมุนไพรเพิ่มพลังไม่รู้ตั้งเท่าไหร่
“ในมหาโลกาพันสามและแปดโลกมหาพิภพ ระดับการเปิดจุดลมปราณหนึ่งร้อยแปดของตัวนักยุทธ์ เป็นมาตรฐานในการวัดกำลังรบของผู้แข็งแกร่งคนหนึ่ง”
“ในช่วงเวลาที่รุ่งโรจน์ที่สุดของตระกูลหงของข้า ก็มีเพียงบุคคลเดียวเท่านั้นที่เปิดจุดลมปราณได้13 จุด อาศัยพละกำลังอันยิ่งใหญ่มหาศาลจากพิภพทั้ง 13 ในร่างกาย ทำให้เขาเบียดตัวขึ้นไปเป็นหนึ่งในมกุฎเทพขั้นสุดยอดของโลกมหาเสวียน!”
เมื่อพูดถึงอดีตความรุ่งโรจน์ของตระกูลหง สีหน้าท่าทางของหงเทียนก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความใฝ่ฝัน แต่ทว่าถึงแม้ในอดีตจะรุ่งโรจน์มากเพียงใด ก็ไม่สามารถย้อนวันเวลากลับไปในอดีตได้ ทุกอย่างล้วนผ่านไปแล้ว