มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 1320
เขาดูออกอยู่ว่าหุบเขาปีศาจเก้าที่ตั้งอยู่บนหมู่เกาะกว้างใหญ่ที่ลอยอยู่บนส่วนลึกของทะเลนี้ มีค่ายกลที่ใหญ่โตมหึมาจัดวางอยู่
ระดับของค่ายกลดังกล่าวสูงมาก ๆ อย่างน้อยก็เป็นค่ายเทพระดับ 6 มากกว่านั้นคืออาจจะเป็นค่ายเทพระดับ 6 ที่ค่อนข้างทรงพลังด้วย
หากระเบิดพลานุภาพทั้งหมดของค่ายเทพระดับ 6 หนึ่งค่ายออกมา พลังของมันสามารถเทียบทัดกับเจ้านภาได้ หากเป็นค่ายเทพระดับ 6 ขั้นสุดยอด พลานุภาพทั้งหมดที่ระเบิดออกมาเป็นภัยคุกคามต่อกึ่งราชาเทพได้เลย!
ถึงแม้หุบเขาปีศาจเก้าจะมีปีศาจยักษ์ยู่หวูฉิวที่เป็นเจ้านภาเพียงผู้เดียว แต่หากถ้ารวมค่ายเทพระดับ 6 นี้ด้วย ก็เท่ากับมีเจ้านภาสองคน
ทุกกองกำลังต่างเคร่งครัดและละเอียดถี่ถ้วนต่อการจัดค่ายกลในฐานที่มั่นของตัวเองมาก ๆ ไม่มีทางปล่อยให้คนนอกทำลายฐานที่มั่นของตนได้ง่าย ๆ เป็นธรรมดาอยู่แล้ว
สาเหตุที่ซือถูเจิ้งเจี้ยนขมวดคิ้วนั้น เป็นเพราะเขาไม่อยากเข้าไปในหุบเขาปีศาจเก้า เนื่องจากทันทีที่เข้าไป ก็จะถูกขอบเขตของค่ายเทพระดับ 6 ปกคลุม หากลงมือต่อสู้กันจริง ๆ ตนอาจเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
อย่างไรก็ตามซือถูเจิ้งเจี้ยนก็เข้าใจดีเช่นกันว่า ในฐานะที่เขาเป็นราชาเทพโลกาชั้นฟ้าผู้สง่าผ่าเผย หากไม่กล้าเข้าไปแม้กระทั่งสำนักเขาของฝ่ายตรงข้าม เช่นนั้นหากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไปละก็ มันต้องทำให้พลังออร่าของเขาลดลงอย่างแน่นอน
เมื่อคิดเช่นนี้ได้ เขาจึงควบคุมเรือรบอสูรโหด บินเข้าไปในสำนักเขาของหุบเขาปีศาจเก้า
“ท่านราชาเทพ……”
ไปถึงหน้าตำหนักปีศาจยักษ์ ซือถูเจิ้งเจี้ยนเก็บเรือรบอสูรโหด ในขณะที่เขากำลังจะเดินเข้าไปอยู่นั้น จู่ ๆ จ้าวนภาปีศาจนรกที่อยู่ด้านหลังก็เอ่ยปากพูดขึ้นมา: “ปีศาจยักษ์เป็นผู้ที่ลึกซึ้งคาดเดาได้ยาก ท่านอย่าได้ลองเอาตัวเข้าไปเสี่ยงเลยนะขอรับ”
ซือถูเจิ้งเจี้ยนหัวเราะอย่างเยือกเย็น“ข้านั้นเป็นราชาเทพโลกาชั้นฟ้าผู้สง่าผ่าเผย หรือข้ายังต้องเกรงกลัวกองกำลังกระจอก ๆ หนึ่งในโลกามนุษย์อีกหรือ?”
อีกทั้งซือถูเจิ้งเจี้ยนก็มั่นในศักยภาพความสามารถของตนเช่นกัน ถึงแม้จะไม่เก่งกาจถึงขั้นไร้เทียมทานในโลกามนุษย์ แต่อย่างน้อยก็ไม่มีผู้ใดสามารถคุกคามตัวเองได้
ถึงอย่างไรเขาก็สามารถแสดงศักยภาพออกมาถึงระดับกึ่งราชาเทพได้ ในมือเขายังมีศัสตราวุธแห่งราชาที่ตัวเองฝึกเซ่นมานานเป็นแสนปี!
ศักยภาพเช่นนี้เพียงพอที่จะสามารถทำตัวอุกอาจในโลกามนุษย์ได้แล้ว มากกว่านั้นคือถึงแม้จะถูกเจ้านภาสิบกว่าคนรุมโจมตี เขาก็สามารถหนีจากการถูกรุมโจมตีได้ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก
ซึ่งเช่นนี้ก็หมายความว่า ถึงแม้หุบเขาปีศาจเก้าจะมีค่าพเทพระดับ 6 หนึ่งค่าย บวกกับเจ้านภาอย่างปีศาจยักษ์ รวมไปถึงปีศาจแปดที่เป็นเทพฟ้าทั้งแปด มาตรแม้นว่าเขาสู้ไม่ไหว เขาก็สามารถถอยออกไปจากที่นี่ได้อย่างปลอดภัย ไม่อันตรายถึงชีวิต
ซือถูเจิ้งเจี้ยนไม่มีทางเอาชีวิตของตัวเองมาล้อเล่นอยู่แล้ว ในเมื่อเขากล้าเข้าไปในหุบเขาปีศาจเก้า เขาก็ต้องมีศักยภาพและความมั่นใจในการเอาตัวรอดได้อยู่แล้ว
มุมปากของจ้าวนภาปีศาจนรกกระตุกไปสองที เขาต้องเชื่ออยู่แล้วว่าซือถูเจิ้งเจี้ยนมีกลอุบายและศักยภาพในการเอาตัวรอด แต่ใช่ว่าเขาและจ้าวปีศาจเขาเดียวจะทำเช่นนั้นได้เสมอไป
อย่างไรก็ตามซือถูเจิ้งเจี้ยนกลับไม่สนเลยด้วยซ้ำว่าเขาจะคิดอย่างไร ก้าวเท้ายาวเดินเข้าไปในตำหนักปีศาจยักษ์โดยตรง
ณ ตอนนี้วินาทีนี้ ภายในตำหนักปีศาจยักษ์มีคนทั้งหมด 9 คน ในบรรดาทั้ง 9 คนนี้มีปีศาจแปดจากหุบเขาปีศาจเก้า โดยมีปีศาจยักษ์เป็นผู้นำ ส่วนอีกคนหนึ่งก็คือหลัวซิว
และในบรรดาปีศาจเก้า ผู้ที่ไม่อยู่ในนี้คือปีศาจหกสวีโยวจือ เนื่องจากเขาเป็นนักค่ายเทพระดับ 5 กำลังควบคุมค่ายเทพระดับ 6 ของหุบเขาปีศาจเก้าอยู่ในที่ลับ
ปีศาจยักษ์ยู่หวูฉิวค่อย ๆ ลุกตัวขึ้น ทำท่าคารวะให้ซือถูเจิ้งเจี้ยนอยู่ไกล ๆ“ราชาเทพซือถู ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ!”
เมื่อหนึ่งแสนปีก่อน ซือถูเจิ้งเจี้ยนเป็นเจ้านภาที่แข็งแกร่งที่สุดในพิภพนี้ ปีศาจยักษ์เมื่อครานั้นยังค่อนข้างหนุ่ม เป็นเพียงเทพฟ้าขั้น 5
ครั้นนั้นเขาก็มีวาสนาเคยเจอหน้าซือถูเจิ้งเจี้ยนมาบ้าง
ซือถูเจิ้งเจี้ยนพยักหน้าอย่างเรียบนิ่ง สำหรับเขาแล้ว ปีศาจยักษ์ยู่หวูฉิวผู้นี้ในหุบเขาปีศาจเก้าก็เป็นเพียงผู้น้อยคนหนึ่งเท่านั้น