มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 1435
นอกจากวงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพที่เขาหลอมเองเป็นการส่วนตัวแล้ว เขายังเหลือเตาเทพสองในหนึ่งอัญเทพฟ้าของสำนักเซียนไร้เจตสิกไว้ด้วย ให้ เป็นอัญบัลลังก์แห่งสำนักที่เห็นได้ของสำนักไท่เสวียน
สำหรับสมบัติที่ทรงพลังกว่านั้น หลัวซิวไม่ได้เหลือไว้ เพราะหากไม่มีความแข็งแกร่งเพียงพอจะเทียบได้ ก็จะเป็นเพียงผู้บริสุทธิ์ที่ถูกกล่าวหามีความผิดเท่านั้น
“เจ้าจะจากไปแล้วหรือ?”
ก่อนออกเดินทาง หลัวซิวมาที่ที่พักของช่าจื่อเยียนเพื่อกล่าวคำอำลา
“โลกเสวียนเทียนเล็กเกินไป เจ้าต้องการโลกที่กว้างกว่าจริงๆ…” สำหรับหลัวซิวนั้น ช่าจื่อเยียนมีความรู้สึกที่ซับซ้อน
หลัวซิวเหลือม้วนหยกหนึ่งอัน ซึ่งบันทึกบำเพ็ญพลิกทมิฬขั้นที่ 2 ไว้ ซึ่งเพียงพอสำหรับเสี่ยวเจียงหมิงที่จะฝึกฝนให้ถึงแดนราชาเทพ
เจ้าสำนักไท่เสวียน หลัวซิวสืบทอดให้กับหลินจื่อเฟิง และเขาสละเจ้าสำนักกลับสู่ความสันโดษในนามของอาจารย์ปู่
แม้ว่าระดับผลการฝึกฝนของหลินจื่อเฟิงยังไม่ถึงแดนเทพมาร แต่ก็อยู่ไม่ไกลนัก ในบรรดาคนดั้งเดิมของสำนักไท่เสวียน ระดับผลการฝึกฝนนั้นสูงที่สุด
ความแข็งแกร่งแบบนี้อาจไม่นับว่าอะไรในโลกเสวียนเทียน แต่ด้วยความช่วยเหลือจากเทพฟ้าทั้งหกและความช่วยเหลือของสำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนเหมินเฟิ่งหวูซิน การพัฒนาของสำนักไท่เสวียนจะราบรื่นขึ้นมาก
หลัวซิวยังมอบวิญญาณดั้งเดิมของผู้แข็งแกร่งเทพฟ้าทั้งหกให้กับหลินจื่อเฟิง และจัดการทุกอย่างอย่างเหมาะสม
“ข้าก็จะไปด้วย”
เมื่อรู้ว่าหลัวซิวกำลังจะจากไปอีกครั้ง เหยียนเยว่เอ๋อร์ยืนกรานที่จะไปกับเขา
หลังจากผ่านอุปสรรคที่โลกแสงดาวมาหลายครั้งหว่าที่พวกเขาก็ได้พบกัน เวลาที่พวกเขาอยู่ด้วยกันก็น้อยลงมาก ส่วนใหญ่หลัวซิวจะปิดขังฝึกตนหรือฝึกฝนอยู่ข้างนอก
แต่นี่คือชีวิตของนักยุทธ์ อย่างน้อยก็อยู่ในช่วงของการพัฒนาความแข็งแกร่งอย่างรวดเร็ว เป็นไปไม่ได้ที่จะอยู่ด้วยกันเหมือนสามีภรรยามนุษย์ธรรมดาไปจนตาย
“ในโลกาอัมพรเทวมีผู้แข็งแกร่งมากมาย เจ้าไปกับข้าอันตรายเกินไป” หลัวซิวไม่เห็นด้วย
เหยียนเยว่เอ๋อร์รู้ว่าหลัวซิวคำนึงถึงความปลอดภัย และแม้ว่านางจะอาลัยอาวรณ์มากแค่ไหน นางก็ไม่ได้ยืนกรานต่อไป
ในวันนี้ หลัวซิวอำลาพ่อแม่ของเขา เหยียนเยว่เอ๋อร์และเหยียนซีโรว่ ออกจากโลกเสวียนเทียนเพียงลำพัง เข้าสู่อนัตตาไม่สิ้น
เขามีแผนที่ดาวอนัตตาเพื่อไปโลกาอัมพรเทว เพราะพื้นที่ของจักรวาลทั้งหมดนั้นกว้างใหญ่เกินไป และระยะห่างระหว่างพิภพค่อนข้างใกล้ ซึ่งจะก่อให้เกิดพลังแห่งโซนในอนัตตาไม่สิ้น และพิภพบางแห่งอยู่ไกลออกไป จึงเป็นท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวมืดมิดำไร้ที่สิ้นสุด
ในอนัตตาและห้วงดารามีอันตรายมากมาย นอกจากนี้หนทางยังห่างไกลอีกด้วย เดินทางเพียงลำพังอย่างไร้จุดหมายปลายทางเป็นการกระทำที่อันตรายอย่างยิ่ง
ดังนั้นจะมีจุดหักเหในอนัตตาและห้วงดารา มีค่ายวาร์ปอนัตตาที่สร้างโดยผู้แข็งแกร่งแห่งโลกยุทธ์ อย่างนี้แล้วเพียงลำบากครั้งเดียวครั้งต่อไปก็จะไม่ลำบากยุ่งยากอีกต่อไปและลดเวลาในการเดินทางอีกด้วย
เป็นผลให้สถานที่เหล่านี้ที่มีค่ายวาร์ปอนัตตา ค่อยๆรุ่งเรืองขึ้นมา และมีกองกำลังบางส่วนจะครอบครองปกครองด้านใดด้านหนึ่ง
ในอนัตตาไม่สิ้น หลัวซิวได้ปล่อยอสูรดูดจิตโบราณออกมา อสูรโบราณได้แปลงร่างเป็นร่างแท้หลายร้อยเมตร บินไปมาในอนัตตา เร็วราวกับสายฟ้าสีดำ ไม่ช้ากว่าความเร็วของปีกเทพมังกรครามยักษ์ไร้มลทินตอนที่เขาใช้
หลังจากบินแบบนี้มานานกว่าหนึ่งเดือน อนัตตาไม่สิ้นก็ดูเหมือนจะสิ้นสุดลง เขาเข้าสู่ห้วงดาราที่มืดมิดและไร้ขอบเขต
เมื่อมองย้อนกลับไป มีดาราขนาดใหญ่สองดวงลอยอยู่ตรงหน้า และโซนวุ่นวายซึ่งก่อตัวขึ้นระหว่างดาราทั้งสองนั้นคืออนัตตาไม่สิ้นที่เขาเพิ่งอยู่เมื่อครู่นี้
ดาราทั้งสองดวงนี้เป็นโลกาอสูรฟ้าและโลกเสวียนเทียนที่อยู่ใกล้กัน
ในระยะทางที่ห่างไกลออกไป หลัวซิวสามารถเห็นจุดแสงริบหรี่เล็กน้อย และจุดแสงแต่ละจุดอาจเป็นดาราดวงหนึ่ง พิภพแห่งหนึ่ง
“นี่คือดาราจักรวาลหรือ? มันช่างงดงามจริงๆ…” ใจของหลัวซิวเต็มไปด้วยความอึ้ง ภาพแบบนี้ค่อนข้างคล้ายกับโซนสงสารวัฏในลูกแก้วความเป็นตาย