“ปรากฏการณ์ประหลาดฟ้าดิน!”
ภาพเหตุการณ์ดังกล่าวได้ดึงดูดความสนใจของทุกคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุทันที สายตาของทุกคนล้วนแหงนมองขึ้นไปบนนภาสูง ราวกับพวกเขามองเห็นห้วงดาราห้วงหนึ่ง แต่ทว่าเมื่อเปรียบเทียบกับห้วงดาราที่กว้างใหญ่ไร้ขีดจำกัดที่แท้จริงแล้ว ห้วงดาราที่ปรากฏ ณ วินาทีนี้ เรียกได้ว่าเป็นเพียงผังดาราฉบับย่อลงอย่างไร้ขีดจำกัด
ภายในผังดาราดังกล่าว มีดวงดาวเก้าดวงกระพริบระยิบระยับ มีเจ็ดดวงอยู่ด้านล่าง และอีกสองดวงอยู่ด้านล่าง
ทันใดนั้น ดวงดาวทั้งเก้าดวงก็ร่วงตกมาดั่งหินอุกกาบาต กลายเป็นลำแสงแห่งนิจนิรันดร์ ร่วงลงมาทางภูเขารกร้างที่อยู่ด้านล่าง
บนกลางภูเขาอันพังรกร้างที่แตกสลายไปเกือบครึ่งแล้วตั้งแต่แรก ร่างแท้ของหลัวซิวอยู่ภายในถ้ำที่เละเทะไม่สมบูรณ์และมีละอองฝุ่นร่วงลงมาอย่างต่อเนื่องแห่งหนึ่งได้ลืมตาทั้งสองข้างขึ้นมากะทันหัน
ในส่วนลึกนัยน์ตาของเขา มีดวงดาวที่ใหญ่โตมหึมาเก้าดวงระยิบระยับปรากฏในห้วงดารา!
“เคล็ดแสงดาวเทียนเต้าสำเร็จน้อย และขั้นต่อไปก็คือวงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพสำเร็จน้อย!”
จากการที่เสียงดังสะเทือนเลื่อนลั่นดังขึ้น เงาร่างของหลัวซิวก็พุ่งทะยานออกมาจากภูเขาอันรกร้าง วงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพที่อยู่ด้านหลังเขากำลังหมุนไปมา ภายในรูเล็ตสีดำขาวขนาดใหญ่ มีดวงดาวเก้าดวงเป็นประกายระยิบระยับ และรวมตัวกันจนประกอบเป็นแผนที่ดาว
อาณาจักรกฎการเวียนว่ายตายเกิดแผ่กระจายออกไป แผ่คลุมพื้นที่รัศมีหนึ่งพันไมล์เอาไว้ และมีเพียงอยู่ภายในขอบเขตพื้นที่เช่นนี้ ถึงจะสามารถรักษาพลังของอาณาจักรแห่งกฎให้อยู่ในสภาวะที่แข็งแกร่งมากที่สุดได้ตลอดเวลา
ภายในอาณาจักรกฎการเวียนว่ายตายเกิด นอกเหนือจากร่างแท้ของหลัวซิวแล้ว เขาสามารถยึดพลังชีวิตของทุกสรรพสิ่งได้!
“พลังชีวิตของข้า! ……”
สีหน้าของผู้คนเปลี่ยนไปอย่างมาก สัมผัสได้ถึงชีวีดั้งเดิมของตัวเองกำลังไหลหายไปอย่างรวดเร็ว และอายุไขของตัวเองก็ลดน้อยลงเช่นกัน ทั้งสองสิ่งนี้เกิดขึ้นพร้อมกันจนทำให้ผู้คนหวาดกลัวอย่างมาก
ทุกคนล้วนถูกยึดพลังชีวิต พลังชีวิตของทุกคนล้วนไปรวมตัวกันที่วงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพที่อยู่ด้านหลังหลัวซิว ซึ่งรูเล็ตนี้เป็นผลิตผลหลังจากฝึกพลังจุติมรณะขึ้นไปถึงแดนที่แน่นอนแล้ว ชีวีดั้งเดิมที่กลืนกินและยึดมามีมากเท่าไหร่ รูเล็ตก็ยิ่งแข็งแกร่งมากเท่านั้น
“มันกำลังยึดพลังชีวิตของพวกเราทุกคนอยู่ คนดังกล่าวต้องเป็นผู้ล่อทัณฑ์สายฟ้ามาอย่างแน่นอน ฆ่ามันซะ!”
ผู้แข็งแกร่งระดับเจ้านภาชั้นยอดสองคน ทันทีที่มาถึงก็ทุ่มเทสุดกำลังสามารถ พลานุภาพของพลังอมตะเคล็ดวิชา ของขลังและอาวุธสงครามล้วนมโหฬารพันลึก
อย่างไรก็ตาม หลังเสียงการโจมตีที่ดังสะเทือนเลื่อนลั่นผ่านไป ร่างกายของหลัวซิวกลับไม่ได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย ภายในเวลาชั่วพริบตาเดียว เขาก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าหนึ่งในเจ้านภาชั้นยอดทันที กางนิ้วมือทั้งห้าออก ตรงกลางฝ่ามือเหมือนวิวัฒนาการพิภพหนึ่งออกมาได้ยังไงอย่างนั้น ก่อนที่เขาจะใช้พลังแห่งโลกาอันมหาศาลที่แฝงซ่อนอยู่ภายในกดอัดลงมา
พึบ!
ร่างเนื้อของผู้แข็งแกร่งเจ้านภาชั้นยอดเปราะบางมาก ๆ กลายเป็นหมอกเลือดในชั่วพริบตาเดียว ร่างสิ้นธรรมสูญ
ถัดจากนั้นวินาทีต่อไป เขาก็ปรากฏตัวอยู่ด้านหลังเจ้านภาชั้นยอดอีกคนหนึ่ง นิ้วมือของเขาราวกับกลายเป็นกระบี่เทพเล่มหนึ่งยังไงอย่างนั้น ผ่าร่างกายของผู้แข็งแกร่งนภาชั้นยอดคนดังกล่าวออก แล้วนำช่องจิตที่แวววาวจับตาหนึ่งดวงออกมา
พลังชีวิตของทุกคนที่อยู่ในอาณาจักรเป็นตายถูกยึดอย่างต่อเนื่อง อายุไขแปดแสนกว่าปีของผู้แข็งแกร่งเจ้านภาคนหนึ่ง ภายในระยะเวลาสั้น ๆ เพียงไม่ถึงครึ่งชั่วโมง พลังชีวิตของเขาก็ถูกยึดไปเกือบครึ่ง ร่วงโรยถึงขีดสุด ราวกับถึงจุดสิ้นสุดของชีวิตแล้วยังไงอย่างนั้น
และภายในขอบเขตอาณาจักรนี้ ปริภูมิก็ถูกผนึกไปด้วยเช่นกัน คนจำนวนมากอยากบินหนีออกไปจากที่นี่ แต่ทว่าความเร็วของพวกเขากลับเชื่องช้ามาก ทุกย่างก้าวนั้นลำบากแสนเข็ญมาก
มีเพียงร่างหลัวซิวเท่านั้นที่ไม่ถูกกระทบ มันเป็นเรื่องที่ลึกลับซับซ้อนมาก ทุกครั้งที่ลงมือก็มีคนต้องตายหนึ่งคน แล้วเขาก็ทำการยึดพลังชีวิตของคนเหล่านั้นมาอย่างหมดจด
ครั้นเมื่อออกมาจากดาราเรืองแสงและเปิดจุดลมปราณดาราจุดที่สองได้ หลัวซิวก็เคยทำเรื่องเช่นนี้มาก่อนเช่นกัน ยิ่งฆ่าคนมากเท่าไหร่ ก็จะสัมผัสได้ถึงชีวิตจากการมีอยู่สู่ความไม่มี และเสี้ยววินาทีที่พลังชีวิตหายไปโดยสิ้นเชิง เขาก็จะมีความเข้าใจต่อความลี้ลับของกฎการเวียนว่ายตายเกิดในอีกมุมหนึ่งใหม่
เขาไม่รู้ว่าตั้งแต่ตัวเองเดินลงบนเส้นทางแห่งยุทธ์ ตนฆ่าคนไปแล้วเท่าไหร่ บางสิ่งที่เกี่ยวกับกฎการเวียนว่ายตายเกิดที่เขาไม่เคยเข้าใจในอดีต วินาทีนี้เขาก็ค่อย ๆ เข้าใจและตระหนักรู้ได้แล้ว……
เหล่านักยุทธ์ที่มองมาจากที่ไกล ๆ ที่ไม่ได้ย่างกรายเข้ามาในอาณาจักรเป็นตายต่างอกสั่นขวัญเสีย ร่างกายที่สั่นเทามีความหวาดกลัวปนอยู่ด้วย พวกเขารู้สึกดีใจที่บังเอิญโชคดีที่เมื่อครู่ตนไม่ได้วู่วามบุกฆ่าเข้าไป มิเช่นนั้นบางทีตัวเอง ณ วินาทีนี้อาจจะเป็นเหมือนผู้คนเมื่อก่อนหน้านี้ก็เป็นได้