มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake – บทที่ 1522

แววตาของเฒ่าประหลาดหวงที่อยู่ข้างกายพวกเขาเป็นประกาย เขานึกไม่ถึงเลยว่าจะมียอดฝีมือเช่นนี้บังเกิดในสำนักเทียนเจี้ยน

“คนดังกล่าวมีวิธีการที่สามารถสร้างความเสียหายให้แก่ราชาเทพได้ หากเขาเข้าร่วมศึกการช่วงชิงสิทธิ์ ไม่แน่สิทธิ์ในการมุ่งไปยังโลกะอัมพรเทวในครั้งนี้ อาจทำให้สำนักเทียนเจี้ยนได้รับผลดีไม่น้อยเลย……”

ภายในเวลาชั่วขณะ โจวเจิ้งและจินหลิงหยุนก็มาถึงตรงหน้าหลัวซิวเป็นที่เรียบร้อย แววตาของทั้งสองต่างมีความช็อกและความตะลึงปนอยู่ด้วย จินหลิงหยุนยังดีหน่อย เนื่องจากเขาเคยสัมผัสความแข็งแกร่งของหลัวซิวด้วยตนเองมาก่อนแล้ว ส่วนใบหน้าของโจวเจิ้งนั้นกลับเปี่ยมล้นไปด้วยความช็อก เนื่องจากมาตรแม้นว่าเขาที่มีศักยภาพอยู่ในระดับกึ่งราชาเทพขั้นสูง ก็ไม่มีทางต่อกรกับราชาเทพโดยตรงได้อย่างแน่นอน

แม้ว่าระยะห่างของเจ้าและราชาเทพจะห่างกันเพียงเล็กน้อย แต่ทว่าตราบใดที่ยังไม่บรรลุเป็นราชาเทพ ก็ไม่มีทางใช่คู่ต่อสู้ของราชาเทพแน่นอน

“ดูผู้อาวุโสหลัวที่รูปร่างหน้าตาภายนอกไม่ได้จริง ๆ ……”โจวเจิ้งอมยิ้ม “มีผู้อาวุโสหลัวอยู่ด้วย ทำให้ความมั่นใจในศึกการช่วงชิงสิทธิ์ในครั้งนี้ของสำนักเทียนเจี้ยนเพิ่มขึ้นไม่น้อยเลย!”

“เหอะ ๆ การที่ผู้อาวุโสหลัวสามารถต่อกรกับราชาเทพโดยตรงได้นั้น ช่างเป็นเรื่องที่น่าทึ่งเสียจริง ผู้เพื่อนยุทธ์ทุกคนโปรดตามข้ามาเถอะ”เฒ่าประหลาดหวงที่อยู่ข้าง ๆ ยิ้มพลางพูด

หลัวซิวเอามือทั้งสองประสานกันแล้วยกขึ้นในระดับหน้าอกคารวะไปทางเฒ่าประหลาดหวง ถึงอย่างไรหากไม่ใช่เพราะมหาเทวะดาราอุดรลงมือ เขาไม่มีทางหลุดพ้นจากการไล่ล่าในครั้งนี้ของจี้เฟิงได้เด็ดขาด

เพราะฉะนั้นแล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ เท่ากับมหาเทวะดาราอุดรช่วยชีวิตเขาไว้ครั้งหนึ่ง เพราะว่าแม้จะมาพร้อมกับคนในเขามหาเทวะ หลัวซิวก็เกรงใจต่อฝ่ายตรงข้ามมาก ๆ

ณ วินาทีนี้ ทั่วทั้งเมืองต่างกำลังวิพากษ์วิจารณ์กัน ซึ่งภายในคำวิพากษ์วิจารณ์นั้นได้เอ่ยถึงหลัวซิวหลายครั้งมาก ถูกผู้อื่นทราบว่าตัวตนของเขาคือเค่อชิงคนหนึ่งในสำนักเทียนเจี้ยน โดยเฉพาะเมื่อเจ้านภาและกึ่งราชาเทพส่วนมากพบเห็นเขาแล้ว ก็จะก้มคำนับคารวะให้เขาอย่างเกรงใจ ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเพราะเขาสามารถต่อสู้กับผู้แข็งแกร่งราชาเทพได้โดยตรง ยิ่งกว่านั้นคือเขายังสามารถปลดปล่อยการโจมตีที่ทรงพลัง ทำให้ราชาเทพได้รับบาดเจ็บด้วย!

พลังโจมตีที่ทรงพลังเช่นนี้ แม้แต่ราชาเทพยังได้รับบาดเจ็บ เช่นนั้นการที่จะสังหารกึ่งราชาเทพนั้นต้องทำได้ไม่ยากแน่นอน

เฒ่าประหลาดหวงก็พยายามตีสนิทอยู่ข้างกายหลัวซิว ซึ่งลักษณะท่าทางของเขาแตกต่างจากตอนอยู่นอกเมืองเมื่อก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง

“ศึกการช่วงชิงสิทธิ์ที่มุ่งไปยังโลกะอัมพรเทวในครั้งนี้แตกต่างจากครั้งก่อน ๆ”เฒ่าประหลาดหวงยิ้มพลางพูด

“แตกต่างอย่างไรหรือ?”โจวเจิ้งขมวดคิ้วพลางถามอย่างอดไม่ได้

“สถานที่ตั้งของเมืองเทวะดาราอุดรและเขามหาเทวะคือสถานที่แห่งการเข้าใจวิถีอย่างถ่องแท้ของมกุฎเทพดาราอุดรเมื่อหลายล้านปีก่อน การเข้าใจวิถีอย่างถ่องแท้ของมกุฎเทพได้ทิ้งโชคชะตาไว้ จนประกอบเป็นพิภพหนึ่ง และกลายเป็นแดนปริศนา”

เฒ่าประหลาดหวงใช้มือลูบหนวดเคราพลางยิ้มพลางพูด: “ภายในแดนปริศนานั่นมีเศษพลังออร่าของมกุฎเทพยังหลงเหลืออยู่ ต่อให้ใต้เท้ามหาเทวะเข้าไป ผลการฝึกตนก็จะถูกกดอัดลงมาที่แดนเทพมาร”

“แต่ทว่าใต้เท้ามหาเทวะเคยกล่าวไว้แล้วว่าแม้ผลการฝึกตนจะถูกกดอัด แต่เมื่ออยู่ภายใต้พลังการกดอัดดังกล่าวแล้ว กลับเป็นจังหวะและโอกาสอันดีงามในการชุบร่างตัวเอง ยิ่งกว่านั้นคือสามารถใช้โอกาสดังกล่าวมาตระหนักรู้ในแดนเทพมารอีกครั้ง ปรับรากฐานที่ไม่ทันทำให้มั่นคงแข็งแรงในอดีตให้กลับมาสมบูรณ์แบบอีกครั้ง”

“กฎเกณฑ์ยังคงเป็นเหมือนอดีต กองกำลังใหญ่ราชาเทพทั้งห้าส่งคนเข้าร่วมได้สามคน เมื่ออยู่ภายในแดนปริศนามกุฎเทพ ผลการฝึกตนของทั้ง 15 คนจะถูกกดอัดลงไปที่แดนเทพมาร และเข้าร่วมการแข่งขันด้วยวิธีการเช่นนี้”

“แล้วถ้าหากนักยุทธ์ที่ผลการฝึกตนอยู่ในแดนเทพมารเข้าไปแล้วจะเป็นอย่างไรหรือ?”หลัวซิวอดถามไม่ได้

“แดนเทพมารจะไม่ถูกกดอัดใด ๆ”เฒ่าประหลาดหวงยิ้มพลางตอบกลับ

เมื่อได้ยินเช่นนี้หลัวซิวก็เข้าใจแจ่มแจ้งทันที ทว่าเขากลับรู้สึกสงสัยอยู่เล็กน้อย นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาพบเจอปรากฏการณ์ที่ผลการฝึกตนถูกกดอัดลงมาที่แดนเทพมาร เมื่อเข้าไปในแดนปริศนา ครั้นเมื่ออยู่ในแดนปริศนาโลกเซียนของโลกเสวียนเทียนก็เป็นเช่นนี้เช่นกัน

โลกเซียนเสวียนเทียน เป็นสถานที่แห่งการเข้าใจวิถีอย่างถ่องแท้ครั้นเมื่อราชาเทพเสวียนเทียนบุกเบิกโลกเสวียนเทียน และทิ้งสำนักเต๋าเสวียนเทียนไว้เพื่อรอคอยผู้มีวาสนา

โลกาดาราอุดรนี้ ก็เป็นแดนปริศนาหนึ่งในสถานที่แห่งการเข้าใจวิถีอย่างถ่องแท้ของผู้แข็งแกร่งมกุฎเทพเช่นกัน เมื่อเข้าไปภายในแล้วผลการฝึกตนจะถูกกดอัดอยู่ที่แดนเทพมาร หรือว่าภายในนั้นก็มีสมบัติเหมือนกัน?

ทว่าสิ่งที่หลัวซิวสามารถคาดการณ์ได้ล่วงหน้าคือหากภายในมีสมบัติ เช่นนั้นการที่จะได้ครอบครองสมบัตินั้นต้องเป็นสิ่งที่ไม่ง่ายอย่างแน่นอน เชกเช่นสำนักเต๋านั่นในโลกเซียนเสวียนเทียน กาลเวลาผ่านพ้นมายาวนานอย่างไม่รู้จบ มีอัจฉริยบุคคลที่นับไม่ถ้วนต่างเคยทดลอง กลับไม่มีผู้ใดทำสำเร็จเลย

จนกระทั่งต่อมา เขาใช้ร่างกลวัฏสงสารที่หนึ่งลงมือ ถึงจะยึดครองสำนักเต๋านั่นมาได้