ไม่กี่เดือนต่อมา ในคืนเดือนหงายที่สว่างไสว หลัวซิวนั่งขัดสมาธิอยู่ในถ้ำ ที่บริเวณหว่างคิ้วของเขามีชิ้นส่วนของใจแห่งศุภรลอยเคว้งอยู่ ความเร็วของเวลาทั่วทั้งภายในถ้ำ ถูกลดลงสิบเท่า
ที่บริเวณด้านหน้าของเขามียาวางเอาไว้หลายขวด ยาแต่ละชนิดต่างเป็นยาเซียนระดับหก
เพื่อที่จะให้ความร่วมมือต่อการเปิดจุดปราณร่างเนื้อ ยาเซียนระดับหกพวกนี้ หลัวซิวทั้งหมดถูกกลั่นขึ้นตาม Attr กฎใหญ่ต่าง ๆ เติมเต็มซึ่งกันและกัน
ด้วยบทเรียนที่ได้เรียนรู้จากครั้งที่แล้ว คราวนี้เขามั่นใจอย่างยิ่งว่าเขาจะประสบความสำเร็จ
อีกทั้งเมื่อเทียบกับกมลโลกา ราคาของยาเซียนระดับหกไม่กี่ขวดตรงหน้านี้มันเทียบอะไรไม่ได้เลย ต้นทุนของการฝึกตนวิชาอาถรรพณ์จุดลมปราณร่างเนื้อลดลงอย่างมาก
“ปัง!”
ระลอกคลื่นที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าแพร่กระจายออกมาจากบนร่างของหลัวซิว ที่บริเวณด้านหลังของเขา ดาราสีดำสนิททั้งห้าก็ปรากฏขึ้นมา ดาราทุกดวงต่างหลอมรวมเป็นสสาร
ในขณะนี้เอง ภาพมายาของดาราสีดำสนิทดวงที่หกก็ปรากฏขึ้น ด้วยพลังงานที่มากมายมหาศาลนั้นเติมเต็มและโหมกระหน่ำไปยังจุดลมปราณ ดาราภาพมายาก่อร่างขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป
ยาเม็ดแล้วเม็ดเล่าถูกเขากลืนลงไป ภายใต้การโคจรของวรยุทธ์ แก้วเทวที่กองพะเนินเป็นจำนวนมากอยู่รอบ ๆ ต่างก็ประทุพลังงานอันมหาศาลออกมา ถูกเขาดูดซึมเข้าสู่ภายในร่างกาย
จนกระทั่งเวลาผ่านไปเนิ่นนาน ดวงตาของหลัวซิวก็เปิดขึ้นอย่างกะทันหัน มีรัศมีเทวที่สว่างไสวเปล่งประกายอยู่ภายในดวงตาของเขา ออร่าอันทรงพลังถูกแผ่กระจายออกมาจากภายในร่างกายของเขา แต่คลื่นออร่านี้ ต่างถูกค่ายกลที่จัดวางเอาไว้โดยรอบถ้ำซ่อนง่ำเอาไว้
ดาราสีดำดวงที่หกหลอมรวมสำเร็จ เปิดจุดลมปราณร่างเนื้อที่หก!
และทั้งหมดนี้ยังไม่จบลง หลังจากหลอมรวมร่างเนื้อดาราดวงที่หก นัยน์ตาของหลัวซิวรัศมีเทวเข้มข้น ทันใดนั้นก็ตะโกนออกมาเสียงทุ้ม “เส้นลมปราณนิรมิต!”
ทุกอย่างวิชาอาถรรพณ์ที่ถูกบันทึกไว้ภายในชิ้นส่วนตำราค่ายกลถูกเขาโคจร ในชั่วพริบตาหนึ่ง แสนแปดหมื่นรูขุมขนบนร่างกายของเขาต่างเบ่งบานด้วยแสงสีทองจาง ๆ
ตามมาด้วยความเจ็บปวดอันน่าสะพรึงกลัว เส้นลมปราณภายในร่างกายทุกขาดสะบั้นไปทุกส่วน กระทั่งเส้นลมปราณทั่วทั้งร่างกายต่างแตกละเอียดเป็นผุยผงอย่างสมบูรณ์
โดยทั่วไป เส้นลมปราณของนักยุทธ์เมื่อใดที่แหลกสลายจนหมด ผลการฝึกตนที่อยู่ภายในร่างกายก็จะไหลออกไปจนหมด หรือบางทีอาจจะสูญเสียการควบคุมตามไปด้วย
แต่หลัวซิวใช้การโคจรชิ้นส่วนตำราค่ายกล พลังเวทย์ดาราทั้ง 18 ดวงภายในจุดตันเถียนชี่ไห่ยังคงความสงบนิ่งอยู่ตลอดการกระบวนการ ไม่ใช่เพราะว่าการแหลกสลายของเส้นลมปราณภายในร่างกายจึงเกิดการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย
หลังจากนั้น ทันทีที่เส้นลมปราณแตกสลายไป ก็เริ่มก่อร่างขึ้นมาใหม่อีกครั้ง แต่เส้นลมปราณที่จัดเรียงอยู่ภายในร่างกายกลับไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด
เมื่อก่อนตอนที่อยู่ในแดนกลั่นร่าง หลัวซิวก็ได้รับรู้ว่า ความแข็งแกร่งของทักษะยุทธ์วรยุทธ์จะแข็งแกร่งหรือไม่นั้น มันขึ้นอยู่กับเส้นทางไหลเวียนของเส้นลมปราณ
หลังจากนั้น เมื่อแดนผลการฝึกตนเพิ่มขึ้น ได้สัมผัสกับทักษะยุทธ์ที่อยู่ในระดับสูงขึ้น จนเมื่อถึงพลังอมตะก็ไม่ได้มีสิ่งที่เรียกว่าการไหลเวียนของเส้นลมปราณอีก เพราะเมื่อบรรลุถึงวรยุทธ์ขั้นสูงระดับนี้แล้ว วิธีการและหลักการของผลการฝึกตนที่ไหลเวียนภายในเส้นลมปราณมันเรียกได้ว่าไร้ที่ติไปแล้ว วรยุทธ์พลังอมตะแข็งแกร่งหรือไม่ ตัดสินได้จากความสูงต่ำของแดนกฎ
แต่ว่าชิ้นส่วนตำราค่ายกลกลับทำลายหลักการทั่วไปนี้จนหมด มันไม่ได้ทำให้วรยุทธ์ไปพอดีกับลู่ทางการไหลเวียนของเส้นลมปราณ แต่เป็นการฝืนบังคับปรับเปลี่ยนการจัดเรียงของเส้นลมปราณ ตรงเข้าไปทางให้การไหลเวียนของผลการฝึกตน กลายเป็นความบริบูรณ์ที่แท้จริง ทำให้พลังเวทย์แม้เพียงเล็กน้อยก็สามารถสำแดงออกมาเป็นพลังที่ทรงอำนาจมากที่สุด
เส้นลมปราณที่นิรมิตสำเร็จจะมีสีทอง พลังเวทย์โคจรอยู่ด้านใน ทำให้หลัวซิวรู้สึกได้ว่าพลังที่ตนลงมือโจมตีออกไป เพียงพอที่จะเพิ่มขึ้นอีกสามเท่า!
สามเท่าดูเหมือนไม่มากเท่าไรนัก แต่กลับมากพอที่จะบดขยี้ในระดับเดียวกันได้ ที่ต้องรู้คือในวันนี้ดาราทั้ง 18 ดวงของเขาหลอมรวมสำเร็จ พลังเวทย์ทั้งร่างนั้นเทียบเท่าได้กับราชาเทพช่วงต้น
ซึ่งนี่ก็หมายความว่า ตัวเขาในวันนี้สามารถบดขยี้ผู้แข็งแกร่งแดนราชาเทพช่วงต้นได้!
“ด้วยพลังของข้าในเวลานี้ หากโคจรพลังแปรเสวียนเทียน จะสามารถต้านทานราชาเทพช่วงกลางได้หรือไม่?”