มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake – บทที่ 1579

มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 1579

คนสวมหน้ากากชุดดำหลายสิบคนดูเหมือนจะซุ่มโจมตีมาเป็นเวลานาน หลังจากปรากฏตัว ก็โจมตีทันทีโดยไม่พูดอะไรสักคํา

ระหว่างที่คนเหล่านี้ลงมือ นัยน์ตาของหลัวซิวก็ฉายแววเป็นประกายขึ้นมา เพราะว่าพลังอมตะที่พวกเขาสำแดงออกมานั้น ส่วนมากมาจากสายเขามหาเทวะ

หลายปีมานี้ที่เขาอยู่ที่โลกาดาราอุดร สำหรับห้ากองกำลังใหญ่ราชาเทพเขาค่อนข้างเข้าใจอยู่มากทีเดียว ด้วยความเชี่ยวชาญในด้านแดนพลังอมตะของเขา เมื่ออีกฝ่ายโจมตี ต่อให้มีบางอย่างหลบซ่อนไว้ แต่มันจะรอดพ้นสายตาของเขาไปได้อย่างไร?

“จับเป็น!”

ชายชุดดำที่เป็นหัวหน้ายืนอยู่กลางอากาศนิ่งไม่ขยับ แต่เอ่ยปากสั่งการด้วยน้ำเสียงเย็นชา

หลัวซิวเผยรอยยิ้มเย้ยหยัน ร่างของเขาพุ่งไปด้านหน้า ระหว่างที่ยกมือซ้ายขึ้นยันต์ค่ายกลก็ถูกหลอมรวมขึ้น สองมือโบกสะบัดกลายเป็นค่ายสังหารระดับเจ็ดมาตรฐานอันทรงพลังสองค่าย

พลังอำนาจของค่ายสังหารระดับเจ็ดมาตรฐานเทียบเท่ากับกึ่งราชาเทพ เพียงพริบตา ก็รัดคอร่างของคนชุดดำสองร่างจนแตกละเอียดกลายเป็นละอองเลือด

เจตนาฆ่าในแววตาของเขาช่างน่าเกรงขาม เขาไม่ได้ลงมือต่อสู้มาหลายปีแล้ว คนตรงหน้าก็เป็นแค่เพียงนักยุทธ์แดนเทพฟ้าเท่านั้น แต่กลับกล้ามาล้อมโจมตีตน เป็นการรนหาที่ตายชัด ๆ

แต่ว่าตัวสำนึกของหลัวซิวกลับจับตาอยู่ที่ชายชุดดำที่ยืนอยู่กลางอากาศที่ห่างออกไปโดยไม่ได้ลงมือ บนร่างของคนผู้นี้มีคลื่นผลการฝึกตนที่แข็งแกร่งแผ่ออกมา ที่แท้ก็เป็นราชาเทพ!

ที่โชคดีก็คือ คนผู้นี้ไม่ใช่ราชาเทพช่วงกลางของมหาเทวะดาราอุดร น่าจะเป็นหนึ่งในผู้แข็งแกร่งราชาเทพของเขามหาเทวะอื่น ๆ

“จงส่งมอบการสืบทอดวิถีแห่งค่ายกลที่เจ้าได้รับออกมา และเปิดตัวหยั่งรู้ให้ข้าฝังตัวต้องห้าม ไม่เช่นนั้นตาย!” ราชาเทพชุดดำพูดเสียงนิ่งเรียบ

“เป็นถึงกองกำลังอันดับหนึ่งของโลกาดาราอุดรเขามหาเทวะที่ยิ่งใหญ่ มาทำเรื่องหลบ ๆ ซ่อน ๆ เช่นนี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน?” หลัวซิวยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ นัยน์ตาเป็นประกายเยือกเย็น

เขาโบกสะบัดมือปล่อยยันต์ค่ายกลออกมาหลายสาย แต่ไม่ใช่ลายค่าย ที่บริเวณปริภูมิรอบตัว ได้จัดวางค่ายกลจำนวนนับไม่ถ้วนเอาไว้

“รนหาที่ตาย!”

ชายชุดดําหลายสิบคนพุ่งเข้ามาโจมตีในทันที หลัวซิวขับเคลื่อนค่ายกลโดยไม่ลังเล

“บึ้ม!”

ยันต์ค่ายกลแต่ละสายระเบิดออกเสียงดังกังวาน พลังการระเบิดตัวเองของค่ายกลนั้นน่าสระพรึงกลัวมาก เพียงพริบตาก็ทำให้คนชุดดำนับสิบจมลงในกองเพลิง

มีคนในชุดดำมากกว่าสิบคนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เสียงกรีดร้องโหยหวนดังไปทั่ว

สายตาของหลัวซิวเต็มไปด้วยจิตสังหาร ร่างของเขาในวินาทีนี้ไม่ได้เลือกที่จะถอยหลังกลับ แต่กลับพุ่งตรงไปโจมตีด้านหน้าแทน

“เปิดฟ้า!”

มือจับเป็นตราประทับ ปลดปล่อยพลังอมตะ พลังเวทย์ดาราทั้งสิบแปดดวงภายในร่างกาย พลังร่างเนื้อดาราทั้งสิบสามดวง โคจรรวมกัน

ออร่าหนึ่งที่ดูเหมือนจะเข้าใกล้ราชาเทพระเบิดออกมาจากร่างของเขา ก่อร่างครอบคลุมทุกทิศทุกทาง ในบรรดาผู้ชายชุดดำทั้งคน ถึงแม้จะเป็นผู้แข็งแกร่งจ้าวนภาระดับสูง ในวินาทีนี้ก็สามารถรับรู้ได้ถึงแรงกดดันมหาศาล หนักอึ้งราวกับขุนเขาบีบอัดอยู่ภายในใจ ร่างกายสั่นไหวไปทั้งตัว

พวกเขาแต่ละคนต่างตกตะลึง ความน่าสะพรึงกลัวของคนตรงหน้า มันเกินกว่าที่พวกเขาคาดคิดเอาไว้

“ราชาเทพ? เป็นไปได้อย่างไร?”

“ไม่ได้พูดว่า ข้าเป็นเพียงผู้น้อยที่แม้แต่แดนเทพมารก็ยังไม่บรรลุถึงหรือ?”

สิ่งที่เขามหาเทวะเชี่ยวชาญที่สุดคือการรายงานที่มีความละเอียดสูง รวมถึงระดับค่ายกลของหลัวซิวบรรลุถึงระดับเจ็ดมาตรฐานก็เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้ว ดังนั้นจึงได้ส่งราชาเทพหนึ่งคน พร้อมกับเทพฟ้าหลายสิบคนมาเที่นี่เพื่อดักฆ่า

ภายในการประเมินของพวกเขา ต่อให้เขาเป็นนักค่ายเทพระดับเจ็ดมาตรฐาน แต่ผลการฝึกตนของตนก็ต่ำเกินไป ไม่เพียงพอให้ต้องกังวล

แต่พวกเขาคาดไม่ถึงเรื่องนี้ คนตรงหน้าไม่เพียงแค่เก่งกาจในวิถีแห่งค่ายกล พลังรบในตัวของเขามันมากเกินกว่าจินตนาการของทุกคน

การโจมตีของหลัวซิวตลอดมานั้นคือโหดร้ายไร้ความปรานี ตราเปิดฟ้าถูกเปิดออกไป กลายเป็นภูมิทัศน์ที่วุ่นวาย ทันใดนั้น ก็กดชายชุดดำอีกสามคนให้จมลง แหละสลายกลายเป็นผุยผง

การเคลื่อนไหวร่างกายของเขารวดเร็วราวกับวิญญาณ กฎปริภูมิดั้งเดิมขั้นที่สาม ทำให้พื้นที่ที่เขายืนอยู่กลายเป็นอาณาจักรของเขา เพียงแค่ขยับความคิดไม่ว่าสิ่งใดก็สามารถปรากฏได้ทุกที่ตามต้องการ กระทั่งไม่มีความผันผวนของปริภูมิแม้แต่น้อย ทำให้ยากต่อการป้องกัน

มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake

มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake

None

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท