“เหวิง!”
เมื่อขยับความคิด ร่างของเขาก็พลันเปลี่ยนไป ร่างกลวัฏสงสารที่สองหายไป กลายเป็นร่างหลักของหลัวซิวมาแทน!
ร่างหลัก จึงจะเป็นหลัวซิวที่มีพลังรบแข็งแกร่งที่สุด สิ่งที่ร่างกลวัฏสงสารทั้งสองทำได้ก็เพียงแค่เป็นตัวช่วยเท่านั้น
“ที่แท้ก็เป็นเจ้า!”
ราชาเทพชุดดำเมื่อเห็นหลัวซิว สีหน้าก็พลันเปลี่ยนไปเล็กน้อย ก็เมื่อครู่นี้คนผู้นี้ยังยืนกรานปฏิเสธอยู่เลย แต่ในนาทีนี้กลับเปิดเผยตัวตนออกมาด้วยตนเองเช่นนี้ มันหมายความว่าอย่างไรกัน?
ในฐานะราชาเทพ มีอายุมาอย่างยาวนาน ราชาเทพชุดดำในใจพลันคิดขึ้นมาได้ เขาต้องการข้าฆ่า!
เพราะตราบใดที่ฆ่าคนได้ เช่นนั้นตัวตนที่แท้จริงของเย่ห้าวหราน ก็จะยังคงเป็นความลับต่อไป
คิดไปถึงเรื่องที่อาจารย์จิ่วหยินถูกฆ่า ในใจของเขาก็ยิ่งตื่นตระหนกมากขึ้นกว่าเดิม ที่สำคัญความแตกต่างระหว่างราชาเทพช่วงต้นกับช่วงกลางนั้นช่างมหาศาล ช่วงกลางยังสามารถฆ่าได้ แล้วกับช่วงต้นอย่างเขาล่ะ?
“วงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพ!”
หลัวซิวสีหน้าเรียบเฉย ยกมือขึ้นจับเป็นตราประทับ วงล้อสีขาวดำขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นด้านหลังเขา
วัฏจักรการเวียนว่ายตายเกิดหมุนขึ้น แพร่กระจายไปในอาณาบริเวณกว้างหลายพันลี้ ภายในขอบเขตอาณัติ ชีวิตของทุกสรรพสิ่งต่างถูกวัฏจักรการเวียนว่ายตายเกิดกลืนกินจนสิ้น
เพียงพริบตา เทพฟ้ามากมายใต้บัญชาของราชาเทพชุดดำ พวกเขาต่างรับรู้ได้ว่าพลังชีวิตของตนเองกำลังไหลออกไปอย่างรวดเร็ว
“หนี!”
เทพฟ้าเหล่านี้ไม่ใช่โง่ แต่ละคนต่างพากันสำแดงวิชาที่เร็วที่สุด เพียงแค่ต้องการหลบหนีออกไป นำเรื่องที่พบหลัวซิวไปบอกกล่าวกับสำนักเมื่อใดที่ตัวตนของคนผู้นี้ถูกเปิดเผย ก็ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย!
“ไม่ว่าใครก็หนีไม่พ้นทั้งนั้น”
หลัวซิวเอ่ยพูดเสียงเรียบ ที่บริเวณหว่างคิ้วส่องประกายระยิบระยับ ระฆังเทพฟ้ากำหนดบินออกมา
ระฆังเทพฟ้าชิ้นนี้ถูกเขาใช้กฎห้วงเวลาฝึกเซ่นขึ้นมาใหม่ หลังจากประทับตรากฎห้วงเวลาขั้นที่สาม พลังอำนาจก็เพิ่มขึ้นกว่าเมื่อก่อนอย่างมาก
เกิดเสียงดังก๊อง เสียงระฆังดังขึ้น ห้วงกาลเวลาและพื้นที่ถูกตรึงเอาไว้
เหล่าบรรดาเทพฟ้าสิบกว่าคนที่สำแดงวิชาหมายจะบินหนีไป ร่างกายต่างถูกตรึงอยู่กลางอากาศ ไม่สามารถขยับเขยื้อนได้แม้แต่น้อย
มีเพียงราชาเทพชุดดำผู้นั้น ที่อาศัยกฎธาตุลมดั้งเดิมขั้นที่สี่ป้องกันตัวไว้ จึงไม่ได้รับผลกระทบจากวงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพและระฆังเทพฟ้ากำหนด
ในเวลานี้เอง ร่างของหลัวซิวก็กระพริบอย่างต่อเนื่อง ทุกครั้งที่กระพริบต่างก็แสงของมีเลือดปลิวว่อน เพียงไม่กี่อึดใจ ก็ฆ่าเหล่าเทพฟ้าสิบกว่าคนนั้นจนสิ้น
ดังนั้น ผู้ที่ดักฆ่าเขาอย่างเขามหาเทวะ ก็จะเหลือแค่เพียงราชาเทพชุดดำคนเดียว
“ต่อไป ก็เป็นเจ้า”
ในมือของหลัวซิว หอกยุทธ์มังกรดำส่งเสียงร้องคำราม พลังอมตะนิพพานมรณาสำแดงออกมา วงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพด้านหลังศีรษะผสานเป็นหนึ่งเข้ากับหอกรบ เพียงพริบตา ก็แทงตรงไปยังห้วงจักรของราชาเทพชุดดำ
หอกนี้ นอกเสียผสานรวมกฎการเวียนว่ายตายเกิดแล้ว ยังมีห้วงกาลเวลาผสานอยู่ด้วย ทำให้ราชาเทพชุดดำรู้สึกว่าการเคลื่อนไหวของตนเองนั้นกลายเป็นช้าลง แต่ความเร็วของหอกนี้ของหลัวซิวกลับรวดเร็วดุจสายฟ้าฟาด
วินาทีนั้นเอง ปลายหอกได้เข้าใกล้ห้วงจักรของเขา เพียงแค่วินาทีเดียวก็จะแทงทะลุเข้าไป
พลังอำนาจของหอกนี้มันได้บรรลุถึงราชาเทพขั้นสามขั้นสูงแล้ว ทั้งหมดนี้ต่างเป็นผลสัมฤทธิ์ของพลังเวทย์ดารา 18 ดวง ร่างเนื้อดารา 13 ดวง รวมถึงชิ้นส่วนตำราค่ายกลนิรมิตเส้นลมปราณด้วย!
ในช่วงเวลาแห่งความเป็นความตาย ภายในร่างกายของราชาเทพชุดดำมีแสงสีเขียวบินออกมา เสียงโครมครามดังสนั่น แสงสีเขียวแหลกสลาย ราชาเทพชุดดำส่งเสียงเฮือกในลำคอ เลือดไหลออกมาจากมุมปาก ร่างนั้นถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว
สีหน้าของเขาแสดงออกว่าทั้งโกรธทั้งตกใจ ในฐานะราชาเทพ กลับถูกผู้น้อยคนหนึ่งทำร้ายจนบาดเจ็บ ผลลัพธ์เช่นนี้ ทำให้เขาไม่อาจยอมรับได้
แต่เขากลับไม่สามารถที่จะไม่ยอมรับมันได้ พลังของชายผู้นี้ ไม่ใช่สิ่งที่ราชาเทพช่วงกลางสามารถต้านไว้ได้
“หนี!”
เขารู้ตัวดีว่าตนไม่ใช่คู่ต่อสู้ จึงเลือกที่จะหลบหนีทันที แต่เดิมเขาเชี่ยวชาญในการใช้ความเร็วจากกฎธาตุลม หากเขาต้องการจะหนี ราชาเทพช่วงกลางก็ไม่สามารถหยุดเขาไว้ได้
“กฎปริภูมิดั้งเดิม จงตรึงไว้!”
หลัวซิวตระโกนคำราม สำนักเต๋าเสวียนเทียนถูกเขาอัญเชิญออกมา กฎปริภูมิดั้งเดิมขั้นที่สี่ถูกกระตุ้นออกมาจากภายใน