มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 1584
จากการรวบรวมข้อมูลที่ได้รับมาจากความทรงจำของผู้คนเหล่านี้ ชิ้นส่วนของใจแห่งศุภร จะต้องอยู่ในมือของหลัวซิวเป็นแน่
“แต่ว่า การเดินทางครั้งนี้ก็ได้รับรู้ถึงบางอย่างที่เหนือความคาดหมายด้วย เป็นเพียงแค่โลกามนุษย์ กลับมีฐานร่างพิเศษที่มีสองชีวิต อีกทั้งยังมีคนที่มีความใกล้ชิดกับกฎเพลิงอัคคีอย่างมากอีกด้วย”
“ผู้ที่อยู่ภายในไท่เสวียน ดูเหมือนจะเป็นบุคคลที่มีความสำคัญอย่างมากต่อหลัวซิว ไม่ช้าก็เร็วเขาย่อมเอามันมาให้ด้วยตนเอง”
……
เวลาค่อย ๆ ไหลผ่านไป หลัวซิวดำดิ่งอยู่ในการเพ็ญตน ลืมช่วงวันลืมคืนไปจนสิ้น เพื่อที่จะบรรลุในครั้งนี้ เขายอมจ่ายแก้วเทวจำนวนมหาศาลเพื่อซื้อยาเซียน กลั่นยาออกมานับพันลูกเพื่อบรรลุ
เวลาที่โลกภายนอกผ่านไปสามปี ภายในโลกาศุภรคือสามสิบปี จุดปราณร่างเนื้อของหลัวซิวจุดที่ 17 กำลังจะถูกเปิดออก โลกาดาราอุดรก็พลันเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นมา
อาจารย์ไท่หยุนสิ้นแล้ว!
ในวันนั้น สำนักไท่ไหลมีเสียงกังก้องกังวานดังไปทั่ว ฝนตกจากท้องฟ้าราวกับจะไม่มีวันหยุดลง บรรยากาศแห่งความโศกเศร้าเข้าปกคลุมไปทั่วทั้งสำนัก
มีคนเห็นลำแสงหนึ่งบินออกไปจากสำนักไท่ไหล นั่นคือร่างของอาจารย์ไท่หยุนที่แปรเปลี่ยนเป็นลำแสงและกลับเข้าสู่วัฏสงสาร
สิ่งที่เรียกว่าวัฏสงสาร มันคือความว่างเปล่า มองไม่เห็น จับต้องไม่ได้ แต่ไม่ว่าจะเป็นท่ามกลางคนธรรมดา หรือเป็นนักยุทธ์ ต่างก็มีความเชื่อในเรื่องของวัฏสงสาร
นอกเสียจากผู้ที่กลายเป็นเทพไร้ร่างเนื้อที่ไม่มีวัฏสงสาร การสูญสิ้นของสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ต่างก็จะมีสายใยแห่งต้นกำเนิดที่โบยบินเข้าสู่การเกิดใหม่วัฏสงสาร
สูญสิ้นอาจารย์ไท่หยุน ค่ายใหญ่ระดับแปดมาตรฐานจำนวนมากถูกจัดวางที่สำนักเขาของสำนักไท่ไหล แต่กลับไม่มีใครสามารถควบคุม เพื่อเพิ่มพลังให้ถึงขีดสุดได้
กองกำลังต่าง ๆ ก็พร้อมที่จะเคลื่อนไหว ต่างจ้องการสืบทอดวิถีแห่งค่ายกลของสำนักไท่ไหล ราวกับเสือที่จ้องตระครุบเหยื่อ
ในขณะที่รูปแบบของโลกาดาราอุดรก่อตัวขึ้นในความมืด ซากปรักหักพังของสนามรบโบราณ ก็ปรากฏขึ้นที่อนัตตาไม่สิ้น
มันคือผืนแผ่นดินที่ลอยเคว้ง ออร่าโบราณที่ผันผวนแผ่ซ่านเหมือนวัชพืชไร้รากที่ลอยละล่องอยู่บนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว ข้ามผ่านอนัตตาไม่สิ้นจากด้านนอกของโลกาดาราอุดร
บนดินแดนที่ถูกเสียหาย มีร่องรอยของสงครามครั้งใหญ่อยู่ทุกหนทุกแห่ง บางครั้งบางทีก็มีภาพการต่อสู้กันของผู้แข็งแกร่งปรากฏขึ้นเป็นนิมิตมากมาย
การปรากฏตัวของซากปรักหักพังนี้ มาพร้อมกับการพุ่งเข้าชนกับกองกำลังต่าง ๆ ของโลกาดาราอุดร ผู้แข็งแกร่งราชาเทพมากมายพากันตามมา
เหนือซากปรักหักพังของสนามรบโบราณ มีร่องรอยการต่อสู้ของผู้แข็งแกร่งปรากฏอยู่ ผ่านไปเนิ่นนานเป็นหมื่นเป็นแสนปี แต่ยังคงมีกลิ่นอายที่ไหลริน ทำให้ผู้แข็งแกร่งราชาเทพทั้งหลายได้รับประโยชน์มากมาย
กึ่งราชาเทพผู้หนึ่งแห่งเขามหาเทวะสังเกตร่องรอยกลิ่นอายในสนามรบโบราณที่ผู้แข็งแกร่งหลงเหลือเอาไว้ ผลการฝึกตนบรรลุในชั่วพริบตา ก่อให้เกิดภัยพิบัติจากทัณฑ์สวรรค์ บรรลุเป็นราชาเทพ!
เมื่อข้อมูลนี้ถูกกระจายออกไป ทั่วทั้งโลกาก็ตกอยู่ในความตื่นตะลึง
โลกาดาราอุดรเป็นโลกที่มกุฎเทพเปิดขึ้น หากต้องการที่จะบรรลุเป็นมกุฎเทพที่นี่ ดูเหมือนว่ามันจะเป็นเรื่องที่ไม่สามารภเป็นไปได้
ดังนั้น ราชาเทพจึงถือว่าเป็นผู้แข็งแกร่งขั้นสูงที่อยู่บนจุดสูงสุดของโลกแห่งนี้แล้ว
นับตั้งแต่โบราณมาจนถึงปัจจุบัน จ้าวนภาขั้นสูงและกึ่งราชาเทพในโลกาดาราอุดรมีจำนวนไม่มากนัก ที่สามารถบรรลุถึงแดนราชาเทพได้นั้นกลับมีเพียงน้อยนิดหายากราวขนหงส์เขามังกร พวกเขาต่างเป็นความภาคภูมิใจของทุกยุคทุกสมัย
เขามหาเทวะผู้หนึ่งบรรลุกึ่งราชาเทพที่โลกาดาราอุดรก่อให้เกิดความโกลาหลขึ้น เพียงพริบตากึ่งราชาเทพท่ามกลางกองกำลังทั้งหมดพากันออกโรงโจมตี จนเข้าไปยังซากสนามรบโบราณที่ลอยอยู่กลางอนัตตาไม่สิ้น
ในเวลาเพียงไม่กี่เดือน ผืนดินบนซากสนามรบโบราณก็รวมกับผู้แข็งแกร่งของกองกำลังต่าง ๆ ถึงแม้จะมีราชาเทพของห้ากองกำลังใหญ่เป็นผู้บัญชาการ ก็ยังคงมีการกระทบกระทั่งกันให้พบเห็นอยู่บ้าง คนจำนวนมากที่ได้รับการสัมผัสรู้ อยากที่จะทำสงคราเข่นฆ่าในระหว่างแดนเดียวกัน เพื่อกระตุ้นศักยภาพของตนเอง และไปถึงเป้าหมายคือการบรรลุ
ในขณะที่ทุกคนในโลกาดาราอุดรต่างบ้าคลั่งเพื่อซากสนามรบโบราณนี้ ภายในภูเขาที่แห้งแล้งของโลกาดาราอุดร มีร่างของหลัวซิวนั่งตระหง่านอยู่