“กฎการเวียนว่ายตายเกิดขั้นที่สี่!”
ในใจของหลัวซิวยากที่จะสงบนิ่งได้ หลายปีมานี้ที่โลกาดาราอุดร ความแข็งแกร่งของเขาดีขึ้นอย่างก้าวกระโดด แต่มีแค่เพียงความเร็วของแดนกฎที่คืบคลานไปอย่างเชื่องช้า ถ้าได้มาเห็นการใช้กฎดั้งเดิมขั้นที่สี่ด้วยตาตัวเอง รวมเข้ากับการอ้างอิงของผังแห่งความเป็นตายดั้งเดิมที่สี่ เขาจะสามารถสัมผัสได้ถึงความลึกลับของกฎการเวียนว่ายตายเกิดขั้นที่สี่
ร่างของเขาเดินผิวปากเข้าไป ต้องการเข้าไปใกล้อีกสักเล็กน้อยเพื่อสังเกตการ
“ผู้ที่กำลังเข้ามาจงหยุด ที่นี่ได้เป็นอาณาเขตของพวกเราสำนักวัชรยักษ์แล้ว”
เสียงตําหนิดังกึกก้อง ทันใดนั้น ร่างห้าหรือหกร่างก็บินออกมา พุ่งออกมายังหลัวซิว
“ออกไป!”
หลัวซิวสีหน้านิ่งขรึม ยกมือขึ้นโบกหนึ่งครั้ง ผลการฝึกตนของดาราสีทอง 18 ดวงระเบิดออกมาพร้อมกัน ออร่าอันทรงพลังถูกปลดปล่อยออกมาราวกับพายุที่โหมกระหน่ำ ถาโถมออกไปด้านหน้า
เสียงคํารามดังก้อง ปริภูมิแหลกสลาย นักยุทธ์ของสำนักวัชรยักษ์ที่ออกมาขวางทางไว้ห้าหกคน ต่างก็หน้าถอดสี กระอักเลือดสดออกมาอย่างรุนแรง ร่างซวนเซถอยหลังไป
ห้าหกคนนี้ ต่างก็มีผลการฝึกตนคือจ้าวนภา ในตอนนี้กลับไม่มีทางที่จะหยุดเขาได้แม้เพียงครึ่งก้าว ทำได้เพียงปล่อยให้เขาบินผ่านไปเท่านั้น
“สามหาว อาณาเขตของสำนักวัชรยักษ์ของข้าเจ้ายังกล้าบุกรุก ไม่ว่าเจ้าจะเป็นใคร วันนี้ก็ต้องตายเท่านั้น!”
“พูดอะไรกับคนผู้นี้มากมาย ฆ่าทิ้งเสีย!”
นักยุทธ์ของสำนักวัชรยักษ์มากมายปรากฏตัวขึ้น แต่ละคนต่างมีรัศมีเทวล้อมรอบ ในมือถือนักยุทธ์ ท่าทางน่าเกรงขาม
อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขามองเห็นหลัวซิว อาจารย์ราชาเทพผู้หนึ่งที่เป็นแกนนำ ก็พลันหน้าถอดสี
“ซิวหลัวหน้ากากดำ?!”
อาจารย์ราชาเทพทั่วทั้งสำนักวัชรยักษ์มีเพียงแค่สามท่านเท่านั้น หนึ่งในนั้นมีอาจารย์ที่แข็งแกร่งที่สุดเป็นผู้กุมบังเหียนภายในสำนักวัชรยักษ์ ข่าวที่เพิ่งได้รับมาไม่นานมานี้ ภายในสำนักถูกซิวหลัวหน้ากากดำโจมตี อาจารย์ที่แข็งแกร่งที่สุดสิ้นแล้ว!
ตอนนั้นเขาเห็นมากับตาว่าพลังรบของคนผู้นี้แข็งแกร่งขีดสุดถึงระดับใด การทำลายคนเหล่านี้ของสำนักวัชรยักษ์นั้นถือเป็นเพียงเรื่องที่ง่ายดายอย่างมาก
“ข้าต้องการที่แห่งนี้” หลัวซิวพูดเสียงนิ่งรียบ
อาจารย์ราชาเทพของสำนักวัชรยักษ์ผู้นี้ไม่กล้าแม้แต่จะพูดสิ่งใดมากมาย หลังจากกำหมัดทำความเคารพไปทางหลัวซิว ก็พลันพาศิษย์จำนวนมากของสำนักวัชรยักษ์ออกไปด้วยความเร็วที่รวดเร็วที่สุด
มีคนจำนวนมากบนซากสนามรบโบราณแห่งนี้ เมื่อคนอื่นเห็นฉากนี้ของฝั่งสำนักวัชรยักษ์ ก็พลันทำให้หลายคนหวาดกลัวในทันที
สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นในโลกาดาราอุดร ข่าวได้ถูกส่งมาถึงที่แห่งนี้มาก่อนแล้ว ซิวหลัวหน้ากากดำอาศัยพลังของตนเพียงผู้เดียวกวาดล้างสี่ราชาเทพกองกำลังใหญ่ ชื่อเสียงเรียกได้ว่าโด่งดังถึงขีดสุด
ไม่มีใครรู้ว่าซิวหลัวหน้ากากดำที่จริงแล้วมีภูมิหลังอย่างไร แต่การเคลื่อนไหวโจมตีสี่ราชาเทพกองกำลังใหญ่ของเขา แต่ก็อดไม่ได้ที่จะทำให้ผู้คนคาดเดาไปต่าง ๆ นา ๆ
ในสายตาของคนส่วนใหญ่ บุคคลนั้นไม่ได้ยั่วยุเขามหาเทวะ อาจยังพอรู้อยู่บ้างถึงความหน้ากลัวของเขามหาเทวะ และคนของเขามหาเทวะก็ภูมิใจในจุดนี้อย่างมาก
เป็นเวลาสิบวันติดต่อกัน หลัวซิวนั่งติดขัดสมาธิอยู่ที่ซากสนามรบโบราณ ในระยะห้าร้อยเมตรรอบตัวเขา ไม่มีใครอื่นเลยแม้สักคนเดียว
ท่ามกลางภาพมายาของสนามรบโบราณ สายตาของเขาจ้องมองไปยังคนทั้งสองที่ฝึกตนกฎการเวียนว่ายตายเกิดอยู่ตลอดเวลา ดวงตาคู่นั้นเป็นประกาย ดูเหมือนว่าจะตระหนักรู้ได้
หลังจากนั้นอีกไม่กี่วัน วงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพปรากฏขึ้นมาที่ด้านหลังศีรษะ คลื่นกฎดั้งเดิมขั้นที่สี่แผ่กระจายออกมา ราวกับราชาเทพที่ลาดตระเวนสวรรค์!
“เป็นเจ้าเองหรือ!?”
วินาทีที่วงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพปรากฏขึ้น บนซากสนามรบโบราณ ทุกสายตาต่างจับจ้องมารวมกันที่นี่
เพราะสงครามที่เมืองเทวะดาราอุดรในตอนนั้น หลัวซิวก็เคยสำแดงวิชาพลังอมตะนี้มาก่อนแล้ว ครอบครองความสามารถในการแย่งชิงพลังชีวีของผู้อื่น
“ที่แท้ซิวหลัวหน้ากากดำก็คือหลัวซิวนี่เอง ไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดเขาจึงต้องลงมือโจมตีกับกองกำลังใหญ่ราชาเทพต่าง ๆ”
“ว่ากันว่าในสงครามเมื่อหลายปีก่อน อาจารย์จิ่วหยินไล่ตามฆ่าเขา แต่กลับถูกเขาฆ่าตายแทน!”
“ว่ากันว่าเขาได้โอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของทั้งโลกาดาราอุดร นี่อาจเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงมีพลังที่น่าสะพรึงกลัวในทุกวันนี้?”