“โลกะอัมพรเทว……” มุมปากของหญิงชุดแดงเผยรอยยิ้มโค้งขึ้นเล็กน้อยอย่างเยือกเย็น
ในขณะเดียวกัน ห้วงดาราส่วนที่ลึกที่สุดของบริเวณใกล้เคียงดาราฟ้าเยือก ณ ใจกลางของสถานที่ซึ่งดาวมรณะนับร้อยดวงมาบรรจบกัน กระแสหมุนวนสีดำสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงขึ้นในทันใด โลงสำริดโบราณขนาดใหญ่มโหฬารบินออกมาจากในนั้น
ด้านบนของโลงโบราณ มีตะเกียงน้ำมันสีเท่าอยู่ชิ้นหนึ่ง ในเวลานี้มันได้มีเปลวไฟดวงเล็ก ๆ ถูกจุดขึ้น ออร่าอันเยือกเย็นและน่ากลัวแผ่ขยายออกมา แช่แข็งปริภูมิโดยรอบทั้งหมดเอาไว้ ลมหนาวอันน่าวังเวงใจโชยมาเป็นระรอก ๆ
“ผู้ที่ครอบครองออร่าวัฏจักรชีวิต…… ไม่ว่าเจ้าจะไปอยู่ที่ใด เจ้าก็คือของข้าอยู่ดี……”
เสียงอึกทึกคึกโครามดังกึกก้อง โลงสำริดโบราณขนาดใหญ่มโหฬารพุ่งทะลุปริภูมิ นั่นคือทะลุผ่านปริภูมิภายในจักรวาล เพียงชั่วพริบตาก็ข้ามผ่านระบบดาราจักรและแสงดาวผืนแล้วผืนเล่า
แต่นั้นหลัวซิว สำหรับเรื่องทั้งหมดนี้เขาไม่รู้สิ่งใดเลย เขาลงมาถึงที่โลกะอัมพรเทวแล้ว!
หากจะพูดว่าโลกยุทธ์คือเส้นทางเส้นหนึ่ง เช่นนั้นสำหรับหลัวซิวแล้ว โลกแสงดาวก็คือจุดเริ่มต้นชีวิตโลกยุทธ์ของเขา
จากพิภพต่ำบินสูงขึ้นสู่โลกพิภพที่มีระดับสูงขึ้นเรื่อย ๆ เป็นความฝันที่จอมยุทธ์ส่วนใหญ่ไล่ตามไปตลอดชีวิต
แต่สำหรับหลัวซิวแล้วนั้น หลังจากโลกแสงดาวแล้ว ไม่ว่าจะเป็นโลกเสวียนเทียน หรือโลกาอสูรฟ้าก็ตาม รวมถึงโลกาดาราอุดร ต่างก็เป็นเพียงจุด ๆ หนึ่งในเส้นทางโลกยุทธ์ของเขาเท่านั้น
เส้นทางของเขา ยังอยู่ข้างหน้าอีกไกล……
โลกยุทธ์ก็เหมือนชีวิตของมนุษย์ ประสบการณ์ที่ผ่านมาทำให้ได้รับสิ่งต่าง ๆ มากมาย เช่นนี้จึงจะสามารถเติบโตขึ้นมาได้อย่างช้า ๆ ทีละก้าว ๆ
สำหรับโลกยุทธ์แล้วนั้น ที่โลกแสงดาว โลกเสวียนเทียน โลกาอสูรฟ้า โลกาดาราอุดร หลัวซิวต่างก็ได้รับสิ่งต่าง ๆ มากมาย สิ่งเหล่านี้ก็คือโชคลาภและโอกาสจะทำให้พลังในโลกยุทธ์ของเขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
หากไม่ได้รับลูกแก้วความเป็นตายมากจากโลกแสงดาว เขาไม่มีทางได้ก้าวเดินมาถึงจุดนี้ หากไม่ได้รับโอกาสจากโลกเสวียนเทียนและโลกาอสูรฟ้า เขาก็ไม่ทีทางที่จะเพิ่มพลังของได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้ ยิ่งไม่มีทางที่จะได้เผชิญหน้ากับซือถูเจิ้งเจี้ยนที่แข็งแกร่งถึงขีดสุดอีกด้วย
หากไม่มีโอกาสและโชคลาภจากโลกาดาราอุดร การที่เขาคิดอยากจะเดินทางมายังโลกะอัมพรเทว ก็ไม่รู้ว่าอาจจะต้องรอไปอีกกี่ปีให้หลัง
ค่ายวาร์ปของดาราฟ้าเยือก คือพานักยุทธ์วาร์ปตรงมายังโลกาดาราอุดร แต่กลับไม่มีการกำหนดตำแหน่งวาร์ปที่แน่ชัดเอาไว้
แต่ค่ายวาร์ฟล่องหนของโลกาดาราอุดร กลับเป็นจุดวาร์ปที่ตายตัว วินาทีที่วาร์ปถูกเปิดใช้ พลังแห่งปริภูมิอันมหาศาลครอบคลุมร่างของเขาเอาไว้ ทันใดนั้นช่องทางดาราจักรวาลก็เปิดขึ้นและเคลื่อนย้ายไปอย่างรวดเร็ว
ในกระบวนการวาร์ปเช่นนี้ ดูเหมือนว่าจะสัมผัสไม่ได้ถึงกาลเวลาที่ไหลผ่าน นอกจากความเร็วในการเคลื่อนย้ายของกฎปริภูมิแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างกลับถูกบดบังเอาไว้จนหมด
บางทีอาจจะผ่านไปเพียงชั่วพริบตา หรือบางที่ก็อาจจะผ่านไปเนิ่นนานแล้ว การเคลื่อนที่ของปริภูมิประเภทนั้นทำให้ผู้คนรู้สึกอาการวิงเวียนศีรษะ จากนั้นค่อย ๆ หายไป
“นี่คือ……”
เมื่อหลัวซิวมองเห็นสภาพแววล้อมโดยรอบ สีหน้าของเขาก็อดไม่ได้ที่จะชะงักไปชั่วครู่
เห็นเพียงว่าตำแหน่งที่เขาอยู่ในตอนนี้ คือแท่นศิลาวาร์ปอันกว้างขวางแห่งหนึ่ง บริเวณใกล้ ๆ กับแท่นวาร์ปแห่งนี้ มีนักยุทธ์นับร้อยคอยอารักขาอยู่
เมื่อเห็นเขาปรากฏตัวบนค่ายวาร์ปในเวลานี้ ทุกสายตาจับจ้องก็จับจ้องมาที่เขา
แต่ทั้งหมดนี้ก็ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้เขาประหลาดใจ สิ่งที่เขาประหลาดใจจริง ๆ นั้น คือเขาเซียนสูงตระหง่านที่อยู่ตรงหน้าเขาเขาเซียน เขาเซียนลูกนี้แพร่กระจายไปด้วยแสงสีทองวิจิตรตระการตา ทะยานสู่ท้องฟ้าโดยตรง ช่างสง่างามและกว้างใหญ่ไพศาล
“นี่คือภูเขาศักดิ์สิทธิ์อัมพรเทว?”
ตอนที่อยู่ในโลกาดาราอุดร หลัวซิวเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับภูเขาศักดิ์สิทธิ์อัมพรเทวมาบ้างแล้ว
ว่ากันว่าทั่วทั้งดาราจักรวาล ระหว่างระดับที่ของพิภพ ความแตกต่างที่ชัดเจน มีการควบคลุมที่แน่ชัด
พิภพล่างกับพิภพกลาง เรียกเช่นเดียวกันว่าเป็นโลกามนุษย์ มหาโลกาพันสามเรียกว่าเป็นโลกาชั้นฟ้า ฟ้า ดิน ดำ เหลือง จักรวาลหิวโหย แปดโลกพิภพเรียกว่าเป็นโลกมหาศักดิ์
คนจากโลกามนุษย์ เป็นการยากที่จะเข้าสู่โลกาชั้นฟ้าอย่างง่ายดายได้