“อ้อ? ยังมีการจัดวางค่ายกลไว้อีกด้วย?”
ตัวสำนึกของชายชราผมเทากวาดไปยังเขาไป่หยุน ไม่นานก็สามารถสัมผัสได้ถึงออร่าของค่ายเทพต้องห้าม สายตาฉายแววเย้ยหยันขึ้นมาเล็กน้อย
“นอกเสียจากจะเป็นนักค่ายเทพระดับแปดขึ้นไป จึงจะสามารถทำให้ข้าพอจะเป็นกังวลขึ้นมาได้บ้าง แค่เพียงค่ายเทพระดับเจ็ด มันก็เป็นเพียงแค่ชื่อไร้ซึ่งประโยชน์เท่านั้น!”
ชายชราผมเทาสาวเท้าก้าวขึ้นมาด้านหน้า สะบัดชายแขนเสื้อด้วยความไม่พอใจครั้งหนึ่ง พลังมหาศาลพุ่งปะทุออกมา เจ้าสำนักไป่หยุนผู้นั้นที่มีผลการฝึกตนราชาเทพขั้นหนึ่งไม่สามารถต้านทานได้เลยแม้แต่น้อย วินาทีต่อมาก็กระเด็นลอยออกไป สีหน้าซีดเผือด
หลังจากนั้น ชายชราผมเทาก็โบกมือขึ้นอัญเชิญค้อนยักษ์ที่มีสีทองเปล่งประกายออกมา ทุบออกไปยังถ้ำที่หลัวซิวเปิดเอาไว้
เสียงดังก้องกังวานฟ้าดิน พลังมหาศาลของค่ายเทพระดับเจ็ดค่ายหนึ่งถูกกระตุ้น แต่กลับยากที่จะต้านทานการโจมตีของค้อนยักษ์เอาไว้ได้ ทันใดนั้นก็ระเบิดออกมาเสียงดังสนั่น
“คลานออกมาเสียดี ๆ!”
ชายชราผมเทายืนขึ้นกลางอากาศ เต็มไปด้วยเจตจำนงที่กล้าหาญ ค้อนยักษ์สีทองภายใต้การควบคุมของเขาทุบลงไปอย่างต่อเนื่อง ทุบทำลายค่ายเทพไปอีกสามค่าย
ภายในถ้ำ หลัวซิวขมวดขึ้นเล็กน้อย ปราสาทดาร์กเดวิลสามารถเชิญยอดฝีมือราชาเทพช่วงปลายมาได้ นับเป็นเรื่องเหนือความคาดหมายของเขาทีเดียว
“ใช้พลังจุติมรณะกลืนกินผลการฝึกตนและพลังชีวิตของคนผู้นี้ ก็จะสามารถทำให้สถานะของข้าบรรลุสู่ขั้นสูงได้ ช่างเป็นโอกาสอันดีงามที่จะทำลายประตูแห่งกฎเกณฑ์และบรรลุเป็นเทพฟ้าได้!”
แววตาของหลัวซิวส่องประกายรังสีสังหาร ทันใดนั้นก็ลุกขึ้นยืน เดินออกไปด้านนอก
ชายชราผมเทาผู้นั้นยังคงโจมตีค่ายกลต่อไป ในวินาทีที่หลัวซิวเดินออกมาจากถ้ำ ค่ายกลสิบค่ายที่เหลืออยู่ก็พลันหลอมรวมกลายเป็นสัญลักษณ์สายหนึ่ง พันอยู่ล้อมรอบตัวของเขา
“ฮึ ในที่สุดก็ยอมออกมาแล้วหรือ?”
สายตาของชายชราผมเทาตกลงบนร่างของหลัวซิว ก็พลันอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้นมา เพราะเขาพบว่าตนกลับไม่สามารถมองผลการฝึกตนของคนผู้นี้ออกได้
แต่ว่าเขาก็ไม่ได้คิดว่าคนผู้นี้จะมีผลการฝึกตนสูงไปกว่าตน โดยทั่วไปแล้วผู้แข็งแกร่งราชาเทพช่วงปลายที่ค่อนข้างเก่งกาจ จะมีใครมาปิดขังในสถานที่ที่มีปราณทิพย์บางเบาเช่นนี้กัน?
ปราณทิพย์ของเขาไป่หยุนนี้ ทำให้นัยน์ตาของชายชราผมเทาเผยประกายดูถูกออกมา ในขณะเดียวกันก็มาจากความมั่นใจในตัวเองในค้อนยักษ์สีทองชิ้นนี้ของเขาด้วย เขายิ่งมั่นอกมั่นใจขึ้นมาว่าชายหนุ่มตรงหน้าผู้นี้ต้องมีเคล็ดวิชาปิดบังผลการฝึกตน และพลังนั้นไม่มีทางเทียบตนได้เป็นแน่
“ผู้เพื่อนยุทธ์ไม่คิดจะอธิบายสิ่งใดกับข้าหน่อยหรือ?” ชายชราผมเทามองลงมาจากด้านบนและเอ่ยพูดเสียงขรึม
ที่เขาเอ่ยถึงนั้น ย่อมเป็นเรื่องของปราสาทดาร์กเดวิลอย่างไม่ต้องสงสัย
“เจ้าไม่มีคุณสมบัติมากพอให้ข้าต้องอธิบาย” หลัวซิวสีหน้านิ่งเรียบ ระหว่างที่ร่างนั้นเคลื่อนไหว ก็พลันหายตัวไปจากจุดที่ยืนอยู่ทันที
วินาทีต่อมา เขาก็พลันปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าของชายชราผมเทา พร้อมกับปล่อยหมัดออกไป
เสียงดังก้องสนั่นท้องฟ้า ร่างของชายชราผมเทากระเด็นลอยออกไปตามคาด มุมปากมีเลือดสดซึมออกมา สีหน้าทั้งโกรธทั้งตกใจ
“เจ้ากล้าลอบโจมตีข้ารึ?”
ชายชราผมเทาคำรามด้วยวความโกรธ เจตนาฆ่าพุ่งทะลุท้องฟ้า ค้อนยักษ์สีทองภายใต้การขับเคลื่อนของเขา พลันทุบลงไปทางหลัวซิวด้วยเสียงอันกึกก้อง
พลังของค้อนยักษ์สีทองนี้แข็งแกร่งอย่างมาก มันเป็นโชคลาภที่เขาได้รับโดยบังเอิญเมื่อหลายปีก่อน
ในเวลาเดียวกัน ภายในร่างกายของเขาก็มีโล่อีกชิ้นหนึ่งบินออกมา หมุนไปรอบ ๆ ตัวของเขา เพื่อป้องกันการลอบโจมตีของอีกฝ่าย
เงยหน้าขึ้น มองไปยังค้อนยักษ์สีทองที่ลอยเข้ามา หลัวซิวยังคงยกกำปั้นขึ้น หมัดนั้นที่ปล่อยออกไปดูเหมือนจะกลายเป็นวงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพด้านหนึ่ง ระหว่างที่หมุนเวียน ความเป็นและความตายถูกตัดสินทันที!
ปัง!
ในเสียงดังปังสะเทือนฟ้าดินดังขึ้น ค้อนยักษ์สีทองกระเด็นลอยออกไป แต่ร่างของหลัวซิวกลับสั่นไหวเพียงเล็กน้อยเท่านั้น จากนั้นก็โคจรกฎปริภูมิ วินาทีต่อมาก็ปรากฏกายขึ้นตรงหน้าชายชราผมเทาอีกครั้ง
หลังจากสิบแปดจุดลมปราณร่างเนื้อบริบูรณ์แล้ว ร่างเนื้อของเขาเมื่อเทียบกับราชาแห่งศัสตราวุธสูงสุดนั้นต่างกันเพียงแค่เส้นยาแดงผ่าแปดเท่านั้น ถึงแม้ว่าค้อนยักษ์สีทองจะมีพลังไม่ธรรมดา แต่ก็ยังไม่สามารถบรรลุถึงระดับราชาแห่งศัสตราวุธสูงสุด