แม้ว่าจะเป็นผู้เก่งกาจราชาเทพช่วงปลายจะพบสถานที่แห่งนี้ แม้ว่าพวกเขาจะไม่ถูกขัดขวางโดยค่ายเทพระดับ 7 เหล่านี้ แต่การที่จะทะลวงผ่านสิ่งกีดขวางนั้นก็ต้องใช้พลังและความพยายามอย่างมาก
หลังจากผ่านไปหลายสิบค่ายกลติดต่อกัน ตัวสำนึกของหลัวซิวก็รู้สึกว่ามีประตูหินปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา
หลัวซิวสรุปได้ว่าถ้ำหินนี้น่าจะถูกสร้างขึ้นมาโดยมนุษย์ และมีประตูหินอยู่ข้างในนี้ ซึ่งน่าจะคล้ายกับถ้ำ
นอกจากนี้ยังมีค่ายกลเหนือประตูหิน แต่ยอดเยี่ยมกว่าค่ายเทพระดับ 7 ที่เขาพบระหว่างทาง ไม่เพียงแต่ระดับของค่ายกลที่สูงเท่านั้น แต่เทคนิคการสร้างก็สูงเช่นกัน
หลังจากอนุมานด้วยตัวสำนึกแล้ว ยันต์ค่ายรูปแบบที่ซับซ้อนก็ปรากฏขึ้นบนประตูหิน แม้แต่หลัวซิวยังใช้เวลานานในการอนุมานวิธีชเปิดประตูหิน
เมื่อมาที่นี่ เขามีการคาดเดาในใจ เจ้าของของค่ายเทพระดับ 7 เหล่านั้น น่าจะเป็นของผู้ที่มาภายหลัง ผู้ที่สร้างถ้ำหินนี้และเรือนถ้ำนี้ถึงจะเป็นผู้เก่งกาจที่ทิ้งยันต์ค่ายไว้บนประตูหิน
ผนึกค่ายด้วยมือสองข้าง ยันต์ค่ายหนึ่งค่อย ๆ ควบแน่นบนมือของหลัวซิว เขายกมือขึ้นและกดยันต์ค่ายกลลงบนประตูหิน ประกายแสงวาบหายไปในพริบตา
ครืน…
ประตูหินถูกเปิดออกด้วยความสั่นสะเทือน กลิ่นเน่าโชยมาทำให้หลัวซิวย่นคิ้ว
เขาไม่ได้เข้าไปทันที แต่ส่งตัวสำนึกแทรกซึมเข้าไปก่อน พบว่าหลังประตูหินคือเรือนถ้ำหนึ่งตามที่เขาคาดไว้
ยิ่งกว่านั้นขอบเขตของเรือนถ้ำนี้ไม่ใหญ่นัก นอกจากห้องหลักแล้วยังมีห้องรองอีกสองห้อง
หลังจากยืนยันว่าข้างในไม่มีอันตราย หลัวซิวถึงจะเดินเข้าไปและเห็นโครงกระดูกสองชิ้นในห้องหลัก
โครงกระดูกหนึ่งอยู่ที่มุมด้านขวาข้างกำแพง มีรูขนาดใหญ่ที่หน้าอก ซึ่งดูเหมือนจะได้รับบาดเจ็บสาหัสก่อนตาย
โครงกระดูกอีกชิ้นหนึ่ง อยู่ฝั่งตรงข้าม มีรูกลางคิ้ว น่าจะเจาะตัวหยั่งรู้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวตอนที่มีชีวิต
โครงกระดูกทั้งสองไม่มีออร่าชีวีแม้แต่น้อย เห็นได้ชัดว่าตายไปหลายปีแล้ว
ตามความรู้ของหลัวซิว ดาราแห่งกาลเวลาปรากฏตัวสองครั้ง ครั้งแรกมากกว่าหนึ่งล้านปีก่อน การปรากฏตัวครั้งที่สองเมื่อหกแสนกว่าปีที่แล้ว
อายุขัยของราชาเทพคือหนึ่งถึงสามล้านปี ดังนั้นในดาราจักรใหญ่สองแห่ง จึงมีราชาเทพรุ่นก่อน ๆ มากมายที่เคยมาดาราแห่งกาลเวลาอย่างน้อยสองครั้ง
หลายปีผ่านไปนานยังไม่ถึงแดนมกุฎเทพ และในชีวิตนี้ความเป็นไปได้ที่จะบรรลุก็มีน้อยมาก แต่ความลึกลับของดาราแห่งกาลเวลาทำให้ทุกคนหลงใหล
นี่ยังหมายความว่าโครงกระดูกทั้งสองที่หลัวซิวเห็นนั้นมีอยู่อย่างน้อยกว่าหกแสนกว่าปีแล้ว
ด้วยผลการฝึกตนของราชาเทพ หลังจากเสียชีวิต เนื้อและเลือดไม่สามารถอยู่ได้นาน แต่กระดูกเป็นส่วนที่แข็งที่สุดของร่างกายมนุษย์ ได้รับการฝึกฝนกลั่นแปรโดยกฎผลการฝึกตนมาเป็นเวลานานหลายปี หลังจากผ่านมามากว่าหกแสนปี โครงกระดูกทั้งสองนี้ยังคงความแข็งแกร่งอย่างมาก มันยังคงความแข็งแกร่ง สามารถใช้มากลั่นเป็นสมบัติแห่งเทพฟ้าได้
ฮึ่ม!
ตัวสำนึกของหลัวซิวเก็บแหวนเก็บของสองวงขึ้นมา ภายในวงแหวนเก็บของ เขาพบป้ายบัญชาการของโครงกระดูกสองชิ้นนี้ และได้รู้ว่าพวกเขาทั้งคู่เป็นศิษย์ของเทวสำนักไท่ฉือในโลกะดาราอัมพรเทว
โลกะอัมพรเทวมีสามสำนัก หกตระกูล และสำนักไท่ฉือเป็นหนึ่งในสามสำนึก
ในแหวนเก็บของทั้งสอง หลัวซิวไม่พบสมบัติที่ล้ำค่ามากนัก มีเพียงยาเซียนระดับ 8 ร้อยกว่าเม็ดเท่านั้น ซึ่งเป็นการเก็บเกี่ยวที่พอดูได้
ยาเซียนระดับ 8 ติดตัวอยู่ตลอด หมายความว่าผลการฝึกตนของทั้งสองคนนี้ตอนที่ยังมีชีวิตอยู่คือราชาเทพช่วงกลาง หนึ่งในนั้นมีผังค่ายจำนวนมากอยู่ในแหวนเก็บของของเขา ซึ่งน่าจะเป็นผู้ที่ทิ้งค่ายเทพระดับ 7 สิบกว่าค่ายกลไว้ในทางเดินถ้ำหิน
